http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ตะลุยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 35 (เมษายน 2550)



รายละเอียดงาน
//www.bangkokibf.com/

ในที่สุดงานสัปดาห์หนังสือก็วนเวียนมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว พร้อมกับความจริงที่ว่าหนังสือของปีที่แล้วๆ ยังคงกองพะเนินอยู่ที่เดิม มองไปยังกองหนังสือนั้นแล้วก็พลางนึกในใจว่าเปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นหอสมุดประชาชนก็ยังได้

ตามปกติแล้วท่านผู้อ่านก็ทราบกันดีว่าผมยึดนโยบายเดินงานหนังสือคนเดียวมาหลายปีดีดักแล้ว แต่ปีนี้นโยบายนั้นต้องมีอันยกเลิกชั่วคราว อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงเรื่องสวีทวี้ดวิ้ว พอดีปีนี้ต้องรับหน้าที่เป็นไกด์งานหนังสือให้กับเบส เพื่อนรักแต่เก่าก่อน (เบสเคยเรียนเศรษฐศาสตร์ มธ. กับข้าพเจ้า แต่ตอนหลังหันเหไปเป็นหมอยาที่ ม.ขอนแก่นแทน)

เบสมานอนค้างที่บ้านผมตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (ก่อนหน้านั้นไปงานแต๊งค์น้องที่ จ.เพชรบุรี มาด้วยกัน) คืนนั้นก็คุยกันนิดหน่อย เบสก็มุ่งมั่นอ่านโคนันเล่ม 50 ไป (บางคนบอกให้เปลี่ยนชื่อเป็น “โคตรนาน” เพราะไม่ยอมจบซะที) ส่วนผมก็เล่นเน็ท เช็ครายชื่อหนังสือที่จะซื้อ พร้อมกับเปิดวิทยุฟังป้าแต๋วไปด้วย หันไปดูอีกที อ้าว เบสหลับไปเสียแล้ว (สงสัยจะถูกกล่อมด้วย Arcade Fire ของป้าแต๋ว ฮ่าๆๆๆ)

สี่นาฬิกา ผมเข้านอน เตรียมพร้อมกับวันพรุ่งนี้





วันจันทร์ 2 เมษายน 2550

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เก้าโมงเช้า แต่ไฉนมันถึงไม่ยอมปลุกก็ไม่รู้ ก็เลยมาตื่นเอาเก้าโมงครึ่ง ลุกขึ้นมาก็เห็นเบสนั่งอ่านโคนันเล่ม 50 อยู่ (มันอ่านคุ้มจริงๆ) หลังจากกินอาหารเช้าไฮโซที่คุณสุนันท์ (แม่) เตรียมไว้ให้ พร้อมกับอาบน้ำแบบชิวๆ ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางเวลาประมาณ 11.30 (เอ่อ...ตั้งใจไว้จะออกสักสิบโมง)

คราวนี้ก็โดยสารด้วยรถไฟใต้ดินเช่นเคย อุตส่าห์เลือกไปวันจันทร์เพราะคิดว่าคนจะน้อยหน่อย แต่เห็นจำนวนคนบนรถใต้ดินก็เริ่มมีลางสังหรณ์แหม่งๆ และแล้วก็เป็นดังคาดผู้คนแห่แหนกันลงที่สถานีศูนย์สิริกิติ์อย่างไม่ได้นัดหมาย โอ้ว งานนี้ตูเหนื่อยแน่ ...พอออกมาจากรถใต้ดินก็เหมือนกลับมาสู่ภูมินรกอีกครั้ง ร้อน! ทำไมมันร้อนแบบนี้! ร้อนจนเสปิร์มฝ่อเลยนะครับเนี่ย ถึงขนาดว่าเขาต้องคอยอาน้ำฉีดถนนกันเลยทีเดียว จังหวะที่เดินเข้างานก็เห็นว่าปีนี้เค้ามีตั้งบูธกันข้างนอกงานด้วย แต่เดี๊ยนขอบายค่ะ ร้อนขนาดนี้ (สงสารคนเฝ้าบูธอ่ะ)

