|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Slipknot Live in Bangkok 9 หน้ากากจากนรกกับการคลายเงื่อนปมของตนเอง
โดย merveillesxx
M-Max Live Never Stops Concert on [V] Rock Day - Slipknot Live in Bangkok Date: 10 Nov 2004 Venue: Aktiv Square Show: 20.00 Ticket: 1000 / 800 Baht Promoter: BNT
As we maintain in the chaos, the fire becomes fuel and our hearts are the engine. We will flood this system with blood if we have to, and we will rule the world with cold retina and firm beliefs Slipknot
นั่นคือคำกล่าวอันบ่งบอกเจตนารมณ์ของทั้ง 9 หน้ากากจากนรกในอัลบั้มชุดล่าสุด
.
Slipknot น่าจะถือเป็นวงอันดับต้นๆที่จุดกระแสแนวเพลงแบบนี้ในบ้านเรา อย่างน้อยที่สุดคุณก็สังเกตได้จากเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาที่คนใส่เสื้อของวงนี้กันทั่ว พอกับยุคหลังๆที่เป็นเสื้อสัญลักษณ์ LP นั่นแหละ ในที่สุดหลังจากที่รอคอยมาเป็นเวลานาน Slipknot ก็มาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราจนได้ เช่นเดียวกับหลายๆศิลปินอย่าง Oasis, Mariah Carey ฯลฯ ที่จะมาเล่นในเมืองไทยเมื่อถึง ขาลง ของอาชีพ Slipknot ก็คงจัดอยู่ในกรณีนี้เช่นเดียวกัน เพราะอัลบั้มล่าสุดอย่าง Vol.3 (The Subliminal Verses) (2004) ผมพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ห่วย สุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องที่ขาดพลัง แนวเพลงดนตรีที่อ่อนด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ขอสารภาพว่าวินาทีที่ได้ยินเสียงตีคอร์ดกีต้าร์โปร่งออกมาจากลำโพงนี่ ผมอึ้งไปเลย นึกว่าใส่ผิดแผ่น) นั่นคงเพราะว่าทางวงดันทำอัลบั้มดีๆอย่าง Slipknot (1999) และอัลบั้มที่ ดีกว่า อย่าง IOWA (2001 - ส่วนตัวแล้วเป็นหนึ่งในไม่กี่อัลบั้มที่ชุดสองดีกว่าชุดแรก) เอาไว้ จนทำให้ผม (และอีกหลายคน) คาดหวังกับอัลบั้มชุดใหม่ไว้มาก แต่ก็ต้องผิดหวังไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม ปี 2004 นี้ถือเป็นเป็นปีที่ดีมากๆ สำหรับชาวหูเหล็กเพราะมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆถึง 3 ครั้งด้วยกัน นั่นคือ ต้นปีกับ KoRn กลางปีกับ Linkin Park และส่งท้ายปีกับ Slipknot ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่จะทำให้ผมพลาดกับคอนเสิร์ตครั้งนี้
10 พฤศจิกายน 2547 ผมไปถึงบริเวณงานประมาณ 16.00 ได้ยินเสียงแหกปากสำรอกโฮกฮากมาแต่ไกลจากบริเวณ Aktiv Square (ลานกว้างหน้าอิมแพคอารีนา) แต่เนื่องจากตอนนั้นแดดยังร้อนมาก (จนสงสัยว่าหน้าหนาวเมืองไทยหายไปไหนซะแล้ว) ผมจึงหลบไปดูงานโชว์ผลงานของ ท่านผู้นำ บริเวณอิมแพคอารีนาเสียก่อน ความจริงผมมาดูงานนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ แต่เข้าไปอีกสักรอบก็ไม่เสียหาย เพราะกะไปชิมของกินบริเวณโอทอป (คราวที่แล้วเอาซะอิ่มเลย) ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดของงานนี้แล้ว (อีกส่วนก็คงเป็นซีดีแกรมมี่ที่ลดเหลือ 69 บาท ส่วนอื่นๆของงานไม่พูดอะไรมาก นอกจากว่ารู้สึกเสียดายภาษีของพ่อแม่ยังไงก็ไม่รู้) สังเกตอากัปกิริยาของคนแถวนั้นแล้ว เขาก็คงงงปนตกใจอยู่เหมือนกันที่มีกลุ่มเด็กแต่งชุดดำ ทำผมตั้งๆ เจลเยิ้มเต็มหัว เจาะร่างกายทุกอณู มาเดินดูผลงานท่านผู้นำด้วย (ใครบอกวัยรุ่นไทยไร้สาระ? เอ๊ะ หรือพวกเขาแค่มาเดินตากแอร์นะ)
เวลาประมาณ 17.45 แดดร่มลม(ร้อน)ตก ผมจึงเดินเข้าไปในบริเวณงาน พบว่าบริเวณคราวนี้เล็กกว่าตอน Linkin Park อยู่โขเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าจัดในอิมแพคก็ได้นะ (จัดกลางแจ้งเพราะอยากให้ได้อารมณ์ หรือเพราะไปชนกับงานของท่านผู้นั้นก็ไม่รู้) งานนี้ผมซื้อบัตรราคา 1000 บาท โซน AL โดยตอนที่ซื้อนั้นโซน AR ขายหมดไปแล้วเนื่องจากว่าเวทีมี 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา โดยฝั่งซ้ายเป็นเวทีของวงเปิดทั้ง 10 วง ส่วนทางขวาเป็นของพ่องานอย่าง Slipknot แต่พอเข้าไปจริงๆแล้ว ทั้งสองโซนก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไร เพราะเวทีใหญ่ก็ค่อนข้างจะตั้งอยู่กลางๆอยู่แล้ว อีกทั้งมีรายงานมาทีหลังว่าความจริงมันเดินถึงกัน (อ้าว งั้นจะแบ่งทำไมล่ะเพ่!) ส่วนโซนบัตร 800 ได้ข่าวว่าเอาช้างมาเตะตะกร้อโชว์ได้เลยทีเดียว สำหรับผมราคาบัตร 1000 บาทคราวนี้ถือว่าถูกมาก
โดยเฉพาะหลังจากที่จ่ายค่าบัตร B-Day 3000 บาทไป T__T
