ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 7

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Mameiw talk.....

6.30 น. ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้ผมมายืนอยู่ใต้ต้นไม้ ผมไม่รู้หรอกว่าต้นอะไร และไม่อยากรู้ด้วยว่ามันเป็นต้นอะไร รู้แต่ว่ามันทำให้ผมข้ามกำแพงโรงเรียนที่สูง 3 เมตรพร้อมลวดหนามสนิมเขรอะ โดยรวมแล้วผมต้องข้ามกำแพงสูง 4 เมตร ให้ตายเถอะเจ๊แจนกับเพื่อนของมันต้องชดใช้กับการที่ทำให้ผมต้องลำบากปีนรั้ว แถมยังเสี่ยงกับการถูกจับได้แล้วโดนทัณฑ์บนอีก คอยดูนะ จะเอาให้อ่วมเลย

ผมข้ามรั้วอย่างทุลักทุเล กว่าจะผ่านมาได้เล่นเอาเสียววาบ ดีว่าตอนนี้อีกฝั่งของกำแพงมีบันไดไม้มาพาดไว้ อภินันทนาการจาก เจ๊เจี๊ยบสุดสวย ญาติของผมเอง แถมเจ๊ยังเป็นศิษย์เก่าที่นี่ ไม่ได้เจ๊เจี๊ยบผมก็ไม่มีทางรู้ว่ามีต้นไม้ที่สามารถทำให้ผมผ่านกำแพงคุกนี้ได้ ผมค่อย ๆ ไต่บันไดลงมาจากนั้นก็เอาบันไดวางราบกับพื้น ก่อนจะเดินเลาะไปตามกำแพงโรงเรียน กว่าจะโผล่มาที่ถนนที่นัดกับเจ๊เจี๊ยบเล่นเอาหอบเลยทีเดียว

เจ๊เจี๊ยบโบกมือให้ผม ผมเพียงพยักหน้าแล้วเดินไปที่เจ๊

“ของที่ให้หามาได้เปล่าเจ๊?”

ผมถามทันทีที่ก้าวเข้ามานั่งในรถสป๊อตสองที่นั่งสุดหรูของเจ๊เจี๊ยบ

“ได้แล้วเปลี่ยนได้เลย”

ผมรับถุงใส่ของจากเจ๊เจี๊ยบมา ก่อนจะล้วงเอาเสื้อผ้าออกมาแล้วถอดชุดที่ใส่มา เปลี่ยนมันในรถนี่แหละ

“โรงพยาบาลอะไรวะไอ้เหมี่ยว?”

“โรงพยาบาล.........” ผมตอบก่อนจะวุ่นอยู่กับการใส่กางเกง

“แล้วแกจะบอกฉันได้ยังว่า ทำไมแกมาอยู่ที่นี่แทนไอ้พู่ แล้วไอ้พู่ทำไมถึงเจ็บตัวแบบนั้น”

เจ๊เจี๊ยบถามเรื่อย ๆ ผมก็ตอบไปเรื่อย ๆ มือของผมก็รวบผมที่ยาวให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็ไปล่วงเอากล้องวีดิโอ รุ่นใหม่ล่าสุดยี่ห้อดังมาดู และลองกดดูปุ่มการทำงานต่าง ๆ มาตั้งตัวอีกที่ก็ตอนที่รถมาจอดที่โรงพยาบาลที่ชมพู่พักอยู่

“เดี๋ยวเหมี่ยวขึ้นไปก่อนนะ แล้วจะโทรมา แล้วก็ทำตามแผนได้เลย”

เจ๊เจี๊ยบพยักหน้าช้า ๆ จากนั้นผมก็เดินเข้าไปยังตึกพักฟื้น แล้วก็ถามเคาร์เตอร์ห้องพักของชมพู่ ดีว่าผมเสียเวลาตรงเคาร์เตอร์นิดหน่อยไม่งั้นคงได้สวนกับพวกไอ้พัฒ ไอ้ต้น ที่หน้าลิฟต์แน่ ๆ ผมรอจนไอ้พวกนั้นเดินออกจากตึกไปแล้วจึงเดินไปที่ลิฟต์ ไอ้พริกคงอยู่เฝ้าชมพู่เพราะผมไม่เห็นมันในกลุ่มเมื่อกี้

