http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
ตะลุยมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11 (ตุลาคม 2549)

โดย merveillesxx




//www.thailandbookfair.com/bookexpo2006/index.php


ช่วงเวลา 10 วัน ในการตะลุยเทศกาลหนัง 4th World Film Festival ผมรู้สึกเหมือนตัวเองวิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา (แม้จะนั่งกินข้าวอยู่เฉยๆ ก็ตาม) พอจบเทศกาลแล้ว การได้นอนนิ่งๆ บนเตียงก็ถือเป็นความสงบนิ่งขั้นสุดยอด จากนั้นผมก็ขอสนองนี้ดตัวเองด้วยการเปิดช่องเพลง [V] และ MTV ทิ้งไว้ทั้งวัน เพื่อรอดูเอ็มวีเพลง Reality ของ Girly Berry ...แต่อนิจจา ปรากฏว่าเจอแต่เอ็มวีของ G-JR และ Mr.D

หลังจากนอนอืดถืดอยู่ที่บ้านได้ 2 วัน ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของเดือนนี้ นั่นก็คือ ไปงานหนังสือ นั่นเอง ซึ่งปีนี้ก็ไปคนเดียวเช่นเคย ตามประสาคนอินดี้ที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อน และตอนนี้ก็ไม่มีแฟน (ถึงมีก็ไม่ค่อยอยากพาไป) ซึ่งก็เหมาะสมดี ถือเป็นการเฉลิมฉลองการอกหักคา MSN เป็นครั้งที่ 56 ในรอบปีนี้ (รายละเอียดส่วนนี้ไม่เล่าละกัน มันค่อนข้างซ้ำซากพอๆ กับละครที่ กบ-สุวนันท์ เป็นนางเอกนั่นแหละ)


26 OCT 2006

วันนี้ก็ออกจากบ้านประมาณ 11 โมง เดินทางโดนรถไฟใต้ดินเช่นทุกปี ตอนอยู่บนรถก็โทรไปคุยกับ เจนดำ (คนเดียวกับในซี่รี่ “ไดอารี่ฝึกงาน”) เป็นการฆ่าเวลา เนื่องจากผมติดต่อเจนดำไม่ได้มาเป็นเวลา 2 วันแล้ว ประกอบกับเพื่อนอีกคนโทรมาเล่าว่า มันฝันถึงเจนดำ 3 วันติดต่อกันแล้ว (ช่างโชคร้ายจริงๆ) ก็เลยกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า เช่น เดินสะดุดล้มหน้าคว่ำไปโดนกระทะขนมเบื้องป้าแต๋ว หรือถูกรถเข็นส้มตำของเจ๊แหม่มพุ่งชนใส่ตายคาที่ เป็นต้น แต่ปรากฏว่าวันนี้มันก็รับโทรศัพท์ปกติ แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ ก็ดี...จะได้ไม่เปลืองค่ากระดาษกงเต้ก

คุยไปคุยมา ปรากฏว่าวันนี้เจนดำก็จะมางานหนังสือเหมือนกัน (เป็นคนดำที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนจริงๆ) โดยควงคู่มากับ ป้านก (ถึงจะเรียกว่าป้า แต่ป้านกก็เป็นรุ่นพี่ผมแค่ปีเดียว ป้านกแกเป็นเพื่อนซี้ของเจนดำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหนียวแน่นหนึบประหนึ่งปลาฉลามกับเหาฉลาม) ก็ดีเหมือนกันที่ป้านกมาด้วย อย่างน้อยป้านกก็ขาวกว่าเจนดำ จะได้มีอะไรที่ดูแล้วสบายตาบ้าง ...เจนดำกับป้านกจะมาถึงงานหนังสือประมาณ 14.00 ซึ่งป่านนั้นผมก็คงซื้อหนังสือของตัวเองเสร็จแล้ว จากนั้นก็คงไปแจมกับสองคนนั้นได้ (ไปคอยจูงป้านก แกแก่แล้ว หลงทางง่าย)

ตอนอยู่บนรถใต้ดินมีเด็กแนวสองคนยืนอยู่ใกล้ๆ (ทำหัวฟูๆ, เจาะหูเม็ดสีดำๆ, กางเกงขาสั้น, ใส่รองเท้าผ้าใบเน่าๆ, ไม่ใส่ถุงเท้า ...เฮ้อ ถามจริงเถอะ เค้าเปลี่ยนรัฐบาลกันไปแล้วนะ พวกเอ็งไม่คิดจะเปลี่ยนแนวบ้างเหรอไงเนี่ย) ก็แอบคิดในใจเหมือนกันว่าสองคนนี้มันจะไปงานหนังสือรึป่าว แล้วพวกมันจะซื้ออะไรบ้างมั้ยนะ (งานคราวที่แล้วเจอเด็กแนวกลุ่มนึง เห็นมันเดินอยู่ตั้งหลายชั่วโมง ไม่เห็นจะซื้ออะไรสักอย่าง) ปรากฏว่าไปเจอคู่นี้อีกทีในงานครับ โอ้! ปรากฏว่ามันซื้อครับ ...ผมให้เวลาผู้อ่าน 3 วินาทีครับ ลองทายว่ามันซื้ออะไร ...3...2...1...หมดเวลาครับ ใช่แล้ว มันซื้อ a day

ผมมาถึงงานประมาณ 11.30 วันนี้เป็นวันพฤหัสคนพอประมาณ แต่ไม่เยอะมาก ตามแพ็ตเทิร์นเดิมครับ ผมเริ่มลุยที่ Plenary Hall ก่อน สิ่งที่ดีใจมากก็คือ คราวนี้บูธแจ่มใสเค้าแยกไปตั้งอยู่ริมๆ เลย ดีครับ ดีมาก จะได้ไม่กีดขวางทางจราจร (พี่สาวผมบอกว่าถ้าวางระเบิดที่บูธนี้ วัยรุ่นหญิงไทยจะตายไปครึ่งประเทศ) จริงๆ ผมว่าคราวหน้าบูธนี้แยกไปจัดที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ยังได้เลยนะ

อีกบูธนึงที่คนแน่นพอกันก็คือ Bliss (ปีนี้บูธสวยดี) อย่างที่ผมประกาศวาจาลั่นไว้แล้ว จากนี้ไปผมขอลาขาดกับซีรี่แมวสามสี ยอดนักสืบตลอดกาล และผมก็ทำสำเร็จครับ แม้ว่าพนักงานที่บูธจะออดอ้อน ออเซาะ ฉอเลาะ ขนาดไหนก็ตาม …อนึ่ง ซื้อหนังสือจากบูธนี้มา 2 เล่ม แต่สิ่งที่ดีที่สุดกลับเป็นของแถมที่เป็น In Magazine หน้าปก ปอ-ภัคพร

รู้สึกว่าปีนี้คุณภาพพนักงานสาวของบูธ Bliss จะลดลงนะ (ปกติบูธนี้พนักงานจะสวย) หรือเพราะเรามางานวันหลังๆ ก็ไม่รู้ พนง.เลยดูหน้าเหือดๆ พิกล อย่างไรก็ดี พลังเสียงเจื้อยแจ้วของพนง.บูธนี้ไม่เคยตก และก็มี พนง.คนนึงเชียร์หนังสือได้ฮามาก ประมาณว่า “นี่แหละค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็จะเกี่ยวกับ เด็กผู้หญิงคนนึงที่ต้องไป บลา บลา บลา...ใช่ค่ะ นี่เป็นแค่เรื่องย่อนะคะ อ๊ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ไม่เล่าถึงตอนจบหรอกค่ะ อ้อ ขอเล่าต่อนะคะ จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็จะ บลา บลา บลา ...เอ๊ะ อะไรนะคะ อ๋อ ไม่ใช่ค่ะ นี่ยังไม่ใช่ตอนจบค่ะ แหม ไม่เผลอเล่าหรอกค่ะ ต่อนะคะ...”

นอกจากนั้น ผมยังพบวิธีเชียร์หนังสืออันแปลกประหลาดมากมาย เช่น

บูธขายแผนที่ : พนง.พูดว่า “แผนที่จ้ะแผนที่ แผนที่จ้า บอกเส้นทางละเอียดชัดเจน เหมาะกับวางแผนการเดินทาง ยุคนี้น้ำแพงนะจ๊ะ แผนที่นี้ช่วยท่านได้” (เอ่อ...แต่ที่พี่ถืออยู่ในมือมันเป็นแผนที่โลกนะ!)

บูธ a day : ผมหยิบ “นิยายรักนักศึกษาเล่ม 3” ขึ้นมาดูเล่นๆ พนง.ก็พูดว่า “เล่มสามนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่นะครับ ส่วนสองเล่มแรกจะเน้นไปที่กรุงเทพ” …เอ่อ คือกูของง ตกลงนี่มันเป็นสาระสำคัญตรงไหนหว่า ไปเทคคอร์สวาทวิทยาด่วน!

