|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
FaT Festival ครั้งที่ 4 ภาคฮี้-ฮ้อ ~ โกอินเตอร์
FaT Festival ครั้งที่ 4 ภาคฮี้-ฮ้อ ~ โกอินเตอร์ โดย merveillesxx
ออนไลน์ครั้งแรก: //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=12187 (7 พ.ย. 2547)
FaT Festival4 มาอีกครั้งกับมหกรรมประจำปี ที่นับวันจะใหญ่ขึ้น แถมปีนี้เค้าว่ากันว่างานนี้โกอินเตอร์แล้วล่ะ
ผมไปงานแฟตครั้งแรกก็เมื่อ Fat Fes2 ที่จัดที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ซึ่งเป็นครั้งที่ชอบที่สุดเพราะ 1.ใกล้บ้านมากๆ 2.ติดแอร์ 3.เดินง่าย ไม่กว้างมาก 4.อะไรๆในตอนนั้นมันยังน่าสนใจ และไม่ใช่แบบในปัจจุบันนี้ คราวนั้นผมหมดเงินไปกับซีดีชนิดที่เรียกว่าลบสถิติการใช้เงินทั้งชีวิตของตัวเองไปเลย (ตกประมาณ 6,000 บาท เป็นเพียงข้อมูลทางสถิติ มิได้ต้องการแสดงสถานะทางการเงินแต่อย่างใด) อย่างไรก็ตามเป็นการใช้เงินที่สนองอรรถประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะทุกแผ่นดูเหมือนจะเข้าทางและเข้าทีไม่มีมั่ว และเนื่องจากในครั้งนั้นงานจัดใกล้บ้านมากๆ จึงได้ดูโชว์พอสมควรที่ประทับใจที่สุดคงเป็นวง Paradox ที่ขอรับประกันว่ามันกว่าตอน FaT Live ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมากซะอีก สรุปแล้วแฟตเฟสครั้งนั้น ผมประทับใจมาก
มาครั้งที่ 3 ไปจัดถึงสวนสยาม กว้างขึ้นมาก แต่ข้อเสียก็คือ ร้อน-ตับ-แตก คราวนี้ถล่มเงินไปประมาณ 4,000 บาท แต่กลับบ้านค่อนข้างผิดหวัง เพราะรู้สึกเหมือนถูกหลอกจากหลายๆแผ่น โดยเฉพาะพวก EP เนี่ยตัวดีเลย นอกจากจะเปลืองเงินสุดๆแล้ว บางอันยังทำปกสวยๆมาล่อตาล่อใจอีกด้วย (สังเกตสิว่างานแฟตแทบจะขาย EP กันทั้งงาน) จบงานนั้นเลยปฏิญาณกลับตัวเองไว้ว่าครั้งหน้าจะเน้นซื้อแต่อัลบั้มเต็มแล้ว คราวสวนสยามนี้ไม่ได้ดูโชว์อะไรเลย เพราะเข้าไปในเวทีใหญ่ไม่ทัน สรุปของคราวนี้ก็คือ ประทับใจ แต่น้อยลง
มาถึงครั้งที่ 4 ผมลงจากสาย 16 ที่สนามม้านางเลิ้ง (ซึ่งก็ลงกันเกือบทั้งคันนั่นแหละ ขึ้นรถไปพอเห็นการแต่งตัวก็รู้แล้วว่าไปงานไหนกัน) ตกใจเหมือนกันเพราะเห็นออกันที่สะพานแน่นขนัดเลยทีเดียว ใช้เวลาตากแดดตากร้อน (บนสะพานลอยด้วย!) อยู่เกือบ 20 นาทีกว่าจะได้เข้าไป สาเหตุคงเพราะประตูงานมันเล็กมาก (เล็กยิ่งโรงเรียนอนุบาลบางแห่งซะอีก) และมีคุณตำรวจคอยตรวจด้วย (ซึ่งคุณพี่ตรวจได้รุนแรงมาก หวิดจะเป็นตรวจภายในอยู่แล้ว) ตอนนั้นก็พูดกับเพื่อนว่าสงสารเหล่าชาวฮิปฮอปทั้งหลายที่คงร้อนน่าดู