ผมมาหยุดอยู่หน้าห้องพักฟื้นของชมพู่ อย่างที่คิดไว้จริง ๆ ไอ้พริกเฝ้าชมพู่อยู่ ผมกดโทรศัพท์หาเจ๊เจี๊ยบทันที

“ลงมือได้เลย พร้อมแล้ว”

แล้วผมก็รออีกครู่เสียงโทรศัพท์ในห้องชมพู่ก็ดังขึ้น ไอ้พริกรับสาย แล้วมันก็เดินมาที่ประตู ผมหลบฉากเข้าไปในห้องคนไข้ ห้องข้าง ๆ รอให้ไอ้พริกเดินผ่านไปจนลงลิฟต์ไปจึงออกมา แล้วเข้าไปยังห้องของชมพู่ ผมแทบกระโจนไปที่เตียงของน้องสาวของผม

พระเจ้า.......คนพวกนั้นมันต้องได้รับกรรมกับที่มันทำกับชมพู่ ดูสิ!!! หน้าหวาน ๆ ของชมพู่มีรอยพกช้ำ ตามแขนก็มีรอยถูกฝาด ต้องเป็นแส้แน่ ๆ ผมกำหมัดแน่น หัวก็แตก ที่ปากบวมเป่ง

ผมโกรธ ๆ มาก มากจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ชมพู่นอนไม่ได้สติ แถมตัวก็ร้อน คงมีไข้ ตามแขนมีสายระโยงระยางเต็มไปหมดจนไม่รู้ว่าเป็นสายอะไรบ้าง ผมลูบหัวน้องสาวเบา ๆ อย่างกับกลัวว่าเธอจะเจ็บกับสัมผัสนั้น

“ยะ....หย่า อย่าเข้ามานะ ฮือ ๆ ฉันกลัวแล้ว อย่าเข้ามา ไม่...ฉันเจ็บ ปล่อยฉันนะ ไม่ เหมี่ยวช่วยพู่ด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย เหมี่ยว พริก ช่วยด้วย ไม่ !! อย่านะ!! ไม่!!ไม่!! ม่ายยยยย.......”

เสียงละเมอของชมพู่ทำผมแทบคลั่ง ผมได้แต่ปลอบเธอจนเธอนิ่ง สิ่งเกิดขึ้นกับชมพู่คงเลวร้ายมาก ผมบีบมือของชมพู่

“เค้าอยู่นี้ชมพู่ ไม่เป็นไรแล้ว เหมี่ยวอยู่นี้แล้ว” ผมจูบหน้าผากชมพู่เบา ๆ

“ฝันดีนะคะคนดี เหมี่ยวสาบาน คนที่ทำให้ชมพู่เป็นแบบนี้มันต้องทรมานไปตลอดชั่วกัปล์ชั่วกัลล์ มันจะไม่มีหน้าไปพบเจอใครอีกต่อไป เหมี่ยวสาบาน”

ผมจูบชมพู่อีกครั้งที่หน้าผาก แล้วเสียงมือถือก็ดังขึ้น

“ครับ”

(กำลังจะขึ้นลิฟต์ไปเยี่ยมเหมี่ยวแล้วละ เป็นไงบ้างเรียบร้อยมั้ย) เสียงเจ๊เจี๊ยบดังตามสายมา

“ครับ ลิฟต์ตัวที่เท่าไหร่ครับ”

(ลิฟท์เต็มหมดเลย อ่ะตัวที่1มาแหละ แค่นี้นะ เดี๋ยวจะเยี่ยมมะเหมี่ยวเผื่อ แล้วเจอกันที่เดิม)

เจ๊เจี๊ยบพูดเป็นนัยให้พผมรู้ว่าเธอจะขึ้นมาบนนี้ลักษณะไหน ก่อนที่ผมจะตอบ

“ครับ” ผมวางโทรศัพท์แล้วหยิบหมวกแก๊ปขึ้มสวม

“เหมี่ยวไปก่อนนะ ฝันดีค่ะ”

