ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 

~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 9

"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



Noina talk.....

“เอาล่ะ......ก่อนจะเริ่มเรียน วันนี้ครูมีเรื่องจะแจ้งให้นักเรียนทุกคนทราบ”

เสียงอาจารย์ปริญญา อาจารย์ที่ปรึกษาที่ทั้งสาว ทั้งสวย แถมโสด เอ่ยขึ้น

“แต่ก่อนอื่น รัตนาภรณ์ เธออย่าทำท่าเหมือนจะนอนได้มั้ย?”

ดีมากค่ะอาจารย์ด่ามันเลย เอาแต่นอนทั้งวัน

“ค่ะ....”

วันนี้มาแปลกแหะ ไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่ช่างมันเถอะ เพราะเรื่องที่อาจารย์ ปริญญาบอกมันน่าสนใจมากกว่า

“อย่างที่รู้ ๆ กันว่าช่วงนี้ของทุกปี ทางโรงเรียนเราจะจัดงานกีฬาสี ที่นี้ ม.5 ห้องคิงของเราถูกจัดให้อยู่สีม่วง กีฬาที่เราจะต้องส่งนักกีฬาเข้าร่วมก็จะมี........................”

เสียงอาจารย์ปริญญาบอกรายการกีฬา ปีนี้ฉันขอจองเจ้าหน้าที่พยาบาลดีกว่า อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็ดีกว่าไปเป็นนักกีฬาละน่า

“พวกเธอก็ไปหาคนที่เหมาะจะมาเป็นนักกีฬามาให้ครบหละ อ่อ...กีฬาบาสเก็ตบอลกับวอลล์เล่ย์บอลนะ เราจะมีแข่งกันทุกวันศุกร์ในคาบกิจกรรมนะ เพื่อคัดเอาเฉพาะทีมชิงไปแข่งกันในวันงานกีฬาเท่านั้น และที่ครูจะขอความร่วมมืออีกเรื่องก็คือ ส่งตัวแทนมาแต่งเป็นเทพีบุปผาชาติสี่ภาค 1 คน เพื่อเข้าร่วมขบวนช่วงเช้า แต่ตอนนี้อาจารย์คิดว่าอาจารย์เห็นคนที่เหมาะสมแล้วละ”

อาจารย์ปริญญาหันมามองทางชมพู่ แน่นอนยัยชมพู่โดนแน่ ก็โดนอยู่ทุกปีตั้งแต่ ม.ต้น แล้วนี่ หน้าตาน่ารักขนาดนี้

“อย่ามองมาทางนี้ด้วยสายตายแบบนั้นค่ะ”

เสียงชมพู่เอ่ยขึ้นราวกับหยั่งความคิดอาจารย์ปริญญาออกอย่างงั้นแหละ

“หนูไม่มีทางทำอย่างที่อาจารย์ต้องการหรอก” อาจารย์ปริญญาเลิกคิ้วมองหน้าชมพู่

“แล้วเธอจะทำอะไรละ เพราะทุกปีตำแหน่งนี้ก็เป็นของเธอตลอด”

“แต่ไม่ใช่ปีนี้ค่ะ” ชมพู่สวนทันควัน

“งั้นเธอ ลองเสนอชื่อคนที่จะมาทำแทนเธอหน่อยสิ”

“ก็.....”

ชมพู่ค้างไว้ สายตากวาด ๆ ไปทั่วห้อง ฉันว่าคนที่ซวยที่สุดคงไม่พ้นยัยจอยแน่ เพราะตอนนี้ยัยชมพู่จ้องเขม็งไปที่ยัยจอย และดูเหมือนยัยจอยจะรับรู้ถึงชะตากรรมตัวเองจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา

“จีระนันท์ งั้นเหรอ??”

เสียงอาจารย์ปริญญาดังขึ้น อาจารย์คงสังเกตเห็นว่ายัยชมพู่จ้องจอยแน่เลย

“อาจารย์เห็นคนที่เหมาะสมกว่าหนูแล้ว” ยัยชมพู่ยิ้มเย็น

“ก็เธอเล่นจ้องเค้าขนาดนั้น ใครก็รู้” อาจารย์ปริญญาเอ่ย

“เอาละเทพีปีนี้เอาเธอละกันนะ จีระนันท์ ส่วนเธอรัตนาภรณ์ ไปลงบาส ฯ และเอาแชมป์มาให้ได้ อย่ามองด้วยสายตามีคำถาม เธอต้องทำไม่งั้นก็มาเป็นเทพี”

อาจารย์ปริญญาพูดเสียงเฉียบ ชมพู่หมดคำพูดอย่างง่ายดาย แล้วก็ซบหน้ากับโต๊ะ มันเฝ้าพระอินทร์อีกแล้วค่ะ







Khing talk.......

