http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 
FUTON: เล็กชิ้นสด Electric Love – รักสปาร์คกระชากใจ

โดย merveillesxx



(คำเตือน – บทความนี้มีการใช้คำหยาบคายและการพาดพิงถึงผู้อื่น ไม่เหมาะกับผู้มีต่อมศีลธรรมทำงานสูง)

FUTON
เล็ก ชิ้น สด Electric Love
Date: 30 July 2005
Venue: Astra Pub RCA
Showtime: 16.00

ก่อนหน้าจะไปงาน “เล็ก ชิ้น สด Electric Love” ของ FUTON ในคราวนี้ จู่ๆ สมองของผมก็เกิดทำงานถอยย้อนกลับแบบคนชราภาพด้วยการรำลึกถึงอดีตกาลวานวันที่ผ่านมา ภาพหลายฉากหลายตอนในหัวล้วนโยงใยไปถึงการรู้จักได้พบพานของวงดนตรีที่ชื่อ FUTON

ผมรู้จัก FUTON ครั้งแรก จากเพลง I WANNA BE YOUR DOG ที่เปิดทางคลื่น FAT 104.5 ความรู้สึกครั้งแรกคือ “นี่มันวงบ้าอะไรวะ แต่…เฮ้ย! เจ๋งว่ะ”

ได้ดูคอนเสิร์ตของ FUTON ครั้งแรกในงาน Nokia 3300 Digital Sound Scapes*(1) ได้เห็นภาพเหล่าคุณป้าคุณนายไฮโซที่มาเป็นแขกร่วมเปิดงานมือถือชื่อดังตกตะลึงอ้าปากค้าง เมื่อ FUTON ขึ้นเวทีและร้องเพลง F*UCK MACHINE (ฮา)

ได้แผ่นอัลบั้มชุดแรก never mind the botox สีชมพูสดใส (และราคาสุดสยอง อิอิอิ) พร้อมลายเซ็น (ที่เซ็นไว้แล้ว) จากงาน Fat Festival 3 หน้าแตกสุดๆ เมื่อสปีคภาษาอังกฤษใส่ Momoko เต็มที่ แต่เธอดันตอบกลับมาเป็นภาษาไทย…

ได้ตะลึงอึ้งงันสุดๆ กับ FUTON ในคอนเสิร์ต FaT Radio All Stars*(2) กับการปรากฏตัวที่ชวน ‘ตะลึงงันและสั่นไหว’ และแม้จะร้องแค่ I WANNA BE YOUR DOG เพลงเดียว แต่ก็เป็นเพลงเดียวที่ดีกว่าเพลงที่เหลือในงานทั้งหมด อ้อ! อีกอย่างคือ ประสบการณ์ ‘เต้นสติแตก’ คนเดียวกลางงานคอนเสิร์ต เพราะคนอื่นแม่งนิ่งสนิท

ได้ตะลึงอึ้งแดกอีกทีตอนไปดู FUTON ในคอนเสิร์ต M-Max Concert Life Never Stop สะใจมากกับการเต้นแก้แค้นคืนยัยผู้หญิงที่กรี๊ดสติแตกวง S. (คำใบ้ – ‘สะ’ ที่ไม่หลวม) จนน่ารำคาญ แถมได้รู้ว่า ‘สังขาร’ ตัวเองไปไกลขนาดไหนแล้ว เพราะแทบจะล้มทั้งยืนหลังจาก FUTON เล่นจบ

เจอกับ FUTON ครั้งล่าสุดก็เหมือนจะเป็นในงาน Soi Music Festival*(3) งานที่ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่จากแดนปลาดิบอย่าง Cornelius มาเยือนบ้านเรา และ FUTON ก็เป็นตัวแทนของประเทศไทยโชว์ความสามารถได้อย่างไม่ต้องอายใคร …ไม่เหมือนกับวงของนายหน้าหล่อเสียงชวนง่วงคนนั้น (คำใบ้ – เล่นหนังชื่อเกี่ยวกับ ‘สัตว์สี่ขา’ ที่เจ๊งสนิท)

เวลาผ่านพ้นไป พร้อมกับการที่ผมขาดการติดต่อกับ FUTON อย่างสิ้นเชิง ซ้ำร้ายวงการเพลงไทยก็ดูมืดมนไร้แสงสว่างเสียเหลือเกิน พี่ ต. วง บ.ด.ส.ล. (วง ‘ทุ่มสุดตัว’) ก็ยังทำท่าร้องเพลงกุมไข่เหมือนเดิม เนื้อหา-แนวเพลงก็แสนจะซ้ำซาก แถมยังเพิ่มการทำเสียงโหยหวนชวนขี้ไม่ออกเข้าไปอีก ในขณะที่นักร้องป๊อปหนุ่ม ฟ. (ที่เอาไว้ใส่ในกล้อง) จากค่ายฝั่งเฮียก็ดังเป็นพลุแตก แต่ดังขนาดไหนก็ตาม จนป่านนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าหมอนี่ร้องเพลงเป็นภาษาไทยหรือภาษามนุษย์บ้างหรือเปล่า

แต่ท่ามกลางความหายนะเหล่านั้น ดูเหมือนชีวิตก็ไม่ได้บัดซบเฮงซวยจนเกินไปนัก เมื่อ FUTON ทำอัลบั้มชุดที่สอง Love Bites ออกมาในที่สุด พอฟังจบรอบแรกก็แทบจะตะโกนออกมาว่า “โอ้ สวรรค์ท่านยังมีตา มอบทางสว่างให้แก่ข้าเพื่อลุซึ่งการหนีรอดพ้นจากเพลงของค่าย ‘อา’ และ ‘เฮีย’ เสียที”

นั่นแหละ…ในเมื่อเพื่อนเก่าคนนี้กลับมาอีกครั้ง หลังจากพูดคุยผ่านสายตาม ‘เสียง’ (เพลง) มามากพอแล้ว คงถึงเวลาเสียทีที่ผมจะกลับไปเจอ ‘ตัวเป็นๆ’ ของพวกครั้งอีกเขา

เสาร์ 30 กรกฎาคม 2548
วันเสาร์นี้ของผมน่าจะเรียกได้ว่าเป็น ‘วันเสาร์แสบสันต์’ เพราะก่อนที่จะไปดู FUTON ผมก็แวะเข้าไปดูหนังเพี้ยนสุดกู่จากญี่ปุ่นอย่าง Kamikaze Girl ในโรงหนัง House (กับสติถิคนดูร่วมโรงเยอะที่สุด คือ 10 คน ปกติไม่เคยเกิน 7 คน น้อยสุด คือ ทั้งโรงนั่งดูอยู่คนเดียว) ดูจบก็เดินตรงลิ่วไปยังจุดนัดหมาย นั่นก็คือ ร้าน S&P

