ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 30


Mibu Sa’KYO talk.......

หนึ่งปีต่อมา (ด้วยความเว่อร์ของคนเขียน)

“แกอยู่ไหนแล้วเหมี่ยว?”

(ใกล้ถึงแล้วละ...หาที่จอดรถอยู่ แกไปซื้อตั๋วหนังรอเลย เดี๋ยวฉันขึ้นไป”

(รีบเข้าละ มีใครจีบยัยเบ๊ของแก ฉันไม่รู้ด้วยนะโว้ย!!”

(ถ้ายัยเบ๊โดนจีบแกตายคนแรก)

“Who’s care!!” พูดจบพริกจัดการวางสายและปิดเครื่องทันที

“เหมี่ยวถึงไหนแล้วคะพริก” จอยถามพริก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกดวางสายเรียบร้อยแล้ว พริกหันมายิ้มให้คนรักของเพื่อนสนิท

“หาที่จอดรถอยู่น่ะ เดี๋ยวก็ขึ้นมาแล้ว เดี๋ยวพริกไปซื้อตั๋วหนังก่อนนะ” ว่าแล้วพริกก็ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ชมพู่พูดขึ้นซะก่อน

“เดี๋ยวพริก!”

“หืม????”

“พู่ไปด้วย ^^”

“จ้า” พริกเห็นรอยยิ้มของชมพู่เขาก็เข้าใจ มีหรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนรักของเขาคิดอะไรอยู่ พริกโดนเจ้าหน้าที่ขายตั๋วสาว ๆ แจกขนมจีบเป็นประจำ เธอตามไปแสดงตัวว่าเขามีเจ้าของแล้ว

พริกไม่เคยรำคาญเลยเวลาที่ชมพู่มีท่าทางหึงหวง เวลาที่มีสาว ๆ มายุ่งกับเขา ตรงข้ามเขากลับชอบซะอีก เขามองว่าน่ารักเวลาที่เธอทำท่าทางอย่างนั้น อย่าว่าแต่ชมพู่ขี้หวงเลย เขาก็พอกัน ยิ่งกว่าเธอซะอีก




ทั้งพริกและชมพู่ต่างเดินไปยังช่องขายตั๋วหนังปล่อยให้จอยนั่งอยู่เพียงลำพัง จอยนั่งลูบแหวนเงินที่สวมอยู่ที่นิ้วนางเบา ๆ เธอคิดถึงเจ้าของแหวนมากมายเหลือเกิน เขาสวมให้เธอก่อนที่จะเดินทางไปฝึกงานต่างจังหวัด

ของขวัญวันเกิดของเธอ......เธอดีใจจนน้ำตาไหลออกมา เขาล้อเธอยกใหญ่ แต่เธอก็ไม่สนใจ เธอรู้......เขาเคยพูดไว้ การให้แหวนใครเป็นการผูกมัดตัวเอง เขาไม่มีทางให้ใคร แต่ตอนนี้เขาให้เธอแล้ว เขาผูกมัดหัวใจตัวเองไว้กับเธอ และเธอก็ผูกมัดความรักทั้งหมดไว้ที่เขาเช่นกัน

“คิดถึงจัง” จอยพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะเงยหน้ามองไปด้านหน้า พริกกับชมพู่ยืนต่อแถวซื้อตัวหนังอยู่

พริกยืนจับมือกับชมพู่ ทั้งคู่คุยกัน หัวเราะ หยอกเย้ากัน ....อิจฉามั้ย?? เธอไม่อิจฉาทั้งสอง เพราะเธอก็มีคนที่รักมาก และเขาก็รักเธอมากเช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ทังเธอและเขาไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนกับพริกและชมพู่เท่านั้นเอง

แต่อีกไม่กี่นาทีต่อไปนี้เธอจะได้เจอกับเขาแล้ว 2 เดือนที่ห่างกัน....โทรศัพท์ไม่ได้ช่วยให้เธอและเขาคลายคิดถึงไปได้เลย เขาต้องอยู่ในป่าตลอด โทรศัพท์ไม่มีคลื่นสัญญาณ สำหรับเธอมันเป็นสองเดือนที่ทรมานมากเหลือเกิน ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่ได้เห็นหน้า......