บริเวณหน้างานก็มีบูธของศิลปินไทย บูธค่ายเพลงสากล บูธนิตยสารเพลง รวมถึงบูธสีเหลืองอ๋อยสปอนเซอร์ใหญ่ของงานอย่าง M-Max ด้วย เดินหาบูธขายเสื้ออยู่นาน (เล่นไปแอบอยู่ริมๆ) พอเห็นลายก็คิดได้ว่า ไปซื้อเจเจก็ได้ เพราะลายธรรมดาเหลือเกิน แถมตัวละ 600-700 บาท สู้ตอน Linkin Park ไม่ได้ อันนั้นลายไม่โหลแถมสวยด้วย (ไม่รู้ป่านนี้มีของก็อปขายหรือยัง) แล้วก็มีบูธที่มีวงร็อคเล่นโชว์ด้วย (ฮาดี เล่นกันหน้าบูธเลย เหมือนเปิดหมวกเล่นเพลง ประมาณนั้น) หลังจากเดินทั่วแล้วก็เดินเข้าไปในส่วนของคอนเสิร์ต ก่อนเข้าก็มีการตรวจค้นร่างกายตามระเบียบ (ถ้าออกไปเดิน แล้วกลับมาอีกที ก็ยังถูกค้นอีกรอบ - ซึ่งก็ดีแล้ว กันไว้ดีกว่าแก้) ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าวงอะไรเล่นอยู่ แต่พอรู้ว่า Paradox เล่นไปแล้วก็แอบเซ็งนิดๆ แต่ไม่คิดมากเพราะวงนี้ดูจนเบื่อแล้ว
หลังจากวงที่เล่นอยู่ลงไป พิธีกรคู่หนุ่มสาวของงานก็ขึ้นเปิดมา นั่นคือ วีเจบอสและลูกเกด (ซึ่งเป็นวีเจผู้หญิงไม่กี่คนที่ผมทนดูเธอจัดรายการได้) แห่งแชแนลวีไทยแลนด์ ทั้งสองแนะนำวงเปิดที่ขึ้นมาเล่นถัดไป ก็คือวง DD-Doomed Day ซึ่งเขาบอกว่ามีสมาชิกเก่าของดอนผีบินด้วย วงนี้เขาก็เล่นแน่นใช้ได้ แต่ไม่ค่อยเข้าทางผมสักเท่าไร ก็นั่งดูไปเม้าท์ไป แต่ฮามากเวลาพี่แกพูดต้องทำเสียงแหบๆ เฮือกๆ แต่ดูตลกมากกว่าสยองแฮะ ระหว่างนั้นก็ลองดูไปรอบๆ พบว่างานนี้มีผู้หญิงน้อยมากถึงมากที่สุด (ซึ่งคนที่มาดูกับผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย) คาดว่างานนี้ใครมาแฟนมาดู ถ้าไม่รักกันจริง ก็คงเลิกกันไปเลยทีเดียว (ไปดูงาน PACK4 ดีกว่ามั้ยพี่) ส่วนการแต่งตัวก็ออกมาสไตล์เดียวกัน เสื้อดำเป็นหลัก (ใครใส่เสื้อสีชมพูมาดู Slipknot ก็คงแหวกดี) มีแต่งตัวประหลาดๆ แปลกๆ หลุดโลกไปเลยก็เยอะ ไม่แพ้งานแฟตเลยนะ แต่จะดูไปทางฮาร์ดๆกว่า ที่เด็ดสุดก็ต้องพวกที่แต่งตัวเลียนแบบ (Cos Play) พวก Slipknot นี่แหละ บางคนค่าลงทุนชุดคงแพงกว่าค่าบัตรอีกมั้งเนี่ย ก็ดีครับถือเป็นสีสันของงาน
พอวง DD ลงจากเวทีไป คนดูก็ลุกฮือขึ้นไปหน้าเวทีด้านซ้ายเลย ก็ถึงบางอ้อว่าวง Ebola มาแล้ว ส่วนตัวแล้วผมชอบวงนี้มากทีเดียว เป็นวงที่มีส่วนผสมของแนวทางของตัวเองและความเป็นตลาดได้พอดิบพอดี งานของพวกเขาหนักหน่วงแต่ว่าเข้าถึงง่ายดีครับ (พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือนักร้องนำร้องฟังรู้เรื่อง) ที่สำคัญเนื้อเพลงสร้างสรรค์ ไม่ใช่ เอะอะก็ ฆ่าๆๆๆ เชี่ยๆๆๆ อะไรแบบนี้ ปีนี้ผมเจอ Ebola บ่อยเหมือนกัน ตั้งแต่ Linkin Park ที่พวกเขาเป็นวงเปิด (ซึ่งขอบอกว่าเผลอๆเล่นมันกว่าเจ้าของงานอีก), งานคอนเสิร์ตของ M-Max (ที่รวม 7 วงมหากาฬ) และก็งานนี้นั่นเอง Ebola จุดชนวนความมันส์ด้วยเพลงเปิดตัวอัลบั้ม Pole (2004 ผมถือว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมของปีนี้) อย่าง ความเป็นไป ซึ่งได้ผลอย่างชะงัด คนดูบางส่วนเริ่มกระโดดกันแล้ว (ไม่คิดจะเก็บแรงไว้เลยหรือนี่) ถึงตอนนี้นั่งดูไม่ได้แล้ว เพราะเขายืนกันหมด ก็เลยต้องยืนบ้าง แต่ไม่เข้าไปแจมข้างหน้า เพราะอยากเก็บแรงไว้ก่อน จากนั้นวงก็ต่อด้วยเพลง เก็บกด (ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า หากผิดพลาดขออภัยด้วย) ถึงตอนนี้ต้องขอชมว่านักร้องนำของวงนี้ยังพลังเสียงดีไม่มีตกอย่างเคย (นับถือในจุดนี้จริงๆ) อีกอย่างก็คือระบบเสียงในงานนี้ดีมากๆ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเพราะคราว Linkin Park ตอนวงเปิดก็ยังเสียงกระหึ่มอยู่ แต่วง LP เล่นเสียงกลับเบาไปซะงั้น เลยรอฟันธงตอน Slipknot ขึ้นมาจริงๆดีกว่า หลังจากเล่นไปประมาณ 3 เพลง Ebola ก็ให้คนดูรีเควสเพลง แน่นอน เสียงร้องเรียกเพลง เหตุเพราะ ดังขึ้นมา เพลงที่เป็นตำนานไปแล้วของวงนี้ ไม่รอช้าทางวงสนองให้ทันที อยากบอกว่าเพลงนี้ทำให้ผมเครื่องร้อนขึ้นมาเชียวล่ะ จากนั้น Ebola ก็ปิดท้ายด้วยเพลงประกอบโฆษณาของ M-Max อย่างเพลง get out ตอนท้ายมีแอบฮาเพราะนักร้องนำดันขอบคุณ เอ็มทีวี แต่จริงๆแล้วสปอนเซอร์ของงานคือ แชแนลวี ต่างหาก งานนี้เรียกว่าแก้คำพูดกันแทบไม่ทัน
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
จากนั้นก็เป็นการพักยาวเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง และแล้ววงเปิดวงสุดท้ายก็มา นั่นคือวง Dezember นั่นเอง ต้องบอกก่อนว่าได้ยินชื่อวงนี้มานานแล้ว (ตั้งแต่สมัยอ่าน Music Express, Crossroad, Starpic จนเดี๋ยวนี้เลิกซื้อไปหมดแล้ว) แต่ไม่เคยฟังเลย ตามที่เข้าใจวงนี้น่าจะเป็นแนวสปีด-เมทัล ยอมรับว่าวงนี้เล่นแน่นมากๆ (โดยเฉพาะมือกีต้าร์) แต่ว่าแนวเพลงแบบนี้ไม่ค่อยเข้าทางผมสักเท่าไร สิริรวมวงนี้น่าจะเล่นไปประมาณ 4 เพลง แต่ละเพลงนี่ยาวมากๆ (เรียกว่าไปแข่งกับพวก X-Japan ได้เลย) แถมมีเพลงชื่อเด็ดมากๆว่า ดอกท_งแด่เธอ ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับ ดอก ปนัดดา หรือเปล่า