สรุปก็ได้เข้างานประมาณ 13.45
วันนี้คิดไว้ว่าจะรีบซื้อรีบกลับ เพราะโชว์ที่อยากดูก็เล่นดึกเหลือเกิน นั่นคือโซนแอร์ ฮอร์ส สเตจ ที่เล่นเพลงอิเล็กทรอนิก จะเริ่มเล่นเวลา 19.00 เป็นต้นไป ก็เลยตัดใจไป (ส่วน Fantastic Plastic Machine นี่ลาขาดเพราะวันจันทร์เรียนเช้า เลยตัดปัญหาโดยไม่ไปวันอาทิตย์ซะเลย) พอเข้าไปก็ซื้อสูจิบัตรของงานราคา 3 บาท
เข้าใจทำนะ เด็กเป็นล้านขนาดนี้ก็คงคุ้มค่าพิมพ์อยู่ จากนั้นก็ฝ่าความร้อนและฝูงชน (ที่บางคนก็แต่งตัวประหลาดๆได้ใจดี แต่สงสัยว่าจะลืมไปว่า ที่นี่ประเทศไทย ประเทศที่อุณหภูมิสูงจนคนคลั่งเอามีดจี้เมีย-ลูก ตัวเองได้
อืม สงสัยฟังแต่วิทยุ ลืมดูข่าว อ้อ ไม่ก็ดูแต่พวก เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก กระมัง) ก็เดินผ่านเวที ลานพักตร์อาชา ที่เป็นเวทีสำหรับวงหน้าใหม่ วงอะไรเล่นอยู่ก็ไม่รู้ แต่ท่าทางฝีมือไปได้อยู่ พิธีกรเวทีนี้ก็เป็นนายหัวฟูผมอาโฟร่คนนั้นเหมือนเคย (พล่ากุ้ง หรือ สนุ้กเกอร์ ไม่รู้ - ผมแยกไม่ออก) ไม่รู้เหมือนกันว่าใครไปมอบตำแหน่งพิธีกรยอดเยี่ยมแห่งยุคให้แก เพราะกระผมรู้สึกรำคาญแกเหลือเกิน คิดดูสิว่าทำเอาคนรู้จักของผมเดินออกไปกินข้าวเพราะรำคาญที่งานๆหนึ่งมาแล้ว อืม
แต่เด็กๆเค้าคงชอบอะไรแบบนี้กระมัง เราแก่แล้ว ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเด็กสมัยนี้คิดอะไรกัน (ส่วนเมื่อก่อนก็ชอบคิดว่า ทำไมพวกผู้ใหญ่ชอบโทษวัยรุ่น(วะ) - ก็ว่ากันไปตามวัย)
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่โซน Cd Warehorse แหม ดูตั้งชื่อสิ อ้อ ลืมบอกไป งานนี้เค้าจัดที่สนามม้า ชื่อเวที/โซน ก็จะเป็นม้าๆ แบบนี้แหละ บริเวณนี้จะเป็นตึกในร่ม 5 ชั้น ซึ่งก็ดีเหมือนกันทำให้หมดปัญหาเรื่องแดดแผดเผาผิวงามๆของสาวๆไปได้ (ซึ่งก็แต่งตัวเข้ากับแดดร้อนๆแบบนี้เหลือเกิน อยากจะเตือนว่าอย่าอยู่ในงานจนดึกมากละกัน แต่เอ๊ะ ส่วนใหญ่ก็มีคนมาคุมอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงมั้ง) เสียแต่ว่าตัวอาคารดูเก่าๆทึมๆ เหลือเกิน ดูน่ากลัว (ให้คิดถึงลานจอดรถตามห้างเข้าไว้) เดินขึ้นบันไดไปก็ได้ยินเสียงฟาดกลองพลังช้างสาร จากเวทีอรนภา-กฤษฎี (ชื่อได้ใจจริงๆ) เวทีนี้จะอยู่บริเวณชั้น 