ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
21 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 13

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Joy talk……...

ฉันลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เมื่อคืนคงเป็นคืนที่ฉันฝันดีที่สุด ฉันฝันเห็นพ่อของฉัน เขามาหาฉัน รอยยิ้มของพ่อยังเหมือนเดิม พ่อยังคิดถึงและเป็นห่วงฉันเสมอ ท่านบอกฉันว่าท่านอยู่ข้าง ๆ ฉันเสมอ แล้วก็อะไรอีกนะ

“เขาดูแลลูกได้ พ่อดีใจและหมดห่วงถ้าเขาอยู่เคียงข้างลูก ลูกต้องมีความสุขแน่ ๆ ถ้ามีเขาคอยอยู่ใกล้ ๆ”

ที่พ่อพูดหมายถึงใครกัน? คนที่อยู่ข้าง ๆ ฉัน คอยดูแลฉัน ใครล่ะ? ตอนนี้ที่มีอยู่ก็มีแต่ตานี่แหละ ฉันหันไปมองร่างที่หลับสนิทอยู่ข้าง ๆ มือข้างหนึ่งยังวางอยู่ที่หน้าขาฉัน นายคนนี้เนี๊ยะนะดูแลฉัน มีแต่จะโขกสับหนูน่ะสิพ่อ

ฉันมองร่างที่นอนนิ่งอยู่ หลับสบายเลยนะพ่อคุณ ฉันเอามือปัดผมยาว ๆ ของตานี้ออกจากใบหน้า หมอนี้หน้าใสจังแฮะ สิวก็ไม่มี ดูขนตาสิยาวงอนจัง ปากก็เป็นสีชมพูสวย จมูกก็โด่ง รูปหน้าสวยดี น่าอิจฉาจัง ทอมอะไรหน้าใสโคตร ถ้าหมอนี้ตัดผมสั้นจะเป็นไงบ้างนะ สาวต้องกรี๊ดกันแน่ ๆ ขนาดผมยาวดูเป็นสาวขนาดนี้ยังทำให้สาว ๆ ใจสั่นได้เลย ฉันคนล่ะที่เป็น ฉันเอามือลูบแก้มเขาเบา ๆ

“คิดจะลักหลับฉันเหรอ ยัยเบ๊”

อ๊ากกกก ตานี่ตื่นแล้วเหรอ เขาลืมตามองฉัน อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ ไอ้สายตาที่มองทะลุไปถึงไหนต่อไหนเนี๊ยะ อย่ามองฉันได้มั้ย

“จะ...จะบ้าเหรอ”

“ก็ไม่แน่นี่ ถ้าเกิดเธอหน้ามืดทำอะไรฉันขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบ เธอรับผิดชอบมั้ยล่ะ??”

แล้วไอ้ที่นายทำกับฉันไว้ล่ะ เคยคิดจะรับผิดชอบมั้ยยะ

“ว่าไงจะรับผิดชอบมั้ย ถ้ารับฉันจะยอมโดยไม่ขัดขืน” ดูมันพูด คนที่เสียหายน่ะฉันย่ะ ไม่ใช่นาย

“ทำไมคิดนานจัง จะไม่รับผิดชอบฉันเหรอ เธอนี่มัน.....ไม่มีความรับผิดชอบซะเลยยัยเบ๊ ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ ร้ายกาจจริง ๆ ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง”

ฉันยังไม่ได้ทำอะไรนะยะ หมอนี้ซบหน้ากับหมอน ทำเสียงสะอึกสะอื้น หน้าหมั่นไส้ตื่นมาก็กวนประสาทเลยนะยะ ฉันคว้าหมอนมาฟาดตานี้อย่างหมั่นเขี้ยว

“ได้ฉันแล้วยังจะมาทำร้ายร่างกายฉันอีกเหรอ เธอทำเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ยอม ฉันจะไปแจ้งมูลนิธิคุ้มครองสิทธิ์ของทอมไทยที่หน้าตาดี เน้นข้างหลังด้วยนะที่ว่าหน้าตาดีนะ ให้มาจับเธอข้อหา....”

