ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
9 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 28



“จอย......รัก.....อัพ...”

“อะ....ไรนะ”

มะเหมี่ยวหัวใจกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำตอบของจอย เขามองเธอด้วยสายตาไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คิ้วสวยของเขาค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน

ทุก ๆ คนที่ได้ยินต่างตกใจไม่แตกต่างกัน แต่คนที่ช็อคมากที่สุดคงเป็นมะเหมี่ยว อัพหันมามองจอยอย่างไม่เชื่อสายตา จอยเอื้อมมือไปกุมมือของอัพให้ทุก ๆ คนได้เห็น ปลายนิ้วเรียวของเธอบีบมือของเขาไว้แน่น แม้จะแน่นเพียงไรแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงอาการสั่นของมือนั้น

ขิงก็ตกใจไม่แพ้กัน เธอไม่นึกว่าจอยจะพูดออกมาแบบนี้ วงแขนของเธอค่อย ๆ คลายออกจากร่างของมะเหมี่ยว มันร่วงหล่นลงมาอยู่ข้าง ๆ ตัวของเธอ ดวงตากลมสวยที่ชื้นไปด้วยน้ำตาจ้องมองร่างของจอยที่ยืนนิ่งอยู่ไม่กระพริบราวกับว่าร่างของจอยจะหายไปหากละสายตา

มะเหมี่ยวจ้องมองจอยที่ก้มหน้าอยู่ เธอจึงไม่เห็นสายตาที่เจ็บปวดของมะเหมี่ยว

“......................”

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ จอยค่อย ๆ เงยหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา สบตากับมะเหมี่ยว เธอเห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจากใบหน้าของมะเหมี่ยว

รอยยิ้มอ่อนโยนของมะเหมี่ยวลอยเด่นชัดให้เธอได้เห็น ภาพนั้นมันพร่าเลือนเหลือเกิน จนเธอต้องกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตาของเธอออก แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอเห็นเขาได้ชัดขึ้น

พริกหลับตานิ่ง เขาเจ็บปวดไปกับเพื่อนเขาด้วย เขาคิดว่าเรื่องนี้มันคงจบไม่สวยอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่า มันจะออกมาในรูปแบบนี้ รอยยิ้มของมะเหมี่ยวไม่ใช่รอยยิ้มอย่างที่ได้เห็นเวลาเขาโกรธ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนมากจริง ๆ .......

รอยยิ้มที่อ่อนโยน กับสายตาที่แสดงออกถึงความรัก และความเจ็บปวดของจิตใจที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

“ขอกอดได้ไหม?”

จอยก้มหน้าพร้อมพยักหน้าน้อย ๆ กับคำขอสั้น ๆ ของมะเหมี่ยว เธอปล่อยมือจากอัพ ยืนนิ่ง เธอเห็นปลายเท้าของมะเหมี่ยวที่ก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าของเธอก่อนที่ร่างของเธอจะถูกรั้งเข้าไปสู้อ้อมกอดของมะเหมี่ยว

จอยสะอื้นเธอกอดร่างของมะเหมี่ยวไว้ กลิ่นกายนี้ กลิ่นน้ำหอม ความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากเจ้าของร่างนี้ เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต

“ฉันรักเธอ”

คำบอกรัก แผ่วเบาที่ทุกอณูแฝงไปด้วยความหนักแน่น น้ำเสียงที่แสดงถึงความมั่นคงในความรัก ถูกกระซิบเบา ๆ ที่ริมใบหูของเธอ พร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าวที่ขาดเป็นห้วง ๆ ของมะเหมี่ยวทำให้จอยยิ่งทวีความเสียใจในการตัดสินใจครั้งนี้ของเธอ แต่เธอไม่มีทางเลือก

อ้อมแขนที่ต่างโอบกระชับร่างของอีกฝ่ายเข้าหาตัวเองให้แนบแน่น เมื่อรู้ว่าใกล้เวลาที่ต้องปลดปล่อยอีกฝ่ายแล้ว.............

“ฉันเข้าใจเธอนะ ฉันไม่เป็นไรหรอก....”

