|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตะลุยมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 11 (ตุลาคม 2549)
โดย merveillesxx
//www.thailandbookfair.com/bookexpo2006/index.php
ช่วงเวลา 10 วัน ในการตะลุยเทศกาลหนัง 4th World Film Festival ผมรู้สึกเหมือนตัวเองวิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา (แม้จะนั่งกินข้าวอยู่เฉยๆ ก็ตาม) พอจบเทศกาลแล้ว การได้นอนนิ่งๆ บนเตียงก็ถือเป็นความสงบนิ่งขั้นสุดยอด จากนั้นผมก็ขอสนองนี้ดตัวเองด้วยการเปิดช่องเพลง [V] และ MTV ทิ้งไว้ทั้งวัน เพื่อรอดูเอ็มวีเพลง Reality ของ Girly Berry ...แต่อนิจจา ปรากฏว่าเจอแต่เอ็มวีของ G-JR และ Mr.D
หลังจากนอนอืดถืดอยู่ที่บ้านได้ 2 วัน ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของเดือนนี้ นั่นก็คือ ไปงานหนังสือ นั่นเอง ซึ่งปีนี้ก็ไปคนเดียวเช่นเคย ตามประสาคนอินดี้ที่ไม่ค่อยจะมีเพื่อน และตอนนี้ก็ไม่มีแฟน (ถึงมีก็ไม่ค่อยอยากพาไป) ซึ่งก็เหมาะสมดี ถือเป็นการเฉลิมฉลองการอกหักคา MSN เป็นครั้งที่ 56 ในรอบปีนี้ (รายละเอียดส่วนนี้ไม่เล่าละกัน มันค่อนข้างซ้ำซากพอๆ กับละครที่ กบ-สุวนันท์ เป็นนางเอกนั่นแหละ)
26 OCT 2006
วันนี้ก็ออกจากบ้านประมาณ 11 โมง เดินทางโดนรถไฟใต้ดินเช่นทุกปี ตอนอยู่บนรถก็โทรไปคุยกับ เจนดำ (คนเดียวกับในซี่รี่ ไดอารี่ฝึกงาน) เป็นการฆ่าเวลา เนื่องจากผมติดต่อเจนดำไม่ได้มาเป็นเวลา 2 วันแล้ว ประกอบกับเพื่อนอีกคนโทรมาเล่าว่า มันฝันถึงเจนดำ 3 วันติดต่อกันแล้ว (ช่างโชคร้ายจริงๆ) ก็เลยกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า เช่น เดินสะดุดล้มหน้าคว่ำไปโดนกระทะขนมเบื้องป้าแต๋ว หรือถูกรถเข็นส้มตำของเจ๊แหม่มพุ่งชนใส่ตายคาที่ เป็นต้น แต่ปรากฏว่าวันนี้มันก็รับโทรศัพท์ปกติ แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ ก็ดี...จะได้ไม่เปลืองค่ากระดาษกงเต้ก
คุยไปคุยมา ปรากฏว่าวันนี้เจนดำก็จะมางานหนังสือเหมือนกัน (เป็นคนดำที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนจริงๆ) โดยควงคู่มากับ ป้านก (ถึงจะเรียกว่าป้า แต่ป้านกก็เป็นรุ่นพี่ผมแค่ปีเดียว ป้านกแกเป็นเพื่อนซี้ของเจนดำ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหนียวแน่นหนึบประหนึ่งปลาฉลามกับเหาฉลาม) ก็ดีเหมือนกันที่ป้านกมาด้วย อย่างน้อยป้านกก็ขาวกว่าเจนดำ จะได้มีอะไรที่ดูแล้วสบายตาบ้าง ...เจนดำกับป้านกจะมาถึงงานหนังสือประมาณ 14.00 ซึ่งป่านนั้นผมก็คงซื้อหนังสือของตัวเองเสร็จแล้ว จากนั้นก็คงไปแจมกับสองคนนั้นได้ (ไปคอยจูงป้านก แกแก่แล้ว หลงทางง่าย)