พอวง Dezember เล่นเสร้จ ฝูงชนก็เริ่มทะลักทะลั่นเข้าไปบริเวณหน้าเวที เบียดเสียดกันพอดูเลย ถ้าเทียบกับงาน LP เพราะคราวนั้นแบ่งออกเป็น 4 ล็อคเลยไม่แน่นมาก แต่คราวนี้เหมือนมากระจุกกันที่บัตร 1000 บาทอยู่ที่เดียว ถึงตอนนี้ก็เริ่มปรึกษาทางหนีทีไล่กับคนที่ไปด้วย กลัวเหมือนกันว่าจะมีคนตีกัน (ส่วนหนึ่งมาจากตอนงานแฟตด้วย แต่สรุปแล้วรอบๆตัวก็ไม่มีตีกันนะ แต่อาจจะมีเหมือนกันเพราะเห็น สห. เดินเข้ามาในงานด้วย) แล้วก็ตกลงกันว่าถ้าไม่ไหวจะลี้ภัยไปข้างหลัง (ขอเอาชีวิตรอดไปก่อน เพราะวันรุ่งขึ้นมีเรียนตอน 08.00 แถมยังรู้เกรดไม่ครบด้วย) ระหว่างรอก็มีคนขึ้นมาเทสต์เสียง แบบว่าตีกลองทีนี่ตกใจกันทั้งงาน เสียงดังพลังช้างสารมากเลย ขอบอก
ตีทีนี่สะเทือนไปถึงปอดเลย ประมาณว่าชาวบ้านที่นอนอยู่ในเมืองทองคงสะดุ้งตื่นกันหมดเลย จากนั้นพี่แกก็หันไปเทสต์กีต้าร์บ้าง ซึ่งเล่นเอาเหล่าคนดูตาดำๆแสบแก้วหูเลยทีเดียว หลังจากรอพร้อมกับโดนรมควัน (บุหรี่) จนเกรียมได้ที่ เวลาประมาณ 20.15 เพลงสรรเสริญพระบารมีก็ขึ้นมา (ตรงนี้เพลงกระตุกทั้งเพลงด้วย เลยเริ่มใจไม่ค่อยดีเท่าไร เกี่ยวกับระบบเสียง) ต่อด้วยโฆษณาเครื่องดื่ม M-Max (ที่โดนคนโห่เล็กๆ) ทุกอย่างก็กำลังจะเปิดฉากขึ้น
ฉากด้านหลังเลื่อนขึ้นเป็นรูปหน้ากากปากซิปจากหน้าปกอัลบั้ม Vol.3 (The Subliminal Verses) แสงไฟสีม่วงที่ดูหลอนๆ และแล้วอินโทรเพลง Prelude 3.0 ก็ขึ้นมา ซึ่งความจริงก็ไม่ค่อยถูกใจผมสักเท่าไรเพราะผมคิดว่าเป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่อ่อนด้อยที่สุดแล้วของวง สู้เพลง 742617000027 ในอัลบั้มแรก หรือเพลง [515] ในชุดสองไม่ได้เลย แต่ก็อย่างว่าอันนี้มันเป็นทัวร์โปรโมตอัลบั้มใหม่นี่หว่า พร้อมๆกับอินโทรเสียงคนดูโก่งคอร้อง เปล่งเสียงที่รอคอบการปลดปล่อย นั่น
นั่น 9 หน้ากากนรกขึ้นมาบนเวทีแล้ว ทันใดนั้นเองทุกอย่างก็ระเบิดขึ้นเพลง The Blister Exist จากอัลบั้มชุดที่สามนั่นเอง ตอนนี้รอบๆตัวผมมันเหมือนกับเหล่าอะตอมที่ถูกความร้อนจนเคลื่อนตัวกระแทกกันไปมา ผมกำลังอยู่ท่ามกลางเหล่าอนุภาคที่เคลื่อนตัวแบบทฤษฎีไร้ระเบียบ ยัง
ยังไม่ใช่เท่านี้หรอก ผมตระหนักถึงความจริงข้อนี้ได้เมื่อเพลงถัดมา คือเพลง (SIC) ขึ้นมา ไอ้ที่ว่ามาเมื่อกี้มันแค่เด็กๆ คราวนี้แหละของจริง ขอบอกเลยว่าถึงตอนนี้ไม่แน่จริง ไม่รอดแน่ เพราะมันกระโดดแทกกันทั้งงานเลยครับ จบเพลงนี้ไปผมก็ขอยอมเป็นพวกไม่แน่จริงแล้วละครับ ลาแล้วลาที จรลีไปอยู่ข้างหลังดีกว่า
(แถมอีกนิดว่าไอ้ตอนชุลมุนวุ่นวายกันอยู่ผมเห็นคู่รักคู่หนึ่ง ผจญอยู่ในวงนั้น แหมพี่ผู้ชายแกพระเอ๊กพระเอกนะครับ อุตส่าห์กอดปกป้องตัวแฟนไว้ แต่อยากจะบอกว่าพี่แกว่าถอยทัพดีกว่ามั้งครับพี่ เดี๋ยวแฟนพี่จะตายซะก่อน นี่พี่มาดูผิดงานรึป่าว คอนเสิร์ต Sting น่ะปีหน้าเลยนะพี่)
พอมาอยู่ข้างหลังแล้วดีขึ้นเยอะ ที่กว้างดี หายใจคล่องคอหน่อย งานนี้ถ้าขาด ยาดม เพื่อนยากนี่ผมตายแน่ๆ (โทษทีเหอะ เด็กแนวตอนนี้ต้องพกยาดมซะแล้ว เพราะเห็นเอามากันเยอะอยู่) มาข้างหลังนี่ดีอย่างบอกเห็นชัดขึ้นเยอะ (ความจริงในงานก็มีจอโปรเจคเตอร์ใหญ่ 2 ตัวทางซ้าย-ขวา ให้ครับ) ตอนอยู่ข้างหน้านี่ไม่ไหว ไอ้คนข้างหน้านี่ตัวใหญ่จิ๊บเป๋ง แถมเหยียบเราเท้าแทบพัง ลองมองดูชัดๆแล้ว ผมพบภาพที่ยิ่งใหญ่มาก ผมเห็นมนุษย์บ้าพลัง 9 คนกำลังอาละวาดบนเวทีใหญ่ มันเป็นภาพที่ดูมีพลังจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็น (แต่มองอีกมุมก็ตลกดีนะครับ เหมือนมองไอ้บ้า 9 คนขย่มเครื่องดนตรีของตัวเองอยู่ ฮาดี) ถึงจุดนี้ขอบอกเลยว่าระบบเสียงงานนี้ดีจริงๆ ดังสนั่นชัดเจนทุกส่วน เรียกว่า ถึงลูกถึงคน เลยทีเดียว ที่ดีมากคือเสียงร้องของ Corey ก็ชัดเจนไม่ถูกเครื่องดนตรีกลบไปเหมือนตอนที่ผมเจอกับงานของ KoRn ขอย้ำกันอีกทีนะครับว่าโปรโมเตอร์ของงานนี้คือ BNT (เจ้าของ [V] และนิตยสาร POP) ไมใช่ BEC เจ้าพ่อเสียงเห่ยแตกรายนั้น ส่วนในด้านไลท์ติ้งไม่ค่อยมีอะไรมากครับ ใช้แสงไฟประมาณงานวัดใหญ่ๆ หรือพวกแคมปัสทัวร์นี่แหละ แต่ว่าส่วนนั้นผมว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรหรอกครับ เพราะดนตรีแนวนี้เน้นกันที่เพอร์ฟอร์แมนซ์มากกว่า
เอาล่ะกลับมาที่คอนเสิร์ตกันต่อ ทางวงไม่ปล่อยให้พักหรอก ซัดต่อด้วยเพลงจากชุดสองนั่นคือ Disasterpiece (ให้ตายเหอะ ผมชอบชื่อเพลงจริงๆ) ฝั่งคนข้างหลังนี่เขาก็ใช่ย่อยโยกหัวกันสุดฤทธิ์เหมือนกัน เจ๊ผู้หญิงข้างหน้าผมนี่ตัวเล็กจิ๊ดเดียวแต่ดิ้นแรงกว่าผมซะอีก (ยอมแพ้จ้า