จอยพยักหน้ากับคำพูดนั้นของมะเหมี่ยว ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะค่อย ๆ คลายออกจากกัน มะเหมี่ยวกรีดน้ำตาที่ไหลอยู่ที่สองแก้มเนียนของจอยออกช้า ๆ มีรอยยิ้มอ่อนโยนแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าของเขา สายตาที่แสดงออกถึงความรักที่มีให้เธออย่างเปี่ยมล้น


มะเหมี่ยวไม่พูดอะไรอีก รอยยิ้มค่อย ๆ เลื่อนหายออกไปจากใบหน้าของเขา และในที่สุดเขาก็ค่อย ๆ หันหลังเดินจากทุกคนไปช้า ๆ

“พู่.......”

ขิงเรียกเขาด้วยเสียงที่สั่นไหว แต่นั่นก็ทำได้เพียงแค่ร่างของมะเหมี่ยวหยุดเดิน และมีคำพูดที่ทำให้เธอต้องยอมรับความจริง

“ฉันเชื่อว่าเธออยู่ได้โดยไม่มีฉัน และถึงฉันจะไม่มีใคร เธอก็ไม่สามารถจะเป็นคนที่ฉันรักได้หรอกนะขิง ยอมรับความจริงซะ ฉันไม่มีทางรักเธอ”

มะเหมี่ยวพูดโดยที่ไม่หันมามองคนที่อยู่เบื้องหลัง และเขาก็ก้าวเดินออกไปช้า ๆ พริกขยับตัวช้า ๆ ก่อนจะเดินตามเพื่อนรักออกไปจากโรงยิม ร่างของมะเหมี่ยวที่พริกเคยเห็นจนเคยชิน ไม่เหมือนกับทุกครั้ง

อาจจะมองเหมือนเพียงคนเหงา ๆ คนหนึ่งที่เดินอยู่คนเดียว แต่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งเป็นอยู่คือ....ร่างของคนที่จิตใจแหลกเหลวไม่เป็นชิ้นดี ความรู้สึกของเขามันว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่เลย ความเป็นตัวของตัวเองมันสูญหายไป มองไปข้างหน้ามันไม่เห็นหนทางอะไร

“เหมี่ยว....”

มะเหมี่ยวหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย

“พู่.....”

“ค่ะ พู่เอง”

มะเหมี่ยวไม่ได้ถามอะไรต่อ คงเพื่อนตัวดีของเขาเองที่พาชมพู่เขามาที่นี่ แต่เขาตอนนี้สิ แม้จะพยายามยิ้มกับน้องสาวอันเป็นที่รักแค่ไหน มันก็มีเพียงแต่ความเศร้าหมองที่แผ่ออกมาจนอีกคนสัมผัสได้

“ไม่เป็นไรนะคะ ที่เหลือให้พู่จัดการเองนะคะ” มะเหมี่ยวพยักหน้าช้า ๆ

“เหมี่ยวขออยู่คนเดียวสักพักนะคะ”

“ค่ะ”

มะเหมี่ยวเดินผ่านชมพู่ไป ไม่มีใครรู้ว่าเขาเดินไปไหน ชมพู่มองตามร่างนั้นและสุดท้ายเธอก็หันมาพูดกับพริกที่เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ

“เรื่องมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“ไม่เจอเองคงไม่รู้หรอก พร้อมหรือยังคะ?”

“ค่ะ” ชมพู่ตอบกับพริก และเดินไปในทิศทางที่เขาเพิ่งเดินมา

บางทีอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับการรับรู้เรื่องที่เกินจะรับไหว แต่มันก็คงจะดีกว่าที่ไม่รู้อะไรเลย ชมพู่เลือกที่จะเป็นคนพูดทุกอย่างแทนมะเหมี่ยว เธอจึงตัดสินใจที่จะมาที่นี่



**************************************************


“ทำไมถึงตอบพู่ไปแบบนั้นจอย”

“..............” จอยที่นั่งลงที่อัฒจรรย์มีขิงมานั่งข้างกายไม่ได้ตอบคำถามของอัพที่นั่งลงกับพื้นสนามบาสเก็ตบอล

“เพราะขิงใช่มั้ยคะ?”

“.................................” จอยไม่ได้ตอบอะไร เธอยังคงนิ่งเงียบ

“ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เธอพูดไม่ได้เป็นเรื่องจริง มันไม่ได้จริงเลย ความจริงก็คือเธอรักพู่!!! เธอรักเขา!!!”