หลังจากที่หมดคาบอาจารย์ปริญญาพวกเราก็ได้รับอิสระเต็มที่ เพราะตอนเย็นพวกเราต้องส่งรายชื่อนักกีฬาให้กับอาจารย์ปริญญา

“จอยเดี๋ยวไปที่ห้อง กิจกรรมนะ เดี๋ยวพวกชมรมเค้าจะวัดตัวตัดเสื้อนะ”

แก้ว เพื่อนในห้องคนหนึ่งบอกกับจอย จอยค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินตามไป

“จอย ขนมปังหน้าไก่” ชมพู่พูดขึ้น จอยหันมามองก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ

“แต่จอยต้องไปห้องกิจกรรมนะชมพู่” แก้วเอ่ยขึ้น

“ก็ถามยัยจอยก่อนสิว่าจะไปไหนก่อน” ชมพู่สวนไป

“เออ....เดี๋ยวจอยตามไปนะแก้ว แป๊บเดียว”

แก้วมองจอย ก่อนจะหันมามองชมพู่ที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“งั้นเดี๋ยวเค้าไปรอนะ เค้าว่าจะให้ลองชุดเอื้องดอยนะ”

ว้าว.......จอยจะได้ใส่ชุดเอื้องดอย มันเป็นชุดที่สวยที่สุดในบรรดาเทพีบุปผาชาติสี่ภาคเลย เมื่อปีที่แล้วชมพู่ก็ใส่ชุดนี้ สวยมากเลย จอยน่าอิจฉาชะมัด

“ดีใจด้วยนะจอย”

ฉันพูดแสดงความยินดีกับจอย จอยแค่ยิ้มนิดหน่อย ดูจอยไม่ค่อยดียังไงไม่รู้ ไม่สบายหรือเปล่านะ

“ปีนี้ชุดต้องสวยที่สุดเลยนะจอย ฉันจะตัดให้เฟอร์เฟ็กส์ที่สุดเลย”

แก้วพูดแล้วก็เอื้อมมือไปจับมือจอย ใคร ๆ ก็รู้ว่าแก้วเป็นพวกเลสเบี้ยน และคนที่แก้วสนใจก็คือ จอย

“หิว”

เสียงของชมพู่ดังขึ้นอีกครั้ง จอยรีบขอตัวออกไปตามด้วยแก้วที่สะบัดหน้าตามออกไปอีกคน

“ขิงว่า พู่เลิกแกล้งจอยเถอะ น่าสงสารจอยออก”

“ไม่....ใครบอกให้คิดทำร้ายฉันก่อนล่ะ” ทำไม? แฟนฉันถึงกลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นนักนะ

“แต่ตอนนั้นพวกยัยหนูนา บังคับให้ยัยจอยพามาหาเธอนะ ยัยนั้นไม่ได้อยากพามานี่น่า” น้อยหน่าช่วยพูดอีกแรง

“แล้วยังไง?”

ดูชมพู่ไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไหร่เลยค่ะ ทำไมแฟนฉันเป็นคนแบบนี้ ฉันคงได้แต่ปลงค่ะ แล้วน้อยหน่าก็เปลี่ยนเรื่องคุย

“กีฬาสีจะลงอะไรบ้างล่ะ เค้าคงเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลล่ะ” เธอก็เป็นแต่ไอ้ตำแหน่งนี้แหละ

“ชมพู่จะทำอะไรเหรอ?”

ชมพู่ซบหน้าลงกับโต๊ะ ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมานะ นอนได้ทั้งวัน

“บาสมั้ง อ.เปิ่นให้ลงนิ”

“อาจารย์ปริญญาย่ะ”

น้อยหน่าแย้งเรื่องชื่ออาจารย์ ชมพู่ไม่เคยจำหรือเรียกชื่ออาจารย์ถูกเลยแม้แต่คนเดียว

“ขิงคงถูกเลือกให้ไปอยู่กองกลางอีกนะแหละ ส่วนจอยคงเหนื่อยหน่อยเนอะ ไหนจะต้องแต่งตัว ไหนต้องลงวอลเล่ย์บอลด้วย”

“อืมใช่ ปีนี้ห้องเราคงชิงกับ ม.6 ห้องคิงอีกแน่เลยเนอะ ส่วนบาสนะ ไม่เคยเข้ารอบสักครั้ง หนักหน่อยนะชมพู่” ชมพู่เงยหน้ามามองน้อยหน่า

“ห่วยขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ใช่!!!”

ฉันกับน้อยหน่าพูดขึ้นพร้อมกัน ชมพู่ทำหน้าแหยทันที ก่อนจะมีขนมมาวางตรงหน้า

“ขนมปังหน้าไก่หมดฉันเลยซื้อไส้เนยมาแทน ได้มั้ย??”

ชมพู่ทำท่าจะค้าน แต่ฉันก็สะกิดไว้ สงสารจอยนะค่ะ

“นั่งสิ ยืนค้ำหัวอยู่ได้”

“ฉันต้องไปห้องกิจกรรม”

“ใครอนุญาต” เสียงชมพู่ดูหน้ากลัวยังไงไม่รู้

“เอ่อ...”