เมื่อเข้าไปในงานแล้ว ก็เริ่มด้วยโซน Plenary Hall ก่อนเลย ซึ่งก็เกิดความผิดพลาดอย่างมหันต์ เนื่องจากดันหลงเข้าไปตรงบูธแจ่มใส (บูธที่ขายนิยายเกาหลีปกสวยๆ แต่คนซื้อจะหน้าตาเป็นปฏิภาคกับหน้าปก) โอว พระเจ้าช่วย นี่มันบูธแจกของประทังชีพให้ผู้ประสบภัยหรืออย่างไร ทำไมผู้คนมันถึงได้เยอะเช่นนี้ พอผ่านบูธนี้ไปได้แล้วก็ดันไปเจอบูธ Bliss อีก (เค้าใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย ให้สองอันนี้อยู่ติดๆๆ กัน) ผ่านไป 5 นาที ผมกับเบสหมดสภาพแล้วครับ

หลังจากผ่านฝูงชนมาได้แล้ว เราสองคนก็เริ่มการตะลุยงานหนังสืออย่างเป็นทางการ เริ่มไล่จากบูธ A01 A02 A03 ไปเรื่อยๆ สำหรับผมแล้ว บรรยากาศของงานก็เหมือนกับครั้งที่ผ่านๆ มาอ่ะนะ สาวๆ บูธ bliss ก็ยังเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนเคย (แต่คราวนี้แกไม่ได้กินตังค์ชั้นแล้ว พอกันทีไอ้แมวมิเกะเนโกะกะหลั่ว!!) หรือเพื่อนรัก ดิว ที่ยังคงมาทำงานในบูธวงกลม ...จบจากโซน Plenary ผมหมดตัวไปแล้วเกือบพัน (งานนี้ตั้งงบไว้ 3 พันจ้ะ)

จากนั้นก็มาลุยกันต่อที่โซน Atrium ซึ่งบูธ Alternative Writer ก็ทำให้ผมแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะบูธนี้มีทั้งหนังสือของ Bioscope, Filmvirus และ openbooks แล้วที่บูธนี้ก็ได้เจอกับ ปั๊บ เพื่อนร่วมคณะเศรษฐศาสตร์ด้วย ก็คุยกับปั๊บอยู่พักนึงเกี่ยวกับเรื่องโพสต์โมเดิร์น, การเมือง และ อ.สุวินัย ภรณวลัย (ฮ่าๆๆ ฟังดูคุยกันมีสาระมาก) จากนั้นผมก็เลยถามปั๊บว่ามากับใคร ปั๊บตอบว่า “มากับเพื่อน” แต่พอมองไป เอ๊ะ นั่นแฟนมึงชัดๆ เลยเนี่ยหว่า ก็เลยแซวไปว่า “เอ๊ะ แน่ใจเหรอว่าแค่เพื่อน คริคริคริ” (ทำเสียงหัวเราะกระแดะๆ) อืม คนไทยนี่ก็แปลกอย่างนึงนะ เวลามากับแฟนก็บอกว่าแฟนไม่ได้ ต้องบอกว่าเพื่อน ก่อนจะลาจากกันก็แนะนำหนังสือเรื่อง “โลกของจอม” ให้ปั๊บไป