เราแก่แล้ว) จบเพลงนี้ ตา Corey ก็พูดคุยกับแฟนเพลงชาวไทยมั่ง แหม
ทำไมมันถึงปากหวานแบบนี้นะ โผล่มาสองสามประโยคพี่ก็ สวัสดีครับ เลย เล่นเอาแฟนไทยกรี๊ด (เอ่อ
ผู้ชายทั้งงานใช้คำนี้ไม่เข้าละมั้ง) กันทั้งงาน ดีนะไม่มีว่า ผมร้ากคุณ เหมือนพวก F4 ด้วย หยอดคำหวานต่อด้วยการชวนฟังเพลงขากอัลบั้มใหม่ นั่นคือเพลง Three Nill เพลงนี้ผมก็เคยฟังนะ แต่ไม่ติดใจอะไรเลย แต่จะบอกว่าก่อนมาดูผมภาวนาให้ทางวงเล่นเพลงในชุดเก่าเยอะๆ ซึ่งก็ถูกกึ่งหนึ่งล่ะนะ ที่จะบอกก็คือเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่ทางวงเลือกมาเล่นก็เข้าทีไม่มีสะดุด (เฮียแกยังไม่ได้คิดสั้นขนาด เอาเพลงอคูสติกในชุดนั้นมาเล่นหรอกนะ) แถมพอเล่นสดๆแล้วเพลงมันดูดีขึ้นเป็นกองเลยล่ะ กลับมาเอาใจแฟนดั้งเดิมบ้าง มาแล้วอีกหนึ่งเพลงโปรด Eyeless ตะโกนเข้าไป You can't see California without Marlon Brando's eyesๆๆๆ ผมตะโกนประโยคนี้ซ้ำๆ จนเล่นเอาเสียงแหบเลยทีเดียว
จากนี้ลำดับเพลงจะเริ่มสับสนแล้วนะครับ จำได้ว่ามีเพลง Vermilion (เพลงประกอบภาพยนตร์ Resident Evil 2) ต่อด้วยเพลงเปิดตัวชุดที่สอง Left Behind แล้วก็รู้สึกจะมีเพลง Pulse of the Maggots ด้วย จากนั้นตา Corey ก็ปากหวานอีกที (แต่ปากหวานของแกนี่มี ฟักกลิ้งๆ ชิทๆ มาทุก 3 วินาทีเลยครับ) เรียกร้องให้ทุกคนร่วมกันร้องเพลง Duality (เพลงเปิดตัวชุดสาม) รู้สึกว่าเด็กๆเขาจะทำการบ้านมาดีนะ ร้องตามกันได้หมดเลย ไอ้พวกไม่ชอบชุดสามอย่างเราก็เลยจ๋อยๆไป แต่แล้ว! อะดรีนาลีนในร่างกายผมก็เริ่มหลั่งอีกครั้ง เมื่อ Corey พูดว่า If you're 555, then I'm 666 ใช่แล้ว! เพลงที่ผมชอบที่สุดของวงนี้ The Heretic Anthem จำไม่ได้ว่าตอนนั้นตัวเองบ้าบอขนาดไหน รู้แต่ว่าแหกปาก 555/666 ไม่ยั้งเลย ชูไม้ชูมือมั่วไปหมด (คนข้างหลังเขาคงนึกว่าบ้า) ชอบท่อนกระหน่ำกลองของเพลงนี้มากๆ งานนี้ Joey (มือกลอง) ของวงก็ยังได้ใจผมตามเคย คนๆนี้นิยามสั้นๆว่า จิ๋วแต่แจ๋ว จริงๆ (สมาชิกที่ผมชอบที่สุดวงนี้คือ Joey ส่วน Corey นี่ชอบหน้ากากมันที่นับวันยิ่งน่ากลัว คราวนี้ปากแหกเลย ฮ่าๆ)
มาถึงจุดพีคของงาน เพลงฮิตโคตรมหากาฬอีกเพลง Spit it out ตอน Corey พูดชื่อเพลงนี่คนเฮกันทั้งนั้น พอขึ้นเพลงนี่อย่าให้เซดเรียกว่าพื้นจะถล่มเลยมั้งนั่น ยังไม่พอตะแกดันอุตริสั่งให้คนนั่งอีก พอถึงประโยคที่แกสั่งค่อยโดดขึ้นมา พ่อเจ้าแม่เจ้าเอ๊ย! พอโดดกันขึ้นมานี่แทบตาย ข้าพเจ้าแบนติดรั้วด้านหลังไปแล้วเรียบร้อย มองไปข้างหน้านึกว่าพฤษภาทมิฬรอบสอง แท็คกันอุตลุดชนิดเอากันถึงตาย เกาะรั้วไว้เลย ไม่กล้าเล่นด้วย พอถึงท่อน FXXK ME! I'm all out of enemies! FXXK ME! I'm all out of enemas! นี่กระหึ่มสุดๆ (ฝรั่งไม่รู้เรื่องรู้ราวเดินผ่านแถวนั้นคงตกใจแย่) จบเพลงนี้นี่อุณหภูมิในงานขึ้นมาสัก 5 องศาได้ แต่ทันใดนั้นเอง อีตา Corey ก็เซย์ Good Night ซะงั้น
มากู๊ดนง กู๊ดไนต์ ได้ยังไงกัน คุณพี่ยังไม่ได้เล่นเพลงที่ผมรอคอยเลยนะครับ จากนั้นการอังกอร์พอเป็นพิธีจึงเกิดขึ้น ประมาณ 3-4 นาที อินโทรเพลง [515] ก็ขึ้นมา คราวนี้แหละเตรียมมันส์เต็มที่แล้ว เอาให้ตายไปเลย (นี่จะไปฆ่าใครเหรอเปล่าเนี่ย) มันมาแล้ว! ตามที่คาดไว้อีกหนึ่งเพลงโปรด People = Shxt (ไม่เล่นเพลงนี้ ไม่ปล่อยให้ออกเมืองไทยแน่ๆ) ตอนนี้คนดูบ้ากันไปหมดแล้ว มันคือมหกรรมชนวัวกระทิงครั้งใหญ่เลย เอ้า! แหกปากกันเข้าไป People = Shxt! People = Shxt! People = Shxt! People = Shxt! ตะโกนไปเลย! ปลดปล่อยมันออกมา! ปล่อยออกมาให้หมด ไอ้ความรู้สึกเฮงซวยกับโลกเส็งเคร็งใบนี้ เพราะยังไงเราก็ต้องกลับไปหามันอยู่แล้ว! (เอ๊ะ! ชักเหมือนปลุกม็อบไปกันใหญ่แล้ว)
ต่อไปนี้เป็นคอมโบเช็ตชุดใหญ่สั่งลา พอ Corey ร้องขึ้นมาว่า I've felt the hate rise up in me... คนดูก็ร้องต่อชนิดคาราโอเกะเรียกพี่เลยว่า Kneel down and clear the stone of leaves... I wander out where you can't see... Inside my shell, I wait and bleed... นั่นแหละเพลงที่ทางวงเคยสัมภาษณ์ว่าเกลียดเป็นนักเป็นหนาแต่ก็ยังอุตส่าห์ร้อง (ขืนไม่ร้องสิ มีเรื่อง) นั่นคือเพลง Wait & Bleed เพลงที่ทำให้ผมรู้จักกับ Slipknot มันน่าประทับใจเหลือเกินที่ได้ฟังเพลงนี้สดๆ เหมือนการย้อนรอยความทรงจำกับเพื่อนเก่า ถ้าวันนั้น Slipknot ไม่ร้องเพลงนี้ ผมก็อกหักคล้ายกับตอน Oasis ไม่ร้อง Wonderwall นั่นแหละ
เอาล่ะ
งานเลี้ยงยอมมีวันเลิกรา ปาร์ตี้หน้ากากนี่ก็เหมือนกัน Corey บอกว่านี่คือ fxxking anthem ของแท้และดั้งเดิม เสียงแซมเพิ่งเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นมา เพลงนี้ที่รอคอย! ผมตะโกนแทบจะพร้อมกับ Corey ว่า Surfacinggggg
.gggg
gggg!!!!!