“จอยต้องไปวัดตัวตัดเสื้อ”

เสียงของแก้วดังขัดขึ้น คงย้อนกลับมารับจอยแหละมั้ง ดูหน้าตาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“นั่งลง”

ชมพู่สั่งจอยเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความเฉียบขาด จอยยังยืนนิ่งอยู่

“ชมพู่ จอยต้องไปวัดตัวนะ” ฉันเตือนชมพู่เบา ๆ เพราะดูชมพู่จะเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว

“ใช่ ๆ “ น้อยหน่าเสริม

“เอ่อ ฉันจะรีบกลับมาละกันนะ”

จอยพูดเสียงเบา ๆ ราวกับกลัวว่าชมพู่จะฉีกร่างออกอย่างนั้นแหละ ชมพู่มองจอยนิ่ง

“ไปเถอะ” แล้วแก้วก็ลากตัวจอยออกไป

“เป็นไรเหรอ พู่??”

ฉันถามชมพู่ ทำไมชมพู่ต้องแกล้งจอยขนาดนี้ด้วยนะ หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น?? ฉันเริ่มสงสัยพฤติกรรมของทั้งคู่ แล้วจู่ ๆ ชมพู่ก็ลุกพรวดขึ้น เดินออกจากห้องไป

“เดี๋ยวพู่!!! จะไปไหน?”

“นอน”

คำตอบสั้น ๆ ของชมพู่บ่งบอกบางอย่างว่า ไม่ชอบใจจอยอย่างแรง ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะ แค่จอยไม่อยู่ เธอมีฉันเป็นแฟนอยู่นะชมพู่ สนใจฉันหน่อยสิ


>

>

>

>

>

>







Chompoo talk……

เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ ตั้งแต่เปลี่ยนตัวกับมะเหมี่ยว เผลอแป๊บเดียว ผ่านไป 3 อาทิตย์แล้ว ตอนนี้ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว แผลก็ใกล้หายสนิทแล้ว ทายาเยอะไปหมด ดีที่มันไม่เป็นแผลเป็น รอยช้ำก็ไม่เหลือแล้ว แต่ที่ยังช้ำอยู่คงเป็นใจฉันมั้ง เพราะทุกวันฉันต้องทนเห็นพริกอี๋อ๋ออยู่กับแฟน ชื่อ แนน ดูรักกันมาก ๆ วันนี้ก็เหมือนกันหวานกันจนฉันทนไม่ได้ต้องถ่อสังขารมาอยู่หอของพวกพัฒ

“เป็นไงบ้างมะเหมี่ยว อ้าวยังใส่วิกอยู่เหรอ ถอดเถอะ น่ารักดี”

หนิง แฟนของต้น อดีตแฟนเก่าของมะเหมี่ยวเดินมาถอดวิกออก ผมยาว ๆ ของฉันหลุดออกมาสยายเดิมหลัง

“แล้วแผลเป็นไงบ้าง?”

“ใกล้หายแล้วละ เหลือแถว ๆ ช่วงเอวนะ”

“อูย.....คงเจ็บแย่เลย แผลลึกมั้ยอะ?” หนิงยังคงถามเรื่อย ๆ

“ไม่หรอก มันถาก ๆ นะอีกสองสามวันสะเก็ดที่แห้งก็หลุดแล้ว ไม่เจ็บแล้วละ เออ.....แล้วสองหนุ่มล่ะ”

“ออกไปซื้อข้าวน่ะ อ้าวไม่สวนกันเหรอ เพิ่งลงไปตะกี้เอง” ฉันส่ายหน้า

“มะเหมี่ยว หนิงถามจริง ๆ นะ อย่าโกรธนะ” ฉันพยักหน้า

“มะเหมี่ยว เออ....ชอบพริกเหรอ” ว๋ายยยยย.....มีคนดูออกขนาดนี้เลยเหรอ ฉันหน้าแดงแป๊ด

“ทะ.......ทำไมถามงี้อ่ะ??” หนิงหันไปทางประตู ก่อนจะมากระซิบบอกฉัน

“ฉันเห็นเธอจูบกับพริก” ต้องวันที่ทะเลาะกันแน่เลย

“เอ่อ...........คือ”

“ไม่ต้องอายหรอก พวกฉันสงสัยกันทุกคนแหละ แต่ไม่มีใครรู้เรื่องจูบนะ หนิงยังไม่ได้บอกใคร”

“เอ่อ...คือ อย่าบอกใครนะ”

“อยู่แล้ว แต่มะเหมี่ยวต้องบอกก่อนทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ แค่ที่พวกต้นบอกเรื่องคุณย่ามันฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่นะ ถ้าบวกกับเรื่องจูบเข้าไปน่ะ”

ทำไงดีล่ะคะ ฉันไม่อยากโกหกใคร แต่บอกความจริงไม่ได้ ฉันอึดอัดมากจริง ๆ ฉันอยากมีใครก็ได้ที่คอยให้คำปรึกษา ทำยังไงดี