“ข้อหาอะไรยะ?!!!” นี่ฉันบ้าจี้กับตานี่ไปได้ยังไงกันเนี๊ยะ

“ข้อหา......กักขังหน่วงเหนี่ยวหัวใจจนไร้อิสระภาพไง” กรี๊ดดดดด...ตานี้พูดออกมาได้ยังไงมุขเสี่ยวแบบนี้

“นายนี่มันกวนประสาท”

ฉันระดมฟาดหมอนใส่ตานี้ คุณอย่าคิดว่ามันจะมีขนนกขนเป็ดอะไรออกมานะคะ มันเป็นหมอนยัดฟองน้ำค่ะ ไม่ต้องจินตนาการสวยหรูค่ะ

“จับได้แล้ว ผู้ต้องหา” หมอนั้นพูดหลังจากรวบร่างฉันจนเราทั้งคู่กลิ้งอยู่บนเตียง

“ปล่อยนะ!! ตาบ้า!!”

“จะยอมรับมั้ย??” หมอนี้ยังบ้าจี๊ไม่เลิก

“รับอะไรเล่า”

“รับผิดชอบดูแลหัวใจของฉันไง”

ไอ้บ้านี้ยังไม่เลิกบ้า ไอ้มุขเสี่ยวแบบนี้ใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก แต่ทำไมใจเต้นแรงอย่างนี้ละฉัน

“ไม่มีทาง”

“ฉันพูดจริง ๆ นะ”

น้ำเสียงจริงจังของตานั่น ทำให้ฉันหันไปสบตากับเขา เขาไม่หลบตา บางสิ่งในนั้นบอกฉันว่าเขาพูดจริง ฉันควรจะเชื่อนายหรือเปล่า

“ฉันชอบเธอ”

เขาบอกว่าชอบฉัน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จริงเหรอ เขาบอกว่าชอบฉัน ฝันไปหรือเปล่า เดี๋ยว........แล้วขิงล่ะ

“แล้วขิงล่ะ???”

ฉันถามขึ้น ก่อนที่หมอนี้จะจูบฉัน ฉันคิดว่าจูบนะ เพราะหน้าเราใกล้กันมาก เขาหลับตาลงหันหน้าไปทางอื่น ก่อนจะผละออกจากร่างของฉัน

“ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวออกไปข้างนอกกัน”

อะไรของตานี้เนี๊ยะ เปลี่ยนอารมณ์ปุบปับ พอพูดถึงขิงก็สำนึกได้เหรอว่าตัวเองน่ะมีแฟนอยู่ ไอ้ที่บอกว่าชอบเมื่อกี้ก็คงโกหก นิสัยเจ้าชู้อย่างนายนะฉันไม่เชื่อน้ำมนต์หรอก ฉันปาหมอนใส่หลังตานั่น

“นายนะชอบมาหลอกให้คนอื่นเขา....เขา....”

แล้วฉันเป็นอะไรเนี๊ยะ ร้องไห้ทำไม แค่หมอนี่แกล้งบอกว่าชอบ แค่หมอนี้พูดไม่จริง ทำไมมันผิดหวังขนาดนี้ฉันไม่ได้หวังให้นายมาชอบสักหน่อย ไม่ได้หวังเลยสักนิด

“ฉันพูดจริง ๆ” เขาหันมามองฉัน

“นายโกหก” เสียงฉันเริ่มสั่นมากขึ้น ภาพของไอ้บ้านั้นพร่าเลือนเพราะม่านน้ำตาของฉัน

“ฉันพูดจริง ๆ” ฉันส่ายหน้าฉันส่ายหน้าให้กับคำพูดของเขา

“นายโกหก!!!!!!” ฉันตะโกนดังเสียงแทบจะลั่นบ้านเลยล่ะ

“ฉันไม่ได้โกหก ฉันชอบเธอจริง ๆ จะโกหกทำพระแสงอะไรยัยบ้า!!!!!” ตานี่ก็แหกปากแข่งกับฉันอีก

“มันผิดนักเหรอไง ?? ชอบผู้หญิงพร้อมกันสองคนเนี๊ยะ!!!!”

“ทุเรศพูดออกมาได้ไง เลว!!!!”

“เออ...ฉันมันเลวพอใจยัง!!!!”