อ๊ากกก
กกก! (ไอ้อันหลังนี่เฮีย Corey ตะโกนนะครับ ผมไม่กล้าหรอกอายเขา) นี่แหละ เพลงที่ผมกะมาตะโกนเต็มที่ ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าถ้า Slipknot มาเปิดคอนเสิร์ตมาเมืองไทย ผมจะต้องได้แหกปากอย่างบ้าคลั่งในเพลงนี้ นานมาแล้ว ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว วันนี้ขอทีเหอะว่า
FXXK IT ALL! FXXK THIS WORLD! FXXK EVERYTHING THAT YOU STAND FOR! DON'T BELONG! DON'T EXIST! DON'T GIVE A SHXT! DON'T EVER JUDGE ME! ตะโกน! ตะโกน! แหกปากเข้าไป! ให้พวกที่จัดงานอยู่ในอิมแพคได้ยินไปเล้ย! เพื่อเจ้าของงานเขาจะได้ยินบ้าง! ได้ยินตูมั้ย! อย่ามาตัดสินชะตาชีวิตคนทั้งประเทศด้วยการบริหารงานประเทศแบบบริษัทนะโว้ย! ประเทศไม่ใช่ของคุณคนเดียว! ได้ยินมั้ย! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ (ตอนแหกปากแนวร่วมเยอะ เลยคึกเป็นพิเศษ)
และความบ้าคลั่งก็ถึงคราวต้องหยุดลง เมื่อ Slipknot ลงตัวโน้ตตัวสุดท้าย และปิดท้าย Slipknot Live in Bangkok ด้วยเพลงสุดท้ายของอัลบั้มชุดสาม Danger Keep Away
ผมเดินออกจากลาน Aktiv Square ด้วยความเหนื่อยล้าทางกาย แต่เปี่ยมด้วยความสุขทางใจ นี่เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ผมต้องจารึกไว้ในปีนี้รวมถึง ชีวิตนี้ ด้วย Slipknot หยอดคำหวานไว้ว่า We will come back again ถึงแม้ไม่ค่อยน่าเชื่อนัก (เพราะมันก็พูดแบบนี้ทุกวง/ทุกคน/ทุกศิลปิน - ใครไม่พูดถือว่าผิดธรรมเนียม) แต่ผมก็จะรอวันนั้น รวมถึงอัลบั้มชุดที่สี่ของวงด้วย ถ้ามันมีวันนั้น
แต่ถึงวันนั้นจะไม่มาถึง ผมก็ต้องบอกว่า วันนี้ ผมมีความสุขมากแล้ว ไม่ใช้เพราะใครเลยนอกจาก 9 ชีวิตของวง Slipknot
หากเปิดพจนานุกรม คุณจะพบว่า slipknot (n.) = ปมที่แก้ให้หลุดได้ ผมไม่แน่ใจว่าทางวงตั้งชื่อในความหมายใด แต่ในใจผมนั้น อัลบั้มชุดที่สามของวงเปรียบเสมือนเชือกที่ก่อเงื่อนปมผูกรัดตัวของ Slipknot เอาไว้ แต่หลังจากคอนเสิร์ตนี้ ผมถือว่าทั้ง 9 ได้คลายปมของตัวเองแล้วเรียบร้อย
ปล. ย้ำอีกทีว่าโปรโมเตอร์ของงานนี้คือ BNT ไม่ใช่ BEC รายหลังน่ะมีปมเยอะจนไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว!
Create Date : 29 ธันวาคม 2547 |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2548 18:43:30 น. |
|
30 comments
|
Counter : 3551 Pageviews. |
|
|
|
โดย: HATE IP: 202.5.87.155 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:1:19:32 น. |
|
|
|
โดย: RockwideR IP: 125.24.98.231 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:13:04 น. |
|
|
|
โดย: RockwideR IP: 125.24.98.231 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:15:38 น. |
|
|
|
โดย: เอกวัดราช IP: 58.9.55.158 วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:36:30 น. |
|
|
|
โดย: _^^Holy^^_ IP: 61.7.157.168 วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:30:55 น. |
|
|
|
โดย: แนน IP: 125.24.208.82 วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:14:17:18 น. |
|
|
|
โดย: Joey Jordison IP: 203.118.65.181 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:22:08:08 น. |
|
|
|
โดย: Johny VC. IP: 124.120.143.188 วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:11:39:16 น. |
|
|
|
โดย: ไก่ดุ IP: 210.246.75.110 วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:4:26:12 น. |
|
|
|
โดย: kk IP: 125.24.194.179 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:10:19:05 น. |
|
|
|
โดย: ลิงใต้บนถนน IP: 61.7.133.170 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:15:06:32 น. |
|
|
|
โดย: สาวก slipknot IP: 125.24.236.101 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:19:14 น. |
|
|
|
โดย: GM_BANK IP: 125.24.172.151 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:22:38:03 น. |
|
|
|
โดย: ToNiGi SaNdddddd IP: 117.47.220.218 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:19:50:24 น. |
|
|
|
โดย: รักมาก IP: 118.174.22.148 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:01:50 น. |
|
|
|
โดย: slipknot IP: 118.174.22.148 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:52:11 น. |
|
|
|
โดย: รักมาก IP: 118.174.22.148 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:58:19 น. |
|
|
|
โดย: ผมรักสลิปนอต IP: 118.174.113.55 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:57:26 น. |
|
|
|
โดย: แปลเพลงpeople=shit IP: 118.174.85.84 วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:49:48 น. |
|
|
|
โดย: shit=people IP: 58.9.238.72 วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:31:39 น. |
|
|
|
โดย: โคตรมัน IP: 118.174.62.89 วันที่: 18 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:22:19 น. |
|
|
|
โดย: slipknot IP: 118.173.42.108 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:17:19:59 น. |
|
|
|
โดย: อุ้ม IP: 58.9.127.117 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:11:07 น. |
|
|
|
โดย: ]3n_]3oom IP: 192.168.30.176, 119.42.76.222 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:26:09 น. |
|
|
|