ตอนอยู่บนรถใต้ดินมีเด็กแนวสองคนยืนอยู่ใกล้ๆ (ทำหัวฟูๆ, เจาะหูเม็ดสีดำๆ, กางเกงขาสั้น, ใส่รองเท้าผ้าใบเน่าๆ, ไม่ใส่ถุงเท้า ...เฮ้อ ถามจริงเถอะ เค้าเปลี่ยนรัฐบาลกันไปแล้วนะ พวกเอ็งไม่คิดจะเปลี่ยนแนวบ้างเหรอไงเนี่ย) ก็แอบคิดในใจเหมือนกันว่าสองคนนี้มันจะไปงานหนังสือรึป่าว แล้วพวกมันจะซื้ออะไรบ้างมั้ยนะ (งานคราวที่แล้วเจอเด็กแนวกลุ่มนึง เห็นมันเดินอยู่ตั้งหลายชั่วโมง ไม่เห็นจะซื้ออะไรสักอย่าง) ปรากฏว่าไปเจอคู่นี้อีกทีในงานครับ โอ้! ปรากฏว่ามันซื้อครับ ...ผมให้เวลาผู้อ่าน 3 วินาทีครับ ลองทายว่ามันซื้ออะไร ...3...2...1...หมดเวลาครับ ใช่แล้ว มันซื้อ a day
ผมมาถึงงานประมาณ 11.30 วันนี้เป็นวันพฤหัสคนพอประมาณ แต่ไม่เยอะมาก ตามแพ็ตเทิร์นเดิมครับ ผมเริ่มลุยที่ Plenary Hall ก่อน สิ่งที่ดีใจมากก็คือ คราวนี้บูธแจ่มใสเค้าแยกไปตั้งอยู่ริมๆ เลย ดีครับ ดีมาก จะได้ไม่กีดขวางทางจราจร (พี่สาวผมบอกว่าถ้าวางระเบิดที่บูธนี้ วัยรุ่นหญิงไทยจะตายไปครึ่งประเทศ) จริงๆ ผมว่าคราวหน้าบูธนี้แยกไปจัดที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี ยังได้เลยนะ
อีกบูธนึงที่คนแน่นพอกันก็คือ Bliss (ปีนี้บูธสวยดี) อย่างที่ผมประกาศวาจาลั่นไว้แล้ว จากนี้ไปผมขอลาขาดกับซีรี่แมวสามสี ยอดนักสืบตลอดกาล และผมก็ทำสำเร็จครับ แม้ว่าพนักงานที่บูธจะออดอ้อน ออเซาะ ฉอเลาะ ขนาดไหนก็ตาม
อนึ่ง ซื้อหนังสือจากบูธนี้มา 2 เล่ม แต่สิ่งที่ดีที่สุดกลับเป็นของแถมที่เป็น In Magazine หน้าปก ปอ-ภัคพร
รู้สึกว่าปีนี้คุณภาพพนักงานสาวของบูธ Bliss จะลดลงนะ (ปกติบูธนี้พนักงานจะสวย) หรือเพราะเรามางานวันหลังๆ ก็ไม่รู้ พนง.เลยดูหน้าเหือดๆ พิกล อย่างไรก็ดี พลังเสียงเจื้อยแจ้วของพนง.บูธนี้ไม่เคยตก และก็มี พนง.คนนึงเชียร์หนังสือได้ฮามาก ประมาณว่า นี่แหละค่ะ หนังสือเล่มนี้ก็จะเกี่ยวกับ เด็กผู้หญิงคนนึงที่ต้องไป บลา บลา บลา...ใช่ค่ะ นี่เป็นแค่เรื่องย่อนะคะ อ๊ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ไม่เล่าถึงตอนจบหรอกค่ะ อ้อ ขอเล่าต่อนะคะ จากนั้นผู้หญิงคนนี้ก็จะ บลา บลา บลา ...เอ๊ะ อะไรนะคะ อ๋อ ไม่ใช่ค่ะ นี่ยังไม่ใช่ตอนจบค่ะ แหม ไม่เผลอเล่าหรอกค่ะ ต่อนะคะ...
นอกจากนั้น ผมยังพบวิธีเชียร์หนังสืออันแปลกประหลาดมากมาย เช่น
บูธขายแผนที่ : พนง.พูดว่า แผนที่จ้ะแผนที่ แผนที่จ้า บอกเส้นทางละเอียดชัดเจน เหมาะกับวางแผนการเดินทาง ยุคนี้น้ำแพงนะจ๊ะ แผนที่นี้ช่วยท่านได้ (เอ่อ...แต่ที่พี่ถืออยู่ในมือมันเป็นแผนที่โลกนะ!)
บูธ a day : ผมหยิบ นิยายรักนักศึกษาเล่ม 3 ขึ้นมาดูเล่นๆ พนง.ก็พูดว่า เล่มสามนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่นะครับ ส่วนสองเล่มแรกจะเน้นไปที่กรุงเทพ
เอ่อ คือกูของง ตกลงนี่มันเป็นสาระสำคัญตรงไหนหว่า ไปเทคคอร์สวาทวิทยาด่วน!