บูธหนังสือภาษาอังกฤษ อะไรสักอย่าง : “หนังสือภาษาอังกฤษครับ! หนังสือภาษาอังกฤษ! คู่มือพิชิตข้อสอบทุกชนิด อย่าช้าครับอย่าช้า ไม่ซื้อตอนนี้จะไม่ทันเพื่อนนะครับ เมื่อเช้าเพื่อนซื้อไป ตอนนี้ท่อง A ถึง Z ได้แล้วนะครับ” (ฮา)


สำหรับเพื่อนๆ ที่ได้พบเจอในงานนี้ก็ไม่เยอะเท่าไร มีแค่ 2 คน คนแรกก็คือ น้องดิ่วดิ๊ว เจ้าเก่า (คราวที่แล้วก็เจอ) ยังคงมารับจ๊อบพิเศษที่บูธสนพ.วงกลมเหมือนงานคราวก่อน แต่แบบว่าตอนแรกไม่กล้าทักมัน เพราะดิ่วดิ๊วดูเหนื่อยๆ เครียดๆ หน้าโทรมๆ ประหนึ่งกะหล่ำปลีเหี่ยวที่ไม่มีใครเอา ก็เลยนึกว่าไม่ใช่มัน (คือปีนึงจะเจอกันแค่สองหน เลยจำหน้ามันไม่ค่อยได้) แต่พอวนไปบูธนี้รอบสอง มันก็ยิ้มให้ ก็เลยได้คุยกันนิดหน่อย

คนที่สอง ก็เจอโดยบังเอิญ และค่อนข้างเซอร์ไพรส์ก็คือ เฮ็มเบะ เพื่อนร่วมคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งตกใจไปว่าพ่อแม่ที่ไหนจะอุตริตั้งชื่อลูกว่าเฮ็มเบะ อันนี้เป็นชื่อที่ข้าพเจ้าสถาปนาให้เธอเอง เพราะหน้าเธอเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่นหน้ากลมๆ ชอบถือร่ม ที่ชื่อเฮ็มเบะมากๆ (เฉพาะผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2528 ที่จะรู้จักตัวเฮมเบะ เด็กยุคหลังจากนั้นคงรู้จักแต่โปเกม่อน) จริงๆ แล้วเธอก็มีชื่อของตัวเองว่า....เอ๊ะ…เฮ็มเบะมันชื่อจริงว่าอะไรวะ!?...เออ ช่างมันเถอะนะ เอาเป็นว่ามันก็เป็นเพื่อนที่น่ารักคนนึงละกัน (อนึ่ง โปรดเข้าใจว่าคำว่า “น่ารัก” ของผมมีหลายระดับ หลายความหมาย หลายการใช้งาน และคำว่าน่ารักของผมมีค่าห่างไกลจากคำว่า “สวย” หลายล้านปีแสง)


หลังจากหลุดมาจากโซน Plenary (พร้อมกับถุงใหญ่ๆ 1 ถุง) ก็แวะเวียนไปโซน Atrium เพื่อทักทายพี่ grappa (จริงๆ คือจะไปเอาหนังสือ GM ที่ทีมงานจีเอ็มฝากไว้ให้ ฮ่าๆๆๆ) หลังจากซื้อหนังสือ ก็ยืนเม้าท์ที่หน้าบูธ หันมาอีกที อ้าวเฮ้ย! พอเรามาปุ๊บ บูธเค้าโล่งเลย ลูกค้าหายหมด เมื่อกี้คนยังเยอะๆ อยู่เลย (นี่กูเป็นตัวซวยหรือไร?) กระนั้นก็ตามพี่ grappa ก็ยังเชื้อเชิญข้าพเจ้าไปนั่งคุยในบูธ (รู้สึกว่าพอผมเข้าไปนั่งแล้ว จะไปเบียดเบียนพื้นที่จนคุณพี่อีกคนเข้ามานั่งไม่ได้ ขออภัยอย่างแรง ) นั่งคุยสักพักจนลูกค้าเริ่มกลับมา ก็เลยขอตัวไปเดินลุยต่อ พี่ๆ ในบูธก็ใจดี๊ใจดีบอกว่าให้ฝากถุงหนังสือไว้ก็ได้ แต่ด้วยความอยากจะทำแมนเลยบอก “ไม่เป็นไรฮะ” (แต่สุดท้ายต้องบากหน้ามาฝากอยู่ดี โปรดติดตามจากข้างล่าง)

จากนั้นก็ลุยต่อที่โซน C1 + C2 ปกติโซนนี้ผมจะเดินผ่านๆ เพราะมันหนังสือเพื่อการศึกษาซะเยอะ (ไม่เหมาะกับคนอย่างเรา) แต่วันนี้ต้องเดินดูดีๆ เพราะกะมาซื้อหนังสือเตรียมสอบ CU-TEP (ก่อนหน้านี้สอบ TU-GET ไปแล้ว สอบผ่านครับ แต่ผ่านด้วยคะแนนอันจัญไรมาก) คือตอนนี้กำลังใช้แผน “บันไดไต่ดาว” (ชื่อลิเก๊ลิเก) จะเดินสายสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ ทั้ง TU-GET, CU-TEP, TOIEC, IELTS และจะจบด้วยสนามสุดท้ายคือ TOEFL (อ้อ...ลืม ต้องสอบ GMAT อีกนี่หว่า) เอ้อ ทำไมไปเรียนเมืองนอกเมืองนามันลำบากงี้วะ

ในที่สุดประมาณบ่ายสองกว่าๆ ผมก็เคลียร์งานหนังสือครบทุกโซน แต่เจนดำกับป้านก (ลืมสองคนนี้ไปยัง ถ้าลืมกลับไปอ่านตอนต้นๆ ใหม่) ก็ไม่เห็นโทรสักที ก็เลยไปนั่งรอ พร้อมกับจัดถุงหนังสือไป 14.10 ก็แล้ว 14.15 ก็แล้ว 14.20 ก็แล้ว มันก็ยังไม่โทรมา แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะยัยสองคนนี้มันอยู่บ้านนอก นานๆ จะเข้ากรุงที คงขึ้นรถใต้ดินผิดทางแน่ๆ พอ 14.30 ก็ทนไม่ไหว เลยโทรไปหามัน ปรากฏมันเพิ่งเข้ามาในงานพอดี ...ไม่รู้มันจะแกล้งมาสายทำไม ไม่ใช่ออกเดทซะหน่อย (นักจิตวิทยา ซิก “เมอร์” ฟรอยด์ กล่าวไว้ว่า เวลาออกเดทผู้หญิงจะชอบมาสายๆ เพราะถ้าผู้ชายยอมรอ เธอจะรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ แต่หากกรณีผู้ชายกลับไปก่อน จะเรียกว่าภาวะ “หน้าแหก”)

พอวางโทรศัพท์จากเจนดำ ก็ลุกขึ้นจะเดินไปหายัยสองคนนั้น แต่พอหยิบถุงหนังสือขึ้นมา (ซึ่งตอนนี้งอกเป็น 2 ถุงซะแล้ว) ก็รู้สึกว่ามันหนักมาก (อาการบ่งบอกอย่างอ้อมๆ ว่าเริ่ม “แก่” แล้ว) พอดีตอนนั้นอยู่ใกล้ๆ บูธของพี่ grappa พอดี ก็เลยเอาถุงไปฝากที่บูธพี่เค้า (จนพี่อีกคนในบูธแซว “แหม ตอนแรกทำเป็นไม่ฝาก” แหะๆ) ก็ดีนะ ฝากไว้ที่บูธพี่เค้าก็อุ่นใจกว่าไปฝากที่เคาท์เตอร์ฝากของน่ะ เพราะคราวที่แล้ว รู้สึกจะเป็นพี่ Dr.Syntax มั้ง พี่เค้าฝากกับเคาท์เตอร์ฝากของนี่แหละ แต่พอเอาคืนปรากฏหนังสือหายไป 2 เล่ม (ถ้าไม่เช็คดีๆ ก็ไม่มีทางรู้เลยนะเนี่ย) แต่รู้สึกว่าสุดท้ายก็ได้คืนทีหลังนะ

ในที่สุดผมก็หาเจนดำกับป้านกเจอ (แล้วก็ไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องไปยืนรอที่บูธหนังสือ “ทะลึ่ง” ด้วย) ก็เริ่มเดินกันเลย ตอนแรกๆ ก็ปล่อยให้ป้านกนำ...แล้วผมก็พบว่าป้านกเดินงานหนังสือได้ไร้ระเบียบแบบแผนอย่างที่สุด เช่นว่า เพิ่งเดินผ่านบูธนึงไป ป้านกก็สามารถพาพวกเราวนกลับมาที่บูธเดิมนี้ภายใน 1 นาที (โถ ป้า แล้วชาตินี้จะเดินทั่วมั้ย) ผมเลยทนไม่ไหวเลยขอเดินนำอยู่ช่วงนึง แต่ตอนหลังก็เกรงใจ เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นพวกผู้ชายบ้าอำนาจ ผมก็ยอมให้ป้านกกลับมาเดินนำอีกครั้ง แม้ป้าแกจะยังเดินวนๆ เหมือนเดิมก็ตาม (เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องอดทน)