“ใช่ !!! จอยรักเขา จอยรักพู่ รักเขา รัก ๆ ๆ ๆ ๆ ได้ยินมั้ยจอยรักเขา.....ฮื่ออออ จอยรักพู่ ขอโทษ....จอยขอโทษขิง จอยขอโทษ”

จอยปล่อยโฮออกมา พร้อมกับคำสารภาพความในใจที่ถูกเก็บกดไว้

“จอยไม่อยากให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของขิง แต่จอยก็รักเขา ไม่อยากให้จบแบบนี้”

“ทำเพื่อขิงสินะ ถึงได้พูดแบบนั้น ขิงขอบคุณ แต่ความจริงก็คือความจริง พู่ไม่ได้รักขิง ไม่มีทางที่เขาจะรัก”

“ขอโทษนะขิง ขอโทษ”

ขิงยิ้มบาง ๆ ให้กับจอยที่ร้องไห้ไม่หยุด เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งที่มะเหมี่ยวพูดคือความจริง มันก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจ็บ

“เขาพูดถูก ขิงไม่มีเขา ขิงก็อยู่ได้ แต่จอยกับพู่ละ จะเป็นยังไงหากไม่มีกันและกัน”

“อัพไม่เป็นไรหรอกจอย อาจจะเพี้ยน ๆ หน่อย แต่มันจะดีขึ้นเอง ไปเถอะ”

จอยมองทั้งสองคนก่อนจะพยักหน้า และลุกขึ้นยื่น ก่อนที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ขาทั้งสองข้างของเธอก็ชะงักเมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งยื่นอยู่

“ชมพู่”

จอยเรียกชื่อนั้นเบา ๆ ก่อนที่โผวิ่งเข้าไปกอดร่างระหงนั้นโดยไม่ได้สังเกตสิ่งที่เปลี่ยนไป

“ขอโทษนะพู่ ฉันโกหก ฉันไม่ได้รักอัพ ฉันรักพู่ รักมาตลอด ขอโทษ”

จอยกอดรัดร่างนั้นแนบแน่น ราวกับจะให้มันหลอมละลายเข้ารวมกับร่างของเธอ เธอพร่ำเพ้อความรู้สึกของตัวเองออกมาจนแทบจะหมดแรง แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรจากร่างที่เธอกอดอยู่ ทั้งอัพและขิงก็แปลกใจกับสิ่งที่ได้เห็น และเริ่มสะดุดกับความเปลี่ยนไปของร่างที่จอยกอด

อัพและขิงเดินมาคู่กัน จ้องมองจอยที่ยังคงกอดร่างระหงของชมพู่อยู่ และพริกที่มายืนอยู่ไม่ห่าง

“แปลกจัง”

“ใช่แปลก ทำไมไอ้พู่ผมยาว หรือว่าวิก แล้ว..........”

“ไม่ได้ใส่ชุดกีฬาด้วย” ขิงพูดต่อจากอัพ ด้วยน้ำเสียงงงงวย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่เดินเข้าไปใกล้ ๆ และรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“ฉันรักเธอนะพู่”

“พู่รู้ค่ะ แต่จอยบอกรักคนผิดแล้วนะคะ”

ชมพู่พูดตอบจอยอย่างอ่อนโยนตามแบบฉบับของเธอ จอยผละออกมามองใบหน้าของชมพู่ด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ

สิ่งที่เธอได้เห็นคือรอยยิ้มอ่อนหวาน ไม่แตกต่างกับคนที่เพิ่งเดินจากไปเมื่อสักครู่ แต่ความรู้สึกบางอย่างมันบอกกับจอยว่า ไม่ใช่..............นี่มันคนละคนกัน

“พูดอะไรนะพู่”

ไม่มีคำตอบอะไรนอกจากรอยยิ้ม ชมพู่ดันร่างของจอยออกห่างจากตัว ก่อนจะมองไปที่ขิงและอัพ เธอส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้ทุก ๆ คน

“ชมพู่”

ขิงเรียกชื่อเธอเบา ๆ รอยยิ้มที่เธอคุ้นเคยมาตลอดหลายปี นี่แหละคือชมพู่ แล้วก่อนหน้านี้ละ

“ค่ะ พู่เอง.....ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ เกิดเรื่องวุ่นวายเยอะแยะเลย ขอโทษด้วยนะคะ”

ทุกคนยิ่งงงเข้าไปใหญ่ จับต้นชนปลายไม่ถูก จนพริกต้องพูดขึ้น

“พู่ คนเขางงกันหมดแล้ว บอกความจริงไปได้แล้ว” ชมพู่พยักหน้ากับพริก ก่อนที่จะพูดออกมา

“เค้าคือชมพู่ แต่คนที่เดินออกไปก่อนหน้านี้ คือมะเหมี่ยว พี่สาวฝาแฝดของพู่เองค่ะ”

“ฝาแฝด!!!”