แล้วหมอนั่นก็เดินออกไปจากห้องไปไหนก็ไม่รู้ ฉันก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้อยู่นั่นแหละ สมองของฉันคิดทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา สิ่งที่ชมพู่พูดและทำ ออกมาจากใจของเขาทั้งนั้น ไม่ว่าจะชอบ ไม่ชอบ เกลียดหรือรัก เขาไม่เคยแกล้งทำ เขาไม่เคยโกหกเลยสักครั้ง แต่ฉันล่ะทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับไปว่าเขา เอาเลยยัยบ้า ตานั้นอุตส่าห์บอกว่าชอบดันไปว่าเขาโกหกอีก ร้องให้ตายเลย....สมน้ำหน้าตัวเอง

“เลิกร้องไห้ได้แล้วสาวน้อย ไอ้ตัวแสบนั้นมันไม่ได้ยินหรอก”

ฉันเงยหน้าขึ้นมามองเสียงที่เรียกฉัน เจ๊เจี๊ยบ มาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ไปอาบน้ำ แล้วแต่งตัว นี่เสื้อผ้า เดี๋ยวเจ๊จะแต่งหน้ากลบรอยช้ำให้”

“แต่งทำไมคะ??” ฉันถามงง ๆ

“อ้าว ไอ้เด็กเวรนั่นไม่ได้บอกเหรอว่าจะออกไปข้างนอก” เออ....ใช่เมื่อกี้เขาบอกฉันนี้น่า

“ช่างเถอะ ไปอาบน้ำก่อน”

“แล้วชมพู่ไปไหนแล้วคะ??”

“ไปตัดผมจ้ะ เดี๋ยวเธอก็ได้เห็นตอนมันหล่อแบบสุด ๆ อ่อ แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ เธอภูมิใจไว้เถอะว่าเธอน่ะเป็นผู้หญิงคนแรกนอกจากน้อง เอ้ย!!! พี่สาวมันที่มันพาเข้ามาในห้องนี้”

เจ๊แกพูดอะไรของแก ฉันงง ๆ อะไรใครคนแรก แต่ฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ









หลังจากที่ถูกเจ๊เจี๊ยบจับแต่งหน้าศพ เอ้ย!!!! แต่งหน้าแต่งตัว ฉันก็มานั่งรอชมพู่ที่ห้องรับแขก บ้านเขาสวยมากเลยค่ะ จัดบ้านเก๋ดี ไม่โล่งแต่ก็ไม่รก อากาศถ่ายเทได้สะดวก รอบ ๆ บ้านมีต้นไม้เยอะมาก การจัดสวนก็สวย ไม่เหมือนบ้านฉันเลย

เสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน เขาคงมาแล้ว เจ๊เจี๊ยบบอกเขาไปตัดผม เมื่อเช้าเพิ่งนึกอยู่ว่าถ้าเขาตัดผมจะเป็นยังไง เดี๋ยวฉันก็ได้เห็นแล้ว นั่นไงเขามาแล้ว

“รอนานมั้ย???”

เขาโผล่หน้าเข้ามา ม้ายยยยยยยยยยยยย......นี่นะเหรอชมพู่ ไม่จริง ไม่อยากจะเชื่อ ดูอย่างนี้แล้วมันเป็นคนละคนกันเลย เสื้อผ้าหน้าผม เปลี่ยนไปหมด เสื้อยืดสีดำธรรมดา แต่ดูแล้วตัวป็นพันแน่ กางเกงยีนส์สีซีด แต่ไม่เยินนะค่ะ สร้อยคอเงินรูปไม้กางเขน และรูปฟันเฟือง ห้อยอยู่ที่คอ สร้อยข้อมืออีกสองสามเส้นที่ข้อมือนั้นอีก โอ้ย!!!!.......หล่อเริดเจ้าค่ะ เขาค่อย ๆ เดินมาหย่อนก้นนั่งที่โซฟาตัวตรงข้ามกับฉัน ก่อนจะยิ้มให้ อย่ายิ้มแบบนี้

“เป็นไงหล่อใช่ปะ” ว่าแล้วก็ยักคิ้วใส่ฉัน ตาบ้า

“ก็งั้น ๆ”