การเดินงานหนังสือกับคนอื่นนี่ก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะยัยสองคนนี้จะหยุดที่บูธที่ผมเดินผ่านอย่างไม่เคยสนใจใยดี (แต่ในขณะเดียวกัน บูธที่สองคนนี้เดินผ่านก็จะเป็นบูธที่ผมหยุดดู) ประมาณว่ายัยสองคนนี้ก็พาผมไปเจอกับหนังสือที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน เช่น

หนังสือทายนิสัยจากการเลือกผู้ชาย : หนังสือเล่มนี้ฮาดี จะมีผู้ชายแบบที่ 1, 2, 3,.. มาให้เลือก พอเลือกเสร็จมันก็จะบอกว่า คนที่เลือกผู้ชายแบบที่ 1 เป็นคนแบบนี้แบบนั้น เจนดำกับป้านกก็เล่นสนุกกับหนังสือเล่มนี้อย่างเมามันส์ แต่พอผมพูดว่า “ชีวิตจริงแกจะมีผู้ชายให้เลือกเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ” มันก็วางหนังสือลงและเดินต่อทันที

หนังสือทายนิสัยจากวันเกิด : คล้ายๆ กับข้างบน แต่ทายจากวันเกิดแทน มีทุกเดือน ทุกวัน ที่ฮาคือ หนังสือเล่มนี้ถูกวางซ่อนไว้ในมุมหลืบของซอกจักรวาล แต่เจนดำกับป้านกก็เห็นมันจนได้

บูธ สนพ.แม่บ้าน : เดินงานหนังสือมาตลอด 7 ปี ไม่เคยเหลียวแลบูธนี้เลย! แต่เพิ่งค้นพบว่าเป็นบูธที่อัศจรรย์มากๆ เพราะมีทั้งตำราอาหารไข่สารพัด, ตำรา 108 แซนวิช, ตำราค็อกเทล, ตำราเยลลี่ ไปจนถึง ตำราทำปาท่องโก๋ (เพิ่งรู้นะว่าปาท่องโก๋มัน apply ได้มากมายขนาดนั้น) คาดว่ามันต้องมีตำราทำกะปิด้วยแน่ๆ แต่หาไม่เจอเอง นี่ต้องให้เครติดเจนดำเป็นผู้เปิดโลกทัศน์เลยนะเนี่ย


อย่างไรก็ตาม เจนดำก็ยังคงแผลงฤทธิ์ด้วยความคิดรั่วๆ ของมัน เช่น

ตอนเดินผ่านหนังสือชื่อ “ฆาตกรรมงานวิวาห์”

ต่อ : (พูดแบบไม่คิดอะไร) “เออ ซวยเนาะ จะแต่งงานยังมีฆาตกรรมอีก”

เจนดำ : “เอาน่า ก็ยังดีกว่าถูกฆาตกรรมก่อนได้แต่งงาน”

ต่อ : !?!?!?!?!?


ด้านฝ่ายป้านกก็ไม่แพ้กัน

ต่อ : “ป้านก เดินมาตั้ง 2 ชั่วโมง ไหงป้านกซื้อแค่เล่มเดียวเองล่ะ”

ป้านก : “อ๋อ จริงๆ งานนี้มาเล็งๆ ไว้น่ะ ถูกใจเล่มนั้นเดี๋ยวไปยืมในห้องสมุด”

ต่อ : !?!?!?!?!?

ทีนี้คุณเข้าใจหรือยังว่าทำไมเจนดำกับป้านกถึงเป็นเพื่อนซี้กันได้


ราวๆ 17.00 เราสามคนก็เดินครบงาน เจนดำและป้านกก็บอกว่าไม่ดูอะไรแล้ว (ซึ่งก็ดีแล้วเพราะตอนนั้นผมปวดเท้ามากๆๆๆๆๆ) ผมก็เลยเดินไปเอาถุงคืนจากบูธพี่grappa (ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะคร้าบ ) ตอนแรกก็ว่าจะกลับกันเลย แต่สองคนนั้นก็ชวนกินข้าวก่อน ซึ่งก็ดีอีกเช่นกันเพราะตอนนั้นผมหิวมากๆๆๆ ...พอลงไป Food Court คนก็เยอะพอควร แต่เดินไปข้างในลึกๆ ก็มีโต๊ะว่าง ไอ้เราก็เลยทำ gent “เดี๋ยวเราเฝ้าของให้ แกสองคนไปซื้อก่อนก็ได้” และก็ได้ gent สมใจอยากจริงๆ เพราะยัยสองคนนี้หายไปเกือบ 15 นาที (นี่มันนั่งรถใต้ดินไปซื้อข้าวที่สีลมเหรอไงฟะ?!) โดยกลับมาพร้อมกับขนมจีนเน่าๆ 2 จาน (คิดดูสิ กินข้าวมันยังต้องกินเหมือนกันเลย นี่ต่อไปมิต้องใช้สามีคนเดียวกันหรือเนี่ย โอ๊ย! ตูล่ะเครียดแทนเพื่อน)

ระหว่างกินข้าวพวกเราก็เม้าท์ไอ้นู่นไอ้นี่ไปเรื่อย (ส่วนใหญ่ผมพูดคนเดียว เพราะกินเสร็จก่อนมันนานมาก) ตอนที่คุยเรื่องจีบผู้หญิงใน MSN เจนดำก็แสดงทัศนะอันล้ำเลิศอีกครั้ง

ต่อ : “เมื่อคืนโคตรเซ็งผู้หญิงคนนึงใน MSN”

เจนดำ : “ไมอ่ะ”

ต่อ : “ก็คุยกันโอเคนะ แต่พอขอดูรูปแล้วไม่ให้”

เจนดำ : “แล้วแกขอเบอร์เค้าป่าว”

ต่อ : “ไม่อ่ะ ตามขั้นตอนมันต้องเห็นหน้าก่อน แล้วค่อยเอาเบอร์ ถึงแม้รูปที่ส่งมาจะชอบรีทัชซะนมเด้งก็ตามเถอะนะ แต่อย่างน้อยก็ให้พอรู้ว่าครบ 32 และเป็นผู้หญิงจริงๆ” (อืม...ซึ่งก็รับประกันอะไรไม่ได้ บางคนยังส่งรูป บริทนี่ย์ เสปียร์ส มาให้เฉยเลย)

เจนดำ : “แล้วแกให้เค้าดูรูปแกป่าว”

ต่อ : “ให้สิ ชั้นโชว์เป็นดิสเพลย์เลย ชั้น fair fair อยู่แล้ว”

เจนดำ : “นั่นแหละ จากนั้นเค้าก็คง block แกแล้วล่ะ”

ต่อ : “อีบ้า!”

เจนดำ : “แหม ล้อเล่นๆๆ”

ต่อ : “เค้าก็เห็นรูปชั้นตั้งแต่เริ่มคุยนั่นแหละ แหม เดี๋ยวนี้รูปชั้นปรากฏตามสื่อออกจะมากมาย (แหวะ) แล้วยัยนี่ก็รับมุกขายขนมครกของชั้นด้วย (แปลว่า รับมุกหยอด) แต่พอขอดูรูปแล้วไม่ให้ เล่นตัวอยู่นั่นแหละ รำคาญ”

เจนดำ : “แล้วแกคิดว่าไง”

ต่อ : “ฟันธง ไม่สวยชัวร์ แต่ตอนนี้ขอเป็นผู้หญิงและมีนม ชั้นก็พอใจแล้ว หลังๆ มีแต่เกย์มาจีบ กูล่ะเครียดเห้”

เจนดำ : “แหม อาจจะไม่ใช่อย่างงั้นก็ได้นะ”

ต่อ : “แล้วเป็นแบบไหน”

เจนดำ : “ความจริงเค้าอาจจะสวยมากๆ ก็ได้ แต่เค้าไม่ยอมให้แกดูรูป เพราะอยากลองใจแกก่อนไง”

ต่อ : ...(อึ้งไปชั่วครู่)....”อีบ้า แกดูละครมากไปแล้ว!!”