“เป็นไรหรือเปล่ามะเหมี่ยว?” ฉันส่ายหน้าช้า ๆ

“ความจริงฉัน....ฉันไม่ใช่มะเหมี่ยว”

แล้วทุกอย่างก็พลั่งพลูออกมาจากปากของฉัน หนิงได้แต่นิ่งอึ้ง แต่ฉันหยุดไม่ได้แล้ว ฉันอยากระบาย

“เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง”

เสียงใคร หนิงไม่ได้พูดนี่ หน้าหนิงก็งงเหมือนกัน เราหันไปที่หน้าห้องพร้อม ๆ กัน พัฒกับต้น มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดูหน้าสองคนนั้นสิ เหมือนกับถูกตีแสกหน้ายังงั้นแหละ ฉันพูดไม่ออก

“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” หนิงถามขึ้น

“ก็ตั้งแต่ –ฉันไม่ใช่มะเหมี่ยว- นั่นแหละ แต่ถ้าไม่ลืมกระเป๋าตังค์ก็คงยังไม่รู้เรื่อง” เสียงต้นพูดเย็น เขาจ้องเขม็งมาที่ฉัน หลบตาอย่างเดียวค่ะ

“ไอ้เลว มิน่าฉันว่าแม่งเปลี่ยนอะไรมากขนาดนี้ แค่ย่าไม่ชอบ ที่แท้ก็” เสียงพัฒดูเจ็บใจที่ได้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก

“ที่แท้ก็แอบไปอยู่กับสาว ๆ เป็นพัน ๆ แกคิดดูไอ้ต้น มันเอาน้องสาวมาแทนแล้วไประเริงกับสาว ๆ”

“ใช่ ตื่นเช้ามาก็เจอสาว ๆ กลางวัน กลางคืน อยู่กับผู้หญิงตลอด ปล่อยให้พวกฉันเจอแต่พวก...”

“พวกอะไรยะ?” ต้นกับพัฒรับกันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนจะถูกหนิงขัดขึ้นมา

“ป่าวจ้า....ที่รัก” ต้นกลายเป็นลูกแมวทันที

“ขอโทษนะที่โกหก” ฉันพูดเสียงอ่อย ๆ

“ขอโทษ ขอโทษเรื่องอะไร?”

“ก็เรื่องที่ฉันโกหก” ฉันเริ่มงงกับอาการของเพื่อน ๆ

“ชมพู่สินะเธอน่ะ” ต้นถามฉัน ฉันพยักหน้าช้า ๆ

“คนที่ต้องขอโทษน่ะคือไอ้เหมี่ยว เพราะเท่าที่ดูเธอคงไม่มีความคิดอุตริอย่างนี้หรอก คงเป็นความคิดของไอ้เวรนั่นแน่ ดังนั้นไม่ต้องขอโทษ”

“ใช่ หนิงเห็นด้วย” ทุกคนพยักหน้า

“เอาเวลานั่งเครียดมาทำอะไรสนุก ๆ ดีกว่า” ต้นทำเสียงสนุก

“ไอ้พริกยังไม่รู้เรื่องนี้สินะ” ฉันพยักหน้ารับกับคำถามของต้น

“ดีมาก ปล่อยให้มันโง่ต่อไป” พัฒเสริม

“เห็นด้วย” หนิงด้วยอีกคน พวกเธอเป็นเพื่อนกันภาษาอะไรเนี๊ยะ

“พวกเรามาปั่นหัวไอ้พริกเล่นดีกว่า!!!” ทั้งสามพูดพร้อมกัน

“เพราะ....???” ฉันถามต่อ เริ่มจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของคนพวกนี้แล้ว

“เพราะเราอยากเห็นมันปวดกะบาลไง!!!” ทั้งสามพูดพร้อมกัน โอ้...แม่เจ้า นี่หรือเพื่อนรัก...

“เอาเริ่มกันวันนี้เลย เดี๋ยวเธอ ชมพู่นะ ออกไปหาซื้อชุดน่ารัก ๆ มาใส่ หัดแต่งตัวเป็นสาว เราจะยั่วกิเลสไอ้พริก” ต้นแนะนำ

“ใช่....ให้มันเริ่มชอบเธอในฐานะผู้หญิง พวกแกคิดดูมันจะสับสนขนาดไหน รักเพื่อนสนิท แถมเพื่อนยังเป็นทอม ฉันว่ามันคงสติแตกตายแน่” พัฒเสริมอีก

“ใช่ ๆ แต่หนิงว่า เราต้องหาอะไรกระตุ้นพริกหน่อยนะ อย่างเช่น มีคนมาชอบชมพู่อะไรอย่างนี้อะ”

“อืม ๆ ใช่ ๆ แล้วใครล่ะ” พวกนั้นสุมหัวกัน

“จะเอาคนอื่นมาก็ไม่ได้ เพราะจะรู้เรื่องเปลี่ยนตัวมากเกินไปดูไม่เหมาะ” หนิงพูด

“เอาแกแหละไอ้พัฒ” ต้นบอก

“ทำไมต้องฉันวะ”