เธอเห็นพริกและชมพู่หันมามองเธอ เธอจึงยิ้มให้ แต่ที่เธอสงสัยคือ พริกทำท่าทางแปลก ๆ ชี้โบ้ชี้เบ้ประหลาด ๆ เธอได้แต่หัวเหราะออกมา จนสุดท้ายพริกก็เลิกทำ และหันหน้าไปทางที่ขายตั๋วอีกครั้ง ชมพู่นั้นยังมองมายังเธออยู่ และชมพู่ก็ยกมือเหมือนทักทายมาทางเธออีก จอยได้แต่ยกมือโบกตอบแบบงง ๆ กับคู่รักคู่นี้

จอยเลิกสนใจพริกกับชมพู่ เธอก้มลงมองแหวนเงินวงเดิม ลูบคลำเบา ๆ ยิ้มน้อย ๆ ให้กับแหวนที่ส่องแสงแวววาวอยู่

“คิดถึงคนให้แหวนอยู่เหรอ?”

น้ำเสียงที่คุ้นหู กลิ่นน้ำหอมที่คุ้ยเคย ทำให้จอยต้องหันไปมองร่างที่หย่อนกายลงนั่งข้างกายของเธอแทบจะทันที ริมฝีปากสวยของเธอคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ

มะเหมี่ยวยิ้มตอบจอย ก่อนจะโน้มใบหน้ามาสูดกลิ่นหอมที่พวงแก้มของจอย

“คิดถึงมากนะคะ” จอยพยักหน้าน้อย ๆ กับคำพูดหวาน ๆ ของมะเหมี่ยว ใบหน้าที่แดงซ่านอย่างช่วยไม่ได้ของเธอทำให้มะเหมี่ยวยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้


มะเหมี่ยวนั่งพิงศีรษะกับโซฟาก่อนที่ตัวเขาจะค่อย ๆ เลื่อนไหลลงมาจนเกือบจะเหมือนนอนพิงโซฟาแล้ว เขาเอนศีรษะไปพิงกับไหล่ของจอยหลับตานิ่งไม่ขยับเขยื้อน และไม่พูดอะไรอีก จอยยิ้มน้อย ๆ กับอาการนี้ของเขา เธอรู้ดี เวลาที่เขามีอาการอย่างนี้ คงต้องเหนื่อยมากแน่นอน

ระยะทางจากจังหวัดน่านมาถึงกรุงเทพฯ ไม่ใช่ระยะทางที่ใกล้ ๆ การนั่งรถทัวร์มาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ และคนอย่างคนรักของเธอ ไม่มีทางนอนหลับในรถทัวร์แน่นอน แม้เขาจะเป็นคนที่หลับง่ายแค่ไหนก็ตามเถอะ เธอมั่นใจว่าตั้งแต่มะเหมี่ยวขึ้นรถมาเมื่อคืนจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้นอนเป็นแน่

“เหนื่อยมากเลยเหรอ” มะเหมี่ยวไม่ตอบน้ำเสียงอ่อนโยนของจอย เพียงแต่พยักหน้าช้า ๆ

“เหนื่อยมากขนาดไหน แต่ฉันก็คิดถึงเธอมากกว่านะ....ยัยเบ๊” ยัยเบ๊ ชื่อนี้เธอไม่ได้ยินมา 2 เดือนแล้ว จอยยิ้มกับคำพูดหวาน ๆ ที่มะเหมี่ยวป้อนให้เธอ

“ปากหวานขึ้นนะ ไปพูดกับสาว ๆ ทางเหนือบ่อยละสิ”

“มีให้หยอดก็ดีสิ หันไปทางไหนก็เจอแต่ป่า เห็นจนSEXจะเสื่อมอยู่แล้ว” จอยตีแขนมะเหมี่ยวเข้าให้เมื่อเจอคำพูดช๊อตเด็ดของเขา

“นายนี่นะ....”

