|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตะลุยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 35 (เมษายน 2550)
รายละเอียดงาน //www.bangkokibf.com/
ในที่สุดงานสัปดาห์หนังสือก็วนเวียนมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว พร้อมกับความจริงที่ว่าหนังสือของปีที่แล้วๆ ยังคงกองพะเนินอยู่ที่เดิม มองไปยังกองหนังสือนั้นแล้วก็พลางนึกในใจว่าเปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นหอสมุดประชาชนก็ยังได้
ตามปกติแล้วท่านผู้อ่านก็ทราบกันดีว่าผมยึดนโยบายเดินงานหนังสือคนเดียวมาหลายปีดีดักแล้ว แต่ปีนี้นโยบายนั้นต้องมีอันยกเลิกชั่วคราว อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงเรื่องสวีทวี้ดวิ้ว พอดีปีนี้ต้องรับหน้าที่เป็นไกด์งานหนังสือให้กับเบส เพื่อนรักแต่เก่าก่อน (เบสเคยเรียนเศรษฐศาสตร์ มธ. กับข้าพเจ้า แต่ตอนหลังหันเหไปเป็นหมอยาที่ ม.ขอนแก่นแทน)
เบสมานอนค้างที่บ้านผมตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (ก่อนหน้านั้นไปงานแต๊งค์น้องที่ จ.เพชรบุรี มาด้วยกัน) คืนนั้นก็คุยกันนิดหน่อย เบสก็มุ่งมั่นอ่านโคนันเล่ม 50 ไป (บางคนบอกให้เปลี่ยนชื่อเป็น โคตรนาน เพราะไม่ยอมจบซะที) ส่วนผมก็เล่นเน็ท เช็ครายชื่อหนังสือที่จะซื้อ พร้อมกับเปิดวิทยุฟังป้าแต๋วไปด้วย หันไปดูอีกที อ้าว เบสหลับไปเสียแล้ว (สงสัยจะถูกกล่อมด้วย Arcade Fire ของป้าแต๋ว ฮ่าๆๆๆ)
สี่นาฬิกา ผมเข้านอน เตรียมพร้อมกับวันพรุ่งนี้
วันจันทร์ 2 เมษายน 2550
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เก้าโมงเช้า แต่ไฉนมันถึงไม่ยอมปลุกก็ไม่รู้ ก็เลยมาตื่นเอาเก้าโมงครึ่ง ลุกขึ้นมาก็เห็นเบสนั่งอ่านโคนันเล่ม 50 อยู่ (มันอ่านคุ้มจริงๆ) หลังจากกินอาหารเช้าไฮโซที่คุณสุนันท์ (แม่) เตรียมไว้ให้ พร้อมกับอาบน้ำแบบชิวๆ ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางเวลาประมาณ 11.30 (เอ่อ...ตั้งใจไว้จะออกสักสิบโมง)
คราวนี้ก็โดยสารด้วยรถไฟใต้ดินเช่นเคย อุตส่าห์เลือกไปวันจันทร์เพราะคิดว่าคนจะน้อยหน่อย แต่เห็นจำนวนคนบนรถใต้ดินก็เริ่มมีลางสังหรณ์แหม่งๆ และแล้วก็เป็นดังคาดผู้คนแห่แหนกันลงที่สถานีศูนย์สิริกิติ์อย่างไม่ได้นัดหมาย โอ้ว งานนี้ตูเหนื่อยแน่ ...พอออกมาจากรถใต้ดินก็เหมือนกลับมาสู่ภูมินรกอีกครั้ง ร้อน! ทำไมมันร้อนแบบนี้! ร้อนจนเสปิร์มฝ่อเลยนะครับเนี่ย ถึงขนาดว่าเขาต้องคอยอาน้ำฉีดถนนกันเลยทีเดียว จังหวะที่เดินเข้างานก็เห็นว่าปีนี้เค้ามีตั้งบูธกันข้างนอกงานด้วย แต่เดี๊ยนขอบายค่ะ ร้อนขนาดนี้ (สงสารคนเฝ้าบูธอ่ะ)