***********************************************


“ฉันรู้...............ฉันรู้ว่าเธอรักฉันจอย ฉันรู้ แต่ทำไม.................ทำไมมันเจ็บปวดอย่างนี้”

มะเหมี่ยวหลับตานิ่ง ร่างกายของเขาไร้เรี่ยวแรง ไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหน เขารู้อยู่เต็มอกว่าจอยรักเขา และเขาก็เข้าใจว่าจอยทำอย่างนั้นเพื่ออะไร เขารู้ว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหน ที่ต้องทำแบบนั้น

เขาไม่โทษเธอเลยที่ทำร้ายเขาด้วยคำว่า เธอรักใคร.....เขาไม่ดื้อดึงที่จะให้เธอมากับเขา

เพราะถ้าทำอย่างนั้นเธอคนที่เขารักคงเจ็บปวดมากกว่าที่เป็นอยู่ เขาจึงทำได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างมันพังลงอย่างนี้

“ฉันรักเธอ”

คำบอกรักแผ่วเบาของเขาลอยไปกับอากาศที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวเขาอย่างน้อย ๆ คำ ๆ นี้ก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ได้รับมา แม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก

“ไม่อยากจะเชื่อ....................นี่ฉันร้องไห้งั้นเหรอ??”

มะเหมี่ยวยิ้มเยาะตัวเองทั้งที่เขากำลังร้องไห้

“หึ...คนอย่างมะเหมี่ยวเนี่ยนะ ร้องไห้.......เฮ๊อะ ก็แค่น้ำตาละว้า”

“ไม่ได้อกหักสักหน่อย ร้องทำไมวะ แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน.....แค่นั้นเอง........โธ่โว้ย!! แล้วจะเจ็บทำไมวะ”
เสียงสะอื้นดังตามมาติด ๆ เขาก้มหน้าลงกับแขนที่ยกขึ้นมากอดเข่า สะอื้นไม่หยุด เขาไม่เคยร้องไห้มานานแค่ไหนเขาไม่รู้ เขารู้แต่ว่า…..

“จอย.........ยัยเบ๊ ฉัน.....รัก....เธอ....”


**********************************************************************


..........จอยวิ่งด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ ความจริงที่เธอได้รับรู้จากชมพู่ตัวจริงทำให้เธอรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

นี่เองที่ดูเธอเปลี่ยนไปมาก และนี่เองคือเหตุผลที่เธอให้ฉันเรียกเธอว่าเหมี่ยววันนั้น.....

จอยวิ่งขึ้นไปที่หอนอนและเปิดประตูห้องพักของขิงด้วยกุญแจที่ขิงให้มา เธอคิดว่าเขาต้องอยู่ที่นี่ แต่ห้องที่มืดสนิทกลับไม่มีร่องรอยของคนอยู่ด้านใน ทำให้เธอใจเสีย เมื่อเธอเปิดไฟ ก็ตอกย้ำความผิดพลาดให้แก่เธอ

มะเหมี่ยวไม่ได้อยู่ที่นี่......

“นายอยู่ไหน”

จอยแทบจะหมดแรง ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแวบเข้ามาในสมอง เร็วเท่าความคิดเธอสาวเท้า วิ่งไปที่บันได้หนีไฟ ก่อนจะวิ่งลงไป

.....ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ เธอลงไปอีกชั้น ก็ไร้ซึ่งร่างของมะเหมี่ยว มีเพียงความว่างเปล่าที่มีให้เธอ

จอยถอยมายื่นพิงพนังตึก ก่อนที่จะค่อย ๆ ทรุดลงนั่ง น้ำตาเจ้ากรรมที่หยุดไหลไปแล้วก็พาลไหลออกมาอีกครั้ง ภาพของเธอและเขาที่เคยใกล้ชิดกันผุดเข้ามาที่ละภาพ ๆ มันค่อย ๆ ตอกย้ำความเจ็บปวดที่ก่อเกิดเข้ามาในจิตใจของเธอ................