ผมจับแก้มชมพู่อย่างแผ่วเบาแล้วเดินออกมาที่ลิฟต์ ผมกดเรียกลิฟต์ ให้ตายเหอะไอ้พริกมาชั้น 5 แล้วเหรอ ลิฟต์ห่าเอ้ย!!! มีตั้งหลายตัวทำไมแม่งช้าวะ แต่รู้สึกจะสายไปแล้วเสียงลิฟต์ตัวที่ไอ้พริกดังขึ้น และมันกับเจ๊กำลังเดินออกมา ผมหันหลังให้มันทันที ทำท่าเหมือนรอลิฟต์อีกฝั่งหนึ่ง

“ทางนี้ครับ”

เสียงไอ้พริกพูดกับเจ๊ผ่านหลังผมไป ผมรีบหมุนตัวไปอีกทางหนึ่งแล้วเดินเข้าลิฟต์ตัวที่ไอ้พริกเพิ่งออกมา แล้วรีบกดลิฟต์ปิด แวบหนึ่งผมเห็นไอ้พริกหันมาทางผม แต่ถูกเจ๊เรียกหันกลับไป เกือบแล้วมั้ยละ?

เอาละ ที่นี้ก็ถึงคิวของเธอแล้วแจน ฉันกำลังจะไปเยี่ยมด้วยความคิดถึง.......







Je jeib talk......

“มีอะไรเหรอพริก?”

“เปล่าครับ” พริกยิ้มให้ฉัน โฮ๊ะ ๆ !! นี้ถ้าเจ๊เจี๊ยบคนนี้ไม่มีแฟนแล้วล่ะก็จะงาบซะเลย

“พี่เห็นมองไปที่ลิฟต์” ฉันกำลังเดินไปที่ห้องหลานรักของฉัน

“คนที่เดินเข้าลิฟต์เมื่อกี้นะครับ” เอาแล้วมั้ยละไอ้เหมี่ยวเอ้ย!!! ลิฟต์ตัวอื่นไม่รู้จักใช้

“เหมือนพริกเคยเจอที่ไหน คุ้น ๆ หน้า”

“ใครกันละที่ว่าคุ้น”

พริกทำหน้าครุ่นคิด โอ้ย!!! ตาย.............นี้ขนาดทำหน้าเครียดยังหล่อขนาดนี้เลย โอ้ย!!!คนแก่ใจไม่ดี

“ช่างเถอะครับ คงคิดมาก ถึงแล้วครับ”

ดีมากจ๊ะที่เลิกคิด ไม่งั้นเจ๊จะทำให้เลิกคิดเอง พริกเดินนำเข้าไปในห้อง สภาพของชมพู่หลานรักของฉันที่นอนแผ่อยู่บนเตียงคนไข้ ทำให้ฉันอยากจะตามไอ้เหมี่ยวไปกระทืบคนที่ทำด้วยอีกคน

“มีแผลที่หลังด้วยครับ โดนแส้ไปหลายที คงจะกลายเป็นแผลเป็นแน่ถ้ารักษาไม่ดี มีรอยเทียนหยดใส่หลายที่จนพองไปหมด เมื่อหัวค่ำหมอเข้ามาดู บอกว่ามีไข้สูง”

ฉันเดินไปลูบหัวหลานรักเบา ๆ เกิดมามดไม่เคยให้ไต่ ไรไม่เคยให้ตอม แล้วดูตอนนี้สิสมควรที่ไอ้เหมี่ยวมันจะโกรธจนแทบคลั่ง ไอ้เด็กนั่นมันรักน้องมันยิ่งกว่าตัวมันซะอีกมันไม่ทางปล่อยให้คนที่ทำน้องมันขนาดนี้ลอยนวลอยู่หรอก

“พี่จะเอาไงต่อไปครับ” พริกถามฉัน

“จะแจ้งความมั้ยครับ”

“คงไม่ละ เพราะเหมี่ยวเอ้ย!!! ชมพู่น้องของมะเหมี่ยวคงตามเอาผลกรรมที่มันทำกับเหมี่ยวไปส่งให้แล้วล่ะ”