เดินไปถึงก็เห็นสาวๆ (?) หน้าตาคุ้นเคย คบกันมานานนมไม่ยักกะเลิกคบกันได้ซะที เธอๆทั้งหลายสวยคงที่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เหอะๆๆ …ทันใดนั้นก็เกิดอาหารหิวหื่นขึ้นมา หลังจากเห็นแขนอวบๆยุ้ยๆของน้อง Kyoko Fukada ในหนังที่ว่าไป ก็เลยสั่งข้าวมาระงับความหิวไปพลางๆ ส่วนหื่นนี่ไม่รู้ชาตินี้จะหาคนช่วยระงับได้มั้ย สนใจก็ติดต่อหลังไมค์ละกัน

ไม่รู้วันนี้กุ๊กร้าน S&P มันสมองกลับซ้ายเป็นขวา ขวาเป็นซ้ายหรืออย่างไร กาแฟสั่งเอาขมๆ แม่งก็ทำซะหวานจ๋อย ไอ้น้ำที่แม่งควรจะหวานก็เสือกลืมใส่น้ำตาลซะงั้น แถมข้าวอบทะเลนี่แม่งก็โคตรเค็ม ไม่รู้มันเอาเกลือทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกมาอบหรือเปล่า โชคดีที่ข้าวผัดปูของเราไม่โดนลูกหลงไปด้วย แต่นี่ก็ทำให้เราตระหนักว่าร้าน S&P ยังคงคอนเช็ปต์เหมือนที่แม่เคยสอนเราไว้เหมือนเดิมว่า มันคือร้าน ‘สมอลล์ แอนด์ แพง’

นั่งรอเวลา มองวิวออกไปนอกหน้าต่าง จู่ๆ ก็เห็นฝรั่งสูงขาวหุ่นยาวดูดีเดินดุ่มๆ มา ..เฮ้ยยยยยยยยยย ไซม่อน นี่หว่า!! (เอ้า..กรี๊ด!!) ว่าแล้วแกก็มานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่โต๊ะข้างนอกร้านที่อยู่ข้างๆ โต๊ะที่เรานั่งในร้านพอดี แต่สวรรค์ก็กลั่นแกล้ง ดันให้ไซม่อนนั่งหันหลังให้เราซะหยั่งงั้น (โธ่) …รู้สึกว่าชีวิตนี้จะได้เจอกับไซม่อนบ่อยเหลือเกิน (เจอบ่อยกว่าดราไทยอีก–ฮา) เพราะตอนไปดู Suede Live in Bangkok*(4) ในขณะที่ต่อแถวรอเข้างานอยู่ จู่ๆ ไซม่อนก็เดินเข้ามาทักทายแฟนเพลงเสียดื้อๆ เล่นเอาพวกเราตั้งสติกรี๊ดไม่ทัน

นั่งมองแผ่นหลังไซม่อนน้ำลายยืดอยู่สักพัก เดวิด กับ บี ก็เดินมานั่งสมทบกับไซม่อน เราก็ได้ถึงบางอ้อว่าที่แท้นักข่าวนัด 3 คนนี้ออกมาสัมภาษณ์นั่นเอง (อ้าว..แล้ว จีน กับ โมโมโกะ หายไปไหนหว่า) ขณะแอบมองอยู่นานสองนานก็เห็นสาวงามนางหนึ่งวิ่งทะล่าเข้าไปขอลายเซ็นทั้งสามกลางวงสัมภาษณ์ อืม..มารยาทงามดีแท้แม่หนู สงสัยเมื่อเช้าแต่งหน้านานเกินจนลืมหยิบสมองใส่กบาลมาด้วย

สักพักสาวๆ กลุ่มที่เดินไปเอาบัตรมาให้เราก็กลับมา บัตรเล็กชิ้นสดคราวนี้ดูดีขึ้นเป็นกอง สมัยชั้นดูเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว บัตรยังเป็นกระดาษ A4 อ่อนเหยาะแหยะที่พรินท์ด้วยพรินเตอร์สีห่วยๆ อยู่เลย …และในที่สุดบรรดาสาวๆ ที่นัดกันไว้ก็มาครบกันแล้ว วันนี้เป็นชายหนึ่งเดียวในหมู่สาวๆ ทั้งเจ็ด จนงานนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อนิทาน “สโนวไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด” เป็น “สคัมบอยกับนางยักษ์ทั้งเจ็ด” ไม่ก็เปลี่ยนสำนวน “เดือนในหมู่ดาว” เป็น “เดือนในหมู่ดาวมฤตยู” (แหะๆ ชั้นล้อเล่นนะเธอ อย่าโกรธกันล่ะ)

เดินท่ามกลางในหมู่สาวๆ แบบนี้คงโดนนินทาว่าเป็นเกย์เป็นโดยปริยาย (เอ้อ แล้วถ้ากูจะเป็นจริงๆ มันจะไปสะเทือนค่าราคาน้ำมันตรงไหนเหรอ?) ใครว่าเกิดเป็นผู้ชายไม่ลำบาก พอกูแอบไปดูคอนเสิร์ตกับเพื่อนผู้หญิง อีพวกปากสว่างก็คาบไปบอกแฟนกูให้โกรธกันเล่นซะงั้น พอกูไปดูหนังกับรุ่นน้องผู้ชายก็กระพือข่าวว่ากูหลอกกิ๊กเด็กอีก ทีนี้มากับผู้หญิงเป็นกลุ่มกูกลายเป็นกะเทย! โอ๊ย ห่าลาก อีพวกปากปรสิต มันน่าจับเอามีดแทงปากซะให้หมด!

พอรวมพลกันครบถ้วนกระบวนความแล้ว ก็เคลื่อนขบวนไปที่หน้าผับ Astra เห็นสถานที่แล้วก็อนาถใจ อีตึกข้างๆ มันยังก่อสร้างๆ เคาะเหล็ก โบกปูนกันอยู่เลย นี่ถ้าเต้นๆ เย้วๆ กันอยู่ แล้วตึกฝั่งตรงข้ามแม่งถล่มมาทับตายห่า ใครจะรับผิดชอบวะเนี่ย …ใกล้เวลา 4 โมงเย็นเข้าไปทุกทีแล้ว ฝนตกลงเม็ดแบบเว้นช่วงนานจนเราไม่ต้องหาที่หลบให้วุ่นวาย ฝูงชนแน่นขนัดไปทั่วท้องถนนสายเล็กๆ บริเวณนั้น จนแฟน FUTON จนหนึ่งในกลุ่มถึงกับพูดว่า “โอ๊ย ชั้นไม่เคยเจอคอนเสิร์ต FUTON ที่คนเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย” (ถ้าหล่อนอยากเจออะไรที่มันคนน้อยๆ ก็แวะไปดูหนังที่ House สิยะ)