บูธหนังสือภาษาอังกฤษ อะไรสักอย่าง : หนังสือภาษาอังกฤษครับ! หนังสือภาษาอังกฤษ! คู่มือพิชิตข้อสอบทุกชนิด อย่าช้าครับอย่าช้า ไม่ซื้อตอนนี้จะไม่ทันเพื่อนนะครับ เมื่อเช้าเพื่อนซื้อไป ตอนนี้ท่อง A ถึง Z ได้แล้วนะครับ (ฮา)
สำหรับเพื่อนๆ ที่ได้พบเจอในงานนี้ก็ไม่เยอะเท่าไร มีแค่ 2 คน คนแรกก็คือ น้องดิ่วดิ๊ว เจ้าเก่า (คราวที่แล้วก็เจอ) ยังคงมารับจ๊อบพิเศษที่บูธสนพ.วงกลมเหมือนงานคราวก่อน แต่แบบว่าตอนแรกไม่กล้าทักมัน เพราะดิ่วดิ๊วดูเหนื่อยๆ เครียดๆ หน้าโทรมๆ ประหนึ่งกะหล่ำปลีเหี่ยวที่ไม่มีใครเอา ก็เลยนึกว่าไม่ใช่มัน (คือปีนึงจะเจอกันแค่สองหน เลยจำหน้ามันไม่ค่อยได้) แต่พอวนไปบูธนี้รอบสอง มันก็ยิ้มให้ ก็เลยได้คุยกันนิดหน่อย
คนที่สอง ก็เจอโดยบังเอิญ และค่อนข้างเซอร์ไพรส์ก็คือ เฮ็มเบะ เพื่อนร่วมคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งตกใจไปว่าพ่อแม่ที่ไหนจะอุตริตั้งชื่อลูกว่าเฮ็มเบะ อันนี้เป็นชื่อที่ข้าพเจ้าสถาปนาให้เธอเอง เพราะหน้าเธอเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่นหน้ากลมๆ ชอบถือร่ม ที่ชื่อเฮ็มเบะมากๆ (เฉพาะผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2528 ที่จะรู้จักตัวเฮมเบะ เด็กยุคหลังจากนั้นคงรู้จักแต่โปเกม่อน) จริงๆ แล้วเธอก็มีชื่อของตัวเองว่า....เอ๊ะ
เฮ็มเบะมันชื่อจริงว่าอะไรวะ!?...เออ ช่างมันเถอะนะ เอาเป็นว่ามันก็เป็นเพื่อนที่น่ารักคนนึงละกัน (อนึ่ง โปรดเข้าใจว่าคำว่า น่ารัก ของผมมีหลายระดับ หลายความหมาย หลายการใช้งาน และคำว่าน่ารักของผมมีค่าห่างไกลจากคำว่า สวย หลายล้านปีแสง)
หลังจากหลุดมาจากโซน Plenary (พร้อมกับถุงใหญ่ๆ 1 ถุง) ก็แวะเวียนไปโซน Atrium เพื่อทักทายพี่ grappa (จริงๆ คือจะไปเอาหนังสือ GM ที่ทีมงานจีเอ็มฝากไว้ให้ ฮ่าๆๆๆ) หลังจากซื้อหนังสือ ก็ยืนเม้าท์ที่หน้าบูธ หันมาอีกที อ้าวเฮ้ย! พอเรามาปุ๊บ บูธเค้าโล่งเลย ลูกค้าหายหมด เมื่อกี้คนยังเยอะๆ อยู่เลย (นี่กูเป็นตัวซวยหรือไร?) กระนั้นก็ตามพี่ grappa ก็ยังเชื้อเชิญข้าพเจ้าไปนั่งคุยในบูธ (รู้สึกว่าพอผมเข้าไปนั่งแล้ว จะไปเบียดเบียนพื้นที่จนคุณพี่อีกคนเข้ามานั่งไม่ได้ ขออภัยอย่างแรง ) นั่งคุยสักพักจนลูกค้าเริ่มกลับมา ก็เลยขอตัวไปเดินลุยต่อ พี่ๆ ในบูธก็ใจดี๊ใจดีบอกว่าให้ฝากถุงหนังสือไว้ก็ได้ แต่ด้วยความอยากจะทำแมนเลยบอก ไม่เป็นไรฮะ (แต่สุดท้ายต้องบากหน้ามาฝากอยู่ดี โปรดติดตามจากข้างล่าง)