“ชมพู่ คือใครครับ” พริกถามฉันอย่างสงสัย ฉันยิ้ม

“ชมพู่คือน้องสาวของมะเหมี่ยวนะ มันรักมะเหมี่ยวมาก มากซะจนมันสามารถทำให้คนที่ทำให้มะเหมี่ยวเจ็บ........หายออกจากโลกนี้ไปได้เลย”

จะงงกันมั้ยค่ะ ชมพู่ที่เจ๊พูดถึงเนี๊ยะก็คือไอ้เหมี่ยวที่เดินสวนเจ๊กับพริกเมื่อกี้นี้ ส่วนเหมี่ยวที่เจ๊มาดูอาการนี้ก็คือชมพู่ งงกันเปล่า ไม่รู้ล่ะเอาเป็นว่าเข้าใจละกัน (อ้าว ซะงั้น)

“มะเหมี่ยวไม่เคยเล่าเรื่องชมพู่ให้ฟังเหรอ”

พริกส่ายหน้าทันที ฉันยิ้มก่อนจะเล่าอะไรให้พริกฟัง

“ตอนนั้น ชมพู่กับมะเหมี่ยวเพิ่งเจ็ดขวบเองมั้ง ส่วนพี่อยู่ ม.6 วันนั้นพี่พาสองคนนี้ไปเดินเล่น บังเอิญเดินผ่านบ้านที่เขาเลี้ยงหมาตัวโต ๆ ตัวหนึ่งไว้ หมาตัวนั้นมันพยายามกระโจนมากัดพวกพี่ที่อยู่นอกรั้ว มะเหมี่ยวตกใจจนหกล้มเลือดไหล ชมพู่ก็โกรธ โกรธหมาตัวนั้นมาก ถึงแม้มันจะไม่ได้กัดมะเหมี่ยวก็เถอะ แต่ในความคิดของชมพู่มันก็คือสาเหตุที่ทำให้มะเหมี่ยวเจ็บตัว ”

ฉันหยุดเล่าแล้วก็ลูบหัวหลานรักที่นอนหลับไม่รู้เรื่องบนเตียงเบา ๆ อีกครั้ง

“แล้วยังไงต่อครับ?” พริกถามอย่างใคร่รู้ ฉันยิ้มโดยที่ไม่มองพริก

“หลังจากวันนั้นพวกพี่ก็เดินผ่านบ้านหลังนั้นอย่างสบายใจ เพราะไม่มีเสียงหมาเห่าให้มะเหมี่ยวตกใจอีก เจ้าของหมาก็ตรอมใจเพราะตามหาหมาตัวโปรดเป็นเดือนก็หาไม่เจอไม่รู้ว่ามีมือดีที่ไหนฉกเอาไป”

“ฝีมือชมพู่เหรอครับ” ฉันยิ้ม

“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้หลานรักของพี่คนนี้ตกใจ หรือบาดเจ็บมันก็เป็นอันต้องอันตรธานหายไปหรือไม่ก็เจ็บปางตายทั้งคนทั้งสัตว์แหละ”

ฉันหยุดพูดหันมายิ้มให้กับพริกที่ตอนนี้ทำหน้าแหยง ๆ ตรงข้ามเตียงกับฉัน

“พี่มานานแล้วนะต้องกลับก่อน แล้วพี่จะมาเยี่ยมอีก ฝากดูแลเจ้าเด็กคนนี้ด้วยนะ”

“ครับ”

แล้วฉันก็หันหลังออกจากห้องมา ทันทีที่ฉันลงมาถึงหน้าตึกก็รีบกดโทรศัพท์หาไอ้เหมี่ยวตัวจริงทันที

(ครับ)

“ถึงไหนแล้ว ได้ของที่ฝากให้หรือยัง”

(ถึงแล้วครับได้ของเรียบร้อยแล้วด้วย ขอบคุณมากครับ)

“ไม่เป็นไร เจ๊เห็นไอ้พู่แล้วนะ ยังไงพี่ฝากเราเอาคืนเพิ่มสักสองสามดอกละกัน”

(ไม่ต้องบอกก็รู้ ผมจะเอาให้เต็มรักเลยล่ะ)

“ดีมาก สั่งสอนให้พวกมันรู้ว่าการทำให้ปีศาจที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมามันเป็นยังไง......แค่นี้นะ”

เหมี่ยววางสายไปแล้ว แล้วฉันก็โบกแท็กซี่กลับ ฉันไม่สนใจหรอกว่าใครจะเป็นจะตาย หรือเจ็บปวดยังไง? ฉันสนแค่ว่าคนที่ทำให้หลานรักของฉันเจ็บตัว มันต้องได้รับโทษ

ตามสบายเลยเจ้าปีศาจ สนุกกับเหยื่อของแกให้สะใจ.......







