ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 

~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 14


Mibu Sa’Kyo talk……...

วู้!!!!

เกิดมาหน้าตาดีเกินไปทำไงดี กลุ้ม.....เครียดมากมายก๊าบบบบบบบ

หุหุ....ราสเบอร์รี่จริง ๆ

ไม่เอา ๆ เลิกเล่น ๆ

นาน ๆ จะโผล่หน้ามาแบบคนหน้าตาดีสักครั้ง มีสาระบ้างก็น่าจะดีนะ

โม้มากไป พอแล้ว เข้าเรื่องดีกว่า


-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-


รู้สึกพักนี้เสน่ห์จะแรงเกินไป ทำไงดี <<<<< ยังไม่เลิกบ้า

พอ ๆ เข้าเรื่อง ๆ

อย่างที่บอกไปแล้วในคอมเม้นต์นะคัฟ ซาจะเอาเรื่องรักป่วน ๆ ส่งให้สำนักพิมพ์พิจารณา (คิดว่าไม่น่าจะผ่าน)

แต่อารมณ์บิ้วตอนจบไม่ได้สักที แอบเครียด อย่างที่บอกหน้าตาดีเกินไป แถมเป็นโรคหลายใจ บรือออออ....

มะช่ายยยย....โรคจิตใจหวั่นไหวง่าย

แถมไปอ่านนิยายในบอร์ด โศกาหนักขึ้น

ม้ายยยยยยย.....ข้าวกับกานต์ อย่าเลิกกันน้าาาาาาาา....

NoooO<<<<ใครก็ได้ช่วยทำให้ไอ้บ้านี่เลิกเพี้ยนสักทีเถอะ

555 ว่าจะเข้าเรื่องก็ไม่ได้เข้าสักที

เอาจริงละ

บอกตรง ๆ ว่าไม่มั่นใจเท่าไหร่ เพราะยังเห็นข้อผิดพลาดเยอะ (โดยเฉพาะเรื่องพิมพ์คำผิด)

ส่วนเรื่องเนื้อหาก็เหมือนกัน.....ไอ้ที่มาบ่น ๆ เนี๊ยะไม่ใช่อะไรหรอก

อยากให้เพื่อนที่คอยติดตามมาช่วยอะไรอย่างหนึ่งอะคัฟ

ช่วยมาดูแลหัวใจดวงน้อย ๆ ของซาจังด้วยจิก๊าบบบบ.....<<<<พลั๊ก!!!!~ เดชติงใครฟร่ะ

เข้าเรื่อก็ได้......

ช่วยติติงเกี่ยวกับเนื้อหาหน่อยนะคัฟ เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ ซาน้อย หน้าด้าน เอ้ย!!! รับได้ทุกอย่าง สวมวิญญาณพี่แบงค์ วง แคลช ซะแล้น....อิอิ

คือจะได้เอาไปปรับปรุงก่อนส่งนะคัฟ จะเริ่มติตั้งแต่แรก หรือตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้ ตอนไหนก็ได้คัฟ แต่ติมาเลย.....

ซาจะได้แก้ไขได้ถูก

จะติทุกเรื่องเลยก็ได้นะคัฟ.....แหะ ๆ


-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอดนะคัฟ

ซาน้อยกลายร่างเป็นนาตาลี......ซารักทุกคนก๊าบบบบบ

-----เชิญระทม เอ้ย!! พบกับนิยายของซาจังได้แล้น------


ปล. ถึงใครบางคน หลังไมค์น่ะเช็คบ้างนะคัฟ รออยู่ ๆ (ตอบหลังไมค์เค้าช้าแล้วยังจะทวงเค้าอีกตรู)




"......อ่านแล้วไม่เม้นต์ไม่ว่า ก็แค่ไม่อัพแค่นั้นเอง....."



เจ๊เจี๊ยบ talk……...

โอ้ย....อิเจ๊สุดสวยคนนี้ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย อะไรกันนักหนา ไอ้เหมี่ยวพาสาวเข้าบ้านแถมยังเอาเข้าไปนอนในห้องอีก ทั้งที่เวลาจะกกสาวพ่อหลานรักจะพาไปกกที่คอนโดส่วนตัวที่มีอยู่เกลื่อนกรุงเทพ แต่กลับสาวคนนี้กลับเอามาซะที่บ้าน แต่ก็พอเข้าใจกรณีของเด็กที่ชื่อจอยนี่ก็พอเข้าใจ น่าสงสารอยู่ไม่น้อย

ไม่ ๆ...........ที่คนสวยอย่างฉันมาปวดหัวอยู่เนี๊ยะ เพราะไอ้ที่หลานรักของฉันมันบอกว่ามีแฟนแล้ว แต่ไม่ใช่คนนี้นี่มันยังไงของมัน....ก็พอเข้าใจละว่า มันน่ะเจ้าชู้ แต่........แฟนย่อมสำคัญกว่าคนที่มันบอกว่าเป็นอะไรนะ เป็นเบ๊ ใช่มันบอกว่าจอยเป็นเบ๊ ยังไงก็ต้องเห็นแฟนดีกว่าสิ แต่นี่พ่อคุณดันเอาเบ๊เข้าบ้านแทนที่จะเป็นเอาแฟนเข้าบ้าน เออ.....คนสวยงง

นั่น.........พอพูดถึงก็มากันพอดี ไปเดินซื้ออะไรมากันนะ

ปึ้ง!!!!!.....

เฮ้ย!!!!....พายุเข้าบ้านเหรอไงยะ อะไรกัน สาวน้อยของฉันเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าบอกได้ว่า ฉันโมโหนะยะ และไอ้หลานรักตัวดีก็ตามมา มันหอบอะไรมาวะนั้น ถุงกระดาษใส่ของสองถุงและตุ๊กตา ไอ้หลานคนนี้ชอบตุ๊กตาด้วยเหรอวะ

“สวัสดีค่ะพี่เจี๊ยบ” สาวน้อยทักทายฉัน

“จ๊ะ พากันเดินแถวไหนกันมา??”