“ฉันทำไมเหรอ???” มะเหมี่ยวไม่มีท่าทีเดือดร้อน กลับยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับเหลือบตามองจอย

“งายยย!!! ฉันนึกว่าขนจะขึ้นเต็มตัวกลายเป็นลิงไปแล้วซะอีก ยังมีสภาพความเป็นคนกลับมานี่”

“ฉันไม่เหมือนแกนี่ จะได้ปากเหมือนหมาเข้าไปทุกวัน ๆ” มะเหมี่ยวสวนคำพูดแสบทรวงให้พริกทันทีที่ได้ยินคำทักทายแบบกวนติ่งอารมณ์เสียของพริก

“พอเลยค่ะ....ไม่ต้องแสดงความรักกันให้มากก็ได้ค่ะ พู่กับจอยรู้ว่าพริกกับเหมี่ยวรักกันมากขนาดไหน” ชมพู่เป็นฝ่ายห้ามทัพก่อนที่พริกจะสวนคำพูดที่แสนจะเจ็บแสบให้มะเหมี่ยว

“จอยไม่รู้เหรอคะ ตอนที่พวกเราทำท่าบอกว่ามะเหมี่ยวอยู่ข้างหลัง” จอยส่ายหน้าช้า ๆ จังหวะเดียวกับที่มะเหมี่ยวขยับตัวนั่งตามท่าปรกติ

“จอยนึกว่าพริกกับพู่เล่นกันซะอีก”

“เป็นใคร ๆ จะรู้ละ ไอ้พริกเล่นทำท่ายังกับลิงเล่นลิเกอย่างนั้น” ทั้งหมดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของมะเหมี่ยวจะมีก็แต่พริกที่ทำสีหน้าเค้นเขี้ยวใส่มะเหมี่ยว มะเหมี่ยวยักคิ้วกวนประสาทใส่พริก ซึ่งพริกเห็นท่าทางอย่างนี้เป็นประจำ เวลาที่เรียนอยู่ด้วยกัน

“โทษทีนะที่ทำเหมือนลิงเล่นลิเก แต่มันช่วยไม่ได้ก็บังเอิญคนที่ฉันเห็นมันเหมือนลิงนี่หว่า เลยคิดว่าทำท่าปรกติเดี๋ยวลิงมันจะไม่รู้เรื่อง”

“ไอ้พริกว่าเธอแนะยัยเบ๊” = _=!

“พอค่ะพอ เหมี่ยวมาเหนื่อย ๆ ก็นะ......แล้วได้พักบ้างหรือยังคะ” ชมพู่เปลี่ยนเรื่องอีกตามเคย มะเหมี่ยวส่ายหน้า

“ดูหนังรอบไหนคะ?” มะเหมี่ยวถามกลับชมพู่ แต่คนที่ตอบกลับเป็นเพื่อนรักของเขา

“อีก ชั่วโมงกว่า ๆ จะไปหาอะไรกินไหมละ?” มะเหมี่ยวส่ายหน้าอีก เขาเอื้อมมือไปจับมือของจอย

“หิวมั้ย?”

“หิว” คนที่ตอบไม่ใช่จอย แต่เป็นพริก มะเหมี่ยวหันมาแยกเขี้ยวใส่พริก

“ยังไม่หิวหรอก นายไปหาอะไรกินมั้ย?”

“ไม่ละ พริก....แกพาชมพู่ไปหาอะไรกินก่อนก็ได้ เดี๋ยวมาเจอกันอีกทีละกัน ฉันไปจะนอนเอาแรงที่รถก่อน ง่วงมาก” พริกพยักหน้า ก่อนจะหันมามองหน้าชมพู่อย่างขอความเห็น

“งั้นอีกชั่วโมงครึ่งมาเจอกันที่นี่นะคะ”

มะเหมี่ยวพยักหน้า พร้อมกับลุกขึ้นจอยลุกตามเขาทันที ทั้งหมดเดินแยกย้ายกัน พริกพาชมพู่เดินแยกไปทางที่มีร้านอาหาร ส่วนมะเหมี่ยวพาจอยเดินลงไปชั้นล่าง ตรงไปที่รถ







มะเหมี่ยวและจอยเข้ามานั่งในรถของมะเหมี่ยวที่จอยหันหน้าเข้าหาผนังตึกในมุมในสุดของลานจอดรถ มะเหมี่ยวเอนหลังกับเบาะรถทันที เขาหลับตานิ่ง จอยก็ไม่พูดอะไร เธอนั่งเก็บกระดาษปึกหนึ่งที่วางอยู่หน้ารถ แล้วจัดการเอามันไปเก็บไว้ที่ด้านหลังของรถ