เข็มนาฬิกาผ่านเลยเวลา 4 โมงเย็นไปแล้ว แต่ประตูยังไม่เปิด พิธีกรสาวเสียงเจื้อยแจ้วประกาศว่า ประตูจะเปิดเลทไปเล็กน้อย พวกเราก็เลยไปเข้าห้องน้ำห้องท่ากันเสียก่อน …ห้องน้ำแม่งน่ากลัวชิบเป๋ง มืดทึบอับ แถมยังโสโครกติดอันดับต้นๆ ของประเทศเชียวล่ะ พี่สาวคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเธอเคยเจอหมาขี้เรื้อนนอนเน่าตายในห้องน้ำตรงนี้อีก โอ๊ย! กูจะบ้าตาย

โผล่ออกมาจากห้องน้ำ ประตูงานก็เปิดพอที พวกเราก็พากันทยอยเข้าไป เห็นสถานที่ข้างในก็ยิ่งอนาถใจยกกำลังสอง เป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เล็กๆ เหมือนโบกปูนแห้งเสร็จหมาดๆ พื้นตรงกลางยังมีเหล่าตอเสาทะลึ่งผุดขึ้นมาอีก เวทีก็แคบเล็กๆ ชนิดว่าศิลปินบนเวทีคงเดินชนกันและกระโดดโลดเต้นได้ไม่เกินรัศมีรอบตัว 3 ก้าวครึ่ง แถมพื้นเวทีก็ยกระดับสูงขึ้นมาแค่นิดเดียว …อย่างว่าชื่องานมันก็บอกแล้วว่า ‘เล็ก’ ชิ้นสด เคยดูมาหลายทีแล้ว ก็พอจะรู้ว่าไม่ควรหวังอะไรกับมันมากมาย ที่สำคัญงานนี้มัน ‘ฟรี’ นี่หว่า

เข้าไปข้างในก็จับจองที่บริเวณชั้น 1 (ผับนี้มีสองชั้น) ตรงหน้าเวที แถวที่สองจากข้างหน้า เพราะถ้าไปอยู่ข้างหลังๆ คงได้เห็นแค่ ‘ไรผม’ สมาชิกวง FUTON เสียกระมัง …ระหว่างยืนรอ ผู้คนมากมายก็ไหลทะลักเข้ามาแน่นขนัด จนสูญเสียพื้นที่การทรงตัวและอากาศหายใจมากขึ้นทุกทีๆ เหล่าฝูงชนที่ว่าก็มีมากหน้าตาหลายตา หลายแบบ หลายสไตล์ หลายวัย หลายเพศ บางคนก็ดูคุ้นหน้า บางคนคนก็ดูคุ้นชื่อ (ล็อกอิน) ต่างฝ่ายก็ต่างคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายอย่างสงสัยเคลือบแคลงกันต่อไป

ยืนรออยู่ประมาณ 20 นาที ในที่สุดพิธีกรสองสาวเสียงเจื้อยแจ้วก็ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับประกาศวงเปิดของวันนี้ นั่นก็วง The Real Surreal (โห คิดชื่อได้ไงเนี่ย) นำทีมโดยมือเบสสุดสวย (!?) สอง แห่งวง Paradox ที่พ่วงอีก 3 สาวมาเป็นสมาชิกวงด้วย (แต่เจ้าตัวบอกว่าจริงๆ วงนี้เป็นวงหญิงล้วน–ฮา) ว่าแล้วไม่พูดพร่ำทำเพลงมากมาย วงนี้ก็บรรเลงเพลงซัดไป 4 เพลงรวด พร้อมกับปฏิกิริยาอันล้นหลามของผู้ชมด้วยความเงียบตะลึงอึ้งแดก และเพลงปรบมือที่ดีเลย์หลังจากจบเพลงไปประมาณ 3 วินาที

โดยสรุปแล้ว เพลงของ The Real Surreal เป็นเพลงพังค์ร็อคสุดกู่ ที่นำด้วยเสียงกีต้าร์แสบๆ และเอฟเฟ็กต์ ‘ทำมือ’ มากมาย อาทิ โทรศัพท์มือถือ และปืนเด็กเล่น (!?) และทะลวงประสาทซ้ำด้วยเสียงร้องแหลมๆ (และไม่รู้ว่ามันร้องอะไรของมัน) ของ สอง Paradox มีบางเพลงที่รู้สึกว่าคล้ายเพลงของวง Sepia ยุคแรกๆ อยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าคุณสองจะเอาวงนี้เป็นแค่วงเล่นๆ หรือคิดจะออกขายจริงจังกันแน่ แต่หลังจากเสียงตอนรับอันล้นหลามที่ว่าไปนั้น คุณสองคงรับรู้ชะตากรรมของตัวเองได้พอประมาณทีเดียว อย่างไรก็ตาม วงนี้ไม่ได้ห่วยแตกแต่อย่างไร เพียงแต่ว่ามันคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าผู้คนจะยอมรับมันได้

อ้อ เกือบลืมบอกไปว่าจุดแข็งของวง The Real Surreal คือ มือกลองที่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักมาก (เชื่อเถอะว่าป่านนี้รูปของเธอแพร่สะพัดไปทั่วเวบบอร์ดแล้ว) แถมคุณสองยังให้สัมภาษณ์ชวนเข้าใจผิดอีกว่า “อ๋อ ปกติคนนี้เค้าก็อยู่ที่ ‘ห้องต้าร์’ น่ะครับ ก็เลยชวนมาทำวงด้วย” ก่อนจะต้องแก้คำกันพัลวันว่าหมายถึง ‘ห้องซ้อมของต้าร์’ ต่างหาก (วู้ โล่งอก)

พิธีกรสาวประกาศต่อว่าก่อนที่จะถึงคราวของ FUTON วันนี้ทางวงมี ‘เซอร์ไพรส์โชว์’ ให้คุณผู้ชม ว่าแล้ว ฉับพลันที่อินโทรเพลงเพลงหนึ่งขึ้นมา น้อง mer ก็แทบจะกรี๊ดสติแตก เพราะมันคือเพลง The Beautiful Ones ของวง Suede (วงเก่าของไซม่อน) นั่นเอง ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่า FUTON จะมาเล่นเพลงของ Suede ให้ดูซะอีก ที่ไหนได้..จู่ๆ ด้านหลังก็มี สาวสวย(ประเภท)สองนาง (พวกเธอเรียกตัวเองว่า Drag Queen) ที่แต่งตัวเปรี้ยวสุดฤทธิ์มาเต้นโชว์ประกอบเพลงอย่างเมามัน (โอ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะออกมาเวิร์คได้) ไม่รู้ว่าถ้าเบรท แอนเดอร์สัน (นักร้องนำวง Suede) มาเห็นว่าเพลงตัวเองมาโดนทำแบบนี้จะรู้สึกยังไงบ้าง (อิอิอิ) แต่สมาชิกของเราคนหนึ่งเสนอความเห็นว่า นี่อาจจะเป็นความต้องการที่แท้จริงของไซม่อนที่อยากทำแบบนี้ในโชว์ของ Suede มานานแล้วแต่คนอื่นไม่ยอมก็เป็นได้ อืม..น่าคิด