ถัดมาก็แวะมาเยี่ยมคนคุ้นเคยอย่างพี่ grappa ดูแล้วกำลังขายดีอย่างเทน้ำเทท่าเชียว (ดิชั้นเป็นตัวนำโชคค่ะ หยุดบูธไหน บูธนั้นจะคนเยอะ) ซึ่งคุณพี่ก็แนวมาก ฟัง Arcade Fire ไป ขายของไป ก็ยืนเมาท์อยู่สักพัก จนลืมไปเลยว่าเบสยืนนิ่งไปแล้ว ก็เลยจรลีดีกว่า วันหลังแวะมาใหม่ เดินออกมาเบสก็บอกว่าขอไปซื้อนิยายกำลังภายในที่เล็งไว้เลยดีกว่า เพราะหนังสือล่อตาล่อใจเยอะเหลือเกิน เดี๋ยวจะซื้อนู่นซื้อนี่จนเงินไม่พอ (ตอนแรกกะมาซื้อทีหลังเพราะมันหนัก) ในที่สุดเบสก็ได้ชุดนิยายจีน 18 เล่ม สมใจอยาก พร้อมกับกล้ามแขนที่เพิ่มมาอีก 2 ลูก (หนักโคตรรรรรรร) แถมข้าพเจ้าก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย เพราะช่วยมันแบก

เอาล่ะเหลือแค่ 3 โซนเท่านั้น ลุยต่อดีกว่า มาที่โซน Plaza ซึ่งมีบูธมติชนตั้งเด่นอยู่ คราวนี้ไม่มีหนังสือใหม่ของมูราคามิออก ก็เลยไม่มีอะไรต้องซื้อ แต่ก็เหลือบไปเห็นหนังสือ An Inconvenient Truth ของ Al Gore น่าสนใจมากๆ แต่แบบตั้ง 400 กว่าแน่ะ เอ่อ เอาไว้ก่อนดีกว่า ...จากนั้นก็ลุยต่อที่โซน C 2 โซนนี้เดินได้อย่างรวดเร็ว เพราะส่วนใหญ่มันเป็นหนังสือวิชาการ (ฮา) แต่ก็ได้ตำราหนังของ ม.สุโขทัย มาเสียที (อีตอนทำรายงานดันหาซื้อไม่ได้) แล้วก็ไปเจอบูธเคล็ดไทยที่มีหนังสือลด 50% ได้นิยายเรื่อง 747 กับหนังสือของสมเถา มาครอบครองเสียที ตามหามานานมาก

ส่งท้ายด้วยโซน C 1 ที่ตอนเดินทั้งผมกับเบสก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวแล้ว เพราะเหนื่อย เมื่อย และหิวข้าวมากๆ บางบูธที่คนเยอะๆ ก็ข้ามไปเลย (เช่น a day หรือ Nation) แถมเดินไปก็ร้องโหยหวนไป เพราะมีหนังสือที่อยากได้อีกมากมาย (บูธฟ้าเดียวกัน, open, นาคร, บ้านหนังสือ ฯลฯ) แต่ทว่าตอนนี้ล้มละลายทางการเงินโดยสมบูรณ์แล้ว ก็เลยตัดสินใจถอยทัพกลับบ้าน พร้อมกับคิดในใจว่าต้องมาใหม่อีกรอบแหงๆ (เฮ้อ)

ก่อนกลับก็เลยแวะไปลาพี่ grappa อีกรอบ คุยกันต่ออีกสักพัก (เมาท์ไม่เลิกจริงๆ) ผมก็หันไปถามเบสว่า “เบสเอาอะไรมั้ย” เบสก็ทำหน้าประมาณว่า “อ้าว ไอ้ต่อ วางยากูแล้วไง” (ฮา) แหม นี่ผมไม่ได้หลอกล่อเบสมาซื้อเลยนะครับ ก็เห็นว่าเบสบอกว่าหนังสือในบูธนี้น่าสนใจดี แถมยังชมด้วยว่า “พี่คนนั้นเค้าดูรู้เรื่องเยอะดีเนาะ” (สาบานว่านี่คือคำชม) ในที่สุดเบสก็ติดกับ เอ๊ย! ติดใจ หนังสือเล่มนึง และซื้อกลับบ้านไปในที่สุด อิอิอิ