“เพราะฉันมีแฟนแล้วไง” ต้นบอก

“โอเค...แต่ถ้าฉันเกิดชอบเธอขึ้นมาจริง ๆ ล่ะเอาไง” พัฒหันมามองฉัน

“ชมพู่ชอบพริก” ฉันตอบทันที และก็อายทันทีที่นึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรไป

“เธอชอบไอ้พริกเหรอ?” ทุกคนถามพร้อมกัน ฉันพยักหน้าช้า ๆ

“งั้นก็ดีสิ” พัฒพูด

“ ดียังไงอะพัฒ หนิงไม่เห็นเข้าใจ”

“ทำไม่ฉันมีแฟนโง่วะ ก็ถ้าชมพู่ชอบไอ้พริกเรื่องก็ง่ายไง เธอก็เห็นว่าไอ้พริกเริ่มมองชมพู่ยังไง ถ้าเกิดคู่นี้ชอบกันก็ดีเลยไง” หนิงพยักหน้าเข้าใจกับคำอธิบายของต้น

“ดีเหมือนกันฉันอยากเห็นยัยแนนอะไรนั่นอกหักว่ะ หมั่นไส้”

“เอาเป็นว่าตามนี้นะ เดี๋ยวชมพู่ออกไปซื้อของกับพวกเราเลยนะ ช่วยกันเลือก งานนี้สนุกแน่”

พัฒบอก นี่ไม่มีใครจะถามความคิดเห็นฉันเลยหรือไง

“จะดีเหรอ” ฉันถามแบบไม่แน่ใจ

“แล้วจะทำมั้ยล่ะ ชอบไอ้พริกไม่ใช่เหรอ” พัฒถามฉัน

“แต่พริกมีแฟนแล้วนะ” ฉันค้าน

“ก็แย่งไง” ทุกคนพูดพร้อมกัน แล้วฉันก็ถูกลากออกไปข้างนอก

นี่มันอะไรกันเนี๊ยะ..........







Ning talk.....

กว่าเราจะกลับจากช๊อปปิ้งก็เล่นเอาดึกเหมือนกัน มะเหมี่ยว เอ้ย....ต้องเรียกว่าชมพู่สินะหมดไปหลายบาทเหมือนกัน แต่นะก็ตอนลองเสื้อผ้านะ ชุดไหน ๆ ก็น่ารักไปหมดนี่น่า พวกพัฒยังชมเลย แต่เรื่องเปลี่ยนตัวนี้คิดไม่ถึงจริง ๆ นะค่ะ แหม....มีฝาแฝดนี่ดีจริง ๆ

“ไอ้เหมี่ยวนี้น่าอิจฉาว่ะ อยู่กับสาว ๆ ตลอด อิจฉาโว้ย เมื่อไหร่จะมีแฟนวะ”

พัฒแหกปากขึ้น ตาคนนี้แหกปากตลอดทุก ๆ 5 นาทีเรื่องมะเหมี่ยวค่ะ อิจฉาอย่างแรง ส่วนต้นคงอยากจะบ่นเหมือนกันแต่ทำไม่ได้ เพราะฉันยื่นอยู่ทนโท่ ลองดูสิ แม่จะเจี๋ยนให้

“เออใช่....เมื่อกี้มะเหมี่ยวโทรมาว่าไงบ้าง”

ฉันถามชมพู่ เพราะเมื่อกี้ฉันเห็นชมพู่คุยโทรศัพท์กับพี่ฝาแฝดอยู่

“โดนด่าเลยว่าซื่อบื้อ ที่ทำให้ทุกคนรู้ตัว แค่นี้แหละไม่มีอะไรมากหรอก”

ชมพู่พูดยิ้ม โอ้ย....รอยยิ้มนางฟ้า พี่น้องคู่นี้ยิ้มดูดีทั้งคู่เลย คนหนึ่งก็ยิ้มเท่ห์กระชากใจ อีกคนก็ยิ้มหวานอ่อนโยนยังกับนางฟ้า ทำไม? ทำไม อิลำยองคนนี้ไม่เกิดมาดูดีอย่างนี้บ้างนะ อิจฉา ๆ

“มันยังมีหน้ามาว่าอีกเหรอ น่ากระทืบจริง ๆ ไอ้เพื่อนคนนี้”

ต้นพูดอย่างเคือง คงเคืองไม่หายเรื่องแอบไปอยู่กับสาวแหละ

“ไม่เป็นไรหรอก เห็นอย่างนั้นเหมี่ยวเค้าเป็นห่วงชมพู่มากนะ เค้าแคร์ชมพู่มากด้วย” ยิ้มนางฟ้าอีกแล้ว ทุกคนเคลิ้มไปกับรอยยิ้มนี้