จากนั้นก็ลุยต่อที่โซน C1 + C2 ปกติโซนนี้ผมจะเดินผ่านๆ เพราะมันหนังสือเพื่อการศึกษาซะเยอะ (ไม่เหมาะกับคนอย่างเรา) แต่วันนี้ต้องเดินดูดีๆ เพราะกะมาซื้อหนังสือเตรียมสอบ CU-TEP (ก่อนหน้านี้สอบ TU-GET ไปแล้ว สอบผ่านครับ แต่ผ่านด้วยคะแนนอันจัญไรมาก) คือตอนนี้กำลังใช้แผน บันไดไต่ดาว (ชื่อลิเก๊ลิเก) จะเดินสายสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ ทั้ง TU-GET, CU-TEP, TOIEC, IELTS และจะจบด้วยสนามสุดท้ายคือ TOEFL (อ้อ...ลืม ต้องสอบ GMAT อีกนี่หว่า) เอ้อ ทำไมไปเรียนเมืองนอกเมืองนามันลำบากงี้วะ ในที่สุดประมาณบ่ายสองกว่าๆ ผมก็เคลียร์งานหนังสือครบทุกโซน แต่เจนดำกับป้านก (ลืมสองคนนี้ไปยัง ถ้าลืมกลับไปอ่านตอนต้นๆ ใหม่) ก็ไม่เห็นโทรสักที ก็เลยไปนั่งรอ พร้อมกับจัดถุงหนังสือไป 14.10 ก็แล้ว 14.15 ก็แล้ว 14.20 ก็แล้ว มันก็ยังไม่โทรมา แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะยัยสองคนนี้มันอยู่บ้านนอก นานๆ จะเข้ากรุงที คงขึ้นรถใต้ดินผิดทางแน่ๆ พอ 14.30 ก็ทนไม่ไหว เลยโทรไปหามัน ปรากฏมันเพิ่งเข้ามาในงานพอดี ...ไม่รู้มันจะแกล้งมาสายทำไม ไม่ใช่ออกเดทซะหน่อย (นักจิตวิทยา ซิก เมอร์ ฟรอยด์ กล่าวไว้ว่า เวลาออกเดทผู้หญิงจะชอบมาสายๆ เพราะถ้าผู้ชายยอมรอ เธอจะรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ แต่หากกรณีผู้ชายกลับไปก่อน จะเรียกว่าภาวะ หน้าแหก)
พอวางโทรศัพท์จากเจนดำ ก็ลุกขึ้นจะเดินไปหายัยสองคนนั้น แต่พอหยิบถุงหนังสือขึ้นมา (ซึ่งตอนนี้งอกเป็น 2 ถุงซะแล้ว) ก็รู้สึกว่ามันหนักมาก (อาการบ่งบอกอย่างอ้อมๆ ว่าเริ่ม แก่ แล้ว) พอดีตอนนั้นอยู่ใกล้ๆ บูธของพี่ grappa พอดี ก็เลยเอาถุงไปฝากที่บูธพี่เค้า (จนพี่อีกคนในบูธแซว แหม ตอนแรกทำเป็นไม่ฝาก แหะๆ) ก็ดีนะ ฝากไว้ที่บูธพี่เค้าก็อุ่นใจกว่าไปฝากที่เคาท์เตอร์ฝากของน่ะ เพราะคราวที่แล้ว รู้สึกจะเป็นพี่ Dr.Syntax มั้ง พี่เค้าฝากกับเคาท์เตอร์ฝากของนี่แหละ แต่พอเอาคืนปรากฏหนังสือหายไป 2 เล่ม (ถ้าไม่เช็คดีๆ ก็ไม่มีทางรู้เลยนะเนี่ย) แต่รู้สึกว่าสุดท้ายก็ได้คืนทีหลังนะ