“นรกแถวนี้แหละค่ะ ไอ้มารบ้านั้นพาไป” คำตอบน่ารักจริง ๆ เหมาะกับไอ้เหมี่ยวมาก

“อ้าว....พูดงี้หาเรื่องหรือไงยัยเบ๊!!!”

“นายไม่ต้องมาเรียกฉัน!!!!”

“เธอเป็นเบ๊ฉันแล้วทำไมฉันต้องเชื่อในสิ่งที่เธอบอกด้วย เธอต้องฟังฉันถึงจะถูก”

“ไม่มีทาง!!!!” เถียงกันน่ารักจริง ๆ

“เธอมาเอาไอ้ตุ๊กตาเฮงซวยนี่ไปเลยนะ ซื้อก็ซื้อให้แล้ว”

“ฉันไม่ได้บอกให้ซื้อนี่ ฉันจะซื้อเอง นายมาแย่งซื้อทำไมล่ะ”

“จะยังไงก็แล้วแต่เธอมาเอามันไปเลย ฉันไม่ใช่เบ๊เธอนะ”

แล้วจอยก็เดินมาเอาตุ๊กตาไป แต่เอาไปแค่ตัวเดียว เหลือตัวสีแดงไว้

“เอาไปทำไมแค่ตัวเดียว” ไอ้มารน้อย(ไอ้เหมี่ยว) ลดเสียงต่ำลง นี่คือสัญญาณบอกว่า ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ของมันล่ะ

“ฉันจะซื้อแค่ตัวนี้ แต่นายดันไปซื้อสองตัวทำไมล่ะ”

“แล้วทำไมไม่บอก”

“แล้วทำไมไม่ถาม”

ปากเก่งจริง ๆ พอกันทั้งคู่เลยสมกันยังกับผีเน่ากับโลงผุ แล้วจอยก็เดินขึ้นบันไดไป

“ตกลงฉันผิดใช่มั้ยที่ไม่ถาม”

“นายฉลาดเสมอแหละ ถูกต้อง นายผิด”

แล้วคุณเธอก็สะบัดก้นเดินเข้าห้องไป ไอ้มารน้อยยืนนิ่ง คงเจ็บใจสินะ ไม่เคยมีใครเถียงด้วยขนาดนี้นี่ แล้วมันก็ดึงตุ๊กตามาสบตาด้วย ระวังตุ๊กตาท้องนะยะ ไอ้มารน้อยยิ้มมุมปากใส่ตุ๊กตา แล้วก็โยนถุงกระดาษมาทางฉัน ก่อนที่มันจะเดินขึ้นบันไดไป ตามจอยไปเลย 5555 ไอ้หลานคนนี้มันคิดจะทักฉันหน่อยมั๊ยวะเนี๊ยะ ช่างมันเถอะ

แล้วมันโยนอะไรมาวะ ฉันเอื้อมมือไปหยิบถุงกระดาษสองถุงนั้นมา ถุงนี้คือเสื้อของไอ้มารน้อยแน่ สวยดี ไอ้หลานคนนี้ก็แต่งตัวดีแฮะ แล้วอีกอันหนึ่งล่ะ ฉันเอื้อมมือไปเปิดอีกถุง หยิบกล่องกำมะหยี่ขึ้นมาเปิดดู

“ไอ้นี่ทุ่มทุนสร้าง”

ฉันพึมพำ นี่เป็นของชิ้นที่แพงที่สุดที่ไอ้เหมี่ยวซื้อให้สาวมั้ง แสดงว่าคนที่เป็นเจ้าของต้องสำคัญกับมันมากแน่ ๆ แต่เป็นคนที่ไอ้เหมี่ยวแคร์เท่ากับสาวน้อยคนนี้ที่มันพามาบ้านมั้ยนะ







ฉันมองนาฬิกาข้อมือ หกโมงกว่าแล้วเหรอ ต้องไปที่ร้านสักหน่อยแล้ว ขึ้นไปบอกไอ้เหมี่ยวก่อนดีกว่า เออ...ลองชวนมันไปที่ร้านด้วยท่าจะดี แล้วฉันก็เดินไปเคาะประตูห้องของมัน ทำไมมันไม่เปิดประตูวะ หรือว่าฆ่ากันตายไปแล้ว เอ๊ะ!!!!!! หรือว่าอย่างอื่น

“มาแล้ว ๆ ว่าไงเจ๊”

ไอ้เหมี่ยวมาเปิดประตูห้องให้ฉัน ตอนนี้ท่อนบนมันเหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาว ส่วนข้างล่างยังครบ สายตาฉันเหลือบไปบนเตียง จอยนอนคลุมโปงอยู่ มีเสื้อไอ้เหมี่ยววางอยู่บนเตียง แต่นั่นมันเสื้อที่จอยใส่เมื่อกี้นี่หว่า ทำไมมันถึงหล่นอยู่ข้างเตียงล่ะ เหอ ๆ อิเจ๊คนนี้รู้แล้วทำไมมาเปิดประตูช้า

“อ้าว...มาเคาะให้เปิด เพื่อที่จะมายืนยิ้มให้ดูเนี๊ยะนะ”

“เออ...จะไปร้านแล้ว ไหน ๆ ก็กลับบ้านจะไปที่ร้านมั้ย ทุกคนคงคิดถึงแย่”

“เจ๊ก็รู้ว่าที่นั่นใคร ๆ ก็รู้จักเหมี่ยว เดี๋ยวความก็แตกกันพอดี” ไอ้เหมี่ยวกัดฟันพูด

“จะไปมั้ยล่ะเดี๋ยวจัดการให้ พาจอยไปด้วย” ไอ้เหมี่ยวหันไปมองจอย

“อืม..... ดึก ๆ เจอกันละกัน แล้วยื่นมองอะไรอยู่ล่ะ ไปร้านสิ” รีบไล่เลยนะไอ้เด็กเวร

“แล้วเจอกันที่ร้าน ออมแรงหน่อยล่ะ” ว่าแล้วมันก็ปิดประตูเลย ไอ้เด็กบ้า!!!!