หล่อมากต่างหาก ไอ้ผมที่ซอยสั้นนั่นอีก ถูกตัดแต่งจนเข้าทรง เหมาะกับรูปหน้าของเขา เอ๊ะ!!!! ตานี่เจาะหูด้วยเหรอ เพิ่งสังเกต เจาะกี่รูนะ 1...2...อ๋าย ข้างละ 4 รู แถมใส่ครบทุกรูด้วย หมอนั้นยังนั่งยิ้มอยู่ จะยิ้มอะไรหนักหนา บอกว่าอย่ายิ้มไง ยิ้มแล้วมัน โอ้ย....ไอ้คนบ้า ทำไมหล่ออย่างงี้

“กำลังคิดละสิว่า ทำไม...ฉันหล่ออย่างนี้” มันมีพลังจิตเหรอไงเนี๊ยะ

“ไม่ต้องสงสัยว่าฉันเดาออกได้ยังไง ก็หน้าเธอนะมันบอกว่า.....”

“ว่าอะไรยะ?!?!”

“เธอจะจับฉันปล้ำอะดิ” ไอ้บ้า!!! แกคิดอยู่คนเดียวเลยแหละ

“มาแล้วเหรอ สุดหล่อ” ฉันและชมพู่เงยหน้าขึ้นไปที่ชั้นสองทันที เจ๊เจี๊ยบ

“หล่อใช่มั้ย??” ชมพู่พูดกับเจ๊ ไอ้คนหลงตัวเอง

“แล้วจะออกไปไหนกันล่ะ??” นั่นสินายจะไปไหน

“ร้านจิว ฯ”

“จะไปซื้อของขวัญให้สาวเหรอจ๊ะ สาวคนไหนล่ะ” จิว ฯ นี่ หมายถึงจิวเวอร์รี่อะป่าว

“ซื้อของให้แฟน”

“ว้าว!!! สาวน้อยเธอได้ของขวัญจากตานี้ด้วย โชคดีจริง ๆ”

นายจะซื้อให้ฉันเหรอ ฉันมองหน้าหมอนั้น เขาจ้องฉันอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันก็เข้าข้างตัวเองหรอก ตาบ้าอย่ามองแบบนี้

“ไม่ใช่ยัยนี้หรอก อีกคนนะ แฟนจริง ๆ”

ฉันสะอึก จริงสิ หมอนี้มีขิงอยู่นี่น่า เจ๊เจี๊ยบอ้าปากค้างมองหน้าฉันกับเขางง ๆ บุหรี่จะหล่นออกจากปากแล้วเจ๊

“เอ่อ...โทษทีเข้าใจผิด” เสียงเจ๊เจี๊ยบดูเก้อ ๆ

“ไปก่อนนะเจ๊”

“เออ โชคดี” ฉันเดินตามเขามาขึ้นรถ









Mameiw talk……..

ผมเดินอยู่กลางห้างหรูแห่งหนึ่ง วันจันทร์เป็นวันเกิดของยัยขิงผมคิดว่าจะซื้อสร้อยให้ขิงสักเส้นเป็นของขวัญวันเกิดให้

“มองอะไรกันนักหนาวะ” - - +

ผมพึมพำเบา ๆ เบาพอที่ยัยเบ๊จะไม่ได้ยิน ถ้าสาว ๆ มองนะพอเข้าใจครับ แต่ไอ้พวกผู้ชายกับทอมมองนี้มันยังไงแฮะ แต่เดี๋ยวสายตาไอ้พวกนี้ ผมลองมองตามสายตาไอ้พวกนั้น

จ๊ะเอ๋........ไอ้พวกบ้าเอ้ย นี่ของฉัน

เมื่อรู้ว่ามัน มัน และมันทั้งหลายมองอะไรผมอยากเดินไปควักลูกกะตาพวกมันออกมา มองผู้หญิงของตูทำไมวะ ยัยเบ๊ก็กระไร เอ้อระเหยอยู่นั่นแหละ ดูอะไรนักหนาไอ้ของพวกนั้นนะ รู้งี้ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนออกมาก็ดีหรอก เจ๊เจี๊ยบก็เหมือนกัน เลือกชุดมาให้ใส่เนอะ มันก็สวย น่ารักดีอยู่หรอก แต่ไม่อยากให้ใครมามองโว้ย!!! ผมหวง ผมดูได้คนเดียว