Mameiw talk.....

ผมมายื่นอยู่กลางห้องของยัยเจ๊แสบสองคนแล้วตอนนี้ สุดยอดเลยเจ๊เจี๊ยบผมจะไม่เป็นศัตรูกับเจ๊เด็ดขาด เพราะเมื่อไหร่ที่เจ๊แค้นผมเจ๊คงสามารถตามจิกผมจนเจอ

เพราะแค่เจ๊รู้ชื่อกับอะไรนิด ๆ หน่อย เจ๊ก็สามารถทำให้ผมมายืนอยู่กลางห้องของศัตรูผมแล้ว ทำได้ยังไงนะทั้งกุญแจห้องและคีย์การ์ด รวมไปถึงของฝากอีกสองสามอย่างที่จำเป็นต้องใช้ในคืนนี้

ผมลากตัวเพื่อนยัยแจนมากองรวมกับยัยแจน เท่าที่ดูสภาพพวกไอ้พริกคงถล่มไว้เยอะเหมือนกัน แต่ไม่ต้องห่วงยังไม่ตาย แต่มันอาจจะมาตายเพราะมือของผมเองก็ได้ ว่าแล้วก็สักทีเถอะ ผมกระทืบยัยสองคนนั้นคนหลายทีอยู่เหมือนกัน

“แค่นี้นะมันไม่สาสมกับที่พวกแกทำกับชมพู่หรอกนะ ฉันจะทำให้พวกแกไม่กล้าออกไปพบผู้คนที่ไหนเลยล่ะ”

ผมตั้งเครื่องถ่ายวีดีโอขนาดพอดีมือไว้ตรงมุมที่สามารถมองเห็นบริเวณเตียงได้อย่างชัดเจน และแน่นอนยัยสองตัวนั้นต้องไม่เห็น

จากนั้นก็หยิบเอายาสีสวยเม็ดเล็ก ๆ มายัดปากมันทั้งสองคน ฤทธิ์ของมันไม่ต้องให้ผมอธิบายหรอกครับ ยาเลิฟ พูดแค่นี้ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นยังไง (กรุณาอย่าเลียนแบบไอ้เด็กคนนี้นะขอรับ) คราวนี้พวกแกได้แสดงบทรักซาดิสซ์กันสนุกแน่ แค่นี้ยังไม่พอ ผมเอายาที่เหลืออีกหลายเม็ดวางไว้ในห้อง ในจุดที่สามารถเห็นได้ถนัดด้วย หึหึ

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ผมก็หาถังใส่น้ำมาสาดใส่ยัยสองคนนั้น แล้วเดินออกจากห้องมาโดยไม่ลืมกดปุ่มเริ่มทำงานของเครื่องถ่ายวีดีโอ ผมเดินเข้าลิฟต์อย่างสบายใจ รอดูผลละกัน พวกแกได้ดังกันทั่วประเทศแน่ ๆ ลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังมั่วยา มั่วเซ็กซ์แบบซาดิสซ์ รับรองเธอจะกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์

ผมมานอนรอในรถเจ๊เจี๊ยบที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของคอนโดหรู นั่งเล่นเกมส์ในมือถือสบายใจเฉิบ รอแค่เวลายาออกฤทธิ์และเวลาเข้าไปเอากล้องออกมาเท่านั้น ผมรอให้ถึงเวลานั้นแทบไม่ไหว พวกมันสมควรได้รับกรรมที่มันก่อไว้กับน้องสาวผมแล้ว นึกถึงชมพู่ตอนนี้ยังไงบ้างนะ โทรถามไอ้พริกดีกว่า

