ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 

~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 10

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Prik talk…..

“อืม.....”

ผมพลิกตัวแล้วควานหาร่างบางของไอ้เหมี่ยว เมื่อคืนนี้ผมนอนกอดมันทั้งคืนเลย แต่มันไปไหนละ ผมผงกหัวขึ้นมองหาร่างไอ้เหมี่ยวไปไหนนะ

นั่นไงกำลังจะอาบน้ำสินะ ผมรีบลุกลงจากเตียง ดิ่งไปโอบกอดมันจากด้านหลัง ถ้ารู้ว่ามันน่ากอดน่าหอมขนาดนี้ผมคงไม่ปล่อยมันรอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

“ตื่นนานแล้วเหรอ”

ว่าแล้วผมก็หอมแก้มมันหนัก ๆ ทีหนึ่ง ทำไมหมั่นเขี้ยวอย่างนี้นะ

“อืม.....ตื่นนานแล้ว”

แล้วไอ้เหมี่ยวก็เบี่ยงตัวออกไปเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่หันมามองผมเลยสักนิด

“เป็นอะไรวะ?”

ผมเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่เตียง เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่เลยนี่หว่า เป็นอะไรของมันวะ นับวันผมยิ่งไม่เข้าใจไอ้เพื่อนคนนี้ไปทุกวัน

แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือตัวผมเองต่างหาก ผมเป็นอะไรไป ทำไมห้ามตัวเองไม่ค่อยได้เลย ใจมันเต้นเวลาอยู่ใกล้กับมัน ผมพยายามบอกตัวเองหลายครั้งแล้ว ว่าไอ้เหมี่ยวเป็นเพื่อน และที่สำคัญมันเป็นทอม แต่บางอย่างในตัวผมมันกลับต่อต้าน

ยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยิ่งย้ำให้ผมรู้ว่าผมห้ามตัวเองไม่ได้เวลาอยู่ใกล้ ๆ ไอ้เหมี่ยว ผมปล่อยให้อารมณ์พาไป ตอนนี้ไอ้เหมี่ยวไม่รู้จะคิดยังไงกับการกระทำของผม ไม่รู้ว่ามันจะรังเกียจหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมามันไม่เคยแสดงท่าทีแบบนั้นเลยนี่น่า ตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำ แต่ไอ้เหมี่ยวมีลิมิตของการเป็นผู้หญิงนี่น่า อีกแค่เดือนกว่าเองนี้ หรือเพราะมันเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่มากเลยปล่อยเลยตามเลย มันจะเอายังไงกันแน่นะ

เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้ผมหันไปมอง ไอ้เหมี่ยวเดินออกมา มันเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาพร้อมเลย แต่ที่แปลกก็คือชุดที่ใส่เป็นชุดสำหรับนักศึกษาผู้หญิงไม่ใช่เสื้อเทคนิคที่เคยใส่ปรกติ กระโปรงสั้นแค่เข่าเองแถมยังมีรอยผ่าขึ้นไปอีกนิดหน่อย เสื้อนักศึกษาสีขาวรัดรูปแต่ไม่รัดติ้ว ยิ่งเวลามันทำผมยาว ๆ แบบนี้ยิ่งดูเหมาะกับมันจังเลย

ก๊อก ๆ ....

เสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้น ใครมาแต่เช้านะ ไอ้เหมี่ยวเดินไปเปิดประตู

“ว่าไง ตื่นกันยัง?” ไอ้พัฒโผล่หน้าเข้ามาในห้องพร้อมกับไอ้ต้น

“โอ้โห!!! ลูกสาวบ้านไหนเนี๊ยะ หลงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงน้องสาว”

ไอ้ต้นแกล้งแซวไอ้เหมี่ยว แปลกดูไอ้เหมี่ยวจะไปยิ้มดีอกดีใจอะไรนักหนา

“มาทำไมวะ?” ผมถามออกไป

“อ้าว....ก็มารับไอ้เหมี่ยวไปเรียนดิ แล้วทำไมแกยังไม่อาบน้ำวะ เดี๋ยวสายนะโว้ย”

ไอ้พัฒตอบผม ทำไมต้องมารับกันด้วยวะ

“เหมี่ยว แกพิการตอนไหนถึงได้ไปเรียนเองไม่ได้เนี๊ยะ”