นี่แหละครับ...เจนดำ ผู้ปราดเปรื่อง


ประมาณเวลา 17.30 เราสามคนก็ตัดสินใจจบวงสนทนา (เพราะหากคุยกันต่อไป อาจมีตบกันได้ เพราะไม่เคยคิดตรงกันสักเรื่อง) และแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็แบกถุงหนังสือ 2 ถุงใหญ่ขึ้นรถใต้ดิน...หลังจากถึงบ้านก็นอนหลับเป็นตาย

ปล. ถึงแม้เจนดำจะชื่อ เจนดำ แต่จริงๆ เธอก็ไม่ได้ดำสักเท่าไร เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ที่สำคัญยังโสดและไม่เคยมีแฟน หากท่านต้องการทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้ โปรดติดต่อผ่านผมได้ทั้งทางอีเมล / หลังไมค์ และสำหรับ 10 คนแรก จะมีโปรโมชั่นพิเศษได้ ป้านก เป็นของแถมด้วย





รายชื่อหนังสือที่ซื้อมา

ความตั้งใจของปีนี้คือ ซื้อหนังสือให้น้อยที่สุด


01. รอยสักรูปหมา (2003, Otsuichi, JBOOK)

“สี่ผลงานชุดใหม่จากนักเขียนเรื่องลึกลับ แฟนตาซี และสยองขวัญ โอตสึ อิจิ คลื่นลูกใหม่แห่งวงการหนังสือญี่ปุ่น ผู้ชนะเลิศรางวัล JUMP แจ้งเกิดในวงวรรณกรรมตั้งแต่อายุสิบเจ็ด และได้รับรางวัลนักเขียนเรื่องลึกลับยอดเยี่ยมตั้งแต่อายุต้นยี่สิบ” (เอ่อ รู้นะว่าอันนี้เป็นแนวฟีลกู๊ด แต่หน้าปกมันไม่แต๋วจ๋าไปหน่อยเรอะเนี่ย)



02. รักในโลกพิศวง (1998, Higashino Keigo, JBOOK)

เรื่องรักประหลาดของชายคนหนึ่งที่แอบชอบหญิงสาวที่ขึ้นรถไฟด้วยกันประจำ แต่หญิงสาวผู้นั้นกลับเป็นคนรักของเพื่อนสนิท ...จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพบว่าหญิงสาวได้กลายเป็นคนรักของเขาแล้ว ส่วนเพื่อนของเขากลับหายตัวไปอย่างลึกลับ





03. ความฝันโง่ๆ (2006, วินทร์ เลียววาริณ)

รวมความฝันโง่ๆ ของเหล่าคนดัง ทั้งแอริค วีเลนไมเยอร์ คนตาบอดที่ฝันจะปีนเขา, สตีเฟน ฮฮว์กิ้น ผู้เป็นอัมพาตทั้งตัว แต่ฝันถึงเรื่องราวของอีกแกแล็คซีหนึ่ง, ฌอง-โดมินิค โบบี้ ผู้เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แต่ฝันจะเขียนหนังสือ และความฝันโง่ๆ อื่นๆ อีกมากมาย





04. โลกใบที่สองของโม (2006, จุก เบี้ยวสกุล + วินทร์ เลียววาริณ)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวินทร์ เลียววาริณนำผลงานทั้งหมดของ จุก เบี้ยวสกุล (นักวาดนิยายภาพระดับคลาสสิกของไทย) มารีไซเคิล?





05. บันทึกสนุกๆ จากภูฏาน (2006, สฤณี อาชวานันทกุล, ระหว่างบรรทัด)

“บันทึกแสนสนุกที่จะนำคุณไปสู่เมืองในฝันของหลายๆ คน ด้วยมุมมองที่เป็นกันเองและภาพประกอบที่สดใส ใครจะไปรู้ นักการเงินสาวขาลุยก็มีมุมมองน่ารัก แอบซ่อนไว้เหมือนกัน”



06. คิดถึงทุกวัน (2006, พิมปาย, ระหว่างบรรทัด)

“เราเดินผ่านคนกี่คนในชีวิต กว่าจะพบว่าอะไรที่อยู่ใกล้หัวใจมากที่สุด” (ซื้อในงานแถมซีดีด้วยนะ เอ้อ)



07. LTTS MY NONSENSE (2002, ทวีศักดิ์ ศรีทองดี, ระหว่างบรรทัด)

รวมภาพกราฟฟิกมึนๆ สไตล์ “โลเล” ที่ดูจะไม่มีเหตุผล แต่ในความไม่มีเหตุผล ก็มักมีเหตุผลซ่อนอยู่ (เล่มนี้เป็นอภินันทนาการ ขอบคุณมากฮะ)





08. นอนใต้ละอองหนาว (2006, ปราบดา หยุ่น, ไต้ฝุ่น)

“คนหนุ่มสาวหน้าตาดีในหลายประเทศมีพฤติกรรมประหลาดทางเพศที่พวกเขาควบคุมไม่ได้ ที่สำคัญ มันเป็นพฤติกรรมติดต่อและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วโยไม่มีใครล่วงรู้ มนุษยชาติกำลังถูกกำจัดให้สูญพันธุ์ โดยสิ่งเร้นลับที่อาจอยู่ใกล้ตัวจนเราไม่คาดฝันในพลังอำนาจของมันมาก่อน”



09. ไปสู่ชะตากรรม (2000, นิวัติ พุทธประสาท, เม่นวรรณกรรม)

“ข้ารู้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไป ข้ารู้ว่าอนาคตต้องเปลี่ยนแปลง ข้าเชื่อในโลก เพราะข้าเชื่อในชะตากรรมของข้า” (อันนี้บูธ Alternative Writer เค้าแถมมาให้)





10. หนังสือรัก (2006, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, ByNature)

“25 ความรักจากภาพยนตร์ในมุมมองของจิตแพทย์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้มากขึ้นและลึกซึ่งกว่าเดิม” ผลงานเขียนของ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” เจ้าของรางวัลอันดับ 1 Bloggang Popular Award สาขาภาพยนตร์





11. Seasons Change จากร้อนสู่ฝนจนถึงหนาว (2006, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว + ธีปนันท์ เพ็ชรศรี + โชภณา เชาว์วิวัฒน์กุล, a book)

Behind-the-scene novel จากภาพยนตร์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (เพิ่งซื้ออ่ะ หวังว่าคงไม่เชยเกินไปนะ)





12. SHORT FILM (2006, มูลนิธิหนังไทย, openbooks)

ฉลองวาระ 10 ปีงานประกวดหนังสั้นของมูลนิธิหนังไทย ย้อนประวัติศาสตร์หนังสั้น, สัมภาษณ์ผู้กำกับหนังสั้นทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะผู้กำกับที่ทำหนังสั้นจนได้กำกับหนังใหญ่, ผู้กำกับอินดี้, ผู้กำกับหญิง ไปจนถึงผู้กำกับก่อนวัยอันควร (?!)



13. FILM VIRUS 4 ฉบับสางสำแดง (2006, ฟิล์มไวรัส, dk filmhouse)

“รวมหนังคัลท์ และหนังสยองขวัญระดับอุบาทว์คลาสสิค” (คำโปรยชนะเลิศแห่งปี!)





เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไปงานหนังสือมาเป็นยังไงบ้างครับ มีเรื่องราวอะไร หรืออยากแนะนำหนังสือเล่มไหน ก็เล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ




Create Date : 27 ตุลาคม 2549
Last Update : 27 ตุลาคม 2549 5:57:24 น. 50 comments
Counter : 2908 Pageviews.

 



ตั้มกับญี่ปุ่น

อยากได้เล่มนี้มาก แต่ปรากฏว่าหมด...

--------------------------




เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป 2006 มาแล้วจ้า!

//www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=47037



โดย: merveillesxx วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:5:49:33 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ทำให้อารมณ์ดีแต่เช้าเลย เขียนได้สนุกมาก


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:7:16:49 น.  

 

อันนี้น่าสนใจดี

20 เพลงยอดฮิตในงานศพ

(เอาข้อมูลมาจากคุณ LUNAR แห่งเวบบอร์ด Screenout จ้ะ)

//xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&start=3950


1. GOODBYE MY LOVER/ JAMES BLUNT
ถ้าผมเป็นศพ แล้วมีคนเปิดเพลงนี้ ผมจะลุกขึ้นมาด่าทันที เพราะผมเกลียดเสียงกะเทยโดนบีบไข่ของ เจมส์ บลันต์ มากๆ

2. ANGELS/ ROBBIE WILLIAMS

3. I'VE HAD THE TIME OF MY LIFE/ BILL MEDLEY & JENNIFER WARNES

4. WIND BENEATH MY WINGS/ BETTE MIDLER

5. PIE JESU/ REQUIEM

6. CANDLE IN THE WIND/ ELTON JOHN
เพลงนี้ฮิตมากตอนเจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนม์

7. WITH OR WITHOUT YOU/ U2
ชอบเพลงนี้มากๆๆๆ ฟังแล้วน้ำตาไหล

8. EVERY BREATH YOU TAKE/ THE POLICE

9. TEARS IN HEAVEN/ ERIC CLAPTON
เพลงนี้แคลปตันแต่งให้ลูกชายที่ตกมาจากหน้าต่างตาย + เขาจะมาเล่นคอนเสิร์ตในบ้านเราปีหน้าแล้ว

10. UNCHAINED MELODY/ RIGHTEOUS BROTHERS
ถ้าผมเป็นศพ แล้วมีคนเปิดเพลงนี้ ผมจะฮาจนตายตาไม่หลับ เพราะนึกถึงคำว่า "ปั้นหม้อล่อผัว"