“แต่ไอ้เหมี่ยวก็คงรักเธอมากแหละ ก็ดูกรณีเจ๊แจนสิ ป่านนี้แล้วไม่กล้าออกมาดูโลกภายนอกเลย”

พัฒทำให้ฉันนึกถึงเรื่องเจ๊แจน คนที่ทำให้ชมพู่แทบไม่เหลือสภาพ หลังจากที่คลิปวีดิโอฝีมือการวางกล้องของมะเหมี่ยวออกมาเผยแพร่ดูเหมือนเธอจะหายออกไปจากวงจรชีวิตพวกเราเลย แถมยังมีข้อหามียาเสพติดในครอบครองอีกกระทง งานนี้หมดอนาคตไปเลย มะเหมี่ยวนี่อาฆาตแรงจริง ๆ

“หรือผู้หญิงนั้นชอบคนเลว ยิ่งเลวเท่าไหร่ยิ่งดี....” เสียงโทรศัพท์สุดที่รักของฉันดังขึ้น

“ไอ้พริกว่ะ” ต้นบอกพวกเรา

“ว่าไง? เออ....อยู่กับพวกฉันนี่แหละ....ไม่รู้ว่ะ อืม...เอ้ยเหมี่ยวทำไมปิดเครื่องวะ” ต้นหันมาถามชมพู่ ชมพู่ควักมือถือออกมาดู

“แบตหมดนะ” ต้นพยักหน้า

“แบตมันหมด มีไรวะ เออ...แป๊บ” ต้นส่งมือถือตัวเองมาให้ชมพู่

“ว่าไง.....อืม แบตมันหมด ไปเที่ยวมาอะ”

เสียงชมพู่ที่ตอบคำถามไอ้พริกเป็นระยะ ๆ พวกเราหันมาสบตากัน

“ถ้าไอ้พริกบอกว่าไม่ชอบชมพู่นะ ฉันจะกระทืบมันจริง ๆ ว่ะ”

พัฒเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองการสนทนาของชมพู่และพริก

“ไอ้พริกเป็นพวกปากแข็ง” ต้นบอก พัฒพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่เค้าว่าพริกชอบชมพู่นะ ดูก็รู้ติดแค่พริกมีแฟนแล้ว”

ฉันเอ่ยขึ้นทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับที่ชมพู่ส่งมือถือมาคืนให้

“ขอบใจนะต้น”

คำขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มนางฟ้า ทำเราเคลิ้มกันอีกแล้ว ถ้าเป็นมะเหมี่ยวจะได้เห็นอาการอย่างนี้มั้ยเนี๊ยะไม่มีทางหรอก ไอ้คนป่าเถื่อนนั่น

“เค้าต้องกลับหอก่อนนะ พริกเป็นห่วง” พวกเราพยักหน้า

“เดี๋ยวให้ไอ้พัฒไปส่งนะ” ต้นบอก

“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้ก็ยุ่งมากแล้ว”

“ไม่ได้หรอก ถ้าเป็นไอ้เหมี่ยวนะเราไม่ห่วงหรอก แต่นี้ชมพู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะแย่ ไอ้เหมี่ยวมาฆ่าพวกเราแน่ ดีเหมือนกันนะเอาไอ้พัฒไปด้วย เริ่มแผนยั่วไอ้พริกเลย”

ต้นพูด พัฒเห็นด้วยฉันก็ไม่ขัด สุดท้ายชมพู่ก็กลับกับพัฒ

“ไม่ต้องรีบกลับนะโว้ย แวะเที่ยวนาน ๆ เลยนะ” ต้นตะโกนตาม

“ต้นว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไปอะ” ฉันถามแฟนฉัน

“ไม่รู้ อย่าสนใจเลย เดี๋ยวก็รู้กันเองแหละ ว่าแต่เรามาสนใจเรื่องของเราดีกว่า”

ง่า....ตอนนี้เจ้าแฟนตัวแสบของฉันมองด้วยสายตากรุ่มกริ่ม อิตาคนนี้นี่น้า...........ฉันยิ้มให้กับต้น ฉันมีความสุขจริงเลยค่ะ ที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ







Chompoo talk……

ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า การที่พัฒมาส่งนี่ดีหรือเปล่า

“^______^” หน้าพัฒ

“-______-++++” หน้าพริก

“-______-!!” หน้าฉัน ทำไมบรรยากาศมันอึมครึมอย่างนี้นะ

“เออ...” ฉันตั้งท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้จะพูดอะไรดีน่ะสิ

“แกไม่คิดจะกลับไปนอนหรือไงวะ?” พริกพูดเสียงเข้ม ๆ ใส่พัฒ

“ฉันยังไม่ง่วง”

“แต่ฉันง่วง”

“ก็นอนไปดิ ใ ครถางตาแกวะ ฉันจะคุยกะเหมี่ยว”

“ฉันนอนไม่หลับถ้ามีคนเยอะ ๆ ” ฉันเห็นเธอเฝ้าพระพรหมทุกครั้งที่เข้าเรียนนะพริก

“งั้นก็.....เรื่องของแก”

“..........”