ผมกวนใส่ไอ้เหมี่ยวซะงั้น ไม่รู้ว่าผมหงุดหงิดอะไรยิ่งเห็นไอ้เหมี่ยวยิ้มให้กับไอ้พัฒ แล้วคุยกระซิบกระซาบอะไรกันนักหนา

“มันเรื่องของฉันนะ ถ้าจะไม่ไปเรียนก็ตามใจ เค้าไปล่ะ”

ไอ้เหมี่ยวย้อนมาอย่างไม่แยแสผมเลย แล้วมันก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อนสองคนนั้น ดี....สนิทกันเข้าไป

ผมเดินกระแทกเท้าเข้าห้องน้ำไป......บ้าเอ้ย...ทำไมต้องมาอี๋อ๋อกันด้วยเล่า ทีเมื่อก่อนไม่เห็นทำ ไอ้พวกบ้าเอ้ย







Ton talk…..

โอ้ย.....ผมละกลั้นหัวเราะจนปวดท้อง ไอ้พัฒก็พอกัน ตอนเห็นหน้าไอ้พริกมองไอ้พัฒตอนคุยกับชมพู่นะยิ่งขำ อย่างนี้มีแววยัยแนนอกหักแน่นอน

แต่ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็คือ ไอ้พริกอาจจะไม่ได้แด...ชมพู่แล้วเป็นแน่ ก็พอชมพู่ใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้แล้วความน่ารักคูณ100 เข้าไปอีกเลยล่ะ ไอ้เด็กช่างอื่น ๆ มองกันตาแทบถลน บางคนส่งเสียงแสดงอาการบอกกำพืดเป็นสัตว์บางชนิดออกมาเลยที่เดียว อย่าว่าแต่ไอ้พวกนี้เลย ขนาดไอ้พัฒเพื่อนผมยังทำตาปรอยใส่ชมพู่เลย พอรู้ว่าไม่ใช่ไอ้เหมี่ยวแล้วออกลายเชียวนะแก......

“แล้วชมพู่ไม่กลัวเรียนไม่รู้เรื่องบ้างเหรอ เปลี่ยนกันมาแบบนี้” เสียงไอ้พัฒถามชมพู่

“ถ้าเป็นวิชาสามัญไม่เท่าไหร่หรอก แต่พวกวิชาช่างนะไม่ค่อยไหวเหมือนกัน ดีว่าตอนปิดเทอมเหมี่ยวช่วยติวให้นะ เลยพอถูไถไปได้ ถ้ามีปฏิบัติคงแย่ เพราะไม่เป็นเลย” ว่าแล้วชมพู่ก็ทำหน้าแหย ๆ

“ดีนะเทอมนี้ไม่มีภาคปฏิบัติ ไม่งั้นซวยแน่” ผมพูดขึ้น

“วู้!!! น้องเหมี่ยววันนี้น่ารักจังเลย กินอะไรเข้าไปอะ” นี่ก็เป็นอีกเสียงหนึ่งที่เอ่ยแซวออกมา

“ถามทำไมวะ? จะเอาไปให้ E แก่ของพ่อแกแด...เหรอ”

ผมกับไอ้พัฒไม่ได้พูดนะครับ ชมพู่ยิ่งไปกันใหญ่ พวกผมหันไปทางต้นเสียง จะใครที่ไหนกันเสียงกวนส้นขนาดนี้ ไอ้พริกแน่ และก็ไม่ใช่ไอ้พริกคนเดียวด้วย ไอ้ไอย์ ไอ้ยักษ์ ไอ้บอย ไอ้โต้ง ฯลฯ ครบเซทพวกผมแหละ

“เฮ้ย!!! แซวแค่นี้เล่นถึงบุพการีเลยนะแก”

เสียงของไอ้เด็กคนเดิมแหกปากขึ้น ผมจำมันได้ ไอ้ชัด ที่พวกผมเคยกระทืบมันตอนเปิดเทอม พอปากหายก็มาซ่าเลยนะแก

“ก็ปากแกนี้มันฟ้องนี้หว่าว่าบุพการีชอบเห่า” นั่นปะไรปากไอ้พริก

“ไอ้พัฒแกกันชมพู่ให้ดีนะ เดี๋ยวฉันว่าซัดกันแน่ นั่นฉันว่าแล้ว ระวังด้วยไอ้พัฒ”