หลังจากนางโชว์ทั้งสองลงไปแล้ว FUTON ก็ยังไม่ปรากฏตัว แต่เปิดเพลงเลี้ยงอารมณ์เราไปก่อน (อีกนัยคือให้เวลาพักให้หายช็อคก่อน หลังจากเจออะไรมามากแล้วในวันนี้–ฮา) มีทั้งเพลง Bang Bang จากเรื่อง KILL BILL แล้วก็เพลงอะไรไม่รู้อีกเพลงนึง

และทันใดนั้นเองเสียงคลื่นเพลงอิเล็กโทรนิกสะท้านหูที่เราคุ้นเคยก็ถูกบรรเลงขึ้นในที่สุด เสียงผู้คนร้องตะโกนเซ็งแซ่ถึงชื่อวงและชื่อสมาชิกในวงก็สูสีพอกัน ว่าแล้วสมาชิกทั้ง 5+1 ของ FUTON ก็ขึ้นมาบนเวที พร้อมกับประเดิมเจิมให้ฟลอร์แตกกับเพลงแจ้งเกิดอย่าง I Wanna Be Your Dog ไม่ต้องว่าความให้ยุ่งยาก เพลงนี้ร้องกันได้ทุกคนอยู่แล้ว

ตำแหน่งของสมาชิกวงมีการเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียวจากที่ผมคุ้นเคย…Simon เข้ามาเสริมทัพเล่นกลองให้, Bee ละมือจากเครื่อง Synthesizer มาจับกีต้าร์อย่างเต็มตัว, Momoko ก็เปลี่ยนจากเล่นเบสมาเล่นกีต้าร์ และคีย์บอร์ดในบางที, Gene ก็ยังร้องนำและ David เล่นกีต้าร์เหมือนเดิม ส่วนในด้านเบสวันนี้ทางวงก็ได้ โอ๋ วง Styrene Jungle มาช่วย

แม้จะมีสับเปลี่ยนเครื่องมือคู่กายไปบ้าง แต่สิ่งที่ FUTON ยังคงไว้เหมือนเดิมคือ ลุคอันแสบสันต์เปรี้ยวเข็ดฟัน วันนี้ Gene มากับเสื้อขาวลายพร้อยแอบเซ็กซี่เพราะซี-ทรูนิดๆ เข็มขัดและแหวนฝังเพชรที่ประกายแทงตาคนดูสามแถวหน้าบอดไปตามๆ กัน และกางเกงขาสั้นที่ทำให้มีคนแซวว่าจะไปตีกอล์ฟที่ไหนเหรอพี่? Bee มากับเสื้อที่ลายสุดเท่และกระโปรงสก็อตต์ (คาดว่าคงยืม Gene มาใส่) Momoko ตอนแรกใส่เสื้อคลุมสีดำมาก่อนปกปิดเซอร์ไพรส์ไว้ข้างใน ส่วน David และ Simon ใส่สูทและสีเชิ้ตสีดำตามลำดับ คาดว่าสองคนหลังตั้งใจแต่งตัวแบบธรรมดามาช่วยเบรคความจัดจ้านบนเวที และช่วยให้คนดูสบายใจว่ายังมีคนปกติตั้งสองคนหลงเหลืออยู่ (ฮา)

ไหนๆ เพลงแรกก็บอกว่า ฉันอยากเป็น ‘หมา’ ไปแล้ว ก็แรงกันต่อไปให้พอกับเพลงที่สอง Gay Boy คราวนี้ ‘ฉัน’ อยากจะเป็นอะไร ไม่ต้องสาธยายความให้ยุ่งยาก แค่ชื่อเพลงก็พอแล้ว…สะใจมากกับการได้ตะโกนคำบางคำในเนื้อเพลงเพลงนี้ (โปรดสังเกตอักษรตัวใหญ่)
“I don’t wanna be straight
Football makes me MASTURBATE” !!!!!!!!


สามเพลงแรกนี้ FUTON คงกะอุ่นไออากาศในงานให้ถึงจุดเดือดไปเลย เพราะเพลงที่สามคือเพลงมันส์ๆ อย่าง Guessing Game ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ เพลงที่เปรียบเทียบความรักเหมือนเกมชวนหัวหมุน ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงชื่อหนังสือของมิลาน คุนเดอร่า ‘รักชวนหัว’ เพราะความรักมันก็เหมือนกับการนับเหล่าอินทรีย์ในห้วงมหาสมุทร เหมือนสัญญาณไฟจราจรที่เปลี่ยนทุกวินาที และบางทีก็เหมือนการปีนภูเขาที่ไม่รู้จุดหมาย
“Like traffic lights that change every second,
You tell me to stop,
Then I hear you beckon.”


ผ่านมาถึงช่วงนี้ Momoko คงร้อนได้ที่ ก็เลยถอดเสื้อคลุมออกซะเลย สิ่งที่ปรากฏก็คือ เสื้อที่เว้าแหว่งไปเสียทุกส่วน อืม..สร้างความตะลึงได้ประมาณ 3.5 วินาที แต่ เอ๊ะ! ดูๆ ไปมันเหมือนชุดที่ตัวละครในหนังจักรๆวงศ์ๆ ใส่ในละครช่อง 7 ตอนเช้านะเนี่ย (ฮา) แต่เอาเถอะ ใส่กางเกงในขึ้นคอนเสิร์ตเธอยังทำมาแล้วเลย

เล่นเพลงจังหวะเร้าใจมามากแล้ว มาที่เพลงจังหวะกลางๆ บ้างกับเพลงเปิดตัวอัลบั้มชุดสองอย่าง Love So Strong ไม่น่าเชื่อว่า FUTON จะมีเพลงที่โรแมนติกได้ขนาดนี้ เพราะมันไร้ซึ่งการเปรียบเปรยเสียดสี แต่พูดถึงคนที่หลงเมารักได้อย่างลึกซึ้ง และแน่นอนเพลงขึ้นอันดับ 1 เพลงนี้จึงมีคนร้องตามกันได้เสียงดังชัดแจ้ง
“You are my life You are my light
You are my candle on the darkness night”


อย่างกับว่างานวันนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ไม่พอ FUTON เอาเพลงใหม่มาฝากเราอีกแล้ว ชื่อเพลงอะไรฟังไม่ชัดนัก แต่น่าจะประมาณ Can’t Look In Your Eyes ไม่ก็ That Look In Your Eyes จะชื่ออะไรก็ช่าง แต่ขอรับประกันไว้ตรงนี้ว่าฟังแล้วได้มีอะไรกระแทกเข้าไปในหัว เพราะตอนอยู่ในงานเพลงนี้ก็กระตุ้นให้เราได้โยกหัวอีกครั้ง

อยู่ดีๆ สมาชิกที่เหลือก็ทิ้ง Momoko ไว้บนเวทีคนเดียว แถมเธอก็พูดเสียน่ารักว่า “Now, I’m alone” (ให้เฮียขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนมั้ยล่ะจ๊ะ เหอๆๆ) ว่าแล้วเธอก็โชว์เดี่ยวเพลง Suitcase ให้พวกเราฟังซะเลย ไม่แน่ใจว่าเพลงนี้ว่าถึงอะไร (ก็เนื้อเพลงมันเป็นภาษาญี่ปุ่น) แต่ชอบท่อนฮุคมากๆ ที่ว่า…
“I want to put you in my suitcase
I want to take you to Harajuku”

แหม…ก็เพราะเพลงรักแบบนี้สิ FUTON ถึงได้เป็น FUTON อยู่วันยังค่ำ!