3 แต่ว่าอัฒจรรย์ มีตั้งแต่ชั้น 3-4-5 ซึ่งก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องไปเบียดๆกันในฮอลล์เหมือนที่ผ่านๆมา เวทีแยกเป็น 2 ข้างซ้าย-ขวา ห่างกันไกลอยู่ เล่นสลับต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ วงที่กำลังเล่นอยู่ตอนที่ผมเข้าไปคือวง Flure ที่เสียงกรี๊ดดังมากๆ (เดินชั้น 1 ถึง 5 ได้ยินตลอด) พอเดินไปถึงชั้น 3 ผมก็เลยหยุดดูซะก่อน (และนี่ก็เป็นโชว์เดียวที่ผมได้ดุในงานนี้ครับ) Flure เล่นสดได้เยี่ยมเหมือนเคย (ย้ำอีกทีว่าวงนี้เล่นสดดีกว่าใน CD เช่นเดียวกับ Futon) นายเอิร์ธมือกลองยังตีกลองชนิดบ้าพลังเหมือนเคย ดูไปถึงเพลง ปล่อยไปตามหัวใจ ต่อตัดสินใจมุ่งสู่ชั้นบนต่อ
ในส่วนของ CD ชั้น 5 จะเป็นพวกค่ายมีชื่อหน่อย ส่วนชั้น 4 จะเป็นพวกค่ายประมาณ Bedroom และค่ายหนัง ผมจึงมุ่งขึ้นชั้น 5 ก่อน คนก็เบียดเสียดยัดเยียดกันพอควร (จะหนาแน่นเป็นหย่อมๆ โดยเฉพาะบูธที่มีศิลปินแจกลายเซ็น ตอนที่ผมเข้าไปเจอ Scrubb พอดี กว่าจะหลุดออกมาได้ก็นานอยู่) ตามที่ไว้ว่าคราวนี้ผมจะเก็บแต่พวกอัลบั้มเต็ม (แต่ก็ยังมิวายโดย EP จนได้) และไม่ซื้ออะไรมั่วซั่วแล้ว งานนี้ผมจึงใช้เวลาช็อปน้อยมากๆ ประมาณ 40 นาทีเท่านั้นเอง คราวนี้ไม่ค่อยมีศิลปินมาแจกลายเซ็นเท่าไร ไม่เหมือนตอน ครั้งที่ 2 และ 3 ที่ได้ชนิดเป็นปึกๆ จะบอกไว้ว่าไอ้ตอนแจกลายเซ็นเนี่ยแหละ ทำให้ผมตัดสินใจ รัก หรือ ชัง ศิลปินคนนั้นมามากรายแล้ว ยกตัวอย่างฝั่งที่ดีๆแล้วกัน อย่างพวกพาราด็อกซ์นี่เฟรนด์ลี่มากๆ (โดยเฉพาะคุณสอง เวลาเซ็นแกวาดรูปตัวเราให้ด้วย ส่วนคู่พี่น้องต้าร์-โจอี้ นี่ออกขี้อาย) / โอ๋ ซีเปีย คนนี้ฮามากๆ เพราะคนอื่นถามชื่อ แต่แกดันถามเลขทะเบียนนักศึกษา! / ส่วนคนที่มีลายเซ็นพิศดารสุดเห็นจะเป็นคุณหนึ่ง Sleeperone
วันนี้ศิลปินมาน้อยผมขอลายเซ็นแค่สองคนคือ โมโมโกะ Futon ที่ยังน่ารักเหมือนเดิม (คราวที่แล้วผมถามภาษาอังกฤษใส่แกไป เธอเล่นตอบภาษาไทย เล่นเอาหน้าแตกเลย) และคุณเจ เจตมนต์ เจ้าของหมู่บ้านเพนกวินที่ยังน่ารัก เหมือนเดิม ทึ่งแกมากก็คือ ลายเซ็นของแกที่เป็นรูปเพนกวินสองตัวกอดกันเนี่ยแหละ คงเหนื่อยน่าดูเนาะ
คนอื่นที่เจอก็อย่างพี่นภ / อพาร์ตเมนท์คุณป้า คุณตุลตัดผมซะแล้ว ฯลฯ