********************************************************************************





3 เดือนผ่าน (เร็วดีมะ)

“ไอ้เหมี่ยว ไปดูหนังกัน”

“ไม่”

“ตามใจ งั้นฉันไปละ” พูดจบพริกก็เดินผิวปากหวือตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง แต่เจ้ากรรมดันมีวัตถุชิ้นหนึ่งลอยมาปะทะหลังของเขา

“เฮ้ย!! เจ็บนะโว้ย”

“เพราะรู้ว่าแกเจ็บไง เลยขว้างไป”

“ผีเข้าหรือไงวะ มีอะไร” พริกโวยกลับมะเหมี่ยวพร้อมกับเก็บหมอนไปโยนใส่มะเหมี่ยว แต่เขารับไว้ได้

“วันนี้พู่มาค้างกับแกใช่ปะ”

“เออ....ว่าจะไปรับดูหนังก่อนแล้วค่อยมาค้างที่นี่นะ แกจะค้างด้วยกันมั้ย?”

“ไม่ละ ไม่อยากเป็นก้าง”

“ดีมากที่รู้ตัว” มะเหมี่ยวชูนิ้วกลางให้กับพริก ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง

“ตกลงแกจะไปดูหนังด้วยกันมั้ย?”

“นึกว่าจะไม่ชวนซ้ำซะอีก”

“แล้วตกลงไปไม่ไปวะไอ้นี่ นับวันยิ่งกวนประสาท”

“ใครจะเหมือนแกเล่านับวันยิ่งกลัวเมียจนหัวหดเข้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” มะเหมี่ยวแหย่พริกอีก และได้ผล มันจี้ใจดำเขาแบบเต็ม ๆ

“แกจะพูดดี ๆ ได้หรือยังวะไอ้เหมี่ยว”

“โอ้ย!! ขำวะ เชิญตามสบายเลยเพื่อนร้ากกก ฉันจะกลับบ้าน” มะเหมี่ยวขำจนตัวงอ เมื่อเห็นหน้าของพริก

“มันก็แค่นั้น ยอกย้อนอยู่ได้” พริกหันหลังเดินออกจากห้องไปปล่อยให้มะเหมี่ยวหัวเราะยู่คนเดียว สุดท้ายกว่าเขาจะตั้งหลัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ ก็เล่นเอาเสียเวลาไปมากพอตัว

มะเหมี่ยวเดินออกมาจากห้อง ด้วยชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำมีหมวก แขนของมันถูกเขารั้งขึ้นมาจนถึงข้อศอกทั้งสองข้าง กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ร้องเท้าผ้าใบ เครื่องประดับที่หลาย ๆ คนเห็นจนชินตา นาฬิกา ต่างหู สร้อยคอ

เขาปิดห้องแล้วก็เดินลงมาจากหอพัก ตรงไปที่ลานจอดรถของหอพัก

เสียงเรียกเข้าของมือถือของเขาทำให้เขาชะงัก ก่อนที่ล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง มองเบอร์ที่โทรเข้าก่อนจะกดรับ พร้อม ๆ กับเปิดประตูรถยนต์คู่ใจ

“ว่าไงคะ...พริกไปรับแล้วนะคะคงใกล้ถึงแล้วค่ะ”

มะเหมี่ยวกรอกเสียงลงไป และสตาร์?รถไปพร้อมกัน เขาคาดเข็มระหว่างที่ฟังเสียงจากอีกฝ่าย

(ค่ะ พู่รู้ ตะกี้พริกโทรมาบอกแล้วค่ะ แล้วเหมี่ยวไม่ไปดูหนังด้วยกันเหรอคะ ไม่ได้ไปดูหนังด้วยกันนานแล้วนะคะ)

“ไว้วันหลังดีกว่าค่ะพู่ วันนี้เหมี่ยวว่าจะไปค้างที่บ้านนะค่ะ”