ฉันเดินมาขึ้นรถของตัวเอง ก็จะขับออกจากบ้านไปปล่อยให้อยู่กันสองคนนะดีแล้ว จะได้กระชับความสัมพันธ์ อิอิ....








Mameiw talk.........

เสียงเพลงกระหึ่มในร้านของเจ๊เจี๊ยบ เพลงได้ใจวัยรุ่นจริง ๆ วันนี้วันเสาร์คนจะเยอะมาก ก็พรุ่งนี้เป็นวันหยุดอีกวันหนึ่งนี่นะ ขาเที่ยวเลยมากันเต็ม ผมยกนาฬิกาข้อมือมาดู ห้าทุ่ม ผมมาถึงร้านตั้งแต่สามทุ่มพร้อมกับยัยเบ๊นั่นแหละ แต่เจ๊แกลากยัยเบ๊ไปไหนไม่รู้ ตอนแรกกะนอนอยู่บ้านจะไม่มาแล้วนะ แต่ยัยเจ๊ก็โทรจิกจนได้ นอนอยู่บ้านสบายกว่าแท้ ๆ ก็แหงล่ะสิมียัยเบ๊ให้กอดทำไมจะไม่ดี ผมนั่งรอยัยเบ๊พลางคิดถึงเรื่องเมื่อเย็น

^


^


^

“ยัยบ้า!!!! เธอเห็นฉันเป็นเบ๊เธอหรือไงถึงได้ให้ฉันถือไอ้ตุ๊กตาบ้าบอนี่น่ะ” ผมแหกปากทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง

“แล้วใครใช้ให้นายถือไว้ล่ะ” น่ารักจริง ยัยเบ๊ที่เคารพ

“มันน่ารักตรงไหนไอ้ตุ๊กตาปีศาจพวกนี้น่ะ”

“น่ารักกว่านาย 100 เท่า เลยล่ะ” ผมอยากเอาตุ๊กตาที่ผมถืออยู่ฟาดกะบาลยัยเบ๊นี่จริง ๆ

~~เปลี่ยนกันไหมให้เธอเป็นคนถูกทิ้ง มาเป็นผู้หญิงที่ต้องไม่มีไม่เหลือใคร..~~ ยัยเบ๊รีบรับโทรศัพท์ ใครโทรมา ทำไมรีบรับขนาดนั้น

“สวัสดีค่ะ ค่ะ.....อาทิตย์นี้หนูขอกลับมาค้างที่บ้านนะคะ........ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ พรุ่งนี้ตั้งแต่บ่ายสามเลยนะคะ ค่ะ....ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านนะคะ อยู่บ้านเพื่อน เออ....อาจารย์สุนันท์คะ เออ...ค่ะ พี่นันท์”

ไอ้ทอมเฒ่านั้นโทรมาเหรอ มันรู้เบอร์ยัยเบ๊ได้ไง แล้วทำไมต้องเรียกกันพี่นงพี่นันท์ด้วยสนิทอะไรนักหนา ? แล้วทำไมต้องโทรมาเช็คด้วย? นัดแนะกันไปไหน ? <<<<<<<<อาการเยี่ยงนี้แถวบ้านข้าเรียกว่า หึงวะเหมี่ยว>>>>>>>>

“อ๋อค่ะ ได้ค่ะ จริงเหรอคะ!!! น่าแปลกใจเหมือนกันค่ะ หนูด้วยเหรอคะ?!?!? กรี๊ด....พี่ไม่ได้โกหกหนูนะ อะไรก็ได้เหรอคะ เดี๋ยวค่อยคุยกันก็ได้ค่ะ อ๋อ...อยู่บ้านเพื่อนไงคะ บ้านของ…..”

ไม่ไหวแล้วโว้ย!!!!! มากงมากรี๊ดอะไรกัน คุยอะไรอีก ผมเดินไปคว้ามือถือยัยเบ๊มา

“นายจะทำอะไรน่ะ?!?!?”

“ฮัลโหล...หมดธุระแล้วใช่มั้ย? แค่นี้ละกัน แฟนกันเค้าจะอยู่ด้วยกันขัดคออยู่ได้” แล้วผมก็กดวาง

“นายทำบ้าอะไรน่ะ เอาคืนมานะฉันจะโทรกลับ”

เกินไปแล้วโทรกลับเหรอไม่มีทาง ผมกดปิดเครื่องโทรศัพท์ยัยจอยซะ ดีเท่าไหร่ไม่ขว้างทิ้ง

“ทำไม....แล้วจะคุยอะไรนักหนา ที่โรงเรียนก็เจอกันทำไมไม่คุย จะมาโทรคุยกันทำไม?”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ ฉันจะคุยกับใคร”

“ไม่ได้ห้ามคุยกับใคร”

“ทำไม?” ทำไมยัยนี้ต้องมาย้อนผมด้วย

“เพราะเธอเป็นเบ๊ของฉันไง”

“ถ้าเหตุผลแค่นี้ละก็นายห้ามฉันไม่ได้”

แล้วยัยเบ๊ก็มาคว้าเอาโทรศัพท์ไป แล้วเปิดเครื่อง แค่เปิดเครื่องเท่านั้นแหละ เสียงโทรศัพท์ยัยนี้ก็ดังขึ้น หน๋อย...เปิดเครื่องปุ๊บก็โทรมาเลยนะ ผมคว้าโทรศัพท์มา

“ฮัลโหล จะอะไรกับแฟนชาวบ้านอีก”

(จอยไม่มีแฟนนี่)

“ก็ฉันนี่ไง” แล้วก็กดวาง

“นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้” ยัยเบ๊โวยวาย

“เอาคืนมา”

ยัยเบ๊เข้ามาแย่งโทรศัพท์จากผม ไม่มีทาง โทรศัพท์ดังอีก คราวนี้ผมกดทิ้ง

“นายทำบ้าอะไร?!?”