ยัยเบ๊วันนี้ก็น่ารักกว่าทุกวัน ความจริงยัยนี้ก็น่ารักทุกวันแหละ แต่วันนี้พิเศษ คงเพราะเจ๊แกแต่งหน้าให้มั้ง แล้วยัยนี่ก็ใส่เสื้อกล้ามสีขาวกระโปรงสั้นสีขาวอีก มันขึ้นชื่อว่ากระโปรงสั้นก็สั้นจริงแฮะ แต่สั้นเกิน ชุดพวกนี้ของยัยชมพู่นี่น่าจำได้เพราะเคยบอกห้ามใส่ มันเป็นของขวัญจากเจ๊เจี๊ยบเองแหละ

ยัยเจ๊บ้านั้นพอยัยชมพู่ไม่ใส่ก็เอามาให้ยัยจอยใส่เหรอวะ เดี๋ยวเจออีกรอบก่อน พ่อจะเสยให้ แต่ก่อนอื่นขอเสยไอ้คนแถวนี้ก่อนได้มั้ยวะ แม่_มองอะไรวะ เข้าใจโว้ย!!! ว่าน่ารักแต่ของฉัน

ยัยเบ๊ได้โชว์ผิวขาวก็วันนี้แหละทั้งเสื้อกล้ามกระโปรงสั้น

“ไปทางโน้นเถอะ ร้านจิวอยู่ทางโน้น”

ผมโอบเอวยัยเบ๊ไว้ ยัยนั้นขืนตัวเล็กน้อย ผมหรี่ตามอง ผมส่งสัญญาณเตือนอันตรายยัยนี่ครั้งแรก

“ไปทางโน้น ตรงนี้มีอะไรดี”

“ฉันดูของอยู่ จะซื้อตุ๊กตา” เธออายุเท่าไหร่ จะเอาตุ๊กตาเนี๊ยะ

“ตัวไหน!?!” ยัยนั่นชี้ไปที่ตุ๊กตาที่อัปลักษ์สุด ๆ เท่าที่ผมเคยเห็นมา

“อุบาทว์สุด ๆ”

มันเป็นตุ๊กตาสีดำกับสีแดงคู่กัน เดาว่าผู้หญิงกับผู้ชายแน่ แต่ไอ้ที่ผมไม่ชอบนะคือหน้าตารูปร่างมันนะ มันเป็นยังไงนะเหรอ ก็มีตา ยิ้มมีเขี้ยว มีเขาถือสามง่าม เออ...มีหางด้วย เดาสิว่าเป็นตัวอะไร

>

>

>

ถูกต้อง ....ปีศาจ

“น่ารัก”

“เธอเอาตาไหนมองยัยเบ๊ ฉันต้องรีบซื้อของนะ หิวแล้วด้วย”

“แต่ฉัน....” ผมมองด้วยสายตาเตือนภัยครั้งที่สอง ยัยนั้นถึงยอมเดินตามมาด้วย หวังว่าผมคงไม่ต้องเตือนยัยนี่ เป็นครั้งที่ 3 นะ









เรากำลังเลือกซื้อสร้อยอยู่ครับ ดูยัยเบ๊จะไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เท่าไหร่ดูเกร็ง ๆ

“ยัยเบ๊ มาทางนี้” ผมเรียกยัยเบ๊ ให้เดินเข้ามาหา

“มีอะไร?”

“ช่วยเลือกหน่อยสิ”

ผู้หญิงมักชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ถ้ายัยเบ๊ว่าสวย ขิงต้องว่าสวยแน่นอน ถ้าให้ผมเลือกล่ะก็ ห่วยแตกสุด ๆ แน่

“เลือกเองสิ” ยัยคนนี่ก็พูดแปลก

“ถ้าเลือกเองได้ ไม่พาเธอมาหรอก”

“แต่มันเป็นของที่นายควรเลือกเอง”

“บอกว่าเลือกไม่เป็น”

“โอเค แต่ถ้ามันแพงจนนายกระเป๋าฉีกฉันไม่เกี่ยวนะ” ยัยนี่ปากเก่งขึ้นทุกวัน

“เลือกเถอะน่า”

แล้วยัยเบ๊ก็ตั้งหน้าตั้งตาเลือก ส่วนผมนะเหรอ มองยัยเบ๊เพลินเลยละ พนักงานขายก็แนะนำเรื่อย ๆ

“เส้นนี้เป็นไง?”