เมื่อเข้าไปในงานแล้ว ก็เริ่มด้วยโซน Plenary Hall ก่อนเลย ซึ่งก็เกิดความผิดพลาดอย่างมหันต์ เนื่องจากดันหลงเข้าไปตรงบูธแจ่มใส (บูธที่ขายนิยายเกาหลีปกสวยๆ แต่คนซื้อจะหน้าตาเป็นปฏิภาคกับหน้าปก) โอว พระเจ้าช่วย นี่มันบูธแจกของประทังชีพให้ผู้ประสบภัยหรืออย่างไร ทำไมผู้คนมันถึงได้เยอะเช่นนี้ พอผ่านบูธนี้ไปได้แล้วก็ดันไปเจอบูธ Bliss อีก (เค้าใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย ให้สองอันนี้อยู่ติดๆๆ กัน) ผ่านไป 5 นาที ผมกับเบสหมดสภาพแล้วครับ
หลังจากผ่านฝูงชนมาได้แล้ว เราสองคนก็เริ่มการตะลุยงานหนังสืออย่างเป็นทางการ เริ่มไล่จากบูธ A01 A02 A03 ไปเรื่อยๆ สำหรับผมแล้ว บรรยากาศของงานก็เหมือนกับครั้งที่ผ่านๆ มาอ่ะนะ สาวๆ บูธ bliss ก็ยังเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนเคย (แต่คราวนี้แกไม่ได้กินตังค์ชั้นแล้ว พอกันทีไอ้แมวมิเกะเนโกะกะหลั่ว!!) หรือเพื่อนรัก ดิว ที่ยังคงมาทำงานในบูธวงกลม ...จบจากโซน Plenary ผมหมดตัวไปแล้วเกือบพัน (งานนี้ตั้งงบไว้ 3 พันจ้ะ)
จากนั้นก็มาลุยกันต่อที่โซน Atrium ซึ่งบูธ Alternative Writer ก็ทำให้ผมแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะบูธนี้มีทั้งหนังสือของ Bioscope, Filmvirus และ openbooks แล้วที่บูธนี้ก็ได้เจอกับ ปั๊บ เพื่อนร่วมคณะเศรษฐศาสตร์ด้วย ก็คุยกับปั๊บอยู่พักนึงเกี่ยวกับเรื่องโพสต์โมเดิร์น, การเมือง และ อ.สุวินัย ภรณวลัย (ฮ่าๆๆ ฟังดูคุยกันมีสาระมาก) จากนั้นผมก็เลยถามปั๊บว่ามากับใคร ปั๊บตอบว่า มากับเพื่อน แต่พอมองไป เอ๊ะ นั่นแฟนมึงชัดๆ เลยเนี่ยหว่า ก็เลยแซวไปว่า เอ๊ะ แน่ใจเหรอว่าแค่เพื่อน คริคริคริ (ทำเสียงหัวเราะกระแดะๆ) อืม คนไทยนี่ก็แปลกอย่างนึงนะ เวลามากับแฟนก็บอกว่าแฟนไม่ได้ ต้องบอกว่าเพื่อน ก่อนจะลาจากกันก็แนะนำหนังสือเรื่อง โลกของจอม ให้ปั๊บไป
ถัดมาก็แวะมาเยี่ยมคนคุ้นเคยอย่างพี่ grappa ดูแล้วกำลังขายดีอย่างเทน้ำเทท่าเชียว (ดิชั้นเป็นตัวนำโชคค่ะ หยุดบูธไหน บูธนั้นจะคนเยอะ) ซึ่งคุณพี่ก็แนวมาก ฟัง Arcade Fire ไป ขายของไป ก็ยืนเมาท์อยู่สักพัก จนลืมไปเลยว่าเบสยืนนิ่งไปแล้ว ก็เลยจรลีดีกว่า วันหลังแวะมาใหม่ เดินออกมาเบสก็บอกว่าขอไปซื้อนิยายกำลังภายในที่เล็งไว้เลยดีกว่า เพราะหนังสือล่อตาล่อใจเยอะเหลือเกิน เดี๋ยวจะซื้อนู่นซื้อนี่จนเงินไม่พอ (ตอนแรกกะมาซื้อทีหลังเพราะมันหนัก) ในที่สุดเบสก็ได้ชุดนิยายจีน 18 เล่ม สมใจอยาก พร้อมกับกล้ามแขนที่เพิ่มมาอีก 2 ลูก (หนักโคตรรรรรรร) แถมข้าพเจ้าก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะช่วยมันแบก