ในที่สุดผมก็หาเจนดำกับป้านกเจอ (แล้วก็ไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องไปยืนรอที่บูธหนังสือ ทะลึ่ง ด้วย) ก็เริ่มเดินกันเลย ตอนแรกๆ ก็ปล่อยให้ป้านกนำ...แล้วผมก็พบว่าป้านกเดินงานหนังสือได้ไร้ระเบียบแบบแผนอย่างที่สุด เช่นว่า เพิ่งเดินผ่านบูธนึงไป ป้านกก็สามารถพาพวกเราวนกลับมาที่บูธเดิมนี้ภายใน 1 นาที (โถ ป้า แล้วชาตินี้จะเดินทั่วมั้ย) ผมเลยทนไม่ไหวเลยขอเดินนำอยู่ช่วงนึง แต่ตอนหลังก็เกรงใจ เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นพวกผู้ชายบ้าอำนาจ ผมก็ยอมให้ป้านกกลับมาเดินนำอีกครั้ง แม้ป้าแกจะยังเดินวนๆ เหมือนเดิมก็ตาม (เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องอดทน)
การเดินงานหนังสือกับคนอื่นนี่ก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะยัยสองคนนี้จะหยุดที่บูธที่ผมเดินผ่านอย่างไม่เคยสนใจใยดี (แต่ในขณะเดียวกัน บูธที่สองคนนี้เดินผ่านก็จะเป็นบูธที่ผมหยุดดู) ประมาณว่ายัยสองคนนี้ก็พาผมไปเจอกับหนังสือที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน เช่น
หนังสือทายนิสัยจากการเลือกผู้ชาย : หนังสือเล่มนี้ฮาดี จะมีผู้ชายแบบที่ 1, 2, 3,.. มาให้เลือก พอเลือกเสร็จมันก็จะบอกว่า คนที่เลือกผู้ชายแบบที่ 1 เป็นคนแบบนี้แบบนั้น เจนดำกับป้านกก็เล่นสนุกกับหนังสือเล่มนี้อย่างเมามันส์ แต่พอผมพูดว่า ชีวิตจริงแกจะมีผู้ชายให้เลือกเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ มันก็วางหนังสือลงและเดินต่อทันที
หนังสือทายนิสัยจากวันเกิด : คล้ายๆ กับข้างบน แต่ทายจากวันเกิดแทน มีทุกเดือน ทุกวัน ที่ฮาคือ หนังสือเล่มนี้ถูกวางซ่อนไว้ในมุมหลืบของซอกจักรวาล แต่เจนดำกับป้านกก็เห็นมันจนได้
บูธ สนพ.แม่บ้าน : เดินงานหนังสือมาตลอด 7 ปี ไม่เคยเหลียวแลบูธนี้เลย! แต่เพิ่งค้นพบว่าเป็นบูธที่อัศจรรย์มากๆ เพราะมีทั้งตำราอาหารไข่สารพัด, ตำรา 108 แซนวิช, ตำราค็อกเทล, ตำราเยลลี่ ไปจนถึง ตำราทำปาท่องโก๋ (เพิ่งรู้นะว่าปาท่องโก๋มัน apply ได้มากมายขนาดนั้น) คาดว่ามันต้องมีตำราทำกะปิด้วยแน่ๆ แต่หาไม่เจอเอง นี่ต้องให้เครติดเจนดำเป็นผู้เปิดโลกทัศน์เลยนะเนี่ย
อย่างไรก็ตาม เจนดำก็ยังคงแผลงฤทธิ์ด้วยความคิดรั่วๆ ของมัน เช่น
ตอนเดินผ่านหนังสือชื่อ ฆาตกรรมงานวิวาห์
ต่อ : (พูดแบบไม่คิดอะไร) เออ ซวยเนาะ จะแต่งงานยังมีฆาตกรรมอีก
เจนดำ : เอาน่า ก็ยังดีกว่าถูกฆาตกรรมก่อนได้แต่งงาน
ต่อ : !?!?!?!?!?
ด้านฝ่ายป้านกก็ไม่แพ้กัน
ต่อ : ป้านก เดินมาตั้ง 2 ชั่วโมง ไหงป้านกซื้อแค่เล่มเดียวเองล่ะ
ป้านก : อ๋อ จริงๆ งานนี้มาเล็งๆ ไว้น่ะ ถูกใจเล่มนั้นเดี๋ยวไปยืมในห้องสมุด
ต่อ : !?!?!?!?!?