โดย: muvan IP: 183.89.239.145 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:3:57:29 น. |
|
|
|
โดย: muvan IP: 183.89.239.145 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:4:00:48 น. |
|
|
|
โดย: ป็อปอาย IP: 202.29.57.211 วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:15:50:36 น. |
|
|
|
โดย: art IP: 114.128.117.224 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:19:03:06 น. |
|
|
|
โดย: จำได้ IP: 124.120.184.193 วันที่: 9 ตุลาคม 2553 เวลา:23:20:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่ 3
เขียนได้สนุกและน่าติดตามดีครับ
จากคุณ : naitong - [ 12 พ.ย. 47 02:32:22 ]
ความคิดเห็นที่ 4
ไปดูมาเหมือนกันครับและก็มันส์เหมือนที่คุณว่า
ชอบที่สุดก้ตอนช่วงท้ายแล้วอังกอร์นี่แหละครับ เพลงชุดเก่าดังๆ พี่แกขนมาแล่นหมด
surfacing, wait and bleed, spit it out รวมถึง people = shit
4 เพลงที่ก่อนมาดูผมหวังว่าจะได้ฟัง และในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง
โอยยยยย คอยังปวดอยู่
หูก็ยังอื้ออยู่เลยเนี่ย
จากคุณ : ปุกปุกก่าย - [ 12 พ.ย. 47 03:31:32 ]
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับงานนี้พลาดครับ เพราะว่าช่วงนี้ม่ายมีเงินจิงๆ นับว่าปีนี้เป็นปีที่มีคอนเสิรต์นอกมาให้ดูกันเยอะจริงๆทั้งเล็กทั้งใหญ่
ซึ่งหลังจากคอนเสิรต์ก็มักจะมีปัญหาเรื่องsoundในแต่ละงานมาให้ได้บ่นกัน เกือบทุกงาน จริงๆแล้วบริษัทที่รับงานพวกนี้
มีที่ใหญ่ๆให้เห็นกันก็มีอยู่ 2 เจ้าล่ะครับ เจ้าแรกคือ Jack Sound ครับ กับอีกเจ้าคือ Ten Years ครับซึ่งเจ้าหลัง
ก็แยกตัวมาเจ้าแรกนั่นเอง ก็แล้วแต่ว่าPromoterจะเลือกใช้เจ้าไหน ซึ่งส่วนใหญ่หลังๆจะเห็นเป็น Ten Years
ทีนี้ก็ต้องทำใจล่ะครับว่า ในแต่ละงานเนี่ย Sound Engineer จะทำซาวนด์ออกมาแล้วคนฟัง Happy ขนาดไหน
อย่างงานLP เนี่ยตอนแรกซาวนด์เอ็น เป็นคนไทย แล้วพอ LP ขึ้นก็เป็น ซาวนด์ของ LP เอง ซึ่ง ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไร
ทำให้เสียงที่ออกมามันแย่ขนาดนั้น ส่วนงานSlipknot ที่คุณ merveillesxx เล่ามาว่าซาวน์ดดี เนี่ยผมไม่รู้ว่า
Slipknot แกหิ้วเอาซาวน์ดเอ็นแกมาด้วยรึป่าว แต่ก็น่าจะพามาด้วยล่ะครับ อุปกรณ์แกเยอะซะขนาดนั้น
ที่เล่ามานี่ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คือไม่อยากให้โทษผู้จัดเรื่องซาวน์ดมากนักเพราะงานพวกนี้ มันก็เป็นทีหาประสบการณ์ของ
ซาวนด์เอ็นเมืองไทยได้ลองทำงานกับศิลปินเมืองนอกบ้าง ซึ่งบางงานคนฟังก็happy บางงานก็โดนด่ากันไป
โดยส่วนตัวขอบอกว่า ไปดูงานไหนแล้วซาวนด์ดีเหมือนซื้อหวยถูกล่ะครับ
จากคุณ : nodavis - [ 12 พ.ย. 47 03:41:54 ]
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณครับผม เล่าละเอียดโดยแท้ ขอบคุณอย่างยิ่งครับ ;) ท่าน
จากคุณ : nookie (thitiphan) - [ 12 พ.ย. 47 06:15:25 ]
ความคิดเห็นที่ 7
แอบมาอ่าน :-P
จากคุณ : Suedegirl - [ 12 พ.ย. 47 09:18:16 ]
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณนะคะที่มาเขียนให้ได้อ่าน ไม่ได้ไปเอง แต่ก็เห็นภาพชัดแจ่มเลยค่ะ ยังเศร้าจัยไม่หายที่ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นด้วย T__T
จากคุณ : luvammie - [ 12 พ.ย. 47 09:43:51 ]
ความคิดเห็นที่ 9
ได้ฟีลสุดๆเลย ท่าจะมันส์เนาะ เห็นว่าทัวร์ชุดนี้จบจะแยกกันอีกสักพัก ไม่รู้จริงรึป่าว เพราะตา คอรีย์ ดันติดลม Stone Sour เฮ้อ ลุ้นให้ออกชุดที่ 4 แบบเจ๋งๆไปเลย
จากคุณ : silverstein - [ 12 พ.ย. 47 09:58:03 ]
ความคิดเห็นที่ 10
agree with #3
ขนาดผมไม่ใช่แฟน อ่านแล้วยังขวนขวายมาฟัง
จากคุณ : dog mulder - [ 12 พ.ย. 47 10:17:48 ]
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านสนุกดีค่ะ
แต่เรากลับก่อนเค้าอังกอร์กันน่ะ เสียดายเหมือนกัน
แต่กลัวกลับตอนงานเลิกแล้วจะหารถกลับบ้านลำบากอ่า
แต่มันส์ดีค่ะงานนี้
จากคุณ : beebah - [ 12 พ.ย. 47 10:34:43 ]
ความคิดเห็นที่ 12
ผมดูโซน 800 ครับเซ็งมากคนน้อยฉิบ แล้วไม่ค่อยมีใครโดดด้วย ผมกับเพื่อนต้องเดินหากลุ่มแท็คกัน แต่มันส์จริงๆ ยิ่งตอนเพลง duality นี่ผมว่าพีคมากโดดกันนัวเห็นพวก 1000แล้วอิจฉา แต่ตอนเพลง spit it out ที่คอรี่ให้คนดูนั่ง ผมว่าพี่แกคงเซ็งน่าดูกว่าจะนั่งกันได้แถมพวก 800 นี่แทบไม่มีใครนั่งเลย คุ้นๆว่าแกคงรำคาญเลยบอกให้โจอี้รีบๆเล่นจะได้กลับบ้านสักที อะไรซักอย่างเนี่ยแหละ แต่แม่งมันส์นรกแตกเลยว่ะ เสียดายไม่เล่นเพลง purity เสียดายที่ไม่ได้ซื้อบัตร1000 แต่มันส์สุดๆเลยโว้ยยยยย
จากคุณ : axl.rose - [ 12 พ.ย. 47 10:43:03 ]
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณที่คุณเขียนได้มันมาก ผมว่าจะมาเขียนเมื่อวานไม่ไหวครับปวดเมื่อยไปทั้งตัว คอพอยังไม่หายเมื่อยเลย
โดน 3 เพลงแรกก็จะเป็นลมแล้วครับ ขอบคุณ slipknot ที่ทำให้ผมได้ดู concert ที่ดีที่สุดในชีวิตของผม sound ดีมากกว่าทั้ง korn และ LP เชื่อใหมครับผมนำตาแทบซึมตอน Corey ยกมือขึ้นไหว้ตอนจะจบ concert โอว god... please come back again
***ผมดู ebola แล้วมันส์มากขอโทษที่เคยดูถูกเอาไว้
แค่นายขึ้นมาก็ขอนิ้วกลางแล้ว
จากคุณ : ขุนขวานไร้นาม (akejuven) - [ 12 พ.ย. 47 10:48:53 ]
ความคิดเห็นที่ 14
เราใส่เสื้อสีขาว แล้วมีขลิบสีชมพูที่แขนกะคอเสื้อค่ะ ส่วนเพื่อนใส่เสื้อแขนยาวสีแสดง นี่ถือว่าแหวก(สะเหร่อ)ไม๊เนี่ย
เพื่อนที่ทำงานยังบอกเลยว่า แต่งตัวยังกะไปดูโน๊ต ตูน
เสียดายวันนั้นเขิลลลลลลลล ไปหน่อย