ผมพูดเสร็จก็วิ่งเข้าไปรวมกับกลุ่มไอ้พริกที่ตอนนี้ฟัดกันนัวแล้ว ไอ้พริกสวนหมัดรุ่น ๆ ของมันใส่ไอ้ชัด ส่วนพวกที่เหลือก็จับคู่เอากันมันส์เลยล่ะ ผมก็คนหนึ่งล่ะ

แต่ไหง...ดูไปดูมาพวกของเราน้อยกว่านี่หว่า ไอ้พัฒไปตายที่ไหนวะนั่น เออ..ใช่ ผมให้มันกันชมพู่อยู่นี่น่า อะนั่น เวรเอ้ย....พวกไอ้ชัดที่เหลือรุมไอ้พัฒอยู่สองสามคน หนึ่งในนั้นกำลังจะซัดชมพู่

“ไอ้พริก....ช่วยไอ้พัฒเร็ว” ไอ้พริกไปหาชมพู่ ส่วนผมเข้าไปช่วยไอ้พัฒ

“เหมี่ยวเป็นไงบ้าง?”

เสียงไอ้พริกถามไอ้เหมี่ยวที่ถูกชกล้มลงไป ไอ้ชั่วเอ้ย.....นั่นไม่ใช่ไอ้เหมี่ยวนะโว้ย ไอ้พริกเสยปลายคางคืนแทนให้แล้วแต่มันก็โดนซัดกลับเหมือนกัน

“เฮ้ย....อาจารย์มา”

โอ้เสียงสวรรค์.....ตูไม่เคยอยากเจออาจารย์มากขนาดนี้เลย แต่ด้วยความรักที่มีให้กับอาจารย์ที่เคารพ พวกผมขอแสดงความรักต่ออาจารย์ด้วยการ

“เฮ้ย!!!!!!!.....วิ่งโว้ย!!!!!!!”

ผมแหกปากขึ้นก่อนจะคว้าไอ้พัฒวิ่ง ไอ้พริกลากชมพู่ตามมา ส่วนพวกไอ้ไอย์ไปทางไหนก็ไม่รู้ ที่เหลือก็ช่างมันมันหัวเผือกเถอะ.........





แล้วพวกผมก็ มาสถิตที่ห้องของผม เจ็บชะมัด โดนไปหลายที่เลยผม แต่ไอ้พัฒหนักกว่าโดนรุมตั้ง 3-4 คน

“เป็นไงบ้างวะ?”

“ไอ้เวรพวกนั้น ฉันจะเอาคืนให้หนักเลย เฮ้ย...แล้วชมพู่ล่ะ”

“ไม่รู้ ไอ้พริกพาไป”

“เฮ้ย....เป็นไงกันบ้าง?” เสียงไอ้พริกโผล่มา เลือดกลบปากมาเลยนะแก

“ไอ้พัฒหนักสุดแหละ” ผมบอกไป

“ยังไม่ตายว่ะ เหมี่ยวล่ะ”

ไอ้พัฒถามไอ้พริก เจ็บจะตายยังห่วงสาวอีกนะแก ไอ้พริกพาชมพู่เดินเข้าห้องมา มันไม่ยอมปล่อยมือจากชมพู่เลย

“เจ็บมากมั้ย?”

เสียงไอ้พริกถามชมพู่ มันยกมือไปลูบแก้มชมพู่เบา ๆ ชมพู่ส่ายหน้า น่าสงสารเธอจริง ๆ ถ้าเป็นไอ้เหมี่ยวตัวจริงอยู่เธอคงไม่เจ็บตัวแบบนี้ เฮ้ย!!! เธอนี่มันซวยจริง ๆ เลยชมพู่ ไอ้พริกพาชมพู่มานั่งตรงโต๊ะคอม ส่วนมันนั่งคุกเข่าตรงหน้าชมพู่ ใช้มือลูบปากเจ่อ ๆ ของชมพู่เบา ๆ

“อยู่ด้วยกันแท้ ๆ ยังทำให้แกเจ็บอีกจนได้”

“ไม่เป็นไรหรอก พริกเจ็บเยอะกว่าเค้าอีก”

ชมพู่เอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ๆ ในกระเป๋ามาเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปาก และคิ้วของไอ้พริก ไม่ยักกะกลัวเลือดแหะ สงสัยไอ้เหมี่ยวเจ็บตัวให้เห็นบ่อย

ส่วนไอ้พัฒที่นอนกะเท่เร่อยู่บนเตียงพลิกตัวหันหน้าเข้ากำแพง ไม่อยากเห็นภาพบาดตาหรือไงวะแก เฮ้ย....เท่าที่ดูอาการไอ้พัฒกับไอ้พริกแล้ว