11. DANNY BOY/ DANIEL O'DONNELL

12. TIME TO SAY GOODBYE/ SARAH BRIGHTMAN

13. WHAT A WONDERFUL WORLD/ LOUISE ARMSTRONG

14. KNOCKIN' ON HEAVEN'S DOOR/ BOB DYLAN

15. I DON'T WANT TO MISS A THING/ AEROSMITH
ถ้าผมเป็นศพ แล้วมีคนเปิดเพลงนี้ ผมจะกลัวจนตายตาไม่หลับ เมื่อนึกถึงปากของนักร้องนำในเอ็มวีเพลงนี้

16. BRIGHT EYES/ SIMON & GARFUNKEL

17. ETERNAL FLAME/ THE BANGLES
เพลงนี้มีชื่อไทยว่า "ราคะนิรันดร์กาล"

18. I'M SLEEP WHEN I'M DEAD/ BON JOVI

19. FAME (I'M GONNA LIVE FOREVER)/FAME

20. REACH FOR THE STAR/ S CLUB7
มาได้ไง????

-------------------------


เรื่องเล่าเก่าก่อนในโรงเรียน

จาก //www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=46851


ตอบ พี่แมดเดอลีน

-- สำหรับวิชางานเกษตร ผมก็มีความทรงจำกับมันเหมือนกันครับ แต่เป็นแนวหนังตำรวจไล่จับผู้ร้าย เพราะตอน ป.6 (ป.6 เหมือนกัน แสดงว่าโรงเรียนนี้ไม่เคยเปลี่ยนหลักสูตรเลยแฮะ) ที่ผมขนกระถางต้นไม้กลับบ้าน ยามหน้าโรงเรียนวิ่งมาดักผม และหาว่าผมพยายามขโมยกระถางต้นไม้อันนั้น (จะบ้าเหรอ??) ต้องอธิบายกันอยู่นานสองนานกว่าจะเข้าใจกัน เอ้อ เป็นงั้นไป


-- เรื่องราวของนักเรียนที่หลงใหลคลั่งรักอาจารย์ จำได้ว่าตอนประมาณ ม.4 มีอาจารย์ภาษาไทยคนใหม่เข้ามาในโรงเรียน หน้าตาก็ไม่ได้สะสวยอะไรมาก แต่เธอชอบใส่กระโปรงสั้นๆ (ได้ข่าวว่าเธอถูกอาจารย์ผู้ใหญ่ตักเตือนเรื่องนี้บ่อยๆ ด้วย แต่อย่างว่าแหละ พวกอาจารย์ในห้องภาษาไทยอายุรวมกันอาจจะมากกว่าปิรามิดจิซาร์อีกมั้ง) อาจารย์สาวคนนี้เป็นที่คลั่งไคล้ของพวกเด็กผู้ชายสายศิลป์อย่างมาก (ผมเรียนสายวิทย์)

ในเทอมนั้นมีการแข่งขันฮอกกี้ระดับชั้น อาจารย์พละก็สั่งให้ตั้งชื่อทีม พร้อมกับทำโปสเตอร์ประจำทีมด้วย (โอ้ เป็นการสอนศิลปะในวิชาพละศึกษาไปในตัว คิดได้ไง) ปรากฏว่าเด็กสายศิลป์กลุ่มนี้ก็เอาอาจารย์สาวคนที่ว่าไปเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโปสเตอร์และชื่อทีมด้วย โดยโปสเตอร์เป็นรูปเด็กผู้ชายหลายๆ คนกำลังแอบมองอาจารย์สาว (ที่ใส่กระโปร่งสั้นๆ และเสื้อรัดรูป) ส่วนชื่อทีมก็คือ RAPE TEACHER (อาจผิดหลักไวยากรณ์ แต่ยังคงสื่อความหมายได้ดี --ฮา)

ส่วนทีมผมชื่อทีม "แจกแต้ม" (คงไม่ต้องอธิบายนะ ว่ามีที่มาอย่างไร) อย่างไรก็ตาม ทีมแจกแต้มก็ได้ตำแหน่งที่ 3 โดยที่ผมไม่ได้ลงสนามเลย (ฮา)

ส่วนอาจารย์ผู้หญิงคนนั้น รู้สึกว่าลาออกไปในภายหลัง เนื่องจากทนแรงกดดันหลายๆ อย่างไม่ได้


โดย: merveillesxx วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:7:27:49 น.  

 
555
บู้ทอีชั้นไม่มีเลยนะที่เล่าเรื่องย่อให้ลูกค้าฟัง
แถมบางวัน คนขายเม้าทส์เรื่องหนังสือกับเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมที่บู้ท จนลืมลูกค้า ( ลูกค้าค้อนไปหลายราย )
แต่ลดแลกแจกแถมสะบัดขอบอก

มีลายเซ็นของตั้มมาอวดไว้ที่บล็อกด้วย


โดย: grappa วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:8:06:26 น.  

 
เขียนได้เสมือนหนึ่งไปอยู่วงสงครามระหว่างเพื่อนเรยอะ


โดย: err_or วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:8:09:42 น.  

 
แนะนำหนังสือ 4 ปี นรกในเขมร


โดย: ป้อมชัย IP: 202.57.130.243 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:9:00:07 น.  

 
งานหนังสือสภาพมักไม่ค่อยต่างกันเลย


โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:9:17:24 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะ มีบางเล่มตรงกัน

ขอบคุณที่แจ้งข่าวเทศกาลหนังยุโรปนะคะ World Film คราวที่แล้วพลาดแบบร้ายแรง คราวนี้หวังว่าจะได้ดูสักเรื่องก็ยังดี

ชอบเพลง WITH OR WITHOUT YOU เหมือนกันเลย


โดย: unwell วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:00:03 น.  

 
งานหนังสือ น่าสนใจมาก


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:00:45 น.  

 
อยากไปใจจะขาด แต่กลับไปไม่ทัน
ได้แต่ฝากเพื่อนสนิทซื้อหนังสือแปลใหม่ของ เจ บุ๊คส์ เกือบทุกเล่มพอ

อ่อ หมายเหตุ ถูกใจคำตอบป้านกของคุณ จขบ เรื่องเล็งไว้แล้วไปสอย(จากห้องสมุด)ทีหลัง ชอบ ชอบ


โดย: cottonbook วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:16:18 น.  

 
...

เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ

เสียดาย ไปงานฯมาตั้ง 4 ครั้งแต่ดันลืมคว้าหนังสือเล่มใหม่ของ ปราบดา หยุ่น มาไว้ในครอบครอง...ตัดใจไม่ไปเป็นครั้งที่ 5 แล้วด้วยสิ



โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:28:06 น.  

 
เขียนได้สนุกจังครับ

วันนี้ว่าจะไปงานหนังสือเหมือนกัน แต่จะตั้งงบประมาณไว้ในโหมดประหยัด


โดย: 9A วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:42:47 น.  

 
มีหนังสืออีกหลายเล่มเหมือนกันที่อยากได้แต่ยังไม่ซื้อ

รอยสักรูปหมานี่เล่มใหม่ของโอตสึเหรอ?

เราซื้อมาตั้งแต่เมษายน ๔ เล่มยังไม่ได้อ่านเลยง่ะ แต่จำไม่ได้ว่าซื้อเล่มไหนมาแล้ว

พอดีมีคนส่งคูปองลดสามสิบเปอร์เซนต์ของบลิสมา เลยกะว่าจะไปงานฯ อีกซักรอบ ถ้าเป็นเล่มใหม่ของโอตสึจริงๆ จะไปสอยแหละ เหอๆ (ยัง..มันยังไม่เข็ด ต้องกู้เงินเค้ามาซื้อแกลบกินแล้วยังไม่เข็ด)



อยากได้เล่มนี้ของตั้มเหมือนกัน แต่ตอนนั้นงบหมดก่อนอะจิ

อยากได้เล่มใหม่ของจิกด้วยแหละ

เฮ้อ..จริงๆ อยากได้อีกหลายเล่มเลย แต่ไม่มีตังค์แย้ว (แต่ยังจะไปนะ กะไปรูดบัตรเอา ให้เต็มวงเงินไปเลย)




เง่อ..ตกลงมันเล่มใหม่ของโอตสึใช่ปะ? กลัวซื้อซ้ำกับสี่เล่มแรกที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่านง่า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:44:54 น.  

 
เขียนแล้วเหมือนได้ไปเอง แต่ไม่ได้หนังสือติดมือกลับมาด้วย
อ๊ะ อย่างนี้ไม่ได้การ ว่าแล้วข้าพเจ้าคงถึงคราต้องไปท่องงานสัปดาห์หนังสือปีนี้เสียที อู้มาหลายวันแล้ว


โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:12:05:34 น.  