ลงมาที่ชั้น 4 บ้างก็จะเป็นพวก bedroom พวกนี้ไม่ค่อยกล้าซื้อเท่าไร เพราะรอคุณ เลเล่เล้ มาคัดเลือกเข้าวินให้ดีกว่า (อ้าว) ทางฝั่งขายหนังก็มาเยอะ อย่าง มหานคร Sixth (หนังอะไรล่ะเนี่ย) นี่ชอบสุดก็เป็น บุปผาราตรี 2 ที่โปสเตอร์หนังได้ใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ (ไม่บอกให้หาดูกันเอง
เหอะๆ) เดินจนครบก็ปรากฏว่าชั้น 4 นี่ไม่ได้กินตังค์ผมเลย สรุปแล้วงานนี้ซื้อ CD ไป 11 แผ่นน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ (เพราะคราวครั้งที่ 2 ก็ล่อเข้าไป 33 แผ่นแล้ว) ไม่อยากซื้อเยอะ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาฟัง ประกอบกับเล็งของที่อยากได้มาแล้ว ซื้ออะไรมาบ้างเดี๋ยวจะลงรายละเอียดตอนท้ายครับ
มาฝั่งขายหนังสือกันบ้าง วันนี้ตั้งใจบุกบูธ Bioscope เพราะกะเก็บให้ครบทุกเล่มซักที และก็สมใจอยาก เพราะมีครบทุกเล่มแล้ว (ขาดแต่เล่ม 2 ปกออกไซด์ แปง) ออกจากบูธนี้ก็กระเป๋าหนัก (ส่วนกระเป๋าเงินตรงข้าม-เบาหวิว) ชั้น 4 ของฝั่งนี้จะเป็นขายพวกเสื้อผ้าและเครื่องประดับสวยๆ งานนี้สาวๆตื่นตาตื่นใจกันน่าดู เป็นข้อดีมากๆที่จิตใจไม่ค่อยจะวัยรุ่นแล้ว เพราะไม่งั้นต้องหมดเงินไปกับพวกเสื้อแหงมๆ เพราะมีขายเยอะมากๆ สวยๆก็มาก (ความจริงคือมันไม่มีไซส์ต่างหาก-ฮา) ส่วนพวกหนังสือทำมือนี่ก็เดินผ่านๆ เพราะไม่ค่อยสนใจพวกนี้เท่าไร
ตอนออกมาจากตึกก็มีโชว์โยโย่อยู่ที่ ลานศิลปอาชา พอดี แรกๆดูเหมือนจะแป้กๆหน่อย แต่พอสักพักคนก็ให้ความสนใจดี ก็น่าดีใจด้วย ตอนแรกผมกะจะดู Bear Garden ตอน 16.00 ปิดท้าย แต่รอไปสักพักก็เปลี่ยนใจกลับบ้านดีกว่า อยากกลับไปตากแอร์ที่บ้านแล้ว เดินออกมาก็มองโดมสีขาวที่ไว้เล่นส่วนของ แอร์ ฮอร์ส สเตจ อย่างอาลัยอาวรณ์ T__T (อยากดูโชว์ของ HarsH Label มากๆ) จากนั้นก็เดินออกจากประตูเดิม ตอนออกคุณตำรวจก็เร่งๆให้ออก เพราะเค้าบอกว่าประตูนี้ปิดตายแล้ว ให้ไปใช้อีกประตูนึงที่อยู่ 100 เมตรถัดไป ไอ้เราก็งงๆเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สาย 16 มาพอดี เลยไม่สนใจกระโจนขึ้น บ๊าย~~บาย แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 4
ฮือๆๆ อดดูโชว์หมดเลยง่า