เอาล่ะเหลือแค่ 3 โซนเท่านั้น ลุยต่อดีกว่า มาที่โซน Plaza ซึ่งมีบูธมติชนตั้งเด่นอยู่ คราวนี้ไม่มีหนังสือใหม่ของมูราคามิออก ก็เลยไม่มีอะไรต้องซื้อ แต่ก็เหลือบไปเห็นหนังสือ An Inconvenient Truth ของ Al Gore น่าสนใจมากๆ แต่แบบตั้ง 400 กว่าแน่ะ เอ่อ เอาไว้ก่อนดีกว่า ...จากนั้นก็ลุยต่อที่โซน C 2 โซนนี้เดินได้อย่างรวดเร็ว เพราะส่วนใหญ่มันเป็นหนังสือวิชาการ (ฮา) แต่ก็ได้ตำราหนังของ ม.สุโขทัย มาเสียที (อีตอนทำรายงานดันหาซื้อไม่ได้) แล้วก็ไปเจอบูธเคล็ดไทยที่มีหนังสือลด 50% ได้นิยายเรื่อง 747 กับหนังสือของสมเถา มาครอบครองเสียที ตามหามานานมาก
ส่งท้ายด้วยโซน C 1 ที่ตอนเดินทั้งผมกับเบสก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวแล้ว เพราะเหนื่อย เมื่อย และหิวข้าวมากๆ บางบูธที่คนเยอะๆ ก็ข้ามไปเลย (เช่น a day หรือ Nation) แถมเดินไปก็ร้องโหยหวนไป เพราะมีหนังสือที่อยากได้อีกมากมาย (บูธฟ้าเดียวกัน, open, นาคร, บ้านหนังสือ ฯลฯ) แต่ทว่าตอนนี้ล้มละลายทางการเงินโดยสมบูรณ์แล้ว ก็เลยตัดสินใจถอยทัพกลับบ้าน พร้อมกับคิดในใจว่าต้องมาใหม่อีกรอบแหงๆ (เฮ้อ)
ก่อนกลับก็เลยแวะไปลาพี่ grappa อีกรอบ คุยกันต่ออีกสักพัก (เมาท์ไม่เลิกจริงๆ) ผมก็หันไปถามเบสว่า เบสเอาอะไรมั้ย เบสก็ทำหน้าประมาณว่า อ้าว ไอ้ต่อ วางยากูแล้วไง (ฮา) แหม นี่ผมไม่ได้หลอกล่อเบสมาซื้อเลยนะครับ ก็เห็นว่าเบสบอกว่าหนังสือในบูธนี้น่าสนใจดี แถมยังชมด้วยว่า พี่คนนั้นเค้าดูรู้เรื่องเยอะดีเนาะ (สาบานว่านี่คือคำชม) ในที่สุดเบสก็ติดกับ เอ๊ย! ติดใจ หนังสือเล่มนึง และซื้อกลับบ้านไปในที่สุด อิอิอิ
แม้จะหิวไส้แทบขาด แต่พอเห็นคนใน food court แล้ว ก็คิดว่ากลับไปโซ้ยมาม่าที่บ้านดีกว่า ขากลับพวกเราก็ใช้บริการรถใต้ดินเหมือนเคย โชคดีมากที่ได้นั่ง (ตอนนี้เหนื่อยและหนักมาก ต่อให้เป็นแตงโม-ภัทรธิดา กูก็ไม่ลุกให้) แล้วก็ต่อแท็กซี่เข้าบ้าน (จริงๆ บ้านกับรถใต้ดินห่างกันแค่สามป้ายรถเมล์ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว) เวลาประมาณ 16.30 ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เหยียบพื้นบ้านปุ๊บก็ซัดมาม่ากันรวด 3 ห่อ ขึ้นห้องตากแอร์ นอนเป็นตาย