ขอร้อง......อย่ามาชอบผู้หญิงคนเดียวกันได้มั้ยวะ...แทนที่ไอ้พริกจะประสาทแด... ฉันอาจจะเป็นคนที่ประสาทจะแด...ซะเอง

ผมหันไปที่ประตู ไอ้ไอย์เดินเข้ามา พร้อมกับไอ้ยักษ์ ไอ้โต้ง

“เป็นไงบ้างวะ” ผมถามพวกไอย์

“ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้ามีโอกาสฉันจะเอาคืน แล้วพวกแกอะ” ผมไหวไหล่เบา ๆ แต่รู้สึกว่าสายตาไอ้ไอย์มองไปทางอื่นซะแล้ว

“ว้าว....ฉันก็ว่าสาวสวยน่ารักที่ไหน ไอ้เหมี่ยวเองเหรอ ไอ้ตัวต้นเหตุ ศึกชิงนางเนี๊ยะ”

ไอ้ไอย์พูดยิ้ม ๆ แต่สายตาที่มันมองชมพู่นี้ช่าง..... เฮ้อ!!! ชมพู่ฉันว่าเธอกลับไปอยู่ที่ของเธอแล้วเอาไอ้เหมี่ยวตัวจริงกลับมาเถอะ

“เฮ้ย!!!!นั่น....ไอ้เหมี่ยวสุดซ่าเหรอวะ…น่ารักโคตร”

ไอ้โต้งพูดสำรับขึ้นมาอีก ไอ้พริกหันมามองตาขวาง เล่นเอาไอ้พวกนั้นจ๋อยกันทีเดียว

“เดี๋ยวทำแผลให้นะ” ว่าแล้วชมพู่ก็เดินไปค้นเอาพวกยาสารพัดยามาทำแผลให้ไอ้พริก

“ต้น มา....เดี๋ยวทำให้” ชมพู่เดินมาทางผมหลังจากที่ทำแผลให้ไอ้พริกเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ต้อง ไม่เท่าไหร่ ดูไอ้พัฒดีกว่าท่าจะหนัก เจอไปหลายรอย”

ใครจะกล้าให้เธอมาทำให้ล่ะ ไอ้พริกเล่นมองซะตาแทบถลนแบบนั้น ชมพู่เดินไปหาไอ้พัฒที่เตียง และนั่งลงข้าง ๆ

“พัฒ เดี๋ยวทำแผลให้....”

ชมพู่ยิ้มให้ไอ้พัฒที่หันมาเจอพอดี ไอ้พัฒดูอึ้ง ๆ แกมดีใจนิดหน่อย ก่อนที่มันจะหลับตาให้ชมพู่ทำแผล ผมไม่แน่ใจว่าไอ้พัฒไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจกันแน่ แขนของมันจึงมาพาดวางตรงขาชมพู่ที่นั่งพับเพียบพอดี อ่า....น่าอิจฉา ผมไม่ได้สังเกตว่าไอ้พริกลุกออกจากห้องเมื่อไหร่ พอรู้ตัวก็....

“เฮ้ย!! ต้น” ไอย์เรียกผมเบา ๆ

“อะไร”

ผมตอบมันด้วยเสียงเบาพอ ๆ กับมันนั่นแหละ กลัวจะเสียบรรยากาศของไอ้พัฒมัน

“ตกลง เมื่อกี้มันศึกชิงนาง หรือชิงทอมกันแน่วะ ฉันชักไม่แน่ใจ”

ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ ถ้าคนที่แกเห็นเป็นไอ้เหมี่ยวมันก็คือศึกชิงทอมว่ะ แต่นี้คือชมพู่.....

“แล้วไอ้พริกเป็นควายอะไรวะ ทำหน้ายังกะจะฆ่าคนงั้นแหละ ยิ่งตอนที่เห็นไอ้พวกนั้นแซวไอ้เหมี่ยวยิ่งน่ากลัวว่ะ ฉันนึกว่าจะต้องไปส่งข้าวส่งน้ำให้มันในซังเต ข้อหาฆ่าคนอะ”

“ไอ้พริกเป็นโรคควายบ้าไง”

ผมตอบสั้น ๆ เล่นเอาไอ้ไอย์อมยิ้ม กลั้นเสียงหัวเราะซะงั้น อย่างไอ้พริกจะเป็นอะไร แม่...ก็เป็นโรคขี้หึงอะเดะ...................................