“เฮ้ยยยย!!!! ใครโทรมาครับ โทรมาทำไมครับ..........” ผมเกลียดไอ้เสียงรอสายของไอ้พริกจริง ๆ รับสักทีดิวะ

(ฮัลโหล) มาแนวเสียงหล่ออีกแหละ

“ชมพู่ค่ะ” หุหุ จำเสียงฉันไม่ได้ไอ้เพื่อนโง่

(ครับ)

“คือพี่เหมี่ยวเป็นยังไงบ้างคะ”

(ตอนนี้ยังไม่ฟื้นครับ หมอเพิ่งเข้ามาดูแล้วก็ให้ยาลดไข้ไป ไม่ต้องห่วงครับ)

“ขอบคุณพี่พริกนะคะที่ดูแลพี่เหมี่ยว ใจดีอย่างนี้ต้องหน้าตาดีแน่ ๆ เลย” หยอดครับหยอด แก้เซ็ง

( -_____-??? )

มาบทเงียบเลยน่ะแกไอ้พริก ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบแบบนี้ แต่ฉันจะแกล้ง

“พี่พริกมีแฟนยังคะ?” ^O^ สนุก

(เรื่องส่วนตัวครับ ถ้าไม่มีอะไรแค่นี้นะ ง่วง)

แล้วมันก็กดวาง 555 ฉันว่าแล้วแกก็เป็นอย่างนี้ซะเรื่อย

แล้วผมก็หันมาเล่นเกมส์ต่อ ได้กลับโรงเรียนเช้าแน่ ๆ พรุ่งนี้จะแกล้งยัยจอยยังไงดีน้า แกล้งคืนนี้เลยดีกว่า ว่าแล้วผมก็กดหาเบอร์ยัยจอย

(ฮาโหล่) เสียงง่วงมาเลยนะยัยเบ๊เอ้ย

“ฝันดีมั้ยคุณเบ๊”

(ชมพู่) หายง่วงแล้วละสิ

“อาจารย์สุนันท์ของเธอมั้ง”

(อย่ามากวน มีอะไร?)

“คิดถึง” สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความ ^_____^ ฉันคิดยังไงวะถึงได้พูดแบบนี้

( /////-o-//////) เล่นบทนิ่งเหมือนไอ้พริกอีกแหละ

“เป็นไรอ่ะ? -____-???”

(ปะ...เปล่า)

“เขินเหรอ” ^____^

(ไม่ใช่สักหน่อย...แล้วทำอะไรอยู่?)

“คุยโทรศัพท์กับเธออยู่”

(กวนประสาท)

“กับเธอคนเดียวแหละ”

(เห็นทำกับทุกคนนั่นแหละ)

“แต่กับเธอมากเป็นพิเศษ”

(เพราะฉันเป็นเบ๊?)

“ฉลาดนี่”

(ขอบคุณ)

“ไม่เป็นไร” อยู่ ๆ ผมก็เงียบเองซะงั้น จอยก็เงียบ

“อย่าเงียบสิ” แล้วผมก็เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ

(เธอเงียบก่อนทำไมล่ะ)

“ก็มัวแต่คิดถึงคนอยู่” หยอดอีกมุก

(มีสาวให้คิดถึงเยอะล่ะสิ) ไม่เก็ตเลยหรือไงนะเธอ

“คิดถึงเธอตะหาก” ทำไมผมบอกว่าคิดถึงยัยนี้บ่อยจัง เอาน่าแกล้งเล่นเฉย ๆ

(คิดถึงเรื่องที่จะแกล้งฉันล่ะสิ)

“คิดไปโน้น”

(ก็เธอเป็นอย่างนั้นตลอด หาเรื่องแกล้ง)

“ตอนนี้คิดถึงจริง ๆ อยากไปหา........”