แม้จะหิวไส้แทบขาด แต่พอเห็นคนใน food court แล้ว ก็คิดว่ากลับไปโซ้ยมาม่าที่บ้านดีกว่า ขากลับพวกเราก็ใช้บริการรถใต้ดินเหมือนเคย โชคดีมากที่ได้นั่ง (ตอนนี้เหนื่อยและหนักมาก ต่อให้เป็นแตงโม-ภัทรธิดา กูก็ไม่ลุกให้) แล้วก็ต่อแท็กซี่เข้าบ้าน (จริงๆ บ้านกับรถใต้ดินห่างกันแค่สามป้ายรถเมล์ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว) เวลาประมาณ 16.30 ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เหยียบพื้นบ้านปุ๊บก็ซัดมาม่ากันรวด 3 ห่อ ขึ้นห้องตากแอร์ นอนเป็นตาย

ประมาณ 17.30 ก็ได้เวลาที่เบสจะต้องเดินทางไปหมอชิต เพื่อขึ้นรถกลับบ้าน ไอ้เราก็จัดแจงอุตส่าห์หาถุงใหญ่ๆ มาให้ จะได้รวบพวกหนังสือเป็นถุงเดียว ไม่ต้องห้อยของพะรุงพะรัง แต่อนิจจาเดินไปได้แต่ถึงกลางซอย ถุงก็ขาด! เฮ้อ เวรกรรมจริงๆ เดินไปถึงปากซอย ก็ส่งเบสขึ้นแท็กซี่ โบกมือบ๊ายบาย ไว้เจอกันงานหน้า (เมื่อไรก็ไม่รู้)

ส่วนผมก็เดินกลับบ้าน เพื่อเผชิญหน้ากับกองพะเนินของหนังสือที่สูงขึ้นกว่าเดิม

ปล. เบสโทรมาบอกเมื่อตอน 4 ทุ่มวันนี้ว่าหนังสือหายไป 4 เล่ม โดยไม่แน่ใจว่าหายตอนอยู่บนรถทัวร์ หรือว่ายังไงกันแน่ หรือไม่นี่อาจจะเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ว่าหนังสือสามารถระเหิดกลายเป็นไอได้






รายชื่อหนังสือที่ซื้อมา




01. ความลับ (Himitsu) (1996, Keigo Higashino, JBOOK)

ได้อ่านงานของ เคโงะ มาสองเล่มแล้ว คือ ความลับใต้ทะเลสาบ และเรื่องรักในโลกพิศวง รู้สึกชอบงานของเขามาก งานเขียนของเขามีส่วนผสมของดราม่าและทริลเลอร์อย่างลงตัว สำหรับ Himitsu นั้นเคยถูกสร้างเป็นหนัง นำแสดงโดย เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ





02. จดหมายจากฆาตกร (2003, Keigo Higashino, JBOOK)
ผลงานของเคโงะเช่นกัน ว่าด้วยน้องชายที่ได้รับจดหมายพี่ชาย...ซึ่งเป็นฆาตกร





03. ยาแก้สมองผูก ตราควายบิน (2007, วินทร์ เลียววาริณ, 113)
คู่มือชี้ทางสำหรับคนอยากเป็นนัก(อยาก)เขียน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติอึดอย่างควาย และต้องมีจินตนาการเช่นนกที่บินอย่างเสรี

04. ฝนตกขึ้นฟ้า (2007, วินทร์ เลียววาริณ, 113)
นวนิยายฟิล์มนัวร์ (ว้าว)





05. จริต 6 ศาสตร์ในการอ่านใจคน (2003, อนุสร จันพันธ์ + บุญชัย โกศลธนากุล, อมรินทร์)
เขียนโดยสองท่านอาจารย์แห่งสถาบัน FAST ENGLISH ที่ชอบบังคับให้เด็กสวดคาถาชินบัญชร




06. ดนตรี คีตา เวหา อิเล็กทรอนิกส์ (2007, นรเศรษฐ หมัดคง, openbooks)