“ก็ฉันหึง!!!” <<<<<<<< ยอมรับจนได้ WA…..HA…..HA <<<<<<<

หยุด............ยัยจอยนิ่งมองหน้าผม โทรศัพท์ดังขึ้นอีกคราวนี้ผมไม่กดทิ้งไม่รับปล่อยให้แมร่__ดัง อยู่อย่างนั้นแหละ ยัยเบ๊เดินไปนั่งที่ขอบเตียงอีกด้านหนึ่ง ผมเอาโทรศัพท์วางไว้ที่หัวเตียง แล้วเดินไปโอบยัยนี้จากด้านหลัง

“เป็นอะไร”

“ก็นายมัน.....”

แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก ผมปล่อยให้ยัยนั่นไปรับโทรศัพท์ ผมล้มตัวลงนอนที่เตียง

“ค่ะ หมอนี่มันบ้าค่ะ โรคจิต ไร้มารยาท นิสัยแย่ ห่วยสุด ๆ .....แต่...”

เอาเข้าไป พอไม่ว่าเอาใหญ่ ผมนอนหันหลังเอาหมอนปิดหูซะงั้น เลยไม่ได้ยินว่ายัยนี้พูดอะไรอีก ขี้เกียจจะฟังเชิญจ๊ะจ๋ากันตามสบายเลย.....ฮึ้ย!!!!







“นี่.......หลับเหรอ ว้าย!!!!!....” เมื่อยัยเบ๊มาสะกิดผมก็คว้าร่างยัยนั่นมากอด

“ฉันโรคจิตใช่มั้ย? ใช่ฉันมันบ้า!!! ไร้มารยาท!!! ห่วย!!!”

“นายฟังฉันคุยจนจบหรือเปล่าล่ะ”

“ใครจะมานั่งฟังละ ฟังแฟนตัวเองด่าตัวเองเนี๊ยะนะ” ยัยนั่นทำตาโต

“ฉันเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไร?”

“เมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ” ผมรวนซะงั้นเลย

“แล้วขิง แฟนนายล่ะ” ทำไมยัยนี้ชอบพูดให้ผมสะอึกอยู่เรื่อยนะ

“หยุดพูดชื่อนี้สักวันหนึ่งเธอจะตายมั้ย ตอนนี้อยู่ด้วยกันตรงนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง” ยัยเบ๊หลบตาผม

“ให้ตายเถอะ ฉันชอบเธอไปได้ยังไงเนี๊ยะยัยเบ๊”

“ฉันสวยไง”

“แหวะ.....”

“อย่ามาแหวะ นายก็หลงตัวเองเหมือนกันแหละ” ผมชักหมั่นเขี้ยวยัยนี้อีกแล้ว

“แล้วเธออะหลงฉันป่าว” ผมยิ้มใส่ยัยเบ๊ ยัยนี้หน้าแดงแป๊ดเลย ผมยิ้มกว้างขึ้นอีก

“ยิ้มทำไม.....”

“ไม่มีอะไร” ผมไม่หยุดยิ้ม ก็หน้ายัยนี่นะมันฟ้องหมดทุกอย่างเลยอ่ะ

“หยุดยิ้มนะ”

“หยุดก็ได้ แต่บอกก่อนสิว่าเธอก็ชอบฉัน”

“ไม่มีทาง”

“บอกดิ” ยัยเบ๊ทุบผมที่ไหล่ เจ็บนะยัยบ้า

“ไอ้บ้า!!! มีแฟนอยู่แล้ว มาชอบคนอื่นได้ยังไง” ผมรวบมือยัยเบ๊ไว้

“บอกแล้วใช่มั้ยว่าตอนนี้มีแค่เราอย่าพูดถึงคนอื่น สำหรับฉันตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุดแล้ว” ยัยเบ๊หน้าแดงหลบตาผม

“เธอเป็นเหมือนฉันมั้ย?” ผมถามยัยเบ๊ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยัยเบ๊พยักหน้า

“ผู้หญิงทุกคนชอบตุ๊กตากันทั้งนั้นแหละ” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ฉันถามเธอเนี๊ยะ

“โดยเฉพาะตุ๊กตาที่คล้ายกับคนที่ตัวเองชอบ เข้าใจป่ะไอ้มารน้อย”

ที่อยากได้ตุ๊กตาอุบาทว์นั้นเพราะอย่างนี้หรอกเหรอ แต่เอ๊ะ!!!! เธอว่าฉันเป็นมารเหรอ ยัยนี่... แต่ช่างเถอะ

ให้ตายผมไม่เคยใจเต้นมากขนาดนี้เลย แค่ยัยนี้บอกว่าชอบหัวใจมันพองคับอกขนาดนี้เลยเหรอเนี๊ยะ ผมจูบยัยเบ๊ ยัยเบ๊ไม่ขัดขืน ปล่อยผมทำตามใจชอบ เสื้อผ้ายัยเบ๊ถูกปลดจนเกลี้ยง ผมถอดเสื้อยืดออก จากนั้นก็ระดมจูบยัยเบ๊

เสียงเคาะประตูทำให้ยัยเบ๊ผลักผมออก ใครมาเคาะวะ ยัยเบ๊คว้าผ้าห่มมาคลุมตัว ผมเดินไปเปิดประตู


เจ๊เจี๊ยบมายืนอยู่หน้าห้อง มาได้จังหวะจริง ๆ ผมคุยอยู่กับเจ๊แกแป๊บหนึ่งเจ๊แกก็ไป ผมรีบปิดประตู เดินมาหายัยเบ๊ที่เตียงก่อนจะดึงผ้าห่มออก

“คลุมทำไม?” ผมพยายามดึงผ้าห่มออก

“ไม่เอา”

“ทำไมล่ะ?” ยัยเบ๊โผล่หน้าออกจากผ้าห่ม

“ปล่อยผ้า จะต่อ....”