ผมพูดเบา ๆ ก่อนจะเอนหัวพิงกับเบาะรถ หลับตาลงคิดถึงหน้าคนที่ผมคุยด้วยตอนนี้จะทำหน้ายังไงน้า

(จะมาหาเรื่องใช้เหรอไง)

“ไม่ได้หาเรื่องใช้ หาเรื่องกอดต่างหาก”

(บ้า.....เปล่า)

“นิดหน่อย”

(ดึกแล้วยังไม่นอนเหรอ)

“ถ้านอนจะโทรหาเธอเหรอ”

(ฉันผิดอีกใช่มั้ย?ที่ถาม)

“เธอฉลาดอีกแล้ว”

(ฉลาดเหมือนเธอมั้ง)

ย้อนเก่งนักนะแม่คุณ ผมขยับลุกมาพิงพวงมาลัย ยิ้มกับโทรศัพท์ไปด้วย ใครมาเห็นจะว่าผมบ้ามั้ยอ่ะ

“แล้วคิดถึงฉันเหมือนที่ฉันคิดถึงเธอมั้ย” โอ้ย!!! นี้ผมถามอะไรเนี๊ยะ ? แต่ก็สนุกดีอ่ะ

(ไม่รู้)

“น่าบอกหน่อย”

(ไม่)

“งก”

(กับนายคนเดียว)

“ถ้าเจอนะจะเอาให้หนักเลย”

(โดนแกล้งจนชินละ)

“ปรับตัวเร็วจังโดนแกล้งไม่กี่วันเอง”

(ฉันเก่ง)

“เก่งเรื่องปรับสีผิวเหมือนจิ้งจกเปล่า”

(ตาบ้า)

“เธอเก่งอีกแล้ว”

(เรื่องอะไร?)

“คุยกับคนบ้ารู้เรื่อง หรือเพราะบ้าเหมือนกันน้า”

(เธอนี่มัน....)

“กินมันติดเหงือก กินเผือกติดฟันจ๊ะ”

(แล้วไม่นอนหรือไงมันดึกแล้วนะ) เปลี่ยนเรื่องเชียวนะแม่คุณพอเถียงไม่ได้

“ยังไม่ง่วงนี่”

(แต่ฉันง่วง)

“ห้ามวางนะ”

(ฉันง่วงน่ะ คนบ้า)

“ไม่เอา ห้ามวางนะ”

(ทำไม??)

“อยากคุยด้วยอะ”

(เรื่องอะไรล่ะ??)

“เรื่องอะไรก็ได้?? นะคุยกันก่อน”

ผมไม่เคยง้อผู้หญิงคนไหนให้มาคุยด้วยเลยนะเนี๊ยะ จอยคนแรกเลย ผมเป็นอะไรเนี๊ยะ ชักเพี้ยนแล้วมั้ง แต่คุยกับจอยก็สนุกดีอะ ผมคุยกับยัยจอยไปเรื่อยเปื่อย เสียงหัวเราะของจอยเวลาผมหลอกให้ขำหรือแม้แต่เสียงกระฟัดกระเฟียดก็ไม่ทำให้ผมเบื่อเลย จากแค่จะโทรไปกวนเฉย ๆ กลับกลายเป็นว่าคุยกันจนลืมเวลาไปเลย มารู้ตัวอีกทีนาฬิกาข้อมือก็ดังเตือนสติผม

ใช่ผมตั้งนาฬิกาที่ข้อมือไว้เพื่อจะได้แอบไปเอากล้องออกมา นาฬิกาดังเตือนงั้นตอนนี้ก็ตี 4 แล้วสิ พระเจ้า.....ผมคุยกับจอยตั้งแต่ 4 ทุ่มจนตี 4 เนี๊ยะนะ เวอร์ (เวอร์จริง ๆ นั่นแหละ) ผมไม่เคยคุยกับใครนานขนาดนี้เลยนะ ขอบอก oOo

(มีอะไรเหรอ เค้าได้ยินเหมือนเสียงนาฬิกา) หูดีจังเลยแม่คุณ

“เออ....เค้าตั้งปลุกอ่านหนังสือน่ะ”

(เธออ่านหนังสือด้วยเหรอ?) ทำไมต้องทำเสียงตกใจด้วยแม่คุณ

“อ่านไม่ได้หรือไง”

(เปล่า ก็เห็นเรียนที่ไรเฝ้าพระอินทร์ทุกทีนี่)

“อิจฉาเหรอ”

(บ้า!!! กลัวเรียนไม่รู้เรื่องหรอกน่า)

“เป็นห่วงด้วย?”

(เปล่า!!!)