พริกเงียบพร้อมส่งสายตาพิฆาตให้พัฒ ก่อนจะเดินออกไปที่ระเบียงห้อง พัฒมองตามพริกไป ก็จะขำเบา ๆ

“ไอ้หมาหวงก้างเอ้ย” พัฒยิ้มก่อนจะหันมามองฉัน

“เชื่อเถอะว่ามันต้องชอบเธอแน่ ๆ ฉันดูก็รู้” พัฒพูดก่อนจะเขยิบมานั่งใกล้ ๆ ฉัน

“และเชื่อเถอะว่า ฉันก็อาจจะชอบเธอเข้าจริง ๆ สักวัน” แล้วพัฒก็ลุกไป

“กลับก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน อ๋อ....ชุดนอนที่ซื้อให้น่ะใส่เลยได้นะ ยั่วมันเข้า ถึงฉันไม่อยากให้ใส่เท่าไหร่ก็เถอะ....ราตรีสวัสดิ์”

“อืม”

แล้วพัฒก็ออกไป ปล่อยให้ฉันนั่งงงอยู่ อะไรที่พัฒพูดเมื่อกี้ พริกชอบฉันงั้นเหรอ? แล้วพัฒก็อาจจะชอบฉันด้วยเหรอ นี่มันอะไรกัน

ฉันใช้เวลาเก็บของอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ ไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อนอนตัวใหม่ที่พัฒเลือกให้

“เชื่อเถอะ ชุดแบบนี้แหละน่ารัก ไม่โป๊ แต่เซ็กซี่ ไอ้พริกต้องอึ้งแน่ ๆ”

นี่คือคำพูดของพัฒ ตอนที่เลือกซื้อของ ก็จริงนะมันไม่โป๊มากมาย เป็นเชิ้ตยาวเลยต้นขามานิดหน่อยไอ้ที่เซ็กซี่นะคงตรงนี้แหละนะแล้วก็มันบางนิดหน่อย คงเพราะเป็นสีขาวแหละถึงได้ดูบาง ฉันอาบน้ำ เหนื่อยจริง ๆ วันนี้

ฉันสวมเสื้อนอนแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำมา

“เอ่อ....” -///- ดูพริกอึ้ง ๆ แหะเมื่อเห็นฉันเดินออกจากห้องน้ำ

“จะอาบน้ำมั้ย....เค้าเสร็จแล้ว” >/////////< เขินจังเลยตอนถูกพริกจ้องอย่างนี้

“ชุดน่ารักดีนะ เพิ่งซื้อเหรอ”

ฉันพยักหน้าหันหลังให้พริก เขินอ่า...ฉันโนบรานะ พริกเดินไปเปิดเพลงที่เครื่องเสียงเบา ๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่มาจุด

“ไม่สูบได้มั้ย?”

ฉันเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันกลับมาที่เดิม แปรงผมยาว ๆ ของฉันต่อ ไม่มีคำตอบจากพริก

“งั้นก็ดับให้หน่อยสิ”

เสียงพริกอยู่ด้านหลังของฉันนี่เอง เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ฉันไม่กล้าหันไปมอง เพราะพริกต้องอยู่ใกล้ฉันมากแน่ บุหรี่ที่ถูกจุดยื่นมาอยู่ด้านขวามือของฉัน ส่วนข้างซ้ายก็มีที่เขี่ยมาโชว์หราอยู่ กลายเป็นว่าพริกยืนโอบฉันอยู่นะสิ ฉันดึงบุหรี่ออกจากมือพริกมาดับในที่เขี่ย

“เสร็จแล้ว” ฉันเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น มันเขินนี่น่า

“รีบไปอาบน้ำสิ เค้าจะได้ทายา”

“เดี๋ยวทาให้” ^___^ รอยยิ้มเธอไม่น่าไว้ใจเลยนะ

“ทาเองได้”

“จะได้ยังไง แผลมันอยู่ข้างหลังทาไม่ได้หรอก” พริกแย่งยาทาออกจากมือของฉันไป

“เอาคืนมานะ”

ฉันเดินไปแย่งยาแต่ไม่ได้ พริกยิ้มใส่ตาฉัน ก่อนจะถอยหนีไป ฉันตามไปแย่งคืนมา ดูเหมือนฉันจะช้าเกินไปอ่ะ แย่งไม่ได้เลย ฮือ....ทำไมฉันถึงได้เทอะทะอย่างนี้นะ ฉันยังคงพยายามแย่งยาอยู่จนสะดุดขาตัวเอง ล้มทับพริก พริกล้มลงเตียงนอนพอดี ฉันทับพริกอยู่อีกที ดีนะที่มีเตียง พริกกอดฉันไว้ ฉันรีบลุกขึ้น

“รีบไปไหน?”