ม่ายงั้นคงแหกปากสุดๆไปเลย คงได้ฟีลมากกว่านี้
แม่เพื่อนเห็นเรากะเพื่อนใน TV บอกคนแน่นขนาดนั้นไปอัดยัดเยียดอยู่ได้ไง ทีหลังไม่ให้ไปดูแล้ว
555555555555555
แหม . . . อ่านแล้วอารมณ์มันขึ้น ขอตัวไปเปิด Disasterpieces ดูก่อนนะคะ
จากคุณ : Brandy Boyd - [ 12 พ.ย. 47 10:49:22 ]
ความคิดเห็นที่ 15
ไปดูมาเหมือนกันนะเนี่ย อยู่โซน 1000 AR ..........ก็ไม่รู้จะแยกทำไม AR AL ........ แต่ก็มันส์ สุดๆ คอเคอ ยังไม่หายปวดเลย
จากคุณ : แอลกอฮอล์ ศิริบัญชา - [ 12 พ.ย. 47 10:56:06 ]
ความคิดเห็นที่ 16
ความมันส์คงไม่ต้องบรรยาย เพราะว่า คุณ จขกท ก็บรรยายซะเห็นภาพไปหมดแล้ว
ตอนนี้ ระบมอย่างเดียวเลยอ่ะ ทั้งหลัง ทั้งคอ
ล.ป. ใส่สีแดง แล้วมันเสร่อตรงไหนอ่ะ ออกจะโดดเด่น
ว่าแล้วขอตัวไปโหลด Mv & Live Concert มาดูก่อนดีกว่า เริ่มชอบมากขึ้นและอ่ะค่ะ
จากคุณ : Sillynuy - [ 12 พ.ย. 47 11:34:58 A:203.144.236.242 X: TicketID:010327 ]
ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มาบรรยายได้อย่างดิบดีทีเดียว
วันนั้นไปเดินงานรากหญ้าก่อน อิ่มเลยเชียว
กะจะเข้าไปดู Dezember (คิดถึงมากเลยวงนี้) แล้วค่อยต่อด้วย slipknot
เรื่อง sound ก็ยังไม่ดีเท่าทีควรนะ เพราะมันชัดแค่แถว ๆ หน้าเวที ออกมาทางด้านหลังก็กระจายหมดแล้ว แต่เอาน่ะ ยังไงก็มันส์ อิ อิ
จากคุณ : oat_jazz - [ 12 พ.ย. 47 13:02:32 ]
ความคิดเห็นที่ 18
ไม่ได้ไปดู ครับ เสียใจมากๆ
จากคุณ : สุวินโย (สุวินโย) - [ 12 พ.ย. 47 14:10:13 ]
ความคิดเห็นที่ 19
ผมไปตั้งแต่บ่ายสองเลยไปนั่งรออยู่นานมากแดดร้อนดี concertเริ่มด้วยparadoxก็สนุกดี พี่สองบ้าดีชะมัด พอวงต่อๆมาก็เริ่มเบื่อ บางวงเล่น4เพลงเหมือนเล่นเพลงเดียว ไม่ใช่เพราะเร็วหรอก แต่เพราะมันคล้ายๆกันทุกเพลงเลย ขอบอกว่าบางวงขาดความคิดสร้างสรรค์และความไพเราะของเพลง เพราะมันเน้นแต่ให้โหด เพลงมันก็เลยน่าเบื่อไปซะอย่างงั้น(ผมต้องขออภัยด้วย เป็นความเห็นส่วนตัวจากการฟังในงาน และผมก็ไม่ค่อยฟังเพลงไทยซักเท่าไหร่ ทำให้อาจจะไม่รู้จักวงต่างๆดีพอ) ที่ผมว่าดีก็คงมีebolaที่ฟังได้ และแล้วผมก็รอจนถึงเวลาที่slipknotออกมา(ยังยืนอยู่ที่เดิมมาตั้งแต่บ่าย2ถึง2ทุ่ม..........6ชั่วโมง) เท่านั้นแหละครับ หลังจากที่ผมยืน+นั่งเงียบอยู่มานาน(มาคนเดียว) ผมก็ร้องเลยครับ I don't know why I've never told you.... หลังจากนั้นก็ใส่เต็มที่เลยครับ ไม่มียั้ง ทั้งโดด โยกหัว กระแทกกับชาวบ้านเค้าไปทั้ว กระแทกไปกระแทกมาไปโผล่อยู่หน้าสุดเลย มันส์มากๆครับ พอconcertจบ สถาพผมก็เหมือนลูกหมาตกน้ำเลยครับ เสื้อสีขาวดำกลายสภาพเป็นเทาดำ แถมยังหาtaxiกลับไม่ได้อีกต้องรอถึง5ทุ่มกว่าๆถึงจะได้ วันรุ่งขึ้นก็มีเรียน8โมงเหมือนจขกท.เลย แต่ก็ยังตื่นไปเรียนไหวอีกนะ.....
จากคุณ : Rez (Zell) - [ 12 พ.ย. 47 15:33:34 ]
ความคิดเห็นที่ 20
ผมว่าอัลบัมชุดที่3นี่ไม่ได้ห่วยนะครับ ผมว่าดีซะอีกที่เหล่าสมาชิกในวงจะได้แสดงความสามารถมากขึ้น(โดยเฉพาะCorey)โดยการที่ได้เล่นอะไรที่หลายหลายออกไป เพลงอคุสติกที่อยู่ในชุดที่3นี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เพราะนะครับ ผมว่ามันก็ดีออก หลากหลายดี ถ้าจะให้มาแหกปากร้องเสียงแตกๆอย่างเดียวทั้งอัลบัมมันไม่ดีมั๊งครับ ถ้าผมจำไม่ผิดตอนที่อัลบัมนี้ออกใหม่ๆมีใครไม่รู้มาreviewว่าเป็นอัลบัมที่ดีที่สุดอัลบัมนึงเลยนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบIOWAสุดครับ
จากคุณ : Rez (Zell) - [ 12 พ.ย. 47 15:42:30 ]
ความคิดเห็นที่ 21
ขอบคุณครับ ที่มาบรรยายให้ฟัง อยากไปมาก แต่เงินจะทานข้าวแทบจะไม่มี T_T เดือนนี้เป็นไรไปเนี่ย
จากคุณ : nutxnut - [ 12 พ.ย. 47 16:03:04 ]
ความคิดเห็นที่ 22
ขอบคุณมากๆ ที่มาเล่าให้ฟัง เราอ่านจนจบเลย ทั้งๆที่ไม่ใช่แฟนเพลงของวงนี้ ได้ไปดู LP มา แต่วงนี้ยังแรงไปสำหรับเราอ่ะ ยินดีด้วยจริงๆที่คุณได้ดูคอนเสิร์ตดีๆอย่างที่ตั้งใจไว้
-----------------------------------------------------------
DRACO DORMIENS NUNQUAM TITILLANDUS
-----------------------------------------------------------
erised stra ehru oyt ube cafru oyt on wohsi
-----------------------------------------------------------
จากคุณ : avada_kedavra - [ 12 พ.ย. 47 19:00:03 ]
ความคิดเห็นที่ 23
อยากจาร้องไห้(เพราะไม่ได้ไปดู)
จากคุณ : Obilix02 - [ 12 พ.ย. 47 20:13:27 ]
ความคิดเห็นที่ 24
ดูจบหูอื้อไป 2 วัน
ในหูมีแต่เสียงดังวิ้งๆๆๆ
ชอบที่ corey ยกมือไหว้ตอนจบมาก
ดูสุภาพอ่อนน้อม และตั้งใจไหว้จริงๆ
ที่ประทับใจอีกอย่างคือตอนเพลงสรรเสริญฯขึ้น
แฟนๆ (ที่ดูโหดๆ) กลับช่วยกันร้องใหญ่เลย
แถมมีหนุ่มคนหนึ่งหน้าฝรั่งมาก แต่กลับร้องเพลงที่คนไทยหลายคนทำเป็นอายไม่ยอมร้องออกมาดังๆจนจบเพลงเลย
ป.ล.เผลอตัวโดนอีตา corey แกกล่อมให้ชูนิ้วกลางไปตั้งหลายทีแน่ะทั้งที่ปรกติไม่เคยทำแบบนี้เลยนะเนี่ย
จากคุณ : pop (จิ้มจุ่ม) - [ 12 พ.ย. 47 21:27:41 ]
ความคิดเห็นที่ 25
ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันตอบนะครับ
สำหรับเรื่อง Sound Engineer มีคนเค้าบอกว่าจากห้อง Rock & Roll ดังนี้ครับ
"ตอนงานเลิกผม ได้คุยกับ คุณรัตน์ โกบายาชิ มือกลองของ Dezember แป๊บนึง ได้ความว่าที่ เสียงออกมาดีมากขนาดนี้เพราะ ได้เครื่องเสียง กับลำโพง ของแจ๊คซาวนด์ซิสเต็ม
ระบบเสียงสุดยอดมากครับ เสียงสเตอริโอมากๆ แยกซ้ายขวาแบบสุดมันส์ เป็นงานที่ดีที่สุดและคุ้มเงินที่สุดอีกงานหนึ่งเท่าที่ผมเคยดูมาครับ แต่ไม่รู้ว่าเสียงทางด้าน 800 เป็นยังไงบ้าง??"