“ต่ออะไรยะ???”

“ต่อจากเมื่อกี๊ไง” ไม่เข้าใจอารมณ์คนหรือไงยัยบ้า

“ไม่!!!”

“ทำไม?!!?”

“ฉันอาย” จะบ้าตาย

“มาถึงขั้นนี้แล้วเธออายอะไรเนี๊ยะ” ผมละเชื่อยัยนี่จริง ๆ

“ก็อายเจ๊” ผมซบหน้ากับหมอน

“ป่านนี้เจ๊ไปถึง นราธิวาสแล้ว มาอายอะไรกับเจ๊เล่า”

“กอดเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ” ยัยเบ๊ต่อรอง โอ้ย.....ฉันจะบ้า

“นะ...ชมพู่”

ยัยเบ๊ส่งสายตาออดอ้อนมาให้ ให้ตาย....น่ารัก น่าฟัด น่า......อ๊ากกก ผมพยักหน้า ก่อนจะหลับตาลง

“งั้นก็มาให้ฉันกอดซะ มานี่”

ยัยเบ๊ขยับตัวมาใกล้ ๆ ผม เฮ้อออ...ไอ้เหมี่ยวเอ้ย............กลายเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงซะงั้น

แค่นึกผมก็ขำตัวเอง ผมทนได้ยังไง ถ้าเป็นคนอื่นผม.....*0*.....ไปแล้ว แต่แค่ยัยนี่เอ่ยแค่คำเดียวผมก็ยอมง่าย ๆ ซะอย่างนั้นเลย..............ยัยเบ๊มีอิทธิพลกับผมขนาดนี้เลยเหรอ







แปดปีผ่านไปไวเหมือนโกหก....ก็ใช่อะครับ....โกหก ผมนั่งแหงกอยู่ที่โต๊ะรอยัยเบ๊กับเจ๊เกือบสามชั่วโมงแล้ว ให้ตายยัยเบ๊ไปไหน ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดูอีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้วนะ ยัยบ้านั้นหายไปไหน

“ว้าว....นึกว่าใคร มะเหมี่ยวนี่เอง”

ผมหันไปมองผู้หญิงที่มาทัก สวย....เธอสวยถูกใจมาก ชุดที่ใส่มาก็แสนจะเซ๊กซี่เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปสีดำ กระโปรงสั้นจู๋สีเดียวกัน ผู้หญิงคนนี่หุ่นสุดยอดจริง ว่าแต่รู้จักผมได้ไง?

“ครับ”

“มาคนเดียวเหรอ เห็นนั่งตั้งนานแล้ว ไปนั่งกับมินต์มั้ยคะ วันนี้มินต์ว่างนะ”

เอาแล้วไง มินต์ไหนวะ? นึกไม่ออก สงสัยเด็กเที่ยวที่ผมเคยกิ๊กด้วยแน่

“เออ....มากับ”

“มากับแฟนค่ะ”

ผมหันไปทางเสียงที่บอกว่าเป็นแฟนผม...... ใครอีกวะ ผมไม่รู้จักนะคนนี้....... ผู้หญิงคนนี้ผมยาวดัดเป็นลอนสวย ชุดเดรสสีแดงเพลิง<<<<<มันอะไรกะชุดแดงนักก็ไม่รู้แฮะไอ้คนแต่งเนี๊ยะ>>>>>ที่เธอใส่ตัดฉับกับผิวขาวเนียนของเธอ ริมฝีปากที่ทาสีแดงอมส้มนั้นน่าจูบจัง แก้มถูกปัดอ่อน ๆ ไม่จัดเท่าผู้หญิงอีกคน ดวงตาถูกแต่งแต้มด้วยมาสคาร่าและอายชาโดว์ดูมีเสน่ห์ชวนมองจริง ๆ เธอเดินเข้ามาแทรกระหว่างผมกับผู้หญิงที่ชื่อมินต์ก่อนจะกอดแขนของผมอย่างเป็นเจ้าของ

“แหม...งั้นวันนี้มะเหมี่ยวก็ไม่โสดสิเนี๊ยะ”

“ใช่ค่ะ และนับจากวันนี้ต่อไปก็ไม่โสดค่ะ” เสียงคุ้น ๆ แฮะ เดี๋ยวเสียงแบบนี้นี่มัน

“งั้นไปนะคะ” มินต์เดินจากไป และก็เป็นทันทีที่สาวสวยคนนี้ปล่อยมือจากผม

“ทำไมเค้าทักนายชื่อเหมี่ยวอะ ???” นั่น มาแล้วเครื่องหมายคำถาม

“เออ....ยังไงดีล่ะ เวลาเที่ยวจะใช้ชื่อนี้น่ะ ว่าแต่เธอไปทำอะไรกับตัวเองมาเนี๊ยะ” ผมเอ่ยขึ้น ยัยเบ๊พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้มดูตัวเอง

“เจ๊ต่างหากที่ทำ ฉันไม่ได้ทำ”

ยัยเบ๊ ให้ตายพอจับแต่งตัวก็กลายเป็นอีกคนเลยนะ ยัยเบ๊จ้องหน้าผม ก่อนจะไปนั่งก้าวอี้อีกตัว เฮ้อ.....รอดไปอีกเปราะ ไหนเจ๊ว่าจะเคลียร์ให้ไงวะ

“เป็นยังไงบ้าง นางซิน” เสียงเจ๊เจี๊ยบดังขึ้น

“เจ๊ทำอะไรยัยนี่เนี๊ยะ” ผมถามทันที

“ก็ไม่ได้ทำอะไร พอดีวันนี้ช่างประจำตัวมาเที่ยวด้วยเลยให้เขาแปลงโฉมนางซินนิดหน่อย”