ทีนี้คุณเข้าใจหรือยังว่าทำไมเจนดำกับป้านกถึงเป็นเพื่อนซี้กันได้
ราวๆ 17.00 เราสามคนก็เดินครบงาน เจนดำและป้านกก็บอกว่าไม่ดูอะไรแล้ว (ซึ่งก็ดีแล้วเพราะตอนนั้นผมปวดเท้ามากๆๆๆๆๆ) ผมก็เลยเดินไปเอาถุงคืนจากบูธพี่grappa (ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะคร้าบ ) ตอนแรกก็ว่าจะกลับกันเลย แต่สองคนนั้นก็ชวนกินข้าวก่อน ซึ่งก็ดีอีกเช่นกันเพราะตอนนั้นผมหิวมากๆๆๆ ...พอลงไป Food Court คนก็เยอะพอควร แต่เดินไปข้างในลึกๆ ก็มีโต๊ะว่าง ไอ้เราก็เลยทำ gent เดี๋ยวเราเฝ้าของให้ แกสองคนไปซื้อก่อนก็ได้ และก็ได้ gent สมใจอยากจริงๆ เพราะยัยสองคนนี้หายไปเกือบ 15 นาที (นี่มันนั่งรถใต้ดินไปซื้อข้าวที่สีลมเหรอไงฟะ?!) โดยกลับมาพร้อมกับขนมจีนเน่าๆ 2 จาน (คิดดูสิ กินข้าวมันยังต้องกินเหมือนกันเลย นี่ต่อไปมิต้องใช้สามีคนเดียวกันหรือเนี่ย โอ๊ย! ตูล่ะเครียดแทนเพื่อน)
ระหว่างกินข้าวพวกเราก็เม้าท์ไอ้นู่นไอ้นี่ไปเรื่อย (ส่วนใหญ่ผมพูดคนเดียว เพราะกินเสร็จก่อนมันนานมาก) ตอนที่คุยเรื่องจีบผู้หญิงใน MSN เจนดำก็แสดงทัศนะอันล้ำเลิศอีกครั้ง
ต่อ : เมื่อคืนโคตรเซ็งผู้หญิงคนนึงใน MSN
เจนดำ : ไมอ่ะ
ต่อ : ก็คุยกันโอเคนะ แต่พอขอดูรูปแล้วไม่ให้
เจนดำ : แล้วแกขอเบอร์เค้าป่าว
ต่อ : ไม่อ่ะ ตามขั้นตอนมันต้องเห็นหน้าก่อน แล้วค่อยเอาเบอร์ ถึงแม้รูปที่ส่งมาจะชอบรีทัชซะนมเด้งก็ตามเถอะนะ แต่อย่างน้อยก็ให้พอรู้ว่าครบ 32 และเป็นผู้หญิงจริงๆ (อืม...ซึ่งก็รับประกันอะไรไม่ได้ บางคนยังส่งรูป บริทนี่ย์ เสปียร์ส มาให้เฉยเลย)
เจนดำ : แล้วแกให้เค้าดูรูปแกป่าว
ต่อ : ให้สิ ชั้นโชว์เป็นดิสเพลย์เลย ชั้น fair fair อยู่แล้ว
เจนดำ : นั่นแหละ จากนั้นเค้าก็คง block แกแล้วล่ะ
ต่อ : อีบ้า!
เจนดำ : แหม ล้อเล่นๆๆ
ต่อ : เค้าก็เห็นรูปชั้นตั้งแต่เริ่มคุยนั่นแหละ แหม เดี๋ยวนี้รูปชั้นปรากฏตามสื่อออกจะมากมาย (แหวะ) แล้วยัยนี่ก็รับมุกขายขนมครกของชั้นด้วย (แปลว่า รับมุกหยอด) แต่พอขอดูรูปแล้วไม่ให้ เล่นตัวอยู่นั่นแหละ รำคาญ
เจนดำ : แล้วแกคิดว่าไง
ต่อ : ฟันธง ไม่สวยชัวร์ แต่ตอนนี้ขอเป็นผู้หญิงและมีนม ชั้นก็พอใจแล้ว หลังๆ มีแต่เกย์มาจีบ กูล่ะเครียดเห้
เจนดำ : แหม อาจจะไม่ใช่อย่างงั้นก็ได้นะ
ต่อ : แล้วเป็นแบบไหน
เจนดำ : ความจริงเค้าอาจจะสวยมากๆ ก็ได้ แต่เค้าไม่ยอมให้แกดูรูป เพราะอยากลองใจแกก่อนไง
ต่อ : ...(อึ้งไปชั่วครู่)....อีบ้า แกดูละครมากไปแล้ว!!