“คิดถึงฉันไหม??? ยัยเบ๊” อยู่ ๆ มะเหมี่ยวก็พูดขึ้น จอยชะงักมือที่เก็บเอกสารที่เธออ่านไม่เข้าใจของมะเหมี่ยว ก่อนจะสบตากับมะเหมี่ยวที่จ้องมองเธอตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ จอยวางเอกสารลง ก่อนจะยิ้มให้กับเขา

จอยเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของเขาเบา ๆ

“คิดถึงสิ คิดถึงมาก” มะเหมี่ยวขยับกายเข้ามาใกล้กับจอย สบตากับเธอนิ่ง

“ฉันมีของจะให้นะ” มะเหมี่ยวชะงัก ทั้ง ๆ ที่อีกนิดเดียวเขาก็จะจูบเธออยู่แล้ว จอยเอี้ยวตัวล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือของเธอ กล่องเล็ก ๆ ดูธรรมดา ๆ กล่องหนึ่งถูกโชว์ขึ้นมาต่อหน้าของมะเหมี่ยว

“อะไร??” มะเหมี่ยวถามงง ๆ และในวินาทีต่อมาคำตอบก็ถูกเฉลย เมื่อเขารับกล่องเล็ก ๆ นั้นมาและเปิดมันออกมาดู

“ฉันสวมให้นะ” จอยคว้าเอาเอาสร้อยในมือของมะเหมี่ยวมาถือซะเอง แล้วจัดการสวมให้มะเหมี่ยว เขาก้มลงมองสร้อยที่สวมอยู่ที่คอยของเขา ก่อนจะเงยหน้าข้นมาสบตากับจอย

“แม่กุญแจ??” จอยพยักหน้ากับคำพูดของมะเหมี่ยว ก่อนที่จะยิ้มและพูดออกมา

“ของฉันเป็นลูกกุญแจ” จอยชี้ไปที่คอของเธอ สร้อยคอลายเดียวกับของมะเหมี่ยว แต่ขนาดสร้อยเล็กกว่านิดหน่อย และจี้เป็นรูปลูกกุญแจ เขายิ้มเล็กน้อย และพอจะเดาความหมายของของขวัญชิ้นนี้ของจอยได้แล้ว

“มันไขได้นะ ฉันเก็บเงินสั่งทำตั้งนานแนะ ชมพู่ก็ทำนะ ทำให้พริก” จอยบอก พร้อมกับขยับมาใกล้ ๆ กับมะเหมี่ยว ใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจซึ่งกันและกัน เธอลองเอาลูกกุญแจที่ติดที่สร้อยของตัวเอง ไขแม่กุญแจที่คล้องเป็นตะขอสร้อยของมะเหมี่ยว

กริ๊ก!!!!

เสียงล็อคกุญแจดังเบา ๆ เมื่อมันถูกปลดล็อค แต่ตอนนี้จอยกลับเป็นฝ่ายที่ถูกล็อคซะเองเสียแล้ว เมื่อมะเหมี่ยวกดริมฝีปากของตัวเองประทับลงกับเรียวปากสวยของเธอ

กริ๊ก....

แม่กุญแจถูกล็อคอีกครั้งด้วยฝีมือของมะเหมี่ยว เขาใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามแก้มเนียนของจอย ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมา ทั้งสองสบตากัน

“เธอเป็นเจ้าของฉัน............และฉันเป็นของเธอตลอดไป” จอยพยักหน้ารับคำพูดของมะเหมี่ยว ก่อนจะหลับตาลงเมื่อมะเหมี่ยวก้มลงมาจูบเธออีกครั้ง

ความคิดถึงถูกถ่ายทอดออกมากับสัมผัสที่อ่อนหวานของริมฝีปากของคนทั้งคู่ ปลายลิ้นที่โหยหากันมานานวนเวียนเกี่ยวพันกัน อ้อมแขนของเธอโอบรัดร่างกายของเขาไว้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างของทั้งสอง