ผมคงสรุปหรือตัดสินความดี-ความเลว ในงานนี้ชัดเจนไม่ได้นัก เพราะใช้เวลากับมันไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ก็ดีใจที่เมืองไทยมีงานอะไรแบบนี้เป็นจริงเป็นจัง และจัดมาได้อย่างต่อเนื่องขนาดนี้ ถึงแม้ว่าครึ่งปีหลังนี้มาผมแทบจะไม่ได้ฟังแฟตเรดิโอเลยก็ตาม แต่ผมก็เชื่อว่ามันเป็นนิมิตหมายอันดีที่ป๋าเต้ด ยุทธนา บุญอ้อม กลับมาคุมบังเหียนแฟตเรดิโออีกครั้ง (อย่างน้อยพอ 3 บอมบ์ (ป๋าเต้ด-คุณจ๋อง-คุณนรา) กลับมาจัดรายการ หนังหน้าไมค์ มันก็ดีขึ้นแยะ) ยิ่งปีนี้มีศิลปินต่างชาติมามากมาย รวมถึงระดับ FPM ด้วยแล้ว ผมคิดว่าอะไรร้ายๆ ที่เกิดขึ้นมามากมายในปี 2004 น่าจะมีเรื่องดีๆ กลบไปให้เจือจางลงบ้าง ไม่มากก็น้อยล่ะครับ
เจอกันที่บาร์ ทู-โอ-โฟ-ซิ
. เอ๊ย! ไม่ใช่
พบกันปีหน้า งานแฟต เฟสติวัล ครั้งที่ 5 (ถ้าเขายังจัดอยู่น่ะนะ
)
ปล. ขากลับก็แวะร้านพี่คนนั้นซื้อซาวด์แทร็ก 2046 มาฟัง ยิ่งฟังก็ยิ่งแค้น ป้า คนนั้น
เมื่อไรจะได้ดู(วะ)เนี่ย!
สรุปรายการซีดีที่ซื้อมาจากงานแฟต เฟสติวัล 4 Bear Garden: Blue Traveler ชุดที่ 3 แล้วของผู้หญิงเก่งคนนี้ FatCode: แฟตโคตร รวมเพลงเด็ดของแฟตจาก FaTLive, FaTFest, ที่ว่าการดนตรี และเล็กชิ้นสด ของเด็ดอยู่ที่แผ่นสองที่เป็นรวมสปอตของคลื่น (ลองฟังสปอต The Ringtone ดู ขอบอกว่าฮามาก) ซีดีแผ่นคู่นี้ให้ข้อคิดกับผมว่าบางทีเราก็สามารถเลือกจำสิ่งดีๆได้กับอะไรบางอย่าง Futon: 1000 แผ่นลิมิเตดที่ทำออกมา 1000 แผ่น ชื่ออัลบั้มน่าเกลียดมาก แต่เพลงเด็ดดวงเหมือนเคย ไม่แน่ใจว่าเป็นอัลบั้มชุดสอง เพราะเจ้าตัวเคยบอกว่ามันเป็น EP แต่มีตั้ง 9 Tracks แน่ะ! groovy airline: Kindergarten scene รอมานานนับปี ในที่สุดก็ออกแล้ว เฮ้! HarsH Label presents: 5th degree burn หน้าปกเห่ยมาก แต่เพลงมันสุดๆ เทคโนมิกซ์ 70 นาทีไม่มีหยุด HarsH Label: Danger High Voltage ไม่ค่อยเข้าหู สงสัยเราจะคาดหวังอะไรมากไป Montonn Jira: the first album EP -- สุดยอด! เจ้าตัวเขาว่าเป็น Montonntronics แหละ Montonn Jira: too
EP สบายๆ เรื่อยๆ เหมี่ยวเอ๋อ: อัลบั้มอนุสรณ์ พ.ศ. 2538 เก็บตกอัลบั้มไทยอันดับหนึ่งที่คุณ เลเล่เล้ ว่าไว้ปีที่แล้ว Panda Records Presents: Panda Scream มาถึงภาค 4 แล้ว คราวนี้เหมือนงานเลี้ยงรุ่นรวมเพื่อนเก่า Penguin Villa: ออกไปข้างนอก
หาไม่เจอ
moderndog เห็นว่าจะออก EP นี่นา ไม่เห็นมีเลย (ปีนี้มีบูธของตัวเองซะด้วย) สี่เต่าเธอ EP นี่ก็หาไม่เจอ
ผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากหรอกนะครับ เรื่องตีกันเนี่ย แต่เท่าที่รู้ก็คืองานนี้มีพวกสมองน้อยมาตีกัน แย่นะครับพวกนี้....