ยัยเบ๊ส่งสร้อยทองคำขาวมาให้ผมดู ลายสร้อยสวยมาก จี้เป็นรูปหัวใจอันเล็ก ๆ

“เอาเส้นนี้แหละ” ผมบอกพนักงาน ก่อนจะส่งบัตรเครดิตให้พนักงานไปรูด

“ได้แล้วค่ะ” ผมรับของแล้วเซ็นชื่อบนใบเสร็จ

“เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการนะคะ” ผมเดินออกจากร้านพร้อมยัยเบ๊

“ทำไมนายไม่เลือกซื้อแหวนล่ะ ฉันว่าให้แฟนนะควรเป็นแหวนมากกว่าสร้อยนะ”

“ฉันไม่ชอบให้แหวนใคร”

“ทำไมอะ??”

“มันเหมือนผูกมัดตัวเองเกินไป ฉันไม่ชอบ”

ยัยเบ๊มองหน้าผมแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ใช่แล้วคนเป็นแฟนกันควรจะให้แหวนกัน แต่สำหรับผมไม่ใช่ มันเป็นการผูกมัดตัวเองอย่างที่บอกนั่นแหละ ผมไม่อยากผูกมัดกับใคร หรือให้ใครผูกมัดตัวผม ผมยังไม่คิดจะหยุดที่ใคร.....

“นายหิวมั้ย?” ยัยเบ๊พูดขึ้น

“เธอหิวล่ะสิ” ยัยนั้นพยักหน้า ผมยิ้ม พร้อมกับขยี้หัวยัยนี้ด้วย ยัยนี้น่ารักจริง ๆ

“ไปที่ร้านโน้นกันเถอะ อาหารญี่ปุ่นไม่ได้กินนานแล้ว” ยัยเบ๊เดินตามผมเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง









หลังจากอิ่มแล้ว ผมก็พายัยเบ๊เดินดูของบนห้างไปเรื่อยเปื่อย ผมได้เสื้อเพิ่มมาอีกตัว ส่วนยัยเบ๊ไม่เอาอะไรสักอย่าง ยัยนั้นบอกมันแพงเกินไป ตามใจ....ผมพายัยนั้นเดินมาชั้น 1 ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู บ่าย 4 แล้วเหรอ กลับบ้านดีกว่า

“ยัยเบ๊....อ่าว!!! ไปไหนอีกล่ะ” ผมหันไปมองหายัยเบ๊

“อยู่ไหนวะ? เดินด้วยกันแท้ ๆ อะ!!!นั่นไง”

ยัยเบ๊ยืนอยู่หน้าร้านขายตุ๊กตาร้านเดิมกับตอนเข้าห้างมาใหม่ ๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว มีผู้ชายยืนล้อมหน้าล้อมหลังอยู่สองสามคน กำลังยื้อยัยเบ๊อยู่

“ไอ้พวกทุเรศเอ้ย!!!”

จะสีสาวยังทำตัวอุบาทว์อีก อย่ามายุ่งกับเด็กฉัน ผมดิ่งไปหายัยเบ๊ทันที

“ปล่อยนะไอ้บ้า!!!!”

เสียงยัยเบ๊โวยวาย เมื่อเดินเข้าไปถึงแล้วผมก็คว้าแขนยัยเบ๊กระชากมาหาตัว ยัยเบ๊ตั้งหลักได้ก็ขยับมายืนหลังผมทันที จับเสื้อผมไว้แน่น

“ไสหัวพวกแกไปซะ” ผมพูดเน้น ๆ ใส่ไอ้พวกเวรพวกนั้น

“โห....หน้าตาก็ดีแต่ไหงชอบของแปลกวะ”

ไอ้พวกนี้สงสัยแด_หมาแทนข้าว ปากพวกมันเลยส่งกลิ่นออกมาเป็นกลิ่นหมา

“อย่าไปสนพวกของปลอมเลยน้อง มาเล่นกับของจริงอย่างพวกพี่ดีกว่า”