จากคุณ : blueframe - [ 12 พ.ย. 47 12:51:02 ]
ส่วนเรื่องตอน Corey สั่งให้นั่งนี่ ที่นั่งกันช้าเพราะมันลำบากอ่ะครับ ผมอยู่ข้างหลังติดรั้วนี่มันไม่มีที่ไปแล้วครับ จะแบนตายอยู่แล้ว ยังด่าในใจเลยว่า คิดอุตริอะไรของมันวะ สักพักพอคนโดดกันขึ้นมาก็สติหายไปเลย !~#@$%
ส่วนอัลบั้มชุด 3 ผมบอกอย่างนี้ครับ อัลบั้มนี้จะไม่ห่วยเลย ถ้าวงนี้ไม่ได้มีอัลบั้มอย่าง IOWA ออกมาก่อน ... คืออันนั้นมันสุดยอดไปแล้ว Masterpiece เลย (หรือ Disasterpiece ชมแบบนี้เจ้าตัวคงชอบมากกว่า)
งานนี้ชูนิ้วกลางแบบไม่ต้องอายใคร ปลดปล่อยดี อยู่ในมหาลัยทำอะไรแบบนี้อะไรหรอก ฮ่าๆๆๆ
จากคุณ : merveillesxx - [ 13 พ.ย. 47 00:48:20 ]
ความคิดเห็นที่ 26
ผมไม่ได้ไปดูครับ (บ้านอยู่ต่างจังหวัด)
แต่คุณ จขกท. บรรยายทำผมขนลุกเลยครับ เฮ้อ อยากไปดูจิงๆ
ปล. อัลบัมแรกของ Slipknot รู้สึกจะใช้ชื่อ "Mate.Feed.Kill.Repeat" นะครับ ไม่ใช่ "Slipknot"
จากคุณ : Crime - [ 13 พ.ย. 47 04:59:41 A:unknown X:202.12.74.6 TicketID:079080 ]
ความคิดเห็นที่ 27
เสียดายมาก ติดธุระ เลยอดดูเลย
จากคุณ : tHe DoG CyBEr - [ 13 พ.ย. 47 17:23:37 ]
ความคิดเห็นที่ 28
ไปดูตรงบัตร 800
ขอบอกว่า ซื้อ DVD หรือ VCD มาดู ยังจะมันส์กว่าเลย
ตัวเท่ามด ร้องมา เสียงฟังไม่รู้เรื่องเลย เสียดายอิ๊บอ๋าย
ขี่มอไซกลับตอนเลิกพอดี ไม่มีรถติด สบายๆ
จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 13 พ.ย. 47 21:25:43 ]
ความคิดเห็นที่ 29
อ่านแล้ว ขอตะโกนว่า "อิจฉา ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
เจ็บใจครับ ตอนที่มีข่าวว่าจะมาผมหมายมั่นว่าจะต้องไปดูให้ได้
ถ้าใครจำได้กระทู้ที่พูดถึง Slipknot จะมีผมที่ตอบว่า "ไปแน่ๆ" เกือบทุกกระทู้ล่ะมั้ง
แต่ อ.ที่มหาลัยดันนัดทำ LAB วันพุธ ผมหัวใจแทบสลายเลย
ถึง อ.จะบอกว่าวันที่ 10 อาจจะยังไม่ทำเพราะอุปกรณ์อาจจะไม่พร้อม
แต่ผมคงไม่เสี่ยงซื้อบัตรเผื่อหรอกครับ
เงิน 1000 สำหรับผมจะเสี่ยงอยู่เรื่องเดียวคือบอล เหอๆ
เลยตัดสินใจตัดใจซะ T_T และแล้วในที่สุดก็ดันไม่มี LAB ซะงั้น (กว่าจะรู้ก็เช้าวันนั้น)
นึกเสียดายอยู่ว่าทำไมไม่เสี่ยงซื้อบัตรไปน๊า เฮ้อออ
~ I wont let this build up inside of me ~
จากคุณ : Enixma - [ 13 พ.ย. 47 23:47:52 ]
ความคิดเห็นที่ 30
ขอคุยต่อดีกว่า
แปลกนะครับสำหรับอัลบั้ม Vol.3 นี้ผมชอบเท่าๆกับ IOWA เลย
สำหรับผมคิดว่าชุด Slipknot นี่สุดยอดแล้วจริงๆ
และรู้จัก Slipknot เพราะ Wait & Bleed เหมือนกัน
ถ้าใครมาบอกว่าจะลองฟัง Slipknot ผมก็จะแนะนำเพลงนี้ให้ทุกที
เหมือนถ้ามีใครอยากฟังเพลงเร็วของ X Japan ผมก็จะยื่น Week End ให้
ส่วนอัลบั้ม Vol.3 ที่คุณบอกว่า "แนวเพลงดนตรีที่อ่อนด้อยลง"
ก็เห็นด้วยครับว่าดนตรีค่อนข้างเบาลงเยอะ แต่ผมก็ไม่ใช่พวก HardCore พันธุ์แท้อยู่แล้วเลยฟังไม่ขัดหูเท่าไร
(ถ้าพูดเป็น J Rock คุณน่าจะจำผมได้ ผมสาย X Japan อ่ะ)
ยิ่ง Acoustic ที่คุณเซ็งนักเซ็งหนาผมกลับชอบ Vermilion Part.2 นะ
ฟังครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกันนี่ Slipknot เหรอวะ
แต่ฟังๆไปกลับชอบแฮะ รู้สึกว่าเพราะดี
ถ้าผมได้ไปดูผมก็คงหวังลึกๆอ่ะ ว่าน่าจะเล่น Part.1 กับ Part.2 ต่อกันไป คงแปลกดี เหอๆ
อ้อ ก่อนไป
ขอบอกคุณ Crime ว่าอัลบั้ม Mate.Feed.Kill.Repeat ที่คุณว่ามันเป็นอัลบั้มก่อนจะ Debut ของ Slipknot นะครับ
เหมือนกับ Vanishing Vision ของ X (บ๊ะ ต้องวกมา X ทุกที เหอๆๆ)
ถ้าให้ผมเรียกผมจะเรียกมันว่าอัลบั้ม 0 นะ
ผมเองยังไม่ได้ฟังเลย แต่คิดว่าเดี๋ยวคงได้ฟังเพราะมีคนใจดีบอก Link ให้โหลดก่อนมา pantip นี่เอง
แต่โหลดช้ามากๆ ตอนนี้กะลังโหลดอยู่
ใครสนใจหลังไมค์มาครับจะบอก Link ให้มีครบทุกอัลบั้ม
ส่วนอัลบั้มแรกหลัง Debut นี่ก็ Slipknot ถูกแล้วครับ
~ I wont let this build up inside of me ~
จากคุณ : Enixma - [ 14 พ.ย. 47 00:12:13 ]
ความคิดเห็นที่ 31
ผมนับเมเจอร์อัลบั้มครับ Slipknot ก็เลยเป็นอัลบั้มแรก
จากคุณ : merveillesxx - [ 14 พ.ย. 47 03:57:36 ]
ความคิดเห็นที่ 32
ผมสนใจอะครับ
เอาแบบว่ายังไม่ debut เลยด้วยได้มั้ยครับ
กรุณาส่ง link มาที่
blood_lucifer@hotmail.com
ด้วยนะครับ
ขอบพระคุณมากครับ
จากคุณ : .... (36 หมัดคลั่ง) - [ 15 พ.ย. 47 08:40:25 ]