Mameiw talk……

เซ็ง.....เซ็งอย่างแรง ทำไมฝีมือมันทุเรศแบบนี้วะ ผมยืนคิดเมื่อเห็นการซ้อมบาสของทีมสีม่วงของผม แต่ละคนใช่ว่าจะเล่นแย่นะครับ ก็เล่นดีใช้ได้ทีเดียวแต่ที่ผมว่าทุเรศนะ คือวิธีการเล่นของทุกคนต่างหาก

ผี (ความจริมชื่อ พี) เป็น PG ที่ฝีมือใช้ได้ทีเดียว รวดเร็ว ส่งลูกได้แม่นยำดี มีการเปิดบอลที่ดี แต่เสียที่ว่า ไม่ค่อยจ่ายลูกให้ใครนอกจาก ยัยทอมกองกอย

ยัยทอมกองกอย (ความจริงชื่อก้อย) ชู๊ตลูกได้ค่อนข้างดีมาก ถ้าไม่ติดว่าก่อนจะชู๊ตไม่เก๊กจะดีกว่านี้

บู้บี้ (ความจริงคือบู) เป็น Center ที่สูงเหมาะกับตำแหน่งมาก แต่จะเหมาะมากกว่านี้ถ้าหัดกระโดดแย่งลูกกลางอากาศซะบ้าง

จู้จี้ (ความจริงจี) ยัยนี้ก็ห่วงสวยมากเกินไป กลัวว่าเวลาชู๊ตท่าลงไม่สวย เลยไม่ค่อยจะชู๊ต ทั้งที่ชู๊ตแม่นจะตาย

อับโชค (ความจริงชื่อ อัพ) ถ้าเลิกไอ้นิสัยไม่อยากให้คนอื่นเด่นกว่าได้ ทีมคงได้แต้มมากกว่านี้ เพราะอับโชคชอบฉายเดี่ยวอยู่เรื่อย บาสเล่นเป็นทีมนะโว้ย…

“คิดอะไรอยู่ ชมพู่??” ผมหันไปมองเสียงที่คุ้นเคย

“นิดหน่อยอะ ’จารย์ เปิ่นมีอะไรเหรอ?” -______-!! หน้าอาจารย์เปิ่น

“จำได้ว่าอาจารย์ชื่อปริญนะ”

“แล้วไงอ่ะ” -______-

“เอาเถอะ แล้วคิดอะไรอยู่ล่ะเธอน่ะ ขอเรียกเธอชมพู่ละกัน อยู่นอกเวลาเรียนแล้ว”

“งั้นขอเรียกพี่เปิ่นนะ….. ก็มันอยู่นอกเวลาเรียนแล้วนี่” ^_____^ เรื่องอะไรจะยอมเสียเปรียบง่าย ๆ ละเจ๊

“ได้ แต่ชื่อปริญ”

“อืม...ค่ะ พี่เปิ่น” ^_____^

“ตามใจ ๆ ว่าแต่ชมพู่ว่าทีมเรามีทางจะชนะบ้างมั้ย” พี่เปิ่นถามผมและผมก็ตอบในทันทีเลยเช่นกัน

“ไม่”

“คิดหน่อยก็ดีนะ”

“ไม่ชอบโกหกอะ ก็ทีมมันเล่นทุเรศอะ”

“แล้วแย่ตรงไหนล่ะ ทุกคนก็เล่นดีนี่” พี่เปิ่นแย้งมา เพราะไม่เห็นด้วยทั้งหมด

“พี่ก็ดูแต่ละคนเล่นดิ ดูยัยผีนะ”

“เค้าชื่อพี” พี่เปิ่นขัดมาอีก

“เอาน่า...จะฟังมะ”

พี่เปิ่นพยักหน้าช้า ๆ แล้วผมก็ร่ายสรรพคุณของแต่ละคนออกมาซะละเอียดยิบ แบบว่าไม่มีจุดซ่อนเร้นเลยล่ะ…………





ผมเดินกลับหอนอนหลังจากเล่นบาสเสร็จ เหงื่อออกไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ดีที่ยังออกพักนี้รู้สึกเสียเหงื่อน้อย ไม่เหมือนตอนอยู่เทคนิควิ่งหนีอาจารย์กะคู่อริบ่อย ร่างกายเลยเผาผลาญเยอะ