นี่แหละครับ...เจนดำ ผู้ปราดเปรื่อง
ประมาณเวลา 17.30 เราสามคนก็ตัดสินใจจบวงสนทนา (เพราะหากคุยกันต่อไป อาจมีตบกันได้ เพราะไม่เคยคิดตรงกันสักเรื่อง) และแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็แบกถุงหนังสือ 2 ถุงใหญ่ขึ้นรถใต้ดิน...หลังจากถึงบ้านก็นอนหลับเป็นตาย
ปล. ถึงแม้เจนดำจะชื่อ เจนดำ แต่จริงๆ เธอก็ไม่ได้ดำสักเท่าไร เธอเป็นผู้หญิงน่ารัก สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี ที่สำคัญยังโสดและไม่เคยมีแฟน หากท่านต้องการทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้ โปรดติดต่อผ่านผมได้ทั้งทางอีเมล / หลังไมค์ และสำหรับ 10 คนแรก จะมีโปรโมชั่นพิเศษได้ ป้านก เป็นของแถมด้วย
รายชื่อหนังสือที่ซื้อมา
ความตั้งใจของปีนี้คือ ซื้อหนังสือให้น้อยที่สุด
01. รอยสักรูปหมา (2003, Otsuichi, JBOOK)
สี่ผลงานชุดใหม่จากนักเขียนเรื่องลึกลับ แฟนตาซี และสยองขวัญ โอตสึ อิจิ คลื่นลูกใหม่แห่งวงการหนังสือญี่ปุ่น ผู้ชนะเลิศรางวัล JUMP แจ้งเกิดในวงวรรณกรรมตั้งแต่อายุสิบเจ็ด และได้รับรางวัลนักเขียนเรื่องลึกลับยอดเยี่ยมตั้งแต่อายุต้นยี่สิบ (เอ่อ รู้นะว่าอันนี้เป็นแนวฟีลกู๊ด แต่หน้าปกมันไม่แต๋วจ๋าไปหน่อยเรอะเนี่ย)
02. รักในโลกพิศวง (1998, Higashino Keigo, JBOOK)
เรื่องรักประหลาดของชายคนหนึ่งที่แอบชอบหญิงสาวที่ขึ้นรถไฟด้วยกันประจำ แต่หญิงสาวผู้นั้นกลับเป็นคนรักของเพื่อนสนิท ...จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพบว่าหญิงสาวได้กลายเป็นคนรักของเขาแล้ว ส่วนเพื่อนของเขากลับหายตัวไปอย่างลึกลับ
03. ความฝันโง่ๆ (2006, วินทร์ เลียววาริณ)
รวมความฝันโง่ๆ ของเหล่าคนดัง ทั้งแอริค วีเลนไมเยอร์ คนตาบอดที่ฝันจะปีนเขา, สตีเฟน ฮฮว์กิ้น ผู้เป็นอัมพาตทั้งตัว แต่ฝันถึงเรื่องราวของอีกแกแล็คซีหนึ่ง, ฌอง-โดมินิค โบบี้ ผู้เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แต่ฝันจะเขียนหนังสือ และความฝันโง่ๆ อื่นๆ อีกมากมาย
04. โลกใบที่สองของโม (2006, จุก เบี้ยวสกุล + วินทร์ เลียววาริณ)
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวินทร์ เลียววาริณนำผลงานทั้งหมดของ จุก เบี้ยวสกุล (นักวาดนิยายภาพระดับคลาสสิกของไทย) มารีไซเคิล?
05. บันทึกสนุกๆ จากภูฏาน (2006, สฤณี อาชวานันทกุล, ระหว่างบรรทัด)
บันทึกแสนสนุกที่จะนำคุณไปสู่เมืองในฝันของหลายๆ คน ด้วยมุมมองที่เป็นกันเองและภาพประกอบที่สดใส ใครจะไปรู้ นักการเงินสาวขาลุยก็มีมุมมองน่ารัก แอบซ่อนไว้เหมือนกัน
06. คิดถึงทุกวัน (2006, พิมปาย, ระหว่างบรรทัด)
เราเดินผ่านคนกี่คนในชีวิต กว่าจะพบว่าอะไรที่อยู่ใกล้หัวใจมากที่สุด (ซื้อในงานแถมซีดีด้วยนะ เอ้อ)
07. LTTS MY NONSENSE (2002, ทวีศักดิ์ ศรีทองดี, ระหว่างบรรทัด)
รวมภาพกราฟฟิกมึนๆ สไตล์ โลเล ที่ดูจะไม่มีเหตุผล แต่ในความไม่มีเหตุผล ก็มักมีเหตุผลซ่อนอยู่ (เล่มนี้เป็นอภินันทนาการ ขอบคุณมากฮะ)
08. นอนใต้ละอองหนาว (2006, ปราบดา หยุ่น, ไต้ฝุ่น)
คนหนุ่มสาวหน้าตาดีในหลายประเทศมีพฤติกรรมประหลาดทางเพศที่พวกเขาควบคุมไม่ได้ ที่สำคัญ มันเป็นพฤติกรรมติดต่อและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วโยไม่มีใครล่วงรู้ มนุษยชาติกำลังถูกกำจัดให้สูญพันธุ์ โดยสิ่งเร้นลับที่อาจอยู่ใกล้ตัวจนเราไม่คาดฝันในพลังอำนาจของมันมาก่อน
09. ไปสู่ชะตากรรม (2000, นิวัติ พุทธประสาท, เม่นวรรณกรรม)
ข้ารู้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไป ข้ารู้ว่าอนาคตต้องเปลี่ยนแปลง ข้าเชื่อในโลก เพราะข้าเชื่อในชะตากรรมของข้า (อันนี้บูธ Alternative Writer เค้าแถมมาให้)
10. หนังสือรัก (2006, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, ByNature)
25 ความรักจากภาพยนตร์ในมุมมองของจิตแพทย์ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างได้มากขึ้นและลึกซึ่งกว่าเดิม ผลงานเขียนของ ผมอยู่ข้างหลังคุณ เจ้าของรางวัลอันดับ 1 Bloggang Popular Award สาขาภาพยนตร์
11. Seasons Change จากร้อนสู่ฝนจนถึงหนาว (2006, อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว + ธีปนันท์ เพ็ชรศรี + โชภณา เชาว์วิวัฒน์กุล, a book)
Behind-the-scene novel จากภาพยนตร์เรื่อง Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (เพิ่งซื้ออ่ะ หวังว่าคงไม่เชยเกินไปนะ)
12. SHORT FILM (2006, มูลนิธิหนังไทย, openbooks)