ฉันเงียบ ก้มหน้านิ่งพริกกอดฉันไว้จากด้านหลัง เอาคางมาเกยไหล่ฉันไว้

“วันนี้ไปไหนมาบ้าง?สนุกมั้ย?” ฉันพยักหน้า

“ก็ไปสยาม เจเจ ห้างสรรพสินค้า หลายที่อะ พวกพัฒพาไป” พริกเลิกคิ้วก่อนจะบีบจมูกฉันเบา ๆ

“มะ...เดี๋ยวทายาให้”

อ๋าย....พริกยังจะวกกลับมาเรื่องเดิมอีก ฉันดิ้นออกจากอ้อมแขนพริก จะทาได้ยังไง ก็ข้างล่างนะฉันใส่แค่กางเกงชั้นในอ่ะ

“ไม่เอา”

“ทำไม”

“ก็ฉันโป๊อยู่ ไม่เอา” ฉันดิ้นแต่ไม่หลุดสักทีจน

“โอ๊ะ...เจ็บ”

“เป็นอะไร?”

“แผล”

ฉันพูดได้แค่นั้น พริกก็จัดการเลิกเสื้อนอนขึ้นจนเห็นแผ่นหลัง ตอนนี้อายมากกว่าเจ็บค่ะ

"ไม่มีอะไรหรอกสะเก็ดแผลหลุดนะ คงเพราะเธอดิ้นนะ”

แล้วพริกก็ดึงเอาสะเก็ดแผลที่หลุดออกมาให้ฉันดู ก่อนที่เอื้อมเอาทิชชู่มาห่อแล้วโยนทิ้งถังขยะ โดยที่ไม่ยอมให้ฉันออกจากอ้อมแขนเลย

“อยู่เฉย ๆ นะจะทายาให้” แล้วพริกก็ค่อยทายาที่หลังให้

“สะเก็ดแผลหลุดหมดแล้วนะ แต่ต้องทายาต่อจะได้ไม่เป็นรอย”

ฉันพยักหน้า ตอนนี้รู้สึกว่าหน้ามันแดงจนร้อนไปหมดแล้ว พริกดึงตัวของฉันเข้าไปใกล้อีก อันที่จริงมันก็แทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างฉันกับพริกแล้ว

“หอมจัง ครีมอาบน้ำหอมดีนะกลิ่นนี้”

ฉันได้แต่พยักหน้า ถ้าพริกดมเฉย ๆ ฉันคงไม่แทบละลายแบบนี้ ปลายจมูกที่มันจรดอยู่ที่ซอกคอของฉัน มันซุกไซร้เบา ๆ มือที่ทายาตอนนี้มันเปลี่ยนมาเป็นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและเอว

“เหมี่ยว”

เสียงของพริกแหบพร่า ทำฉันขนลุกซู่ ฉันหันไปมองพริก ฉันหมือนต้องมนต์สะกด เหมือนร่างกายมันจะควบคุมไม่ได้ พริกจูบฉันที่ริมฝีปาก ลิ้นตวัดอย่างรวดเร็ว ฉันอ่อนระทวย แขนโอบรอบคอพริกไว้ จูบครั้งแรกฉันบังคับ จูบครั้งที่สองพริกบังคับ แต่ครั้งนี้เราต่างพร้อมใจกันที่จะจูบ

ฉันล้มตัวลงนอนราบกับเตียง พริกตามมาทาบทับติด ๆ รสจูบของพริกทำให้ฉันลืมตัวเผลอครางออกมาเบา ๆ พริกลดใบหน้าไปที่ต้นคอ เขาฝังจมูกอยู่ที่คอ ฉันรู้สึกตัวมันไม่มีเรี่ยวแรงยังไงไม่รู้

“เหมี่ยวกำลังทำให้พริกคลั่ง หยุดเค้าทีเถอะ”

เสียงพริกเหมือนกระซิบ ฉันไม่สนใจฟังอะไรแล้ว มือของพริกลูบไล้ไปทั่วร่างกาย แล้วก็มากอบกุมตรงหน้าอกของฉัน

“พะ....พริก” เสียงของฉันสั่นสะท้าน ความเสียวซ่านที่พริกสร้างขึ้นทำให้ฉันไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง.............


“ให้เธอได้กับเขา และจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ ส่วนตัวฉีนจะลืมว่าเคยร้องไห้ลืมว่าเคยต้องเป็นใคร....ที่เธอไม่เอา ให้เธอได้กับเขา...” พริกผละออกจากฉันไปรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล”

พริกพูดด้วยน้ำเสียงตวัด ๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เพราะฉันเองล่ะ พริกก้มมาจูบหน้าผากฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปนอกระเบียง เฮ้อ....แนนคงโทรมา ฉันจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะหลับตาลง

เมื่อกี้ยังใจเต้นแรงอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้มันแทบจะไม่มีแรงเต้นเลยนะ...หัวใจของฉัน



"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


<ตอนที่ 8ตอนที่ 10>




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2549
0 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:11:13 น.
Counter : 1201 Pageviews.


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.