“ลงทุนใส่วิกเลยเหรอ” เจ๊เจี๊ยบส่ายหน้า

“ต่อผมเลยต่างหาก”

“มีอุปกรณ์ด้วย?????” ผมถาม เจ๊เจี๊ยบยักไหล่

“ชั้นบนถ้าจะเปิดเป็นร้านเสริมสวยก็ยังได้เลย แกก็รู้” เจ๊เจี๊ยบบอกผม

“เดี๋ยวฉันไปดูทางโน้นก่อนนะ”

แล้วเจ๊ก็เดินไป ผมกระดกเหล้าเข้าปากส่วนยัยเบ๊ก็ดูโน้น ดูนี่ ไปเรื่อยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองน่ะกลายเป็นจุดเด่นขนาดไหน โต๊ะข้าง ๆ และหลาย ๆ คนที่ผ่านมาจ้องกันตามเป็นมัน ไม่ได้การ.....ผมลุกออกจากเก้าอี้ไปยืนอยู่ข้าง ๆ ยัยเบ๊ โอบเอวไว้ซะ ยัยเบ๊หันมามองหน้าผม ผมเลิกคิ้วให้

“น่าดีใจเน๊อะ” ผมกระซิบยัยเบ๊

“เรื่องอะไร”

“ก็......เธอบอกว่าฉันมากับแฟนก็...........คือเธอไง” ผมยิ้มใส่ตายัยเบ๊

“ฉันก็แค่ไม่อยากให้ยัยขิงช้ำใจตายถ้ารู้ว่านายมีสาวเยอะแยะหรอก เลยกันท่าให้”

“เหรอ....ไม่ใช่เพราะหึงหรอกเหรอ” ผมยิ้มอย่างรู้ทันยัยเบ๊

“เชอะ!!!! ใครจะหึงนายยะ อย่ามาหลงตัวเอง” ผมยิ้ม

“จ้า” ผมยกเหล้าเข้าปาก ก่อนจะชงอีก

“เดี๋ยวก็เมาหรอก.....ฉันขับรถไม่เป็นนะ” ยัยนั้นแย่งแก้วเหล้าไป

“เธอจะกินแทนฉันมั้ยล่ะ ถ้าไม่กินก็เสียดายแย่ เปิดชุดนี้เป็นพันเลยนะ” ยัยเบ๊มองหน้าผม

“ฉันกินเป็นที่ไหนล่ะ” ผมยักไหล่ชงเหล้าต่อแล้วก็ยกดื่มอีก ยัยเบ๊รั้งมือไว้

“อะไร”

“ไม่กินไม่ได้หรือไง” ยัยเบ๊มองหน้าผม

“เสียดายเหล้า”

“แล้วถ้าฉันกินแทน นายจะหยุดกินใช่มั้ย?” ยัยเบ๊พูดอย่างชั่งใจ ผมพยักหน้า

“ก็ได้ กินก็กิน แต่ของชงบาง ๆ ได้ป่ะ ชงแบบนายฉันเมาตายแน่”

ผมยิ้ม แล้วหยิบแก้วใบใหม่ขึ้นมา ได้.........ชงบาง ๆ ก็ได้ เธอกลัวเมางั้นเหรอยัยเบ๊....ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันมีวิธีให้เธอเมา

“ได้แล้วครับ องค์หญิงเบ๊”

ยัยเบ๊ค้อนผมซะวงใหญ่ ก่อนจะรับแก้วเหล้าไปดม นี่เธอเหล้านะไม่ใช่ยาพิษจะได้ดมหากลิ่น ยัยเบ๊ค่อย ๆ จิบเหล้า ก่อนจะทำหน้าเบ้

“นายกินเข้าไปได้ยังไงขมจะตาย” ยัยเบ๊แลบลิ้นทำหน้าเฝื่อนสุดฤทธิ์

“ชินมั้ง ไม่เห็นจะขมเลย” ว่าแล้วผมก็ทำท่าจะยกแก้วเหล้ามาดื่ม ยัยเบ๊ดึงไว้

“ไหนว่าจะไม่กินแล้วไงถ้าฉันกินแทน”

“ถ้าเธอกินนะฉันว่าเหล้าไม่หมดหรอก แค่แก้วเดียวยังไม่พร่องเลย แล้วที่เหลือเป็นขวดล่ะ”

ผมแกล้งว่าแกมท้ายัยเบ๊ไปงั้นแหละ

“แล้วถ้าฉันกินหมดล่ะ” นั่นปะไร

“ถ้าเธอกินหมด เธอก็เมาไง” คิดเหรอว่าฉันจะหลงไปพนันอะไรกับเธอไม่มีทาง

“เอาเถอะ ยังไงอย่างเธอก็ไม่มีทางกินหมดหรอก เดี๋ยวฉันกินเอง” ผมพูดสบประมาทอีก

“ฉันจะกินให้หมดทั้งขวดนั่นแหละ คอยดู”

ตกหลุมฉันแล้วยัยเบ๊ ผมทำหน้าท้าทายยัยเบ๊ คนอย่างยัยเบ๊โดนท้ามีเหรอจะยอม ยัยนั้นยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ผมก็ชงต่อให้อีกทันที

หึหึ........เธอเมาแน่ยัยเบ๊ แก้วที่สอง แก้วที่สาม ต่อไปเรื่อย ๆ และทุกแก้วที่ผมชงความหนักของเหล้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สีบนใบหน้าของยยเบ๊ก็เริ่มแดงเพราะฤทธิ์เหล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

“เพลง...ซา หนุก จางเนอะ” เสียงยานคางของยัยเบ๊บอกผมได้ดีเลยล่ะ.......ว่ายัยนี่เมาแล้ว

“เสียงเหมือนเมาเลยนะ เมาแล้วใช่มั้ย?” ผมกระซิบข้าง ๆ หูยัยเบ๊ อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้เลยงับติ่งหูเบา ๆ ยัยเบ๊หลับตานิ่ง

“ฉ้าน ม้ายยย ด้ายย มาววว” คนเมาทุกคนมักจะบอกว่าตัวเองไม่เมาเสมอ.....

