114. นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ เน้นจุดแข็งประเทศไทย เชิญชวนร่วมการประชุม WEF on East Asia ที่กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรีเน้นจุดแข็งประเทศไทย เชิญชวนร่วมการประชุม WEF on East Asia ที่กรุงเทพฯ 30 พ.ค- 1 มิ.ยนี้ (27/1/2012)
วันนี้ ( 27 ม.ค.55 ) เวลา 19.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ โรงแรม Central Sporthotel เมือง ดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน Thailand Night ที่รัฐบาลไทยจัดขึ้น เพื่อเชิญชวนให้ผู้นำและผู้นำบริษัทชั้นนำของโลกที่เข้าร่วมการประชุม WEF ครั้งนี้ เข้าร่วมการประชุม World Economic Forum on East Asia ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2555 โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงเปิดงาน ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Thailand Night ที่เมืองดาวอส และขอบคุณแขกที่มาร่วมงานครั้งนี้ และได้กล่าวย้ำว่า ไทยไม่เป็นเพียงประเทศที่พรั่งพร้อมด้วยวัฒนธรรมและความงามของธรรมชาติ แต่ยังเป็นสถานที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ
ในตอนต้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงแผนฟื้นฟูและการแก้ปัญหาอุทกภัยว่า แผนการต่างๆได้ดำเนินไปเพื่อให้มั่นใจว่า วิกฤติจะไม่เกิดซ้ำขึ้นอีก และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลได้ทุ่มงบประมาณ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างและพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำขึ้นใหม่ เขื่อนและพนังกั้นน้ำต่างๆ จะสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสาธารณูปโภคและเขตเศรษฐกิจสำคัญ พื้นที่ลุ่มน้ำและทางน้ำไหล จะสร้างขึ้นเพื่อบริหารจัดการการไหลของน้ำให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบการเตือนภัย แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ และการเตรียมพร้อมของชุมชนจะได้รับการพัฒนา และที่สำคัญที่สุด หน่วยสั่งการเดียว หรือ Single Command Authority เพื่อบริหารจัดการน้ำจะเกิดขึ้นเพื่อดำเนินการพร้อมตลอดเวลา
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงจุดแข็งของประเทศไทยว่า แม้ไทยจะประสบภาวะวิกฤติธรรมชาติ ความไม่สงบทางการเมือง และการถดถอยของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ไทยสามารถผ่านพ้นและบริหารจัดการจนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤติต่างๆ ในปีนี้ รัฐบาลคาดว่าการเติบโตจะเข้มแข็งที่ร้อยละ 5 เงินทุนสำรองแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศยังคงสูงที่ประมาณ 180 พันล้านบาท สถานะทางการเงินการคลังยังคงเข้มแข็งด้วยหนี้สาธารณะต่อ GDP ประมาณ ร้อยละ 40 ซึ่งทำให้รัฐบาลจะสมารถวางแผนการเงินสำหรับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของรัฐบาลได้อย่างไม่มีอุปสรรค
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นแหล่งการลงทุนที่สำคัญ เพราะมีเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในฐานะศูนย์กลางของประชาคมอาเซียน ที่มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน จึงเป็นประตูสู่อาเซียน และเชื่อมต่อกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกทั้งหมดด้วย ในการนี้ รัฐบาลวางแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะ ถนน และรถไฟ เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน และจะขยายการเชื่อมโยงระหว่างไทยและอาเซียน และภูมิภาคอื่นด้วย รัฐบาลมีความตั้งใจเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะยังคงเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเป็นมิตรต่อการลงทุน และได้เห็นชอบแผนที่จะภาษีรายได้ของบริษัท ( Corporate Income Tax ) ซึ่งจะลดลงถึงร้อยละ 20ในปีหน้า นอกจากนี้ ไทยยังมีแรงงานที่มีทักษะสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าต่อบริษัทต่างๆทั่วโลก
เกี่ยวกับปัญหาความไม่มั่นคงทางการเมืองของไทย นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ สร้างความมั่นใจว่า ไทยได้ผ่านการเลือกตั้งที่สำคัญเมื่อปีที่แล้ว และทุกภาคส่วนต่างยอมรับผลการเลือกตั้ง ทำให้ไทยมีจุดเริ่มต้นที่สดใส และโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รัฐบาลจะดำเนินการสร้างความปรองดอง และยึดนิติรัฐและความเป็นเอกภาพของสังคม
ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวให้ความมั่นใจว่า ไม่เพียงแต่การลงทุนที่จะได้รับการป้องกันที่ดีขึ้น จากแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แต่ไทยจะจัดสรรสภาพแวดล้อมที่มั่นคงเพื่อให้ธุรกิจมีความมั่งคั่งด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนผู้นำและนักธุรกิจเข้าร่วมงาน World Economic Forum on East Asia ระหว่างวันที่ 30 พ.ค - 1 มิ.ย 2555 ที่กรุงเทพฯ
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักนายกฯ
Source://www.facebook.com/?ref=tn_tnmn#!/photo.php?fbid=272914526108868&set=a.194091077324547.49507.185448628188792&type=1
-----------------------------------------------------------------------------
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 17:24:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1144 Pageviews. |
|
|
|
|
|