 
อ่านแล้วฮามากค่ะ เหมือนได้ไปเองเลย สนุกจัง ชอบตอนไปยืมห้องสมุดด้วย อิอิ

จขบ.ก็ได้หนังสือดีมาเยอะนะคะ :)


โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:14:16:46 น.  

 
อิฉันไปกับคุณแม่ค่ะ

เสือกไปวันอาทิตย์ อย่างกับมหกรรมแจกผ้าห่มให้ผู้เหน็บหนาวและยากไร้ในภาคเหนือ หนังสือนี้มันแจกฟรีหรือค่ะ เดี๋ยนอยากรู้ คุณแม่มาจากบ้านนอก แถมมากับญาติอีกเลยไม่มีทางเลือกในการเลือกวันมากนัก

นี้ถ้าไม่ใช่ว่าตัวใหญ่อย่างกับช้างป่าผสมหมีควาย กลับมาบ้านก็คงบาดเจ็บเละไม่น้อยทีเดียว ๆ เดิน ๆ อยู่อิฉันก็เสียวนะค่ะ กลัวจะไปศอกลูกเด็กเล็กแดงของชาวบ้านเขาสลบ เฮ้อ เที่ยวไม่เห็นสนุกเลย

วันนี้ที่อิฉันไปไม่ได้หนังสือติดมือกลับมาแม้แต่เล่มเดียว ไมมีอารมณ์ซื้อค่ะ ว่าจะซื้อคินดะอิจิติดไม้ติดมือมาหน่อย ก็ไม่ได้ซื้อ บู๊ท Bliss นี้คนก็แห่ยืนเบียดเสียดกันจริง ๆ อิฉันแนะนำนะค่ะว่าซีรีย์นี้ดีไม่น้อย สนุกกว่าอีแมวสามสีนั้นอยู่หลายเท่าตัวทีเดียว

เพลงของความตาย นึกก่อน ชอบเพลง Last Kiss อ่ะ เวอร์ชั่นออริจินอลไม่เคยฟัง เคยฟังแต่ที่ Pearl Jam เอามาร้องใหม่ ฟังแล้วน้ำตาจะไหล

I lost my love, my life that night.....

ถ้าเพลงไทยนึกถึง บอบบาง ของสี่เต่าเธอ กับเพลง ถ้าฉันไม่ตื่น ของพี่บอยด์ ไม่รู้ว่าพี่เขามรณานุสติตั้งแต่วัยรุ่นได้อย่างไร

หนังสือทุกอย่างที่อ่านมา ค่าเทอมหมื่นห้าที่สูญเสียไปในเทอมนี้ ข้าพเจ้าจะไล่อ่านมันให้หมดให้คุ้มที่ห้องสมุดจุฬาฯจ้า

ป.ล. หนังสือบางเล่มมันดองโคตรนานเลยอ่ะ กว่าจะทำเสร็จ เป็นห้องสมุดที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:14:21:32 น.  

 
^
^
^
บรรยายซะเห็นภาพงานเลย น้องด็อง กร๊ากกกก


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:15:42:49 น.  

 
ไปมาเมื่อวันเสาร์ คนเยอะโค่ด ได้มา 7 เล่ม เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ 1 เล่ม อีก 6 เหอๆ หนังสือธรรมะ กะว่าจะไปอีกสักวัน มะรู้จะมีแรงเดินอีกป่าว เมื่อยมากคราวที่แล้ว


โดย: Together In 80s Dream วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:18:39:19 น.  

 
อ่า หนูเจียดเวลาอ่านหนังสือ ไปมาอ่ะ รีบไปตั้งแต่สิบโมง แล้วก็ ช้อปแบบfast food มั่ก(เร็วสุดๆ) ซื้อแบบเน้นพวกหนังสือเรียนกะหนังสือ ของ สนพ.มติชน
ที่ได้มาก็ประมาณ
-รัฐธรรมนูญ ตายแล้ว ของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
-3ศตวรรษไทย ยุคทุนนิยมไล่ล่า ของ นสพ.ประชาชาติ
-จากใต้สู่อีสาน ผลึกชีวิตของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
-animal farm ของ orwell

คือ อ่านเพื่อหวังผลในการสอบอย่างเดียว เผื่อมันออกเป็นความรู้รอบตัวหรือให้เรียงความ (ถ้าปกติไม่คิดแตะ อย่างดีก็ยืมห้องสมุดอ่าน)

อยากไปอุดหนุนบูธของพี่ grappa เหมือนกันนะคะ แต่หนูไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนอ่ะ แหะๆ

คราวนี้มีหนังสือที่อยากได้เยอะมากกกก แต่พ่อไม่ให้ซื้ออ้ะ หนูทำลิสต์ที่จะซื้อคราวหน้าไว้แล้ว
-หนังสือของวินทร์ ทุกเล่ม(ถ้ามันลด 50%แบบคราวนี้อีกนะ)
-เงากระบี่ใต้อักษร ของask media
-สามก๊ก
-season change......คราวหน้าไม่รุจะยังมีอยู่มั้ยอ้ะ
-หนังสือรัก
แล้วก็พวกบลาๆบ้าบอ พวก chic book ของ meg cabot อีกสองสามเล่ม

ps.แมวสามสีนี่ใช่เรื่อง มิเกะเนโกะ โฮล์ม ป่ะอ่ะ


โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.34.42 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:20:09:13 น.  

 
อา...ซื้อมาเยอะจัง
ของผมซื้อแค่ไม่กี่เล่มเอง แต่แอบหน้าแตกที่เผลอไปทักพี่คนหนึ่งในบูธ Underground ว่าเป็นพนักงานขาย แต่จริง ๆ แล้ว เธอคือ พี่ชมพู่ อุรุดา โควินทร์

ไม่รับเย็บ...

ส่วนเพลงงานศพผมขอ Starless ของ King Crimson เอาให้คนมางานมันเพี้ยนจนกลับบ้านไม่ถูกเลย



โดย: ShadowServant วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:20:28:16 น.  

 
ขอให้มีความสุขวันหยุดค่ะ



โดย: โสมรัศมี วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:02:02 น.  

 
ไม่ได้ไปงานหนังสือ และตั้งใจว่าจะไม่ไป (ถ้าไม่มีหนังสือที่อยากได้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เพราะซื้อเยอะๆ ทีไร อ่านไม่เคยหมดซักที


โดย: ปืนกลสตรอแหลเบอร์รี่ IP: 202.41.187.247 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:20:37 น.  

 
เล่าฮาจังค่ะ ได้หนังสือมาแยะดีจัง ^^


โดย: Clear Ice วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:37:57 น.  

 

ประกาศ

ร่วมลงชื่อ "ข้อเรียกร้องว่าด้วยการปกป้องและรักษามรดกโสตทัศน์ของชาติ เสนอต่อ รัฐบาลไทย" ที่ลิงค์นี้อีกครั้งนะครับ พอดีอันที่แล้ว มีความผิดพลาดนิดหน่อย

//www.petitiononline.com/filmnow/petition.html

-----------------------------


เพลงงานศพของข้าพเจ้า

สำหรับงานศพของน้องเมอร์ขอเปิดเพลง Sweet Surrender ของ Sarah McLachlan เพราะถ้าความตายถือเป็นความพ่ายแพ้ ก็เป็นความพ่ายแพ้แบบหวานอมขมกลืนจ้ะ

ปกติไม่ค่อยได้ฟังเพลงของ Sarah McLachlan เท่าไร (และไอ้ที่ได้ฟังก็ไม่ค่อยชอบ) สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะรู้สึกว่าเพลง Angel (ที่ประกอบเรื่อง City of Angel ไง) มันเป็นเพลงที่น่าเบื๊อน่าเบื่อ แต่เพลง Sweet Surrender นี่ยกเว้น ชอบมาก ชอบขาดใจด้วย

เพลง Sweet Surrender อยู่ในอัลบั้มชุด Surfacing (1997) แต่ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ลในปี 1998





Sarah McLachlan - Sweet Surrender

It doesn't mean much
It doesn't mean anything at all
The life I've left behind me
Is a cold room
I've crossed the last line
From where I can't return
Where every step I took in faith
Betrayed me
And led me from my home

And sweet
Sweet surrender
Is all that I have to give

You take me in
No questions asked
You strip away the ugliness
That surrounds me
Are you an angel
Am I already that gone
I only hope
That I won't disappoint you
When I'm down here
On my knees

And sweet
Sweet
Sweet surrender
Is all that I have to give

Sweet
Sweet
Sweet surrender
Is all that I have to give

And I don't understand
By the touch of your hand
I would be the one to fall

I miss the little things
Oh I miss everything

It doesn't mean much
It doesn't mean anything at all
The life I left behind me
Is a cold room



ดูมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ได้ที่นี่ (เอ็มวีสวยมากๆ ดูแล้วตายคาที่ / ช่อง VH1 ชอบเปิดบ่อยๆ)

//www.youtube.com/watch?v=MG6GzTxReSs

ประทับใจกับคอมมเมนต์นึงใน youtube.com มาก

"Have you ever heard a song and felt that it was your life?"