ประมาณ 17.30 ก็ได้เวลาที่เบสจะต้องเดินทางไปหมอชิต เพื่อขึ้นรถกลับบ้าน ไอ้เราก็จัดแจงอุตส่าห์หาถุงใหญ่ๆ มาให้ จะได้รวบพวกหนังสือเป็นถุงเดียว ไม่ต้องห้อยของพะรุงพะรัง แต่อนิจจาเดินไปได้แต่ถึงกลางซอย ถุงก็ขาด! เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ เดินไปถึงปากซอย ก็ส่งเบสขึ้นแท็กซี่ โบกมือบ๊ายบาย ไว้เจอกันงานหน้า (เมื่อไรก็ไม่รู้)
ส่วนผมก็เดินกลับบ้าน เพื่อเผชิญหน้ากับกองพะเนินของหนังสือที่สูงขึ้นกว่าเดิม ปล. เบสโทรมาบอกเมื่อตอน 4 ทุ่มวันนี้ว่าหนังสือหายไป 4 เล่ม โดยไม่แน่ใจว่าหายตอนอยู่บนรถทัวร์ หรือว่ายังไงกันแน่ หรือไม่นี่อาจจะเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ว่าหนังสือสามารถระเหิดกลายเป็นไอได้
รายชื่อหนังสือที่ซื้อมา
01. ความลับ (Himitsu) (1996, Keigo Higashino, JBOOK)
ได้อ่านงานของ เคโงะ มาสองเล่มแล้ว คือ ความลับใต้ทะเลสาบ และเรื่องรักในโลกพิศวง รู้สึกชอบงานของเขามาก งานเขียนของเขามีส่วนผสมของดราม่าและทริลเลอร์อย่างลงตัว สำหรับ Himitsu นั้นเคยถูกสร้างเป็นหนัง นำแสดงโดย เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ
02. จดหมายจากฆาตกร (2003, Keigo Higashino, JBOOK) ผลงานของเคโงะเช่นกัน ว่าด้วยน้องชายที่ได้รับจดหมายพี่ชาย...ซึ่งเป็นฆาตกร
03. ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน (2007, วินทร์ เลียววาริณ, 113) คู่มือชี้ทางสำหรับคนอยากเป็นนัก(อยาก)เขียน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติอึดอย่างควาย และต้องมีจินตนาการเช่นนกที่บินอย่างเสรี
04. ฝนตกขึ้นฟ้า (2007, วินทร์ เลียววาริณ, 113) นวนิยายฟิล์มนัวร์ (ว้าว)
05. จริต 6 ศาสตร์ในการอ่านใจคน (2003, อนุสร จันพันธ์ + บุญชัย โกศลธนากุล, อมรินทร์) เขียนโดยสองท่านอาจารย์แห่งสถาบัน FAST ENGLISH ที่ชอบบังคับให้เด็กสวดคาถาชินบัญชร
06. ดนตรี คีตา เวหา อิเล็กทรอนิกส์ (2007, นรเศรษฐ หมัดคง, openbooks)
07. ประชาธิปไตยไม่ใช่ของเรา (2007, ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์, openbooks)
08. Postmodern ชะตากรรมโพสต์โมเดิร์นในอุ้งมือนักปรัชญาการเมืองโบราณ (2007, ไชยันต์ ไชยพร, openbooks)
เอ่อ เห็นชื่อหนังสือแล้วกลัว (อนึ่ง จริงๆ ตั้งแต่หลัง 19 กันยา เดี๊ยนรู้สึกแหม่งๆ กับคุณศักดา อินคา เอ๊ย! อ.ไชยันต์ อยู่เล็กน้อย แต่ว่าก็จะลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูล่ะนะ เผื่อความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปได้)