ฉลองวาระ 10 ปีงานประกวดหนังสั้นของมูลนิธิหนังไทย ย้อนประวัติศาสตร์หนังสั้น, สัมภาษณ์ผู้กำกับหนังสั้นทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะผู้กำกับที่ทำหนังสั้นจนได้กำกับหนังใหญ่, ผู้กำกับอินดี้, ผู้กำกับหญิง ไปจนถึงผู้กำกับก่อนวัยอันควร (?!)
13. FILM VIRUS 4 ฉบับสางสำแดง (2006, ฟิล์มไวรัส, dk filmhouse)
รวมหนังคัลท์ และหนังสยองขวัญระดับอุบาทว์คลาสสิค (คำโปรยชนะเลิศแห่งปี!)
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไปงานหนังสือมาเป็นยังไงบ้างครับ มีเรื่องราวอะไร หรืออยากแนะนำหนังสือเล่มไหน ก็เล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ
Create Date : 27 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2549 5:57:24 น. |
|
50 comments
|
Counter : 2908 Pageviews. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:8:06:26 น. |
|
|
|
โดย: err_or วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:8:09:42 น. |
|
|
|
โดย: ป้อมชัย IP: 202.57.130.243 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:9:00:07 น. |
|
|
|
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:9:17:24 น. |
|
|
|
โดย: unwell วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:00:03 น. |
|
|
|
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:00:45 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:16:18 น. |
|
|
|
โดย: 9A วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:10:42:47 น. |
|
|
|
โดย: พัท (Il Maze ) วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:14:16:46 น. |
|
|
|
โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.34.42 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:20:09:13 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:02:02 น. |
|
|
|
โดย: ปืนกลสตรอแหลเบอร์รี่ IP: 202.41.187.247 วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:20:37 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 27 ตุลาคม 2549 เวลา:21:37:57 น. |
|
|
|
โดย: rsamlha วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:2:53:54 น. |
|
|
|
โดย: grappa IP: 58.9.184.131 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:7:14:48 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:9:38:50 น. |
|
|
|
โดย: kitnan วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:15:44:19 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:16:55:37 น. |
|
|
|
โดย: it ซียู IP: 210.213.18.230 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:19:39:42 น. |
|
|
|
โดย: 9A วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:10:52:08 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:12:55:44 น. |
|
|
|
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:21:22:30 น. |
|
|
|
โดย: quin toki วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:23:19:16 น. |
|
|
|
โดย: เซียวเปียกลี้ IP: 203.154.145.10 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:7:45:47 น. |
|
|
|
โดย: ป้อจาย วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:10:56:09 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:18:02:35 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:18:03:35 น. |
|
|
|
โดย: เหมียวหล่อ (myth ) วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:22:03:31 น. |
|
|
|
โดย: KjkGs IP: 58.136.84.61 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:23:15:36 น. |
|
|
|
โดย: DAZZA IP: 124.121.93.97 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:42:30 น. |
|
|
|
โดย: Achochan IP: 58.8.186.128 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:14:06 น. |
|
|
|
โดย: SkySeries IP: 202.28.180.201 วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:3:32:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตั้มกับญี่ปุ่น
อยากได้เล่มนี้มาก แต่ปรากฏว่าหมด...
--------------------------
เทศกาลภาพยนตร์สหภาพยุโรป 2006 มาแล้วจ้า!
//www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=47037