(ว้า.....ไม่เป็นไรค่ะ ไว้คราวหน้าเหมี่ยวเลี้ยงหนังพู่นะ แอบไปกันสองคนนะ ๆ )

“อ่าว!! แล้วเจ้าพริกละคะ เดี๋ยวมารู้ก็โวยอีกหรอก ยิ่งติดเมีย เอ้ย!! ติดแฟนยิ่งกว่าอะไร”

มะเหมี่ยวแหย่ชมพู่บ้าง ความจริงแล้วเขาอิจฉาคู่นี้มาก รักกันมากมาย จนบางครั้งเขารู้สึกว่า ทำไมเขาต้องอยู่คนเดียวด้วย

(แหม!! ก็นาน ๆ ทีนี่คะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันนานแล้วนะคะ)

“โอเคค่ะ ไว้คราวหน้าเราแอบไปด้วยกัน อะฮ้า!! งั้นอย่างนี้เหมี่ยวก็ตีท้ายครัวเจ้าพริกสิคะ”

(พูดอะไรคะเหมี่ยว บ้าไปใหญ่แล้ว เอาละค่ะ พู่ไม่กวนเหมี่ยวแล้ว แล้วพรุ่งนี้พู่กลับไปหาที่บ้านนะคะ)

“ค่ะ แล้วเจอกันค่ะ เหมี่ยวรักพู่นะคะ”

(ค่ะ พู่ก็รักเหมี่ยวค่ะ)


มะเหมี่ยวกดวางสาย เขาออกรถไปสู่ถนนใหญ่ทันที เอือมมือไปเปิดเครื่องเสียงในตัวรถ เปิดเพลงฟังเรื่อย ๆ ความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากกลับบ้าน แต่ก็ไม่อยากอยู่หอพักเหมือนกัน เพราะชมพู่มา เขาอยากให้ทั้งคู่มีเวลาส่วนตัวกันให้มาก ๆ เพราะชมพู่จะกลับบ้าน 2 อาทิตย์ครั้ง พริกก็เคือง ๆ อยู่ที่ชมพู่ไม่ยอมกลับบ้านทุกอาทิตย์ เมื่อน้องสาวของเขาใช้เหตุผลว่า ติวหนังสือกับเพื่อน เพราะปีหน้าต้องเอ็นท์แล้ว พริกก็เลยขัดไม่ได้


ความจริงแล้วในสายตามะเหมี่ยวก็ไม่เห็นว่าพริกจะขัดใจอะไรชมพู่ เขาเห็นเพื่อนรักของเขาตามใจชมพู่ยิ่งกว่าอะไร ทั้งรักทั้งหวง โดยเฉพาะอย่างหลังนี่เป็นเอามาก

แต่เขาก็ดีใจที่เพื่อนรักของรักน้องสาวสุดที่รักของเขามากขนาดนี้ เขาดีใจ และมีความสุขเผื่อตัวเองด้วย

.......ถ้ามีเธออยู่ด้วย ตอนนี้ฉันจะเป็นเหมือนพริกหรือเปล่านะ...ยัยเบ๊....

>>> กรุณากดฟังนะขอรับ ไม่กดฟังแช่งให้เครื่องเจ๊ง <<<


มะเหมี่ยวเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อไม่ไกลจากบ้านเขาเท่าไหร่ ก่อนที่จะเข้าจับจ่ายของกินสำหรับคืนนี้ จะว่าไป เขาซื้อขนมซะมากกว่า เพราะคืนนี้เขาตั้งใจจะดูหนัง

หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่ร้านเช้าวิดีโอ เขาหยิบหนังสองสามเรื่องจากชั้นวาง มาที่เคาท์เตอร์ ชำระเงิน และเดินออกมาที่รถ

เขาใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่กับการขับรถจากร้านเช้าหนัง มาที่บ้าน มะเหมี่ยวจอดรถ และเดินเข้าบ้าน ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตอนก่อนที่เขาจะพาจอยมาที่นี่ หรือแม้แต่ตอนนี้ ตอนที่ไม่มีวันที่จอยจะมาที่นี่อีก


เขาเป็นคนรักบ้านมาก ชอบอยู่บ้าน แต่ตอนนี้ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่อยากกลับมาเลย แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขากับจอยเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่ได้อยู่กับเธอ และวันนี้ช่วงเวลาเหล่านั้นก็วนเวียนมาทำให้เขามีความสุขไปพร้อม ๆ กับความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหายไปจากหัวใจของเขาเลย........

มะเหมี่ยวเปิดประตู้ห้องนอนเข้าไป เขาวางถุงขนม วางแผ่นหนังไว้ที่โต๊ะ ก่อนที่จะเดินเข้าไปที่ห้องน้ำล้างหน้าล้างตา

ห้องน้ำนี้จอยเคยใช้อาบน้ำ อ่างล้างหน้านี้ เธอเคยใช้ล้างหน้า..........มะเหมี่ยวมองภาพของตัวเองที่ปรากฏอยู่ที่กระจก

“มันผ่านไปแล้วเหมี่ยว จบไปแล้ว”

เขาเตือนตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเอาผ้ามาเช็ดหน้า สายตาของเขาเหลือบไปเห็นชุดสีแดงที่จอยเคยใส่ เขาเอื้อมมือไปลูบเนื้อผ้านั้นเบา ๆ ก่อนจะชักมือกลับมาและปิดตู้เสื้อผ้า


มะเหมี่ยวเดินมาที่เตียงและล้มตัวลงนอน เตียงนี้ เขากับเธอเคยนอนด้วยกัน เคยใกล้ชิดกัน คลอเคลียกันตรงนี้ เตียงที่เขาและเธอเคยนอนด้วยกัน เคยล้อกันเล่น เคยเจ้าแง่แสนงอนใส่กันที่นี่

มะเหมี่ยวเหลือบไปมองที่หัวเตียง ตุ๊กตาปีศาจที่จอยเคยอยากได้ แล้วเขาซื้อมามากเกินกว่าที่เธอต้องการ สรุป เธอเอาตัวสีแดงผู้ชายไป และเขาก็ได้ตัวผู้หญิงสีดำไว้

จอยเคยบอกเขาว่านั่นมันแทนตัวเขา เป็นปีศาจร้าย ปีศาจที่เธอรักหมดหัวใจ

“งั้นตัวนี้ก็คือเธอสินะ ยัยปีศาจเบ๊”

มะเหมี่ยวยิ้มกับตุ๊กตา ก่อนที่จะคว้ามันมากอด สูดดมเอากลิ่นน้ำหอมที่เธอชอบเข้าไปเต็มปอด ทุกอย่างที่มีแต่ความทรงจำของเขาและเธอเต็มไปหมด แล้วเมื่อไหร่ เขาจะลืมเธอได้สักที หรือเพราะเขาไม่เคยคิดจะลืมเธอ

“ฉันคิดถึงเธอ...ยัยเบ๊......” มะเหมี่ยวกระซิบแผ่วเบาที่ตุ๊กตา ราวกับจะส่งผ่านความคิดถึงของตัวเองไปที่ตุ๊กตาอีกตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของคนที่เขา รัก คิดถึงนักหนา

“ฉันรักเธอ”



******************************************************************


“พร้อมแล้วนะคะ”

“อืม” ใบหน้าสวยซึ้งพยักตอบช้า ๆ ดวงตาที่เคยหมองหม่นบัดนี้เริ่มเปล่งประกายมีความหวังขึ้นมา เธอมองบ้านสวนแห่งนี้ด้วยความคิดถึง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอคิดถึงเจ้าของบ้านที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอมากมายยิ่งกว่านัก

“งั้นเข้าไปในบ้านกันเถอะค่ะ”

ชมพู่เอ่ยขึ้นทั้งเธอและพริก รวมทั้งจอยเดินลงจากรถ ตรงเข้าไปในตัวบ้าน

....ทุกย่างก้าวมันเหมือนกับย้อนเวลากลับไปตอนนั้นเลย.......



*********************************************************************


“อืม.........”