แต่สงสัยว่านานๆที Momoko เธอจะได้อยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ เธอก็เลยตื่นเต้น ร้องผิดร้องถูกไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร “ความ(น่า)รักชนะทุกอย่าง” ค่ะ! ว่าแล้วตอนท้ายๆ เพลง Gene ก็เลยขึ้นมาช่วยร้องด้วย ส่วน David ที่ยืนเชียร์อยู่ข้างเวทีก็ตะโกนไล่หลังมาว่า “Enjoy yourself!” เรียกเสียงฮาได้ทั้งงาน

บนเวทีตอนนี้ยังมีแค่ Gene กับ Momoko สองคน จากนั้น Gene ก็บอกว่า “วันนี้มีเพลง Morning After Pill เวอร์ชันพิเศษมาฝาก” นั่นก็คือ จะมีแต่เสียงคีย์บอร์ดของ Momoko กับเสียงร้องของ Gene เท่านั้น ซึ่งปรากฏว่ามันออกมาดีมาก ผมฟังแล้วรู้สึกขนลุก (แต่บางคนบอกว่าเหมือนอยู่ในโรงละครบอร์ดเวย์) มันทำให้เรารู้สึกได้ถึงความเศร้า ความโดดเดี่ยว ในเช้าวันใหม่หลังค่ำคืนแห่งความเมามาย
“In the morning we’ll crawl into each other
And in the morning stiff beneath the covers
In the morning you’ll feel sore
But in the morning you’ll beg me for more”


ตรงนี้แอบเม้าท์นิดนึงว่าท่อนกลางๆ Momoko แอบเล่นผิดด้วย แต่กระนั้น Gene ก็เบรคจังหวะกลับมาเจอกันจนได้ แถมท้ายแอบเปรี้ยวด้วยการเอาเพลง Sorry มาร้องต่อในเพลงนี้ด้วย ไม่รู้ว่าทำไม แต่มันก็โคตรจะเข้ากัน
“Sorry Sorry Sorry Sorry
But hey you're not my daddy or my mommy
So don't call me baby 'cos I'm fucking pissed-off! Honey
What about my self respect?”

ให้ตายเถอะ! ชอบเนื้อเพลงท่อนนี้จริงๆ พับผ่า!

ปล่อยให้เวทีมีพื้นที่โล่งได้พักใหญ่แล้ว สมาชิกที่เหลือจึงตามมาสมทบให้ครบทีมอีกครั้ง แล้วก็เล่นเพลงดังที่เป็นเพลงโปรดของหลายๆคน เพลงที่ว่าด้วยคู่กะหรี่แมงดาที่ดูมีความสุข และพอใจในชีวิตเหี้ยๆ ของตัวเองดี จะเพลงอะไรเสียอีกถ้าไม่ใช่เพลง High …ตอนเล่นเพลงนี้ชอบตอนที่ Gene, Momoko, โอ๋, David ไปนั่งเบียดๆ อยู่ด้วยกัน เป็นภาพที่น่ารักดี

ล่องลอยสู่สวรรค์ไปแล้ว FUTON ก็กระชากคนดูกลับลงมาบนโลกด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ อย่าง Dead Husband Collection พอมาถึงเพลงนี้ก็รู้สึกว่ารอบข้างตัวเองมันแน่นและคับแคบไปเสียหมด จากตอนแรกที่ไม่สามารถแดนซ์กระจายได้จึงต้องใช้วิธีโยกหัวแทน มาตอนนี้จะขยับแขนขึ้นลงยังลำบากเลย (คราวหน้าช่วยไปจัดที่กว้างๆ หน่อยได้มั้ย สนามหลวง อะไรแบบนี้น่ะ) แล้วอากาศในงานก็ร้อนและอบมาก หายใจได้ไม่เต็มปอดนัก แถมเหงื่อก็ไหลเอาๆ แต่พอเงยหน้าไปดูสภาพของบรรดา FUTON ที่กระโดดโลดเต้นสู้ไม่ถอยกับอากาศร้อนในงาน เรื่องที่บ่นมาของผมก็กลายเรื่องขี้ประติ๋วไปทันที (อ้อ อีกความรู้สึกหนึ่งก็คือ รู้สึกเมื่อยตีนมากพะยะค่ะ)

จำไม่ได้แน่ชัดว่าตอนเพลงนี้หรือเปล่า ที่จู่ๆ มี ‘อีลูกช่างถ่าย’ มุดลอดขาเราไปข้างหน้าเพื่อถ่ายรูป โอ้โห! พวกนี้นี่มีความพยายามเสียจริง ไม่รู้ว่าชาติก่อนเป็นขอมดำดิน หรือพ่อแม่มันเป็นไส้เดือนหรือเปล่า ว่าแล้วมันน่าแกล้งบล็อคมันไม่ให้ต้องยืนขึ้นอีกเลย มีปัญญามุดเข้าไปได้ ก็ให้มันหาทางมุดออกมาเองแล้วกัน ก็ไม่ได้อยากจะว่าอะไรหรอกนะ พวกถ่ายรูปในงานคอนเสิร์ตเนี่ย เข้าใจว่าสำหรับบางคนมันก็เป็นงานอ่ะนะ (เช่น ถ่ายไปลงในเวบ) แต่ขอร้องเถอะเกรงใจคนรอบตัวซะบ้าง ระวังเถอะ! จะแกล้งเต้นท่าหนุมานถวายแหวนใส่ให้กล้องพังไปเลย หึ!