09. Lush ฉบับที่ 6 มีนาคม 2550 สัมภาษณ์ป้าแต๋ว และพี่อ้อ เดือนเพ็ญ ไม่ซื้อได้ไง!
10. hesheit 9 (2007, วิสุทธิ์ พรนิมิตร, ไต้ฝุ่น)
11. hesheit 10 (2007, วิสุทธิ์ พรนิมิตร, ไต้ฝุ่น) สองเล่มนี้อ่านจบแล้ว สุดยอดเหมือนเดิมเลยพี่ตั้ม (บางตอนอ่านแล้วน้ำตาซึม)
12. 747 (2003, ศราวัสดี ศรีวรกานต์, โทเมโท ฟิงเกอร์)
นิยายที่ว่ากันว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ว่าด้วยชายไร้ชื่อที่ตามหา จู๋ ของตัวเอง (หนังสือได้แรงบันดาลใจจากเพลง 747 ของวง Kent)
13. เมียซามูไร (2007, ศ.ดร.ยศ สันตสมบัติ, OCT Publishing) เล่มนี้พี่ grappa เชียร์สุดๆ บอกว่าเป็นนวนิยายแนวมานุษยวิทยา (อะไรกันเนี่ย??)
14. สุสานใต้ดวงดาว (2002, สมเถา สุจริตกุล, บานชื่น) อยากอ่านงานของคุณสมเถามานานแล้ว เพิ่งหาเจอ
15. Cuba Behind the Scenes หลังม่านคอมมิวนิสต์คิวบา (2006, อัญชลี ชัยวรพร, วงกลม)
อัญชลี ชัยวรพร ได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องหนังไทยที่ประเทศคิวบา หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงประสบการณ์ครั้งนั้นของเธอ
16. ฟิล์มไวรัส 5 ปฏิบัติการหนังทุนน้อย (2007, ฟิล์มไวรัส, เอาตัวเป็นหนัง)
ว่าด้วยผู้กำกับหนังนักสู้ทั้งหลาย / นี่คือฟิล์มไวรัสเล่มสุดท้าย (เขาจะเลิกทำหนังสือแล้ว)
17. เขียนบทหนังซักคนดูให้อยู่หมัด เล่ม 2 (2007, ธิดา ผลิตผลการพิมพ์, Bioscope)
รวบรวมบทความจากคอลัมน์ Art of Screening จากนิตยสาร Bioscope
18. บัญญัติวิชามารในการได้เป็นผู้กำกับหนังไทย (2007, สนานจิตต์ บางสพาน, Bioscope)
19. ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์เบื้องต้น เล่ม 1 (2005, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
20. ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์เบื้องต้น เล่ม 2 (2005, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
ตำราหนังที่มีผู้เขียนเป็นอาจารย์และนักวิจารณ์ชั้นนำ เช่น จำเริญลักษณ์ ธนะวังน้อย, ประวิทย์ แต่งอักษร, อัญชลี ชัยวรพร, กฤษดา เกิดดี ฯลฯ
Create Date : 05 เมษายน 2550 |
Last Update : 5 เมษายน 2550 5:20:41 น. |
|
67 comments
|
Counter : 2570 Pageviews. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:6:43:11 น. |
|
|
|
โดย: Oakyman วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:6:54:30 น. |
|
|
|
โดย: สาว sax ( เอ๊ย....อ่านให้ถูกนะ) IP: 58.10.102.43 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:7:13:53 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:7:45:19 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:9:10:59 น. |
|
|
|
โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:9:36:13 น. |
|
|
|
โดย: patsypacky IP: 203.156.44.241 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:45:42 น. |
|
|
|
โดย: black forest IP: 125.24.162.237 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:02:51 น. |
|
|
|
โดย: lovefullhouse IP: 124.120.206.87 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:06:49 น. |
|
|
|
โดย: หนูชล วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:14:16 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:15:06 น. |
|
|
|
โดย: patsypacky IP: 203.156.44.241 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:59:47 น. |
|
|
|
โดย: quyawayg IP: 202.12.74.8 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:13:22:05 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:16:41:37 น. |
|
|
|
โดย: แพทสี IP: 58.9.159.140 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:20:59:41 น. |
|
|
|
โดย: แพทสี IP: 58.9.159.140 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:01:24 น. |
|
|
|
โดย: joblovenuk วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:08:00 น. |
|
|
|
โดย: goodpeople (goodpeople ) วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:26:11 น. |
|
|
|
โดย: KjkGs IP: 58.136.94.172 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:22:22:01 น. |
|
|
|
โดย: x6jo IP: 58.9.63.183 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:2:13:01 น. |
|
|
|
โดย: initial A IP: 203.107.196.64 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:11:48:57 น. |
|
|
|