มะเหมี่ยวขยับตัวช้า ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดตาเพราะแสงที่ลอดเข้ามาในห้องทำให้เขาแสบตา เขาหลับตานิ่ง ๆ ก่อนที่จะขยับยันกายให้ลุกขึ้นนั่ง

เขาหันไปที่หัวเตียง มองดูนาฬิกาที่ตั้งอยู่เข็มของมันบอกเวลาแก่เขา

“ 10 โมงเช้า ฉันเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย”

มะเหมี่ยวยกมือขึ้นมานวดท้ายทอยของตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเดินเข้าห้องน้ำไป

“ดีนะเมื่อวานอาบน้ำก่อนออกมา ไม่อย่างนั้นเน่าตายแน่ ๆ” มะเหมี่ยวบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เขาจัดการแปรงฟัน และธุระส่วนตัวอย่างไม่รีบร้อน แต่ขณะที่เขากำลังแปรงฟันอยู่นั้น

ก๊อก ๆ

เสียงเคาะประตูทำให้มะเหมี่ยวชะงักการแปรงฟัน เขาตะโกนออกไปก่อนที่จะมีเสียงเคาะอีกครั้ง

“เดี๋ยว แปรงฟันอยู่”

ชมพู่คงมาแล้ว และคนที่มาเคาะห้องคงไม่ใช่ใคร คงเป็นเธอนั่นเอง มะเหมี่ยวรีบล้างปาก และล้างหน้า ก่อนจะออกมาเช็ดหน้าและเดินไปเปิดประตู

“ทำไมมาสายจัง.................คะ”

มะเหมี่ยวชะงัก เขาแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูห้องของเขา หญิงสาวที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจ เธอ......ที่เขารักหมดใจ เธอที่เลือกที่จะไม่รักเขา

“จอย...........”

มะเหมี่ยวเรียกชื่อของเธอด้วยเสียงที่เรียกว่ากระซิบ เขาจ้องมองเธออย่างไม่เชื่อสายตาที่ได้เห็นเธอ จอยมองสบตาของเขา ก่อนที่เธอจะขยับตัวเขาไปใกล้เขาช้า ๆ ยกมือขึ้นลูบใบหน้าหวานของเขา ที่เธอเฝ้าคิดถึงทุกคืนวันช้า ๆ

“ผอมไปหรือเปล่า?”

มะเหมี่ยวหลับตาลง เอียงหน้าให้สัมผัสกับฝ่ามือนั้นช้า ๆ ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามานั้นทำให้จิตใจที่เหี่ยวแห้งของเขาชุ่มชื่นขึ้นมา

“นิดหน่อยค่ะ”

เสียงของเขาตอบคำถามแผ่วเบา น้ำตาของเขาไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดอยู่นั้นช้า ๆ ก่อนที่เขาจะรั้งร่างของเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด

“คิดถึง.............คิดถึง......คิดถึงนะคะ”

เสียงของเขาสั่นสะท้าน อ้อมกอดโอบกระชับร่างบางของเธอเข้าจนแนบชิด เธอกอดตอบเขา

“อย่าไปจากเหมี่ยวอีกนะคะ...................รัก.....เหมี่ยวรักจอย”

“แต่.............จอยรักอัพ”

.............................................

..............................

...........

“ไม่!!!!!!!!!”

มะเหมี่ยวสะดุ้งสุดตัวก่อนที่จะลุกขึ้นนั่ง เหงื่อผุดขึ้นมาตามขมับของเขา ลมหายใจหอบถี่ที่เกิดขึ้นเพราะความตกใจ เขายกมือขึ้นมาลูบใบหน้า และมองฝ่ามือนั้น คราบน้ำที่ติดตามฝ่ามือของเขามันไม่ใช่เหงื่อที่ไหลออกมา แต่มันเป็นหยดน้ำที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเขา

มะเหมี่ยวก้มหน้าลงกับฝ่ามือทั้งสอง ก่อนที่จะปล่อยเสียงสะอื้นเบา ๆ ออกมา มันจะเป็นอย่างนี้อีกนานแค่ไหน......เมื่อไหร่เขาจะหยุดความเสียใจเหล่านี้ได้สักที ทุกอย่างระหว่างเขากับเธอติดตามเขามาตลอด เมื่อไหร่เขาจะหลุดพ้นจากความเจ็บปวดที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัวอยู่ทุกวันอย่างนี้

“ฉัน........รักเธอ.....”







*****************จบบริบูรณ์******************


*****************ล้อเล่น********************


**************จบตอนขอร้าบบบบบบบบ*************








< ตอนที่ 27ตอนที่ 29 >



Create Date : 09 กันยายน 2550
Last Update : 13 กันยายน 2550 21:54:47 น. 0 comments
Counter : 971 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.