“ขอบคุณนะสำหรับสร้อย....มันจะอยู่กับฉันตลอด เหมือนที่เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป” มะเหมี่ยวพูดและจูบเบา ๆ ที่มุมปากของเธอ

“ฉันรักเธอนะจอย......เราจะมีกันตลอดไป”

“ฉันก็รักนายมากนะเหมี่ยว และเราจะไม่พรากจากกัน เราจะมีกันตลอดไป”

มันคือถ้อยคำสัญญาที่ถูกกลั่นกรองออกมาจากใจของทั้งสอง มันคือสัญญาที่จะอยู่กับคนทั้งสอง

มะเหมี่ยวจูบริมฝีปากอวบอิ่มของเธอกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็ไม่สามารถทดแทนความรักความคิดถึงที่เขามีให้แก่เธอคนนี้ มันเหมือนกับมีแม่เหล็กดูดกลืนอยู่แม้ทั้งคู่จะถอนริมฝีปากออกจากกัน แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็กลับมาสัมผัสกันอีก มันเป็นความหอมหวานที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ เนิ่นนานหลายครั้งที่ทั้งคู่ถ่ายทอดความรัก ความคิดถึงกับรสจูบ

“ไม่อยากดูหนังแล้ว...อยากกลับบ้าน” มะเหมี่ยวกระซิบข้างหูของจอยด้วยเสียงแหบพร่า ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาที่เป่ารดซอกคอของเธอทำให้ความรู้สึกภายในของจอยปั่นป่วน

“ได้ไงละ ซื้อตั๋วหนังไว้แล้ว” เสียงสั่น ๆ ของจอยตอบกลับมะเหมี่ยวมา มะเหมี่ยวจูบซอกคอหอมของจอยแผ่วเบา พร้อมกับพูดด้วยเสียงอู้อี้

“ช่างมันสิ ไว้ค่อยมาดูคราวหน้า....นะ...นะ” มะเหมี่ยวออดอ้อนจอย พร้อม ๆ กับเบียดกายเข้ามาหาเธออีก และประกบจูบเธออีกครั้ง

จอยจูบตอบมะเหมี่ยวช้าๆ ตามจังหวะที่เขาสร้างไว้ นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขาวนเวียนจูบเธอ และก็เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เธอวาบหวามไปกับรสจูบนี้

“อยากจะตามใจอยู่หรอกนะ แต่ไว้คราวหน้านะ.....นะคะ” จอยตอบปฏิเสธอย่างอ่อนหวานไม่ต่างจากสายตาที่ส่งให้มะเหมี่ยว แล้วอย่างนี้มีหรือที่มะเหมี่ยวจะอดใจไว้ได้

เขาบรรจงจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ต่างจากทุกครั้ง มันเรียกร้อง เว้าวอนจนอีกฝ่ายปั่นป่วนไปหมด มือไม้ของเขาเริ่มอยู่ไม่สุขเสียแล้ว เดือดร้อนจอยที่ต้องคอยปัดป้อง แต่ก็เหมือนเสียเวลาเปล่า เมื่อมันดูจะไม่มีผลอะไรต่อมะเหมี่ยวเลย

สุดท้ายจอยก็ทำได้เพียงไขว่คว้าร่างของมะเหมี่ยวไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว เมื่อความหวาบหวามที่เขากำลังก่อขึ้นทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง

มะเหมี่ยวแกะกระดุมเสื้อของจอยออกที่ละเม็ดเผยให้เห็นอกสวยที่ถูกบราสีสวยปิดกั้นอยู่ เขาวนเวียนจูบเธอ เรียกร้องอย่างอ่อนหวาน เขากลับไปซุกไซร้ที่ซอกคอของเธออีกครั้ง ก่อนที่สัมผัสของเขาจะเริ่มแผ่วเบาลงและ...................