07. ประชาธิปไตยไม่ใช่ของเรา (2007, ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์, openbooks)





08. Postmodern ชะตากรรมโพสต์โมเดิร์นในอุ้งมือนักปรัชญาการเมืองโบราณ (2007, ไชยันต์ ไชยพร, openbooks)

เอ่อ เห็นชื่อหนังสือแล้วกลัว (อนึ่ง จริงๆ ตั้งแต่หลัง 19 กันยา เดี๊ยนรู้สึกแหม่งๆ กับคุณศักดา อินคา เอ๊ย! อ.ไชยันต์ อยู่เล็กน้อย แต่ว่าก็จะลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูล่ะนะ เผื่อความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปได้)





09. Lush ฉบับที่ 6 มีนาคม 2550
สัมภาษณ์ป้าแต๋ว และพี่อ้อ เดือนเพ็ญ ไม่ซื้อได้ไง!




10. hesheit 9 (2007, วิสุทธิ์ พรนิมิตร, ไต้ฝุ่น)




11. hesheit 10 (2007, วิสุทธิ์ พรนิมิตร, ไต้ฝุ่น)
สองเล่มนี้อ่านจบแล้ว สุดยอดเหมือนเดิมเลยพี่ตั้ม (บางตอนอ่านแล้วน้ำตาซึม)





12. 747 (2003, ศราวัสดี ศรีวรกานต์, โทเมโท ฟิงเกอร์)

นิยายที่ว่ากันว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ว่าด้วยชายไร้ชื่อที่ตามหา “จู๋” ของตัวเอง (หนังสือได้แรงบันดาลใจจากเพลง 747 ของวง Kent)





13. เมียซามูไร (2007, ศ.ดร.ยศ สันตสมบัติ, OCT Publishing)
เล่มนี้พี่ grappa เชียร์สุดๆ บอกว่าเป็นนวนิยายแนวมานุษยวิทยา (อะไรกันเนี่ย??)





14. สุสานใต้ดวงดาว (2002, สมเถา สุจริตกุล, บานชื่น)
อยากอ่านงานของคุณสมเถามานานแล้ว เพิ่งหาเจอ





15. Cuba Behind the Scenes หลังม่านคอมมิวนิสต์คิวบา (2006, อัญชลี ชัยวรพร, วงกลม)

อัญชลี ชัยวรพร ได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องหนังไทยที่ประเทศคิวบา หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงประสบการณ์ครั้งนั้นของเธอ





16. ฟิล์มไวรัส 5 ปฏิบัติการหนังทุนน้อย (2007, ฟิล์มไวรัส, เอาตัวเป็นหนัง)

ว่าด้วยผู้กำกับหนังนักสู้ทั้งหลาย / นี่คือฟิล์มไวรัสเล่มสุดท้าย (เขาจะเลิกทำหนังสือแล้ว)





17. เขียนบทหนังซักคนดูให้อยู่หมัด เล่ม 2 (2007, ธิดา ผลิตผลการพิมพ์, Bioscope)

รวบรวมบทความจากคอลัมน์ Art of Screening จากนิตยสาร Bioscope




18. บัญญัติวิชามารในการได้เป็นผู้กำกับหนังไทย (2007, สนานจิตต์ บางสพาน, Bioscope)



19. ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์เบื้องต้น เล่ม 1 (2005, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)

20. ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์เบื้องต้น เล่ม 2 (2005, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)

ตำราหนังที่มีผู้เขียนเป็นอาจารย์และนักวิจารณ์ชั้นนำ เช่น จำเริญลักษณ์ ธนะวังน้อย, ประวิทย์ แต่งอักษร, อัญชลี ชัยวรพร, กฤษดา เกิดดี ฯลฯ



Create Date : 05 เมษายน 2550
Last Update : 5 เมษายน 2550 5:20:41 น. 67 comments
Counter : 2570 Pageviews.