เอ้า! บ่นเป็นหมากินผึ้งมามากพอแล้ว กลับมาที่งานต่อ จบเพลง “ชุดสะสมผัวตาย” ไปแล้ว FUTON ก็อัดต่อด้วยเพลง Rich Baby อืม…น่าตลกดีที่เพลงนี้ออกมาในช่วงที่แฟชั่น ‘เด็กแนว’ ระบาด อืมๆ น่าคิดจริงๆ ว่า BABY ในเพลงนี้หมายถึงใครกันน้อ..
“Baby, you ain’t cool and you’re just rich and there’s difference
You think you’re so hip and fly and I wonder why”


ถ้าจำไม่พลาดรู้สึกว่ากลางๆ เพลงนี้ Gene จะเฮี้ยนขึ้นมายืนส่ายให้ชาวประชาเห็นเป็นขวัญตา โอย ขอบอก แสงไฟแสงแฟลชสะท้อนกันวูบวาบจ้าละหวั่น อ้อ ได้ข่าวว่าคนแถวหน้ามือไม้สั่น จับกล้องขึ้นมาถ่ายไม่ไหว นี่ถือเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจมากเชียวล่ะ

จบเพลงนี้แล้ว Gene ก็บอกว่า “เพลงสุดท้ายแล้ว” ซะงั้น ส่งท้ายด้วยเพลงมิกซ์มันส์หลุดโลกอย่าง Gay boy Pramface Club Mix โอ๊ย! ไม่เคยฟังเพลงนี้สดๆ เลยค่ะ ไม่นึกว่าจะมันส์ขนาดนี้ นี่ถ้าฟลอร์มันไม่แคบดิฉันคงเต้นบัลเล่ต์ไปรอบๆ งานแล้ว ชอบจังที่เพลงนี้ไม่ร้องบ้าบออะไรนอกจากประโยค “SUCKING OFF A FILM STAR!!!!” วุ้ย สะใจค่ะ

หลังจากสมาชิกวงลงจากเวทีไป ก็มีการเป็น encore แบบเป็นพิธี (ชั้นรู้ย่ะ ว่ามันต้องมีอีกเพลงนึง ก็แบบว่า set list มันวางอยู่ข้างหน้าชั้นเนี่ย) หายไปแวบเดียวก็กลับกันมาอีกครั้ง ตรงนี้มีโมเมนต์ประทับใจอีกอันคือ Simonขึ้นมาบนเวทีก่อน สมาชิกแนวหน้ากล้าตายของกลุ่มเราจึงยื่นแขนสุดชีวิตเพื่อถ่ายรูปเขาให้ได้สวยๆ (วินาทีนั้นเธอคงเป็นครั้งแรกที่เธออยากยื่นแขนได้เหมือนแม่นาค) ว่าแล้ว Simon ก็น่ารักมากๆ ให้ความร่วมมือสุดๆ เธอก็หันมายิ้มยิงฟันขาวจั๊วะใส่กล้องทันที กรี๊ดดดดด! สติแตก! แบบนี้ไม่ต้องกลงต้องกลับมันหรอกค่ะอังกฤษเนี่ย เฮียอยู่ในเมืองไทยนี่แหละดีแล้ว แฟนๆเยอะนะคะขอบอก

พอขึ้นมากันครบแล้ว FUTON ก็เล่นเพลงปิดท้ายงานวันนี้ นั่นก็คือ Tokyo Sunset นั่นเอง แม้จะเป็นเพลงสุดท้าย และก็ต้องเล่นเพลงนี้มาประมาณสองร้อยเจ็ดสิบสามครั้งแล้ว แต่พวกเขาก็ยังเต็มที่กับวินาทีนั้นๆ อยู่ดี Gene ก็ยังกระโดดโลดเต้นไปทั่วเวที ส่วน Momoko ก็เอาไมค์ไปให้คนดูข้างหน้าช่วยร้องกัน (น่าดีใจจังที่มีหลายคนร้องเพลงของพวกเขาได้) และเมื่อตัวโน้ตสุดท้ายถูกบรรเลง จนถูกความเงียบงันและเสียงปรบมือกึกก้องกลืนหายไปในที่สุด เหล่า FUTON ก็ขอบคุณผู้ชมและเดินลงจากเวทีไป

สองพิธีกร น้องเจื้อยและน้องแจ้วกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับขอบคุณสปอนเซอร์ของงาน (ซึ่งตลกมาก เพราะประกอบไปด้วย Brand, Sprite และ Spy ถ้าเด็กไทยกินอีสามอย่างนี่พร้อมๆ กัน คงฉลาดตายห่ากันทั้งประเทศ) และอวยพรให้ผู้ชมทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ…

พอเดินออกมาจาก Astra ก็ดูเหมือนว่าฝนชุดใหญ่จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือไว้ซึ่งปรอยฝนเม็ดเล็กเม็ดน้อย บางคนก็ขอแยกตัวกลับบ้านไปก่อน ส่วนพวกเราที่เหลือตัดสินใจกันว่าจะไปต่อกันที่ร้านหมูกระทะเจ้าเด็ด ระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถเมล์พวกเราก็แวะนั่งถ่ายรูปกันตรงบันไดร้านอะไรสักอย่าง ทันใดนั้นเองหนุ่มน่าล่อ เอ๊ย! หน้าหล่อคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมมอบความช่วยเหลือช่วยพวกเรากดชัตเตอร์ สอบถามไปมาจึงรู้ว่าเขาก็มาดู FUTON เหมือนกัน (แหม แต่พี่แต่งตัวเหมือนเพิ่งเลิกประชุมบริษัทเลย) พูดคุยกันสักพักก็แยกกันไป (แหม! จริงๆน่าจะชวนไปกินหมูกระทะด้วยนะ)

เคลื่อนพลมาที่ร้านหมูกระทะก็กินกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับเม้าท์กันอย่างเมามัน ฮากระจาย (ติดก็ตรงที่ชอบมีเด็กขายดอกไม้มาตื๊อขอตังค์ หนูๆ ดูหน้าพี่ไม่ออกหรือไงคะว่าพี่เป็นพวกเกลียดเด็กและมีสิทธิตบกบาลพวกมึงคว่ำได้!) เวลาคล้อยเคลื่อนไปถึง 2 ทุ่มแล้ว ก็ถึงเวลาร่ำลากลับบ้านใครบ้านมัน แต่ก็มีสังหรณ์ว่าคงได้พบกันอีกคราวในงานของ FUTON สักแห่งหนใดบนโลกนี้

ตอนขากลับ ผมนั่งรถใต้ดินกลับคนเดียว และได้ใช้เวลากับห้วงความคิดของตัวเอง เพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ …ตามจริงแล้วผมก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากนักกับตัวงาน แต่ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่างานของ ‘เล็กชิ้นสด’ จะเป็นแบบนี้ สถานที่แบบบ้านๆ Sound แบบพอไปวัดไปวา และ Lighting ที่ดูดีกว่างานวัดแถวบ้านขึ้นมาหน่อย ที่สำคัญคือ งานแบบนี้มันไม่สามารถเต้นแร้งเต้นกาได้ การก่ออารมณ์ร่วมไปกับจังหวะท่วงทำนองเพลงจึงต้องเป็นหมันไปโดยปริยาย

แต่สิ่งที่ประทับก็ยังคงเป็นเหล่าสมาชิก FUTON ที่ยังคงเต็มที่และเล่นสดได้อย่างมีชีวิตชีวาเหมือนอย่างเคย เหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เคยดูมาในชีวิต สำหรับผมแล้วพวกเขายังยอดเยี่ยมเหมือนเคย