“เอาแล้ว ไม่กวนแล้ว นอนเถอะ”

(เพิ่งรู้ตัวเหรอ ว่ากวนน่ะ)

“ยอกย้อน”

(เหมือนใครล่ะ)

“เดี๋ยวก่อนเจอตัวเมื่อไหร่โดนแน่ ๆ”

(กลัวจังเลย) ทำเสียง อ้อล้อจริง ๆ เผลอเมื่อไหร่โดนแน่ ๆ

“เอาละ นอนเถอะ”

(อืม....แค่นี้นะ บาย)

“เดี๋ยว!!!!”

(อะไร???)

“ฝันดีนะคะ” //////-_-///// เขินเหมือนกันแหะ

(อะ....อืม)

“ราตรีสวัสดิ์”

(อืม)

“...........”

(...........)

“วางสิ”

(วางก่อนสิ)

“เธอวางก่อน”

(ก็ได้ บายนะ)

“ค่ะ”

แล้วจอยก็กดวางไป แต่ผมยังนั่งยิ้มอยู่เลย สงสัยผมบ้าไปแล้วจริง ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็ปรับอารมณ์แทบทันทีเมื่อนึกได้ว่าตัวเองต้องทำอะไร ผมไม่รอช้ารีบดิ่งไปที่ห้องยัยสองแสบนั้นทันที ระหว่างนั้นผมก็กดโทรศัพท์มือถือไปเบอร์ ๆ หนึ่ง

191 นั่นเอง

“สวัสดีค่ะ ขอแจ้งข่าว พอดีว่ามีการมั่วยากันที่...........”







(ใครวะ???)

“เหมี่ยวเองเจ๊” เสียงเจ๊เจี๊ยบง่วงจัดอย่างแรง

(ว่าไงปีศาจน้อย) เสียงยังไม่หายง่วงเลยอ่ะ

“เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่หน้าร้านของเจ๊ครับ”

(เออ ๆ เดี๋ยวลงไปเปิดประตูให้ แค่นี้นะ)

หลังจากนั้นไม่นานเจ๊เจี๊ยบก็ออกมาหาผมที่หน้าผับของแกเองนั่นแหละ แล้วผมก็ส่งกล้องให้เจ๊

“เรียบร้อย ลองดูเมื่อกี้แล้ว สุด ๆ” เจ๊พยักหน้ารับ

“มันสมควรโดนแล้วนี้ เดี๋ยวจะให้เด็กในร้านช่วยปล่อย เข้าไปก่อนมั้ย??” เจ๊คงง่วงจัดจริง ๆ นั่นแหละ พูดเนือย ๆ

“ไม่ละ จะไปเรียน ขอยืมรถก่อนนะแล้วจะเอามาคืนวันหลัง”

“ฉันลืมบอกแกไป รถคันนี้นะคุณย่าซื้อให้แก เพิ่งถอยมาวันนี้เอง ส่วนชมพู่นะ เดี๋ยวคุณย่าคุยเองว่าจะเอายังไง รายนั้นหลานรักด้วย ถ้ารู้ว่าโดนอย่างนี้นะ แกกับฉันหัวขาดแน่”

เจ๊เจี๊ยบพูด.........เล่นเอาผมเสียววาบเลย แม้จะดีใจที่ได้รถใหม่ก็เหอะ แต่เรื่องคุณย่าน่ากลัวกว่า คุณย่ารักชมพู่ ดูแลอย่างกับไข่ในหิน ถ้ารู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ มีหวัง บินกลับมาอยู่ที่ไทยแน่

“งั้นไปก่อนนะเจ๊ แล้วเจอกันวันหลัง ขอบคุณเรื่องของด้วย”

เจ๊เจี๊ยบพยักหน้า คงง่วงจัด ผมเลยไม่อยากกวนอีกรีบบึ่งรถกลับโรงเรียน......ให้ตาย ผมไม่เคยอยากกลับโรงเรียนมากเท่านี้เลย

........รอก่อนยัยเบ๊ตัวแสบจะเอาให้หายซ่าเลย.......




"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


<ตอนที่ 6ตอนที่ 8>



Create Date : 04 ตุลาคม 2549
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:10:30 น. 0 comments
Counter : 981 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.