“กลับไปอาบน้ำนอนดีกว่า”

ใช่..ไปนอนพักเอาแรงดีกว่าพรุ่งนี้ยัยพี่เปิ่นนัดซ้อมตอนหกโมงเช้าซะด้วย ขี้เกียจตื่นเช้า ผมเดินขึ้นบันไดเรื่อย ๆ จนถึงห้อง แล้วก็ไขประตูห้องเข้าไป ห้องยังไม่ได้เปิดไฟเลย สงสัยสองสาวไปห้องเพื่อน ผมรีบไปอาบน้ำ แล้วกลับขึ้นมานอน

เสียงเปิดประตูห้องทำผมลืมตาขึ้น ความจริงผมยังไม่หลับหรอก ก็เพิ่งอาบน้ำได้ไม่นานเลย อ่า...ขิงนั่นเอง ไหงมาคนเดียวล่ะ น้อยหน่าหายไปไหน ผมแกล้งหลับตาลง เมื่อเห็นยัยขิงเดินมาที่เตียงของผม ขิงนั่งลงข้าง ๆ ตัวผม

“ฝันดีนะ”

ว่าแล้วขิงก็ก้มลงมาจูบปากผมเบา ๆ คนอย่างนายมะเหมี่ยวหวานมีหรือจะปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปง่าย ๆ

ผมคว้าร่างขิงไว้ แล้วรั้งเข้าหาตัวก่อนจะพลิกตัวขึ้นทับขิงไว้

“ว้ายย....ยังไม่หลับเหรอ” ขิงดูเขิน ๆ หน้างี้แดงเถือกเลย

“ถ้านอนจะรู้เหรอว่ามีคนมาบอกฝันดี แถมจูบอีกต่างหาก” ขิงตีผมเบา ๆ

“คนบ้า”

ผมยิ้มใส่หน้า ก่อนจะก้มลงจูบปากขิง จูบนะต้องแบบนี้....ผมบรรจงจูบขิงอย่างอ่อนหวาน ขิงก็ตอบสนองโดยดี

“กลับมาแล้วจ้า”

เสียงยัยน้อยหน่าดังขึ้นก่อนที่ตัวจะเข้ามาในห้องด้วยซ้ำ ขิงขืนตัวทันทีสีหน้าตกใจ

“อุ้ย...โทษทีจ้ะไม่ได้ตั้งใจ”

น้อยหน่าพูดขึ้นเมื่อเห็นภาพของผมกับขิง อย่างน้อยหน่ามีเหรอจะไม่รู้เรื่องอะไร ผมยิ้ม ก่อนจะพูดทีเล่นทีจริงว่า

“รู้ตัวก็ดีนี่” ยัยน้อยหน่าทำตาโตใส่ผม

“หนอย....พอลงให้นี่ได้ทีนะยะ ไม่ไล่ฉันออกไปนอนนอกห้องเลยล่ะ”

“ถ้าน้อยหน่าต้องการอย่างนั้นก็ได้นะ หลับให้สบายละกัน” 555 เธอเล่นกะใครรู้ป่าวยัยน้อยหน่า

“ไอ้บ้า...ขิงดูแฟนเธอสิ ไม่ต้องไล่ย่ะไปแน่” ยัยน้อยหน่าพูด ส่วนขิงก็หันมาตีแขนผม

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ” ผมแค่ยิ้ม

“แต่พูดจริงนะวันนี้จะไปค้างห้องเมย์นะ เพราะจะคุยเรื่องงานกีฬาอะ ยัยเมย์อยู่ฝ่ายพยาบาลเหมือนกัน”

“งั้นก็เดินไปดี ๆ นะ แล้วก็ฝันดีค่ะ”

“ไม่ต้องรีบไล่ย่ะ” น้อยหน่ากระแทกเสียงใส่ผม แต่ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไร

“พรุ่งนี้ฉันจะมาปลุกแต่เช้า ได้ยินยัยพีบอกมีซ้อมบาสแต่เช้านี้”

ผมพยักหน้ากับน้อยหน่ามองยัยนั้นเดินไปที่ประตูหลังจากเข้ามาหยิบสมุดหนังสืออะไรสักอย่างออกไปด้วย

“ยังไงก็อย่าโหมหนักล่ะ อย่าลืมพรุ่งนี้ต้องใช้แรงอีกเยอะ” ยัยน้อยหน่ายักคิ้วให้ผมกะขิง