 

ฝากท่านผู้อ่านที่รัก 2 เรื่อง


1. ไปดู THE FOUNTAIN ในโรงกันเถอะครับ

THE FOUNTAIN คือประสบการณ์ทางภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ครับ 20 นาทีสุดท้ายของหนังเรื่องนี้สมควรจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และที่สำคัญมันเป็นหนังที่ต้องดูในโรงเท่านั้น (ไม่เชื่อลองดูภาพประกอบ)







THE FOUNTAIN ฉายที่โรงพารากอนซีเนเพล็กซ์แห่งเดียว (คงอยู่โรงเป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้ว)





2. BIOSCOPE หน้าปก "แสงศตวรรษ"

น่าจะออกวันพฤหัสนะครับ มีบทสัมภาษณ์พี่เจ้ย แล้วก็มีบทวิจารณ์ของน้องเมอร์ด้วย

แสงศตวรรษเข้าฉาย 19 เมษายน ที่พารากอน และเอสพลานาด ห้ามพลาดนะจ๊ะ


โดย: merveillesxx วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:5:32:53 น.  

 
ตอนนี้ฟัง Arcade Fire สลับกับ Good Night Electric แล้ว
สนุกเหลือเกิน

ฟังไป ขายของไป โยกเท้าและหัว ( ได้เล็กน้อย)
มันส์มากเลย Good Night Electric เนี่ยะ
ขอบคุณมากเลยต่อ ฟังวนๆ อยู่ทั้งวัน
ช่วยให้ขายหนังสือรื่นรมย์ขึ้นเยอะ

เชื่อไหมว่า คราวนี้ยังไม่ได้ซื้อหนังสือสักเล่ม
แต่มีลิสท์อยู่ในใจหลายเล่มแล้วล่ะ

จขบ.ถ้าจะยังไม่นอน
พี่ไปอาบน้ำ ออกไปขายหนังสือแล้วเน้อ


โดย: grappa วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:6:43:11 น.  

 
ดู The Fountain ตอนง่วง ๆ

ผลเป็นไง

ก็ "หลับ" สิครับ

ไม่ได้หลับยาวหรอกครับ แต่หลับเป็นวูบ ๆ ช่วงแรก ๆ ถึงกลาง ๆ เรื่อง

มึนตึ้บ


โดย: Oakyman วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:6:54:30 น.  

 

เฮ้อ กระทรวง ICT สั่งบล็อค youtube.com อีกแล้ว ประเทศชาติเรามันจะล้าหลังไปถึงไหนกันนะ


เผื่อยังไม่เห็นกัน วง Goodnight Electric เค้ามาตอบในบล็อกเราด้วย (บล็อก Tahiti 80)

we found this blog from google...
we don't understand all these words.
but we just wanna say thanx to all people in Bangkok for inviting, supporting and coming to see us.
What a great city...we'll miss you all!
Dj. Nor...you're ROCK!

โดย: goodnight electric


โดย: merveillesxx วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:7:10:08 น.  

 
เข้ามาอ่านจ้า....


โดย: สาว sax ( เอ๊ย....อ่านให้ถูกนะ) IP: 58.10.102.43 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:7:13:53 น.  

 
อยากอ่านทเว็นตี้สุดๆ
อยากอ่านฝนตกขึ้นฟ้า
แล้วก็อยากอ่านไบโอเล่มนี้ด้วยยยย


โดย: fonkoon วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:7:45:19 น.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:9:10:59 น.  

 
ดนตรีคีตาเล่มละเท่าไหร่ อยากซื้อนานแล้ว แต่สันดานเสีย รอมันลดราคาดีกว่า


โดย: ปืนกล IP: 203.131.220.50 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:9:36:13 น.  

 
มาแถลงไขเรื่อง ict บล็อก youtube นิดนึงนะจ๊