โดย: merveillesxx วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:22:35:09 น.  

 
ตามมาอ่านโดยคำแนะนำของพี่ grappa อ่านไปหัวเราะไปจนรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:23:04:38 น.  

 


ตอบ พี่ grappa

"แต่ลดแลกแจกแถมสะบัดขอบอก"

อันนี้เห็นด้วย และขอรับประกันจ้ะ

----------------------------

ตอบ คุณ unwell

ผมก็คงได้ดู งานหนังยุโรปนิดเดียว เศร้าหลาย -__-'

-----------------------------

ตอบ พี่ cottonbook

ขอบคุณฮะ จากนี้ไป ป้านก คงเป็งตัวละครยอดฮิตของบล็อกนี้

-------------------------------

ตอบ คุณ The Legendary Midfielder

โอ้โห สุดยอด ไปมา 4 ครั้ง!

ส่วนใหญ่ไปแค่ครั้งเดียวแหละครับ อย่างมากสุดก็ 2 ครั้ง

---------------------------------

ตอบ คุณ 9A

ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมเงินเหลือครับ ^^

---------------------------------

ตอบ พี่สาวไกด์ใจซื่อ

>รอยสักรูปหมานี่เล่มใหม่ของโอตสึเหรอ

เล่มใหม่จ้ะ ที่ปกสีเขียวๆ เพิ่งออกในงานนี้

-----------------------------------

ตอบ คุณ sTRAWBERRY sOMEDAY

ก็รีบๆ ไปนะฮะ จะหมดวันอาทิตย์นี้ละ

-----------------------------------

ตอบ คุณ พัท (Il Maze)

ปีนี้ผมรู้สึกว่าซื้อหนังสือค่อนข้างเบาลงครับ ไม่ซื้อพวก "นักเขียนท่านๆ" แล้ว

------------------------------------

ตอบ พี่ดอง

เดี๊ยนว่าณพี่ต้องทำใจนะคะ งานหนังสือนี่คนมันก็เยอะพอๆ กับหนังสือในงานแหละค่ะ

แหม ก็น่าดีใจนะคะ ที่คนไปงานนี้กันเยอะๆ ถึงแม้จะไปแห่กันอยู่ที่บูธแจ่มใส หรือ ANIT ก็ตาม -__-''

---------------------------------------

ตอบ น้องโทยะ อากิระ

พี่ซื้อ Animal Farm ของ George Orwell มาได้ปีนึงแล้ว ยังไม่ได้อ่านเลย / แนะนำว่าถ้าจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ให้หาอัลบั้มชุด Animal ของ Pink Floyd มาฟังควบด้วยจ้ะ

บูธของพี่ grappa อยู่ที่โซน Atrium (ตรงกลางงาน) บูธ W16 จ้ะ สังเกตง่ายๆ แถวนั้นจะมีบูธของ FHM และ Maxim (ฮ่าๆๆๆ)

>แมวสามสีนี่ใช่เรื่อง มิเกะเนโกะ โฮล์ม ป่ะอ่ะ
ถูกต้องนะคร้าบ

-----------------------------------------

ตอบ คุณ ShadowServant

ปีนี้ไม่ได้ซื้ออะไรจากบูธ Underground เลย รู้สึกผิดเล็กๆ

----------------------------------------

ตอบ คุณปืนกลสตรอแหลเบอร์รี่

>เพราะซื้อเยอะๆ ทีไร อ่านไม่เคยหมดซักที

เป็นกันทุกคนครับ ไม่ต้องห่วง

------------------------------------------

ตอบ คุณลูกสาวโมโจโจโจ้

ใจเย็นๆจ้ะ

เราก็ชอบดู powerpuff girls เหมือนกัน


โดย: merveillesxx วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:0:01:18 น.  

 
อยากอ่าน รอยสักรูปหมา มาก ๆ
แต่ยังไม่ม่โอกาสไปเดินงานหนังสือเลย
ซึ่งคิดว่าคงไม่ไป เพราะกลัวโดนดูดเงินหมดกระเป๋า

20 เพลงยอดฮิตในงานศพ ... ช่างคิด


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:1:52:48 น.  

 
เก็บรายละเอียดดีจริงๆครับ


โดย: rsamlha วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:2:53:54 น.  

 
เจนดำและป้านก
เธอทั้งสองออกจะสวยงาม ระเหิดระหงดีออก
ถ้าเป็นชั้น จะมาคอมเม้นท์ว่า
เจน ( หรือนก ) ไม่ย้อม เจนไม่ยอม

ป.ล.ดีแล้วล่ะที่คนหาบู้ทไม่ค่อยเจอ
เพราะบางวันจะหน้าหงิกมั่กๆ


โดย: grappa IP: 58.9.184.131 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:7:14:48 น.  

 
ความเสียหายมากเหมือนกันนะนี่
ขำวิธีการเชียร์หนังสือจัง เก็บรายละเอียดดีโคตรๆ

สำหรับเพลงงานศพเรา ขอให้ใช้แบบงานวันเกิดได้มะ
ขำเพลงที่ 10กะ15 บรรยายซะเห็นภาพเลย


โดย: quin toki วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:9:38:50 น.  

 
งานศพเราขอ I'll be missing you ละกัน

อ่านบล็อคนี้แล้วคิดว่าอยากซื้อหนังสือของเจ้าของบล็อคมาอ่านเลยนะเนี่ย ถ้าจะฮา


โดย: kitnan วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:15:44:19 น.  

 
ไม่ได้ไป แต่ก็แอบมาอ่านบรรยากาศก็นึกๆ ภาพตามไปด้วย ... เดี๋ยวนี้เค้ามีเชียร์หนังสือกันแบบนี้แล้วเหรอค่ะ แปลกดีน่อ

แบบว่าเคยไปมาเมื่อ 6 ปีที่แล้วมั้งค่ะ ยังไม่มีเชียร์กันดังๆ แบบนี้เลย


โดย: JewNid วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:16:55:37 น.  

 
อ่านไปก็ขำไป
บรรยายได้ละเอียดทุกเม็ดจริงๆ อิอิ

ป.ล. ขอแอบสอดรู้สอดเห็นหน่อยได้ป่ะ
คืออยากรู้น่ะ ว่าตอนนี้ป้านกกับเจนดำมีอาการเป็นยังไงบ้าง ...จามจนป่วยหนักเพราะโดนคนนินทารึเปล่า? อิอิ

ป.ล. 2 เพิ่งได้ฤกษ์ไปงานหนังสือวันนี้เองครับ
ได้มาทั้งหมด 9 เล่มพอดิบพอดี
1. Bhutan : A Sketchbook, สฤณี อาชวานันทกุล
2. เปลี่ยวคอนกรีท, รงค์ วงษ์สวรรค์
3. นอนใต้ละอองหนาว, ปราบดา หยุ่น
4. ความเขลา, มิลาน คุนเดอรา เขียน, ภัควดี วีระภาสพงษ์ แปล
5. ไปสู่ชะตากรรม, นิวัติ พุทธประสาท​ (อันนี้ได้แถม เพราะซื้อ film virus 4)
ุ6. film virus 4, สนธยา ทรัพย์เย็น + filmsick + กัลปพฤกษ์ + คุณเต้ + คุณโสภณา + คุณอลงค์กรณ์
7. อ่าน (ไม่) เอาเรื่อง, ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์
8. Blink, Malcolm Gladwell
9. ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล, วินทร์ เลียววาริณ


โดย: it ซียู IP: 210.213.18.230 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:19:39:42 น.  

 

ตอบ พี่ grappa

โอย ตายแล้ว อ่านแล้วแอบเครียดเล็กๆ นึกภาพคำว่า "ระเหิดระหง" คู่ไปกับ เจนดำ + ป้านก

(อิฉันว่า ถ้า "ระเหิด" อย่างเดียว นี่พอไหวค่ะ)

อย่างไรก็ดี เดี๋ยวจะบอกเจนดำ กับป้านก ให้ครับ เชื่อว่ามันจะรีบไปอุดหนุนหนังสือที่บูธพี่ทันที (เอ๊ะ แต่ป้านก อาจรออ่านในห้องสมุดอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ)

---------------------------

ตอบ คุณ kitnan

>อ่านบล็อคนี้แล้วคิดว่าอยากซื้อ
>หนังสือของเจ้าของบล็อคมาอ่านเลยนะเนี่ย ถ้าจะฮา

เราได้เก็บข้อมูลประโยคนี้ของท่านไว้แล้ว ติ๊ด...ตื๊ดดดด...