ลมหายใจของมะเหมี่ยวเป่ารดที่ซอกคอของจอยเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ จอยยิ้มกับอาการนั้นของมะเหมี่ยวจนเกือบจะกลายเป็นหัวเราะ จอยโอบกอดร่างของเขาไว้

“หลับง่ายจังเลยนะ” จอยพูดกับร่างที่อิงแอบอยู่ที่ร่างของเธอ แต่การนิ่งเงียบของเขานั้นเป็นคำตอบที่ชัดเจนของเธอแล้ว มะเหมี่ยวหลับไปทั้ง ๆ ที่จูบกับเธออยู่

“ฉันรักนายมากนะเหมี่ยว”

“อืม......” เสียงครางในลำคอเบา ๆ ของมะเหมี่ยวทำให้จอยยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะขยับร่างเข้ามาเบียดกับเธออีก







“พริกว่าพู่ทำอร่อยกว่าอีกอะ ลาซานญ่าชิ้นนี้อะ”

“เอาเถอะค่ะ กินแก้หิวไปก่อนเถอะค่ะ มะเหมี่ยวยังหนีไปนอนเลย”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้เหมี่ยวละคะพู่ เรื่องลาซานญ่าไม่อร่อยเนี่ย” พริกโอดครวญ ชมพู่มองยิ้ม ๆ กับคนรักของตัวเอง ก่อนจะใจอ่อนกับสายตาและคำพูดออดอ้อนของพริก

“เย็นนี้กลับบ้านทำให้พริกกินหน่อยได้มั้ยคะ นะ ๆ พริกอยากกินลาซานญ่าฝีมือของพู่นะคะ” ชมพู่ยิ้ม ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดซอสมะเขือเทศที่เปื้อนที่มุมปากของพริก

“ได้ค่ะ...แต่ตอนนี้รีบกินก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวไปดูหนังกัน”

พริกพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าก้มตากินลาซานญ่าต่อไป ชมพู่มองพริก จะมีใครเคยเห็นพริกในมุมที่เธอไม่เคยเห็นบ้างนะ

พริกตักลาซานญ่าใส่ปากก่อนที่คาบช้อนนั้นคาปาก สายตาของเขามองออกไปนอกกระจกดูรถที่มาตั้งโชว์อยู่ในงานมอเตอร์โชว์ เหล่าบรรดาพริตตี้สวย ๆ เซ็กซี่ต่างเชิญชวนให้ผู้คนที่ผ่านไปมาเข้าไปชมรถ เธอรู้ว่าพริกชอบรถ ชอบความเร็ว และเธอก็รู้ด้วยว่าพริกชอบมองพริตตี้ที่ยืนอวดความสวยเคียงคู่กับรถ เธอรู้ว่าพริกแค่ชอบมอง แต่เธอก็อดหมั่นไส้ไม่ได้

....เล่นมองทั้ง ๆ ที่คาบช้อนไปด้วยเลยนะ....

“นี่!! จะกินลาซานญ่าหรือจะกินพริตตี้คะ” ชมพู่ตีที่แขนของพริก เล่นเอาเขาสะดุ้ง รีบหันกลับมายิ้มให้เธอทั้งที่ยังคงคาบช้อนอยู่ที่ปาก

“รถสวยค่ะ”

“รถหรือพริตตี้คะ?”

“รถค่ะ” พริกยืนยันหนักแน่น เขาไม่ปฏิเสธว่าสาว ๆ พวกนั้นสวย แต่เหนือสิ่งอื่นใด ใครจะสวยก็ช่าง คนรักของข้าต้องเจ๋งสุด......

ชมพู่มองค้อนพริก เมื่อรู้ตัวว่าโดนเพ่งเล็งพริกก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

........นี่ขนาดเป็นแฟนนะเนี่ย ถ้าเป็น.....จะขนาดไหนน้า.... อยากรู้จัง จะน่ารักขนาดไหนน้า....

ชมพู่จะรู้ตัวหรือเปล่าว่า พริกนั้นเฝ้าหาโอกาสทุกเมื่อเพื่อให้เธอหึงหวงเขามาก ๆ เขาชอบเวลาที่เธอทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัวเอง เขาชอบที่จะให้เธอครอบครองเขา

“ยิ้มอะไรคะ?”