“อยากเต้นมั้ย?” ยัยเบ๊พยักหน้า ผมเลยดันร่างยัยเบ๊ เพื่อให้ไปเต้นกลางฟลอร์

“จะ ปายหนายยย”

“ไปเต้นไง” ยัยเบ๊ส่ายหน้า

“จาเต้นตรงนี้”

อะจ้า ไม่ไปก็ไม่ไป ผมกลับมานั่งเก้าอี้ตามเดิม มือยังจับแขนยัยเบ๊ไว้ ขนาดยืนเธอยังยืนแทบไม่ไหว แล้วเธอจะเต้นนี่นะ ถ้าจับกบขึ้นมาจะฮาให้

ยัยเบ๊เริ่มขยับตัวตามจังหวะของดนตรีที่ดังกระหึ่ม โต๊ะที่ผมนั่งอยู่เป็นโซนที่ค่อนข้างเด่นที่เดียวเพราะมันถูกยกให้สูงจากพื้นเกือบครึ่งเมตรได้ ให้ตายเถอะพอยัยเบ๊เต้นอยู่แบบนี้แล้ว ไอ้พวกเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลาย หันมามองเป็นตาเดียว ก็แค่ชุดยัยเบ๊ก็กินขาด หน้าตาขนาดยังไม่ได้แต่งยังเซ็กซี่เลย แล้วตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง แถมท่าเต้นยังยั่วกิเลสอีกต่างหาก

“วิ้ว.....ลงมาเต้นกับพวกพี่ดีกว่าน้อง”

เสียงไอ้ห่__ตัวไหนตะโกนมาวะ ท่าจะไม่ดีซะแล้ว ผมกระตุกแขนยัยเบ๊เบา ๆ ยัยเบ๊หันมามองแล้วก็เดินมาหาผม

“อารายยย” เสียงเธอนี้มันเมาได้ใจจริง ๆ

“เอาน้ำมั้ย??” ผมคิดว่าเหล้าไม่ควรเข้าปากยัยนี้อีก ไม่งั้นคงหมดสภาพมากกว่านี้ ยัยเบ๊ส่ายหน้าดิก

“จา.....กิน......เหล้า”

โอ้........ยัยเบ๊ขี้เมาเอ้ย..... ผมมองหน้ายัยเบ๊ ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าของยัยเบ๊มาชง และกระดกใส่ปากตัวเอง

“ฉ้านจากิน ม้าย ช่าย นายกิน”

ผมรั้งหน้ายัยเบ๊เข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะจูบยัยเบ๊ เหล้าที่อยู่ในปากของผมไหลสู่ปากยัยเบ๊อย่างรวดเร็ว บางส่วนทะลักออกจากปาก ผมไม่ปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปหรอก ผมควานชิมความหวานภายในปากยัยเบ๊อย่างหยามใจ (เลียนแบบเรย์กะเกี๊ยวก๊าบบบบบ.......เอิ๊ก ไอ้คนเขียนแมร่_งคิดมุกไม่ออกแล้ว)

“จะเอาอีกมั้ย เหล้าน่ะ” ยัยเบ๊มองผมด้วยสายตาราวกับน้ำเชื่อม ยัยเบ๊ขยับเข้ามาใกล้ผม

“เอาอีก”

ผมยิ้มไม่รอช้าทำแบบเดิมอีกคราวนี้จูบกันนานกว่าเก่ามาก ผมชักห้ามตัวเองไม่ค่อยได้แล้วสิ ยัยเบ๊เชิญชวนผมมากเกินไปแล้ว ร่างกายเธอเบียดชิดผมจนแทบไม่มีช่องว่างเลย มือผมอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว ยัยเบ๊กอดผมแน่น ไม่ได้แล้ว ก่อนจะเลยเถิดผมรีบถอนริมฝีปากออกมา แสนเสียดายความหวานตรงหน้า

“จา.....อาวอีก” ยัยเบ๊เริ่มงอแง

“เอาอีกเหรอ” ยัยเบ๊พยักหน้าเป็นคำตอบ

“งั้นไปกินที่อื่นมั้ย???” หุหุ ได้เวลาจับเหยื่อเข้าปากแล้ว

“ที่หนายยย”

“ที่บ้านไง กลับไปกินที่บ้านเรา”

ยัยเบ๊นิ่ง ถ้าเธอไม่ไปก็จะพาไปแล้วโว้ย คืนนี้ไม่ยอมชวดเหมือนตอนเย็นหรอก

“นะ.....ไปกินต่อที่บ้าน”

ผมกระซิบเบา ๆ ข้าง ๆ หูยัยเบ๊ ยัยเบ๊พยักหน้า ผมรีบพยุงยัยเบ๊เดินออกจากร้านทันที ไม่อยากให้ช้าแม้แต่วินาทีเดียวเลยล่ะ..................................







ผมค่อย ๆ วางยัยเบ๊ลงบนเตียง กว่าจะพาขึ้นมาถึงได้เตียงได้ทุลักทุเลแทบตายเลยล่ะ ยัยเบ๊เล่นเดินชนโน้นชนนี้ไปเรื่อย คอยดูนะพรุ่งนี้เธอจะมีแต่รอยช้ำ ผมนั่งมองยัยเบ๊ที่นอนหลับสนิท กะกลับมาถึงบ้านแล้วจะฟัดซะให้น่วมเลยดันหลับซะได้ แล้วใครจะทำตอนหลับล่ะ ไม่ชอบลักหลับอะ ไม่ได้อารมณ์

ผมจับผมยาว ๆ ของยัยเบ๊ที่ถูกต่อแล้วก็ดัดเป็นลอน ผมค่อย ๆ ลูบหน้ายัยเบ๊เบา ๆ ผมก้มลงจูบเปลือกตายัยเบ๊เบา ๆ อะไรกันวะ แค่นี้เองนะไอ้เหมี่ยว แกใจเต้นขนาดนี้เลยเหรอ ทำยังกับไม่เคยจูบสาวยังงั้นแหละ ยัยเบ๊ขยับตัว ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดูท่ายังไม่สร่างแฮะ แสงไฟหัวเตียงทำให้ยัยเบ๊หยีตา

“ที่ไหนเนี๊ยะ???”