----------------------------

ตอบ คุณ JewNid

อันนี้ยังน้อยครับ ผมยังจำได้เลย ตอนโปรโมทหนังเรื่อง The Da Vinci Code แถวสีลมมีคนมานอนกลางฟุตบาท เป็นแบบมนุษย์ปลาดาวห้าแฉกด้วย ...โอ ประเทศไทย

-----------------------------

ตอบ it ซียู

เจนดำ + ป้านก ยังไม่เห็นอันนี้หรอกมั้ง สองคนนี้ Low Tech พอๆ กัน เช็คอีเมลเป็นก็บุญแล้ว

มิลาน คุนเดอร่า นี่เรามี 3 เล่มแล้ว (ความเบาหวิว, ความเขลา, อมตะ) แต่ยังไม่ได้เห็นสักเล่มเลย เฮ้อ...


โดย: merveillesxx วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:7:10:45 น.  

 
ไปงานหนังสือมาเมื่อวันศุกร์ ได้หนังสือมาเป็นกระตั้ก ล้วนแต่เป็นหนังสือที่ลดราคากระหน่ำ ที่ทางร้านตั้งใจจะขายทิ้งแทบทั้งนั้น ส่วนหนังสือใหม่ก็เป็นหนังสือที่ซื้อเพื่อเอาลายเซ็นผู้เขียนไปฝากเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดอันไกลโพ้น ไม่สามารถเดินทางมาชมงานได้

ไม่เน้นหนังสือใหม่ครับ เพราะหนังสือใหม่นี่ซื้อได้ในราคาลด 20-30% ทุกวันอยู่แล้ว ในงานบางร้านลดแค่ 15% เอง


โดย: 9A วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:10:52:08 น.  

 
ตอนนี้เป็นโรคริคอิซึ่มไปแล้วจ้า

เหอๆ น้องเมอร์ส่งเนื้อเพลงที่เคยแปลมาให้อ่านหน่อยจิ มันหาไม่เจออ่ะ


โดย: quin toki วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:12:55:44 น.  

 
ครั้งนี้ได้หนังสือมา 5 เล่มครับ จริงๆ อยากซื้อเยอะกว่านี้ แต่งบไม่อำนวยครับ เริ่มที่

1. คินดะอิจิ ตอนที่ 6 เจดีย์สามเศียร (สนุกดีครับ แต่เต็มไปด้วยตัณหาราคะที่ผมชอบมากไปหน่อย เลยเฉยๆ แหะแหะ)

2. คินดะอิจิ ตอนที่ 7 เพลงลูกบอลปีศาจ (ใช้ได้เลยล่ะ ชอบครับ เพราะเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงมากๆ แถมการตายก็เปรี้ยวดี ถูกใจคนซาดิสต์อย่างผม)

3. ผู้ชายคนที่ตามรักเธอทุกชาติ (วินทร์ เลียววาริน) ฮามากๆ ครับ ชอบเลยล่ะ

4. หนังสือรัก (ของคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ) อันนี้ได้มาพร้อมลายเซ็นเลยครับ เพราะไปอุดหนุนเอาวันที่เขามาแจกลายเซ็นพอดีเลย

5. ขอเพียงได้รัก (Bliss) ยังไม่ได้อ่านเลยครับ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากซึ้ง เลยเก็บไว้ก่อน

ได้มาเท่านี้เองครับ ที่เหลือ ไปกิน MK หมด เอิ๊กกกกกก


ปล. มาชวนไปแดนซ์ครับ ตอนนี้มีเพลงให้สะบัดกันให้สะโพกหลุดไปข้างนึงเลย ว่างๆ ไปแดนซ์ได้เสมอนะครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:21:22:30 น.  

 
ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่หาเจอแล้ว


โดย: quin toki วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:23:19:16 น.  

 


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:3:21:48 น.  

 
ทัศนะจีบหญิง


โดย: เซียวเปียกลี้ IP: 203.154.145.10 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:7:45:47 น.  

 
เขียนได้ฮาสนุกจริงๆครับ

ที่บูท Bliss คนขายฮาจริงๆนะ ผมไปเจอน้องผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง จู่ๆเธอก็หันมาแล้วบอกว่า "ร้ายนัก ตายซะเถอะ!!!" ด้วยเสียงสะบัดๆ แล้วก็บรรยายสรรพคุณหนังสือต่อ ตอนแรกก็ตกใจ แต่พอตั้งตัวได้ หัวเราะกลิ้งเลยครับ ก็มันเป็นชื่อหนังสือ เธอก็ใส่อารมณ์แบบนางอิจฉาได้น่าหมั่นไส้มากๆ แล้วบูทนี้ก็มีชื่อหนังสือฮาๆเอาไว้กัด เอาไว้บล็อกเพื่อนได้เยอะเลยนะ เช่นเพื่อนหญิงเบอร์หนึ่งเจอหนังสือเรื่อง "เจอจนได้ ผู้ชายของฉัน" เพื่อนกระเทยก็จะรีบหยิบเล่มนี้มาเลย "ขอได้ไหม ผู้ชายของเธอ" 555 สนุกสนานมาก


โดย: ป้อจาย วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:10:56:09 น.  

 
ต่อครับ

งานแฟตปีนี้ พี่ดองฝากอัลบั้ม The Devine Comedy ของพี่ดองด้วยนะครับ อัลบั้มนี้จะวางที่ตลาดเขาวงกตตำแหน่ง B2 ตอนนี้มีซิงเกิลออกในแฟตแล้วคือเพลง "นึกไม่ออก"

ฝากสักแผ่นสองแผ่นเน้อ

www.myspace.com/nextliferecords<>


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:17:55:21 น.  

 
ไปมาเหมือนกันค่ะ

G oo d N igh t Ka


โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:18:02:35 น.  

 
G oo d N igh t Ka


โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:18:03:35 น.  

 
อ่านแล้วนึกภาพตาม เหมือนกะได้เดินตามหลังต้อยๆเลยค่ะ อิอิ
ปีนี้ยังมะได้ไปเลยค่ะ ปีที่แล้วซื้อจากงานมายังอ่านไม่หมดอ่ะ
แต่ได้สางสำแดง กะ ตั้มกับญี่ปุ่น กะ หูหาเรื่อง จากคิโนะ ลด 10% ก็ดีใจจนแทบจะตีลังกา



โดย: renton_renton วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:19:57:24 น.  

 
--- เป็นอีกปีที่ไม่ได้ไปงาน ร่วมๆ 4 ปีแล้วนะเนี่ย


โดย: เหมียวหล่อ (myth ) วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:22:03:31 น.  

 
ไปงานหนังสือเพื่อซื้อแผนที่กรุงเทพฯ 666
โอ๊ะ...มีเพลงของ Sarah Brightman ติดอันดับกับเค้าด้วย ดีใจ


โดย: KjkGs IP: 58.136.84.61 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:23:15:36 น.  

 
เฮ็มเบะ คือ พี่มายด์ ป่าว อ่ะ?

ป.ล.ติดใจตรงนี้แหละ ฮา


โดย: DAZZA IP: 124.121.93.97 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:42:30 น.  

 
ลัลล้า...ถึงงานจาผ่านไปนาน(มักแล้ว)แต่พอดีเพิ่งมาได้อ่าน ก้อขอเขียนมั่งละกาน ต่อเก่งน่ะเนี่ย ตัดจายไม่ซื้อแมวสามสีได้ ตอนงานครั้งที่แล้วเราก้อตัดจายไม่ซื้อได้อยู่หรอก เพราะอ่านไปอ่านมา เริ่มรู้สึกเบื่อๆละ...คราวนี้ก้อกะไม่ซื้ออยู่เม๊กาน แต่...หยิบไปหยิบมาดันซื้อมาเพิ่มอีกสองเล่มจนได้
แล้วอ่านรอยสักรูปหมาจบยัง...ตอนฮาจิเมะกะ blue สนุกได้จายมักๆ...(อ่าน blue แอบน้ำตาซึมหน่อยๆด้วย...แบบว่าเปงพวกบ่อน้ำตาตื้น) ซื้อมาคืนแรกกะว่าจาอ่านซักตอน...อ่านไปอ่านมา...มันในอารมณ์มาก อ่านจบจบเล่ม ปาไปตีสี่ก่า

แต่ไปงานคราวนี้ทำไมได้หนังซื้อน้อยก้อไม่รู้...เหลือเงินกลับมาเพียบเลย(ไม่สบายจายยยเจงๆๆ..เงินเหลืออ) เลยไปซื้อหนังสื้อทำอาหาร+ถักเนตติ้ง...แบบว่าอารมณ์แม่บ้านเข้าสิง...หุหุหุ จนป่านนี้หนังสือสองเล่มนั้น ยังอยู่ในถุงเม๊เดิม...(ฮา)


โดย: Achochan IP: 58.8.186.128 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:14:06 น.  

 
มีบูธนึง (จำไม่ได้บูธไร)
คนขายเกิดร้องลิเกขึ้นมา
เรากำลังจะเดินเข้าไปดู เกือบหนีไม่ทันแน่ะ พี่แกเสียงดังมากอะ
สงสัยบูธว่างเลยเปิดเวทีส่วนตัว


โดย: SkySeries IP: 202.28.180.201 วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:3:32:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.