งานแฟตทุกครั้งจะใหญ่ขึ้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าคนหลายร้อยพ่อพันแม่ก็เข้ามาในงานกันหมด ตำรวจก็ดูแลกันไม่หวัดไม่ไหว ครั้งแล้วๆมาก็มีตีกันบ้าง แต่คงไม่รู้รุนแรงเท่าครั้งนี้ ได้ข่าวว่ามีเอาขวดเบียร์ตีกันด้วย (โทษที ก็มันสปอนเซอร์หลักของงานนี่นา)
สงสารนักร้องหลายๆคนเหมือนกัน พอวันอาทิตย์เวทีอรนภา-กฤษฎี ต้องเล่นพร้อมๆกัน โมเดิร์นด็อก เล่นพร้อม ส้ม อมรา ... โถ คนก็แห่มาดูหมากันหมดสิครับ ส้มเลยเหี่ยวไปเลย
สุดท้ายก็ขอแสดงความเห็นใจป๋าเตดที่เหมือนถนถูกเชิญมารับตำแหน่งเพื่อถูกด่า และประณามเหล่าคนขาดสติที่ก่อเหตุวุ่นวายแห่งหายนะและความวิบัติในงานครั้งนี้ ไม่รู้วันๆกินอะไรเข้าไป แต่โง่กว่าเด็กเอธิโอเปียที่กินหนังสือพิมพ์ต้มซะอีก
ปล. เมื่อวานผมไปดู Slipknot มา ไม่รู้ว่ามีตีกันมั้ย แต่รอบๆผมไม่มี (บัตร 1000 บาท) เอ้อ แบบนี้มันแปลว่าอะไรล่ะ
Create Date : 29 ธันวาคม 2547 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2547 22:25:27 น. |
|
11 comments
|
Counter : 2457 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดีคัย ผมก็ไป ครั้งที่ อิมเหมือนกัน IP: 124.122.89.157 วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:22:31:17 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 5 ตุลาคม 2564 เวลา:17:51:00 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 8 ตุลาคม 2564 เวลา:16:13:21 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 8 ตุลาคม 2564 เวลา:19:50:31 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:19:17:30 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:19:30:51 น. |
|
|
|
โดย: enpikiz IP: 46.161.11.50 วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:4:47:22 น. |
|
|
|
โดย: enpikiz IP: 46.161.11.50 วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:16:31:19 น. |
|
|
|
โดย: enpikiz IP: 46.161.11.50 วันที่: 19 ตุลาคม 2564 เวลา:19:57:36 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 23 ตุลาคม 2564 เวลา:2:47:05 น. |
|
|
|
โดย: enpien IP: 46.161.11.50 วันที่: 24 ตุลาคม 2564 เวลา:23:36:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|