“หุบปากแล้วไสหัวแกไป” ผมชักมีน้ำโหแล้วนะ

“จะนับหนึ่งถึงสามนะแก ถ้ายังไม่ไปฉันเสยแกแน่”

“อีทอมนี่”

“มีปัญหาอะไรกับเพื่อนพี่เหรอน้อง” เสียงคุ้น ๆ ผมหันไปมอง ไอ้พัฒ ไอ้ต้น

“ถ้าไม่มีก็อย่ามายืนแถวนี้สิ ขวางทางว่ะ” ไอ้ต้นเอ่ยขึ้น ไอ้พวกนั้นสลายโต๋ไปทันที

“มาทำอะไรแถวนี้วะไอ้เหมี.....เอ้ยชมพู่” ถ้าแกหลุดออกมาฉันจะกระทืบปากแก

“มาซื้อของ พวกแกอะ”

“ว่าจะมาดูหนัง แล้วมากะใครวะ เฮ้ย.....หรือว่า เด็กที่นั้นวะ ? ชื่ออะไรครับ? พี่ชื่อต้น เรียนที่เดียวกับไอ้นี่เหรอ? มีแฟนยังอะ?”

ไอ้เวรเมียไม่อยู่ลายออกนะแก ดูเหมือนยัยเบ๊จะกลัวไอ้ต้นมากกว่าไอ้สามตัวเมื่อกี้อีก เบียดตัวกับผมแทบจะกลายเป็นคนเดียวกันเลยล่ะ เบียดเยอะๆ ชอบนุ่มดี

“ชื่อจอยค่ะ” ยัยเบ๊ตอบเบา ๆ

“มีแฟนยังครับ?” ไอ้พัฒก็อีกคน ไอ้พวกนี้

“ยัยจอยเรียนที่เดียวกับฉัน และมีแฟนแล้ว ฉันเองแหละแฟนจอย” ต้องใช้ไม้นี้ ไม่งั้นไม่หยุด ไอ้สองตัวนั้นทำหน้าเซ็งทันที

“แล้วมากันแค่นี้เหรอวะ?”

ผมถามเพราะทุกทีไอ้พวกนี้ชอบมากันเป็นกลุ่ม ไอ้พริกต้องมาแน่ และถ้าไอ้พริกมาชมพู่ก็ต้องมาด้วยชัวร์ รวมไปถึงไอ้ไอย์ด้วย

“ไอ้พริกกะเพื่อนหาที่จอดรถอยู่เดี๋ยวตามมา ฉันว่าแกรีบกลับเหอะ ไว้ค่อยคุยกัน” ไอ้พัฒบอกผม

“งั้นไปล่ะ โชคดี” ผมลาเพื่อน ยัยเบ๊ค้อมหัวลงน้อย ๆ ให้กับพวกมัน

“น่ารักว่ะเด็กไอ้เพื่อนคนนี้”

ผมได้ยินเสียงไอ้พวกนั้นกระซิบกัน อยู่แล้วยัยนี่น่ารัก ยัยเบ๊กระตุกแขนผม

“อะไร?”

“ฉันอยากซื้อตุ๊กตาตัวนั้น” โอ้แม่เจ้า.......ไอ้พริกกำลังจะมา แต่ยัยนี่บอกจะเอาตุ๊กตา

“แค่นี้ยังไม่วุ่นวายหรือไง แม่คุณ…..” ผมอยากจะกินยัยนี่เข้าไปจริง ๆ

“เมื่อกี้ฉันกำลังจะซื้อ แต่ไอ้สามคนนั้นมาขวางไม่งั้นก็ซื้อแล้ว”

จ้า.....ตกลงฉันเป็นเบ๊หรือเธอเป็นกันแน่ เถียงฉันฉอด ๆ เลยนะ ผมลากยัยนั่นกลับมาที่เดิม พวกไอ้พัฒยังอยู่ที่เดิม

“เออ พวกฉันยืนรออยู่ตรงนี้รีบมาล่ะ” ไอ้พัฒคุยโทรศัพท์อยู่

“เฮ้ย!!! กลับมาอะไรอีกวะ ไอ้พริกกำลังมานะแก” ฉันรู้แล้วโว้ยได้ยินอยู่

“ฝากยัยนี่แปบ อย่าทำอะไรแฟนฉันนะ”

ก่อนจะเข้าไปในร้านผมไม่ลืมย้ำไอ้พวกนั้น ไอ้พวกนี้ก็พอ ๆ กับผมนั่นแหละ ไม่งั้นคบกันไม่ได้

“เอาตุ๊กตาสองตัวนั้นครับ ไม่ต้องห่อนะใส่ถุงเลย เท่าไหร่ครับ???”