“เปล่าค่ะ^^”

“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้มอยู่นี่คะ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ นะ ไม่มีอะไร ^^” ชมพู่มองพริกอย่างไม่ค่อยไว้ใจ นับวันคนรักของเธอจะยิ่งแปลกมากขึ้นทุกวัน ๆ

“ไม่มีอะไรแน่นะ” ชมพู่ถามย้ำ และพริกก็พยักหน้าหงึก ๆ รับคำอย่างหนักแน่น

“กินข้าวนะคะ เดี๋ยวเย็นไม่อร่อยกันพอดี” พริกเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว



พริกและชมพู่หมดเวลากับการทานอาหารไปนาน ทั้งสองเดินตรงไปที่โรงหนัง แต่ก็เปลี่ยนใจเดินไปหามะเหมี่ยวที่รถ ชมพู่โทรหาจอยเพราะมะเหมี่ยวไม่รับสาย เธอและพริกเดินเบียดผู้คนไปที่ลานจอดรถ

“ป่านนี้แล้วไม่ยอมตื่นจริง ๆ มะเหมี่ยวนี่น้า.....”

“ไอ้เหมี่ยวยังดีที่ไม่ยอมตื่น ถ้าเป็นพริกพาขับรถกลับบ้านไปนานแล้ว”

“พริกว่าอะไรนะคะ?” ชมพู่หันมาถามพริกเมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขาไม่ถนัดพริกส่ายหน้า

“แต่พู่ได้ยิน อะไรนะคะ กลับบ้าน กลับบ้าน”

“พริกบอกว่า.....ถ้าพริกเป็นเหมี่ยวก็คงตื่นยากเหมือนกัน เดินทางมาเหนื่อย พู่น่าจะรู้นิสัยเจ้านี้นะ เมื่อคืนคงไม่ยอมนอนบนรถทัวร์ เป็นพริกคงเพลียแย่ไหนจะขับรถมาที่นี่อีก”

“อืมใช่!! พู่น่าจะคิดได้นะ ลืมไปได้ไง”

“แต่จะว่าไป สงสัยจี๋จ๋ากับจอยจนเหนื่อยแล้วหลับไปมากกว่า”

“ว่าไงนะคะพริก”

“เปล่าค่ะ”

“แต่จะว่าไป แย่เหมือนกันเนอะ มะเหมี่ยวฝึกงานไกลขนาดนั้นกว่าจะได้เจอกันที คิดถึงกันแย่ นี่เดี๋ยวก็ต้องไปอีกแล้วใช่มั้ยคะ”

พริกพยักหน้าช้า ๆ กลักสูตรการสอนของพวกเขาแปลกจากปีก่อน ๆ ที่ให้ฝึกงานสองเดือน หรือไม่ให้ฝึกงานตอนปิดเทอม แต่รุ่นของเขาโดนฝึกงานในภาคเรียน แถมฝึกทั้งเทอม 4 เดือนเต็ม

“โชคดีนะ ที่พริกได้ฝึกงานที่กรุงเทพไม่อย่างนั้นพู่ต้องคิดถึงพริกแย่แน่เลย” พริกหันขวับมามองใบหน้าของคนรัก ที่บัดนี้เดินมองเพดานที่จอดรถอยู่

“มีอะไรเหรอคะ?” พริกส่ายหน้าอย่างงง ๆ ชมพู่ไม่เคยพูดอะไรหวาน ๆ แบบนี้

“แค่แปลกใจนิดหน่อยนะค่ะ พู่ไม่เคยพูดแบบนี้” ชมพู่เอียงคอมองพริก ท่าทางน่ารักแบบนี้ทำให้พริกแทบจะอุ้มเธอกลับบ้านไม่ต้องดูหนังกันแล้ว แม้ว่ากลับไปอย่างมากก็ทำได้แค่จูบและกอดเธอเท่านั้นเขาก็พึงพอใจ ทั้งที่ความจริงเขาอยากจะทำมากกว่าจูบ มากกว่ากอด อยากได้เธอมาเป็นของตัวเองทั้งกาย ใจก็ตาม

“คิดอะไรอยู่คะ?”