ประทับใจอีกส่วนก็คงเป็นเรื่องของบรรดาสมาชิกแก๊งค์ที่มาด้วยกันในวันนี้
บางคนมาดูงานนี้ แม้จะเคยดู FUTON มานับสิบๆ ครั้งแล้ว
บางคนอุตส่าห์นั่ง TAXI ขึ้นทางด่วนราคาแพงหูฉี่ เพื่อมาดูให้ทัน
บางคนเพิ่งสอบเสร็จจากที่มหาลัย ก็อุตส่าห์วิ่งรอกมาดูทันจนได้
และ บางคนที่ไม่เคยดู ไม่เคยฟัง FUTON เลย ก็พูดหลังจากงานจบทันทีว่า “คราวหน้ามาอีกแน่นอน”
…เหล่านี้เกิดขึ้นได้ เพราะอะไรเล่า ถ้าไม่ใช่ ‘ความพิเศษ’ ในตัวของ FUTON

หลังจากที่ฟังอัลบั้ม Love Bites จบในรอบแรกเมื่อกลางปี ผมการันตีทันทีว่านี่จะต้องติด 1 ใน 10 อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปี 2005 ของตัวผมแน่นอน และขอนิยามอัลบั้มนี้แบบไทยๆ ว่า “รักนี้ ‘กัด’ เจ็บนัก” และกับงาน เล็กชิ้นสด Electric Love ที่สรรค์สร้างประจุพลังงานขนานใหญ่มากมายอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็คงไม่เกินเลยนักถ้าจะนิยามว่ามันคือ “รักสปาร์คกระชากใจ”

…จริงมั้ย?


SET LIST
01. Intro
02. I Wanna Be Your Dog
03. Gay Boy
04. Guessing Game
05. Love So Strong
06. That Look In Your Eyes (*New Song)
07. Suitcase
08. Morning After Pill + Sorry
09. High
10. Dead Husband
11. Rich Baby
12. Gay Boy -Pramface Club Mix-
encore
13. Tokyo Sunset


เชิงอรรถ
*(1) Nokia 3300 Digital Sound Scapes จัดขึ้นเมื่อสิงหาคม 2546 เป็นงานรวมเหล่าศิลปินอิเล็กโทรนิกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ได้แก่ LORD101, Cliquet Par, Nolens.Volens, FUTON, Stylish Nonsense และ Dj.Suharit / อ่านบทความเกี่ยวกับศิลปินอิเล็กโทรนิกในเมืองไทยได้ ที่นี่

*(2) อ่านรายงานคอนเสิร์ต FaT Radio All Stars ได้ ที่นี่

*(3) อ่านรายงานคอนเสิร์ต Soi Music Festival ได้ ที่นี่

*(4) อ่านรายงานคอนเสิร์ต Suede Live in Bangkok ได้ ที่นี่

ขอขอบคุณ เวบมาสเตอร์ GETFUTON – //clix.to/getfuton




FUTON ‘s discography
01. I WANNA BE YOUR DOG (single) (2003)
02. never mind the botox (1st album / Limited Edition) (2003)
03. never mind the botox -2nd press- (plus 3 Remix) (2004)
04. Futon 1000 (Limited Edition) (2004)
05. Love Bites (2nd album) (2005)



Create Date : 01 สิงหาคม 2548
Last Update : 1 สิงหาคม 2548 2:35:33 น. 27 comments
Counter : 2268 Pageviews.

 
นั่งฟัง F*UCK MACHINE และอัลบั้ม Love Bites ไปพร้อมกับอ่าน blog นี้ไปด้วย ได้บรรยากาศจริงๆ

เป็นงานที่พลาด เพราะเหตุบางประการ มาเก็บบรรยากาศ เล็ก ชิ้น สด แถว blog คุณน้องต่อ เอาก็ได้ อ่านแล้วมันส์ดี อุอุ


โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:3:04:57 น.  

 
อยากไปดูจังเลยครับ
ท่าทางจะมันน่าดู

ป.ล. ชอบ F*CK Machine เหมือนกันเลยครับ


โดย: it ซียู วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:8:41:41 น.  

 
มาอ่านเอา "มันส์" ตามอารมณ์คนเขียนค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:9:48:49 น.  

 
เฉยๆครับกับวงนี้

แต่ก็เป็นวงที่น่าจับตามองวงนึงครับ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:11:03:07 น.  

 
เสียดายจังไม่ได้ไป
แต่อ่านแล้วเหมือนได้ไปเลยนา
อิอิ


โดย: oporr (fakeplasticgirl ) วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:11:30:49 น.  

 
เอ้อ เราดูอยู่หลังๆ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเล้ย แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเราเนี่ย น้องพลอย H น่ารักดี
ว่าแล้วว่าถ้ามาบล้อคน้อง mer ต้องได้อ่านฟูตองแน่
บล้อคเรายังไม่มีเวลาอัพ ฟูตองขึ้นเล้ย งานยุ่งเชียว

ปล. ถามจริงเหอะ นี่ดูไปจดไปหรอนี่ จำได้ไงหมดนั่นอะ


โดย: พี่คนนั้น (LUNATIC SPACE ) วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:11:40:53 น.  

 
โอ้ มาคราวนี้คุณ merveillesxx ปากจัดขึ้นเป็นกอง(ฮา)


โดย: มอสทาร่ายักษ์ วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:12:03:51 น.  

 
ผมยืนอยู่แถวสอง พาราดอกซ์นะครับ ที่ตำแหน่งกำลังดี แต่มีลำโพงบังทำให้ไม่ค่อยเห็น Bee เท่าไรนัก

ส่วนเรื่องลิสต์เพลง นั้นดิ ไปดูที่แอบจด Song List อะเปล่า พี่พยายามจำเท่าไรก็จำบ่ได้แหะ......

โดยความรู้สึกส่วนตัวมันจบไวยังไงไม่รู้ อยากให้เล่นยาวกว่านี้ (แต่สงสารจีนแฮะ เดี๋ยวเหนื่อยขาดใจตายก่อน)

ผมเขียนรีวิวไว้เหมือนกัน ฝากอ่านกันหน่อยนะครับ

ป.ล. เสียดายแฮะลืมเอาซีดีไป อดได้ลายเซ็นเลย บีกับไซมอนเดินไปมาเหมือนอยู่แถวบ้านอย่างนั้นแหละ


โดย: Thom Yorke (I will see U in the next life. ) วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:12:51:02 น.  

 
เออ อีกอย่างที่อยากขอบคุณแฟทและอยากให้ทำต่อไปคือ เรื่องการไม่สูบบุหรี่นี้แหละ โอ้ยโล่งปอดไปเยอะ

ป.ล. เดือนนี้ไปดูพรูกันน่ะพวกเรา


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:13:01:42 น.  

 
ดีจัง น่าหามาฟังมั่ง


โดย: เกือกซ่าสีชมพู IP: 66.91.254.36 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:14:15:31 น.  