“บ้า” ขิงนี่ขี้อายแฮะ

“ไม่ต้องห่วงแรงเยอะ” ผมตอบน้อยหน่าไป

“แรงอะไรยะที่ว่าเยอะน่ะ” น้อยหน่าทำสายตาล้อ ๆ มาให้ผม

“แรงรัก”

ผมตอบแบบเสี่ยว ๆ แถมส่งสายตาหวาน ๆ ให้ขิงที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าเพราะอายไปแล้ว

“โอ้ย...ฉันไปละ เลี่ยน” ว่าแล้วก็เดินออกไป ผมยังจ้องหน้าขิงอยู่ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับผมขิง

“นั่งตรงนั้นอีกนานมั้ย” ขิงค่อย ๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้ผม

“เดี๋ยวไปปิดไฟก่อนนะ”

ว่าแล้วผมก็ลุกไปปิดไฟ ล็อคห้องเลยด้วย แสงไฟที่เปิดอยู่รอบ ๆ หอนอนส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ในห้องไม่มืดเท่าไหร่ดีว่าเอาผ้าม่านลงไม่งั้นคงสว่างเหมือนเปิดไฟเลยล่ะ แต่ก็ดีนะแสงพอสลัว ๆ แบบนี้สร้างบรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง

ผมนั่งลงตรงหน้าขิง

“เป็นอะไร” ผมถามเบา ๆ จนแทบกลายเป็นกระซิบเลยล่ะ ขิงส่ายหน้าช้า ๆ

“ตื่นเต้นเหรอ” ขิงพยักหน้าช้า ๆ แล้วก็ก้มหน้านิ่ง ผมค่อยเชยคางเธอขึ้น แล้วก็จูบเบา ๆ ตรงมุมปาก

“ไม่เป็นไรหรอก ทำตัวให้สบายนะ”

“อืม”

ขิงตอบผมเบา ๆ ผมจูบเธอ แล้วก็ดันให้เธอนอนลงกับเตียง เธอตอบสนองผมได้ดีมาก ๆ เหมือนยัยเบ๊ที่คล้อยตามกับผมตลอด ยัยเบ๊ติดไฟง่าย และร้อนแรงด้วย ภาพของยัยเบ๊ลอยมาให้ผมเห็น

บ้า....ไปคิดถึงยัยนั้นทำไม? ตอนนี้แกอยู่กับขิง แฟนของแกนะโว้ยไอ้เหมี่ยว ผมรีบสลัดภาพของยัยเบ๊ทิ้งทันที

ผมค่อย ๆ ดันตัวเองขึ้น จากนั้นก็ใช้มือแกะกระดุมเสื้อของขิงออก บรา กางเกง ถอดหมดจนไม่เหลืออะไรติดตัวขิงเลย เรือนร่างของขิง สะกดผมจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้ ความสลัว ๆ ทำให้ร่างกายของขิงดูมีเสน่ห์ดึงดูดมากมายนัก

“อย่า....อย่ามองแบบนั้น” เสียงสั่นน้อย ๆ ของขิงเอ่ยบอกผม

“ก็มันสวยนี่….สวยมาก ๆ เลย”

ผมลูบตั้งแต่ต้นขา สะโพก เอวขอด สีข้าง แล้วก็ก้มลงจูบขิง มือเคล้นคลึงกับอกคู่สวย แล้วก็ซุกไซร้ตามซอกคอ ขิงตอบสนองผมด้วยเสียงครางกระเส่า ผมพรมจูบไปทั่วร่างกายของขิง อารมณ์มันหยุดยั้งไม่ได้แล้ว ผมปรนเปรอเธอด้วยความนุ่มนวลแต่ร้อนแรง เธอตอบสนองผมด้วยความอ่อนหวานแต่เร่าร้อน เราสองคนเหมือนเปลวเพลิงที่ลุกโชนยากจะดับได้แล้ว........







ฮ้าว.......ง่วง ทำไม่ผมต้องแหกขี้ตามาซ้อมแต่เช้าด้วยนะ นี้ถ้าเมื่อเช้ายัยพี่เปิ่น ไม่บุกไปที่ห้องละก็....ผมโดดซ้อมเช้าแน่นอน ก็เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยามแล้ว ตอนนั้นใครจะมีอารมณ์ดูนาฬิกาเล่า เพลียจะตาย ว่าแต่เมื่อคืนกี่รอบวะ.....(ไอ้ทะลึ่งเอ้ย....)