“บ้าน” ผมล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ยัยเบ๊ จมูกซุกไซร้ตามซอกคอยัยเบ๊ ยัยเบ๊หลับตา

“ยัยเบ๊.....”

ผมพูดเบา ๆ ยัยเบ๊หันหน้ามามองผม สายตายั่วยวน ผมรู้ว่ายัยนี่ไม่ได้ตั้งใจมองผมแบบนี้หรอก แต่ถึงอยากนั้นก็เถอะผมก็เหมาเอาเองแล้วว่ายัยนี่ยั่ว

“อยากจูบ”

ผมไม่ได้พูดนะ สาบานผมไม่ได้พูด ผมยังตกใจเลยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากยัยเบ๊ ยัยเบ๊พลิกตัวขึ้นคร่อมตัวผมไว้ ก่อนจะจูบผมเบา ๆ ยัยเบ๊ลากริมฝีปากวนอยู่อย่างช้า ๆ ก่อนจะกดหนัก ๆ ลงมาแล้วสอดลิ้นเข้ามาในปากของผม ผมอึ้ง ทึ่ง เสียว ยัยเบ๊จะปล้ำผมมั้ยเนี๊ยะ แต่ถ้าจะปล้ำก็ยอมล่ะ ก็ชอบไปแล้วนี่ทำไงได้

ยัยเบ๊ถอนริมฝีปากออกจากผมอย่างรวดเร็ว จนผมยังตกใจ ยัยเบ๊เอามือมาลูบที่ต้นคอของผมเบา ๆ

“วันน้าน ฉันเห็นนะ” เห็นอะไรวะ? ผมไม่ได้ถามออกไปหรอกเพราะรู้ว่าเดี๋ยวยัยนี้ก็ต้องพูดออกมา

“ฉันเห็น ยัยอาจารย์นั้นทามกับนายอย่างเน้…..”

“แล้วนายก็พา ยัยบ้านั่นปายเท่มุมตึก ฉ้านเห็นนายจูบเค้า เห็นนาย............”

ยัยเบ๊สาธยายจนผมเห็นภาพเลยล่ะ เธอมาพูดอะไรตอนนี้เนี๊ยะ

“ฉานแกล้งร้องเสียงดังเองแหละ หมั่นไส้ ม่ายชอบ ม่ายอยากให้นายใกล้ยัยนั้น ฉันไม่ชอบ”

ผมลุกขึ้นทั้งที่ยัยเบ๊ยังนั่งอยู่บนตัวผม ผมกอดยัยเบ๊ไว้จ้องลึกเข้าไปในดวงตา

“หึงเหรอ” ยัยเบ๊พยักหน้า

“ช่าย.......หึง มากด้วย ไม่อยากให้ใกล้ใคร ยัยคนเมื่อกี้ก็เหมือนกัน ยัยมินต์ยัยมืดอะไรนั่นน่ะ นั่นก็ไม่ชอบ”

ผมยิ้ม ยัยนี่น่ารักจริง ๆ ผมชักจะหลงแล้วสิ

“งั้นทีหลังไม่ทำแล้วจะไม่ยุ่งกับสาว ๆ คนไหนอีกก็ได้ พอใจมั้ยครับคุณนาย”

ยัยเบ๊ยิ้มน่ารักให้กับผม อ่า.....น่ารัก ๆ แบบนี้ใครจะห้ามใจไหวละครับ ผมจูบยัยเบ๊หนัก ๆ มือผมลูบตามต้นขายัยเบ๊ จนกระโปรงเลิกขึ้นมาที่ต้นขา

“อืม” เสียงยัยเบ๊สั่นอารมณ์ผมจริง ๆ ผมจูบไซร้ซอกคอยัยเบ๊

“ชมพู่....” เสียงยัยเบ๊สั่นสะท้าน

“ว่าไงคะ” ผมตอบไปด้วยเสียงที่สั่นไม่แพ้กันเลยล่ะ

“ฉัน ฉัน.....ฉัน.....ระ.....อุก” เสียงยัยเบ๊สะอึก ตัวยัยเบ๊กระตุกแปลก ๆ

“เป็นอะไร??????”

“อุก.....อุบ...” อาการแบบนี้

“เฮ้ย!!!!!อย่าเพิ่งนะ ยัยเบ๊ อย่า...”

“อุ...แหวะ...” ไม่ทันแล้ว

พระเจ้า......ตอนเย็นเจ๊เจี๊ยบเข้ามาขัด ตอนกลางคืนเมาจนอ้วก แถมอ้วกใส่ผมอีก

เอาออกมาให้หมดเลยที่รัก เอาให้สะใจ นั่นแหละอ้วกออกมา อ้วกราดตัวฉันเลยนั่นแหละ ดีมาก ให้ตาย.................ฉันรู้แล้วว่า...............เธอรักฉันจริง ๆ

ฉันอยากตาย...............

..........นี่คือผลของการคิดจะมอมเหล้าสาว....รับกรรมไปเถอะเหมี่ยวเอ้ย.........

...................อาเมน...................

ตรูสะใจเฟ้ย............กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก


"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 13ตอนที่ 15 >




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2549
0 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2550 23:13:14 น.
Counter : 1136 Pageviews.


samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.