“คิดว่าทำยังไงถึงจะได้เป็นเจ้าของพู่จริง ๆ สักที” พริกตอบไปตามสิ่งที่ตนคิดไป และนั่นก็ทำให้พริกต้องรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวเธอตรงหน้าจะโกรธเหมือนทุกครั้งที่เขาพูดออกมา

“ขอโทษค่ะ พริก.....” ชมพู่ก้มหน้างุด ๆ ด้วยความเขินอายต่างจากทุกครั้ง ที่เธอจะโกรธเวลาพริกพูดเรื่องแบบนี้

เธอส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะอ้อมแอ้มพูดอะไรออกมาเบา ๆ

“ก็รอไว้กลับบ้านก่อน....แล้วค่อยทำให้พู่เป็นของพริกสิ”

“ค่ะ กลับบ้านก่อน...แล้วค่อย......ห๊า!!” พริกไม่รู้จะบอกว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง มันเหมือนถูกตีหัวแรง ๆ จนมึน หรือว่าดีใจจนแทบอยากจะลอยขึ้นไปบนฟ้า แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ชมพู่กำลังเดินหนีเขาตรงไปที่รถของมะเหมี่ยวที่จอดอยู่ไกล ๆ

“เดี๋ยวค่ะพู่!! หมายความว่ายังไงคะที่พูดเมื่อกี้”

“ก็ตามนั้นแหละค่ะ ไม่รู้ด้วยแล้ว!!” พูดจบชมพู่ก็เดินจ้ำอ้าวไปเลย พริกต้องรีบวิ่งตาม เขาคว้ามือของเธอก่อนที่จะพากันเดินไปพร้อม ๆ กัน







พริกและชมพู่เดินเกือบจะถึงรถของมะเหมี่ยวแล้ว และทั้งสองก็เห็นมะเหมี่ยวกับจอยออกจากรถ และเดินมาทางเขาด้วย มะเหมี่ยวมีสีหน้าง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจอยนั้นพริกไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร รู้แต่ว่า คำพูดนั้นเรียกรอยยิ้มอ่อนโยนจากมะเหมี่ยวได้

“คู่นี้รักกันจริง ๆ เลยเนอะ”

“เราก็รักกันไม่ต่างจากเค้าสองคนหรอก”

พริกตอบชมพู่ เขาสบตากับเพื่อนรักของเขาที่กำลังมองมาทางนี้ มะเหมี่ยวเดินจับมือมากับจอยเหมือนกับที่พริกเดินจับมือมากับชมพู่ มะเหมี่ยวหันไปพูดอะไรสักอย่างกับจอย ทั้งสองยิ้มให้กัน พริกมองเพื่อนรักของเขาที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขในความรัก เขาไม่คิดเลยว่านั้นจะเป็นร้อยยิ้มสุดท้ายที่พริกในเห็นมันแต่งแต้มอยู่บนใบหน้ามะเหมี่ยว..............................

.................................มันเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ ที่เขาได้เห็นมะเหมี่ยวยิ้ม........................


“ไอ้เหมี่ยว!!!! ระวัง!!!”


“เหมี่ยว!!!”


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!”







“ม่ายยยย!!!!”


*******************ลองเดาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น********************

ตอนแรกว่าจะจบอยู่แค่นี้ก่อน แล้วมาต่อให้ตอนหน้า ^O^Y

แต่เดี๋ยวจะหาว่าข้าน้อยชอบจบแบบค้าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้น................

ขอจบตอนนี้ไว้แค่นี้ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ตอนหน้า วันนี้ …………..

บะบายยยยยย \(^O^ )\ /( ^O^)/

See U next time.

เฟี้ยววววววววววว!!!

บึ้ม!!!!

แล้วหอพักข้าน้อยก็โดนบอม.....

-O-!!!

TOT


T___T

-___-;


มะมีที่นอนแว้วววววว T^T


ตูพิมพ์ต่อก็ได้ฟร่ะ ไม่เห็นต้องมาบอมบ้านกันเลย แง่ม!!! เช๊อะ!!!


Ps. ไม่อยากให้เครียดเลยหยอกเล่น ๆ อะขอรับ มะโกรธน้า.....เก๊าย้อเย้นนนน

(เครียดกะไอ้คนเขียน ตั้งแต่ต้นยันจบ)
เอาเป็นว่า พร้อมรบ ลุย!!!!

เอ่อ....แต่มันยาวเกินไปแล้วอะ เอาเป็นว่า


คลิก!!!!>>>>>>>>>>>>>>>>



Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 16 ตุลาคม 2550 23:11:10 น. 0 comments
Counter : 856 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.