“ว่าไง...ดูไม่มีแรงเลยนะชมพู่” ผมหันไปมอง อะ...เจ้าอับโชคนั่นเอง

“นอนดึก”

“ไปทำไรมาอะ” เสียงคุณผีดังขึ้น

“รู้ไปทำไม” ผมตอบกลับไป มันเป็นอะไรกับผมถึงได้มาซักไซร้ผมเนี๊ยะ

“ป่าว ก็พอดีว่าน้อยหน่านอนห้องเค้าเมื่อคืนนะ เลย.....” เออใช่...คุณผี อับโชคแล้วก็ยัยเมย์อะไรนั้นเป็นรูมเมทกันนี่น่า

“ต่อมสอดรู้สอดเห็นแตกว่างั้นเหอะ” อารมณ์ไม่ดีนะเฟ้ย นอนไม่พอ

“อ้าว...” ทั้งสองพูดพร้อมกัน

“อยู่กับแฟนจะทำอะไรกันล่ะ ถามโง่ ๆ” แล้วผมก็ลุกเดินหนีเจ้าสองคนนั้น







“ว่าไง ดูเพลียนะ” พี่เปิ่นเข้ามาทักผม เมื่อผมเดินมาถึงก๊อกน้ำ

“นิดหน่อยนอนดึกนะ”

“น่าอิจฉาขิงนะ” เอ๋....เจ๊แกรู้ได้ไง

“เสียงที่คุยกันน่ะ มันดังเหมือนกันนะ แล้วอีกอย่างภาพขิงเมื่อเช้าก็บอกอยู่แล้วว่าเมื่อคืนผ่านอะไรมา”

พี่แกมองหน้าผม สายตาแปลก ๆ ผมเลิกคิ้วมองเจ๊แก

“แล้วไงล่ะ อยากเป็นแบบนั้นบ้างเหรอ” ผมแกล้งถามแหย่ ๆ ไปงั้นแหละ เผื่อฟลุ๊ค

“ถ้าอยากล่ะ จะทำให้มั้ยล่ะ” พี่เปิ่นขยับเดินมาใกล้กับผม แทบจะชิดเลยก็ว่าได้

“พี่เป็นอาจารย์นะ” พี่เปิ่นสบตากับผมด้วยสายตาท้าทาย มือข้างหนึ่งก็ลูบแถวต้นคอของผม

“สนใจที่ไหนล่ะ”

แค่นั่นแหละ ผมก็ดึงพี่เปิ่นไปที่มุมตึก ก่อนจะจูบแรง ๆ พี่เปิ่นจูบตอบโดยไม่กลัวเลยล่ะ มือข้างหนึ่งของผมลูบเรียวขาสวยของพี่เปิ่นขึ้นมาถึงหน้าท้อง จากนั้นก็ลดมือต่ำลงเรื่อย ๆ จนถึงจุดสำคัญของผู้หญิง พี่เปิ่นแอ่นร่างมาหาผม ผมค่อยคลึงนิ้วตอบสนองความต้องการของเธอ มืออีกข้างหนึ่งก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดที่พี่เปิ่นใส่อยู่ อกอวบเต็มไม้เต็มมือดีแฮะ ผมบีบเคล้นอย่างมันมือ

“อื้อ.....ดีจังเลย”

เสียงของพี่เปิ่นครางออกมา ผมล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของเธอ

“ว้าย....”

เสียงของใครบางคนทำผมกับพี่เปิ่นแยกออกจากกัน ผมหันไปมองต้นเสียง ยัยเบ๊

โธ่เอ้ย....ยัยบ้าเอ้ยโผล่มาทำไมตอนนี้

“เออ....คือ คือ เอาน้ำที่สั่งมาให้”

ยัยเบ๊ตอบเสียงสั่นจนเกือบจะเหมือนร้องไห้ พี่เปิ่นจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยกำลังจะเดินออกไป

“ไว้ต่อกันวันหลังนะ”

สิ้นเสียงเธอก็เดินตรงดิ่งผ่านร่างยัยจอยที่ยื่นก้มหน้านิ่ง ผมเดินไปคว้าน้ำที่ยัยเบ๊ถือมาให้แล้วเดินผ่านยัยเบ๊ไปอีกคน


"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 9ตอนที่11>




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2549
0 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:11:34 น.
Counter : 1216 Pageviews.


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.