โดย: frank3119 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:12:14:23 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:15:28:29 น. |
|
|
|
โดย: ตลาดพลูวาไรตี้ IP: 58.10.102.35 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:19:34:57 น. |
|
|
|
โดย: BaRoquE IP: 58.9.48.207 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:21:39:37 น. |
|
|
|
โดย: initial A IP: 203.209.117.119 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:21:40:12 น. |
|
|
|
โดย: สุด IP: 58.8.46.195 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:22:41:55 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:14:53:31 น. |
|
|
|
โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.36.124 วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:20:13:31 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.161.178 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:1:03:42 น. |
|
|
|
โดย: Lolay IP: 58.9.189.8 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:3:18:45 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:7:22:24 น. |
|
|
|
โดย: initial A IP: 203.209.123.30 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:13:11:22 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:15:20:45 น. |
|
|
|
โดย: ป้อจาย วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:19:30:26 น. |
|
|
|
โดย: เบส IP: 222.123.80.1 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:23:23:20 น. |
|
|
|
โดย: โอ.. (SummerDegree ) วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:23:50:16 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.161.213 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:0:51:00 น. |
|
|
|
โดย: fonkoon วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:6:47:23 น. |
|
|
|
โดย: malancholia IP: 203.156.91.218 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:10:02:08 น. |
|
|
|
โดย: zoxmok IP: 58.165.141.195 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:12:15:54 น. |
|
|
|
โดย: สาว(สมอง)น้อย IP: 124.121.247.236 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:22:34:10 น. |
|
|
|
โดย: SoundSynDrome IP: 124.120.132.75 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:0:23:25 น. |
|
|
|
โดย: initial A IP: 203.209.123.33 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:10:46:40 น. |
|
|
|
โดย: oHMu IP: 202.28.62.245 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:11:15:21 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:14:10:16 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:17:12:01 น. |
|
|
|
โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:20:24:59 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 125.24.138.200 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:0:52:52 น. |
|
|
|
โดย: อ๋อง IP: 124.120.198.20 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:4:05:35 น. |
|
|
|
โดย: Fernnie.* IP: 125.25.56.140 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:2:49:07 น. |
|
|
|
โดย: N_TTTTaLent IP: 203.149.13.210 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:00:38 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:2:10:00 น. |
|
|
|
โดย: Bogus IP: 203.172.60.195 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:12:28:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากท่านผู้อ่านที่รัก 2 เรื่อง
1. ไปดู THE FOUNTAIN ในโรงกันเถอะครับ
THE FOUNTAIN คือประสบการณ์ทางภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ครับ 20 นาทีสุดท้ายของหนังเรื่องนี้สมควรจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และที่สำคัญมันเป็นหนังที่ต้องดูในโรงเท่านั้น (ไม่เชื่อลองดูภาพประกอบ)
THE FOUNTAIN ฉายที่โรงพารากอนซีเนเพล็กซ์แห่งเดียว (คงอยู่โรงเป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้ว)
2. BIOSCOPE หน้าปก "แสงศตวรรษ"
น่าจะออกวันพฤหัสนะครับ มีบทสัมภาษณ์พี่เจ้ย แล้วก็มีบทวิจารณ์ของน้องเมอร์ด้วย
แสงศตวรรษเข้าฉาย 19 เมษายน ที่พารากอน และเอสพลานาด ห้ามพลาดนะจ๊ะ