ผมสั่ง ๆ และจ่ายตังค์ ไม่กี่นาทีผมก็ออกมาจากร้าน ตายห่_!!! ไอ้พริกกำลังเดินมา ยัยชมพู่ด้วย

“ฉันไปก่อนนะ แล้วโทรคุยกัน”

ผมบอกเพื่อน แล้วก็คว้ายัยเบ๊เดินเลี่ยงออกอีกทาง ยัยชมพู่เห็นเราก่อนไอ้พริก รีบคว้าตัวไอ้พริก ชี้โน้นชี้นี่ไปเรื่อย ดีมากน้องรัก

“นายจะรีบไปไหน?”

ยัยเบ๊โวยวาย ให้ตายเถอะ ทั้งลากยัยเบ๊ ทั้งถือเสื้อถือของขวัญแล้วก็ไอ้ตุ๊กตาบ้านี่อีก ตกลงฉันเป็นเบ๊ใช่มั้ย แม่คุณนาย

“ฉันเดินไม่ทันแล้วนะ ปวดขา” ผมพายัยเบ๊มาถึงลานจอดรถ

“นี่”

นั้นเป็นคำเดียวที่ยัยนั้นหลุดมาได้ ผมจูบปากยัยเบ๊กลางลานจอดรถเลยล่ะ ไม่มีการเตือนแล้วโว้ย!!!....เตือนมามากพอแล้ว.......อย่านึกว่าไม่มีคนนะ คนเยอะด้วยบางคนกำลังเอาของขึ้นรถบางคนกำลังจอดรถ บางคนกำลังเดินเข้าห้าง บางคนกำลังหาที่จอด เป็นเป้าดีมั้ย ทำไมผมถึงได้ทำไรน่าอายอย่างนี้นะ เพราะเธอคนเดียวยัยเบ๊

“ถ้ายังไม่หยุดพูด ฉันจะทำมากกว่านี้” ได้ผลยัยเบ๊หุบปาก เดินนำไปที่รถด้วย

“นี่เมื่อกี้เห็นมั้ย?? จูบกันเฉยเลยล่ะ” เสียงคนแถวนั้นซุบซิบกัน

“เรื่องของชาวบ้านเนี๊ยะชอบยุ่งกันจังเลยนะ!!!” ผมว้ากใส่คนแถวนั้นก่อนจะเดินตามยัยเบ๊ไปที่รถ แล้วขับออกไปจากห้างนี้อย่างรวดเร็วปานจรวดเลยล่ะ






........ประกาศจากป้าแอน........

วันอังคารหน้า ( อังคารที่ 28 พ.ย. 49 ) งดอัพเรื่องรักป่วนๆนะจ๊ะ..........อะๆ อย่าเพิ่งโวยกันสิคะ.........ลองฟังเหตุผลที่ป้าจะงดอัพรักป่วนๆก่อนนะจ๊ะ

เหตุผลก็คือ........???????

อาทิตย์หน้าป้าจะเอาสาวจิตฯ ภาคพิเศษ 3 ซึ่งเป็นตอนของจีนกับฟินมาลงจ้ะ

........รับลองว่าพอท่านๆทั้งหลายได้อ่านสาวจิตฯตอนพิเศษนี้แล้ว.......จะรู้สึกคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอนจ้ะ.......เท่าที่ท่านโฮตารุ แอบเล่าให้ป้าฟังนะ ( อยากจะเรียกว่าเอามายั่วน้ำลายป้ามากกว่าง่ะ ).......เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยจ้ะ........ยังไงก็อย่าลืมเข้ามาอ่านกันนะจ๊ะ........


"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 12ตอนที่ 14>



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:12:52 น. 0 comments
Counter : 1166 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.