 
พลาดค่ะ
...พลาดอย่างแรง !

เหตุเนื่องมาจากโทรไปตอบคำถามไม่ติดและไม่มีเวลาเอาหน้าปกอัลบั้มไปโชว์ที่คลิ๊กเรดิโอ ฮือๆ :'(

แอบอิจฉาคนได้ไป

ปล. จะเน้นไปทาง Bangkok Chemist มากกว่า ฟังแล้วหลอนดีค่ะ


โดย: C r i s i s " IP: 202.8.84.29 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:15:11:09 น.  

 
โอ๊ะถ้ามีโอกาสอาจได้เจอกันที่เพียวริคุ-ฟรายเดย์ก็เป็นได้นะคะ


โดย: C r i s i s " (ver.return) IP: 202.8.84.29 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:15:14:09 น.  

 
ตอบคุณ LUNATIC SPACE
คราวนี้ไม่ได้จดค่ะ แหม ที่แคบหยั่งกะหอยมดแบบนั้น ใครจะไปทำอะไรได้

ตอบคุณ มอสทาร่ายักษ์
ดิฉันก็ปากแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะค่ะ เพียงแต่ว่าเวลาอยู่ใน PANTIP.COM ก็ต้องปรับตัวตามสภาพผู้ดีจอมปลอม แบบนั้นแหละค่ะ

ตอบคุณ Thom Yorke
เล็กชิ้นสด ก็จะประมาณนี้แหละค่ะ คือ ใช้เวลารอ+เดินทาง มากกว่า ตัวงานจริงๆ เสียอีก นี่ยังน้อยนะคะ ตอนไปดู Kidnappers ดิฉันนั่งรอเหนียงยานประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เล่นจริงประหนึ่งแค่ 30 นาที รู้งี้ซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับภูเก็ตสัก 3 รอบ ยังมันกว่าเลย


โดย: merveillesxx วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:22:43:34 น.  

 
ม่ะค่อยถนัดงานเพลงแนวนี้ แต่ก็แวะมาอ่านจ๊ะ


โดย: job IP: 61.91.211.240 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:23:54:09 น.  

 
เขียนได้สนุกจริงๆ พลาดไม่ได้ไปดู sms ไปสองรอบผิดหมด เลยหมดอารมณ์ เหอะๆ


โดย: lakari IP: 61.91.216.26 วันที่: 2 สิงหาคม 2548 เวลา:1:29:57 น.  

 
To Merveilesxx

กลัวพรูถูกตัดแบบนี้จังเลยแฮะ

เพลงแต่เพลงยาวมิใช่น้อย ถ้าเล่นกันแค่นี้ โอ้ย! ขอเศร้าล่วงหน้า


โดย: Thom Yorke IP: 161.200.255.162 วันที่: 2 สิงหาคม 2548 เวลา:9:27:45 น.  

 
ตกลง พี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายค่ะ
เริ่มสับสน จำได้ว่าที่เห็นในงานน่ะ
เป็นผู้ชายนี่ค่ะ........

เก็บทุกรายละเอียดเลยนะ
คนไม่ไปดู ยังสัมผัสได้ทุกความรู้สึกเลย


โดย: Silent_sigh IP: 203.144.241.41 วันที่: 3 สิงหาคม 2548 เวลา:18:20:42 น.  

 
อ้าว lakari เรานึกว่าไม่ได้ชอบเพลงประมานนี้เลยไม่ได้ชวนอะ
บัตรเหลือใบนึงแหละขอบอก
แต่ก็นั่นแหละนะ เราก็อดดูหนังของ lakari เหมือนกันแหละ
เราเจอกันช้าไปเนอะ น้อง mer


โดย: LUNATIC SPACE วันที่: 4 สิงหาคม 2548 เวลา:10:47:37 น.  

 
กำลังติดตามงานของFuton อยู่ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ช่วยให้ตัดสินใจซื้อFUTON แล้ว


โดย: Boid IP: 61.91.173.224 วันที่: 4 สิงหาคม 2548 เวลา:17:35:34 น.  

 
^^ ขอบคุณน้า เด่วต้องดูหน่อยล่ะ


โดย: P a s t e l T o n e วันที่: 5 สิงหาคม 2548 เวลา:2:32:24 น.  

 
เปี่ยมล้นไปด้วยพลังมาก ๆ
ประทับใจสุด ๆ ครั้งแรกเลย
ที่ได้ดู FUTON แต่... เซ็งว่ะ
1. เด็กแฟตเปงหอยไรกันฟะ
คอนเสิร์ตมันส์ ๆ มีไว้ดิ้นเพื่อ
อินกับเพลง นี่ u ไม่ได้มายืนดู
งานวิจัยเพราะพันธุ์สัตว์นะเว้ย
ยืนนิ่งหน้าเครียดเชียวเมิง...
2. ที่สิงสถิตโคตร -*- จริง ๆ
กระโดด ๆ ยังเห็นแต่หน้าบวม ๆ
ของพี่สอง - -" แต่พอ FUTON
ขึ้น ไอ้รี่ก็ตะเกียกตะกายจนได้เห็น
ครบทุกคนเลย (เพียงวิฯ ก็ยังดี -*-)

P$ 1. ความจำเป็นเลิศเหมื๊อนเคยนะตั๊ว
2. ได้เม้าท์กันนิดเดียวเองตัว เสียดาย


โดย: Zweet_Daddy IP: 58.11.70.171 วันที่: 5 สิงหาคม 2548 เวลา:20:14:42 น.  

 
ไม่ได้ไปดูครับ เศร้าซะ...


โดย: zoxmok IP: 220.233.14.201 วันที่: 9 สิงหาคม 2548 เวลา:9:06:43 น.  

 
โอ๊ยยย
คุณเขียนได้มันส์จริง ๆ อ่ะแหละครับ
ชอบมาก ๆ ๆ


โดย: nozomu IP: 203.155.132.244 วันที่: 17 สิงหาคม 2548 เวลา:12:32:18 น.  

 


โดย: ทราย IP: 203.172.106.76 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:13:31:36 น.  

 
เราชอบFUTON มากเลย



โดย: ทราย IP: 203.172.106.76 วันที่: 23 มีนาคม 2549 เวลา:13:32:47 น.  

 
ชอบมากอ่ะ

FUTON

โครตชอบ

ชอบพี่โอ๋มากด้วย

น่ารัก555มือเบสอ่ะกริ้วๆ

กร้ากๆ

เพลงแรกที่รู้จัก

ก็

I wanna be your dog

เหมือนกัน

โครตชอบเลย

แนวแม่มเจ๋งดี


โดย: Dream IP: 124.120.164.149 วันที่: 27 เมษายน 2550 เวลา:23:30:44 น.  

 
i love futon


โดย: aim IP: 125.27.39.36 วันที่: 28 ธันวาคม 2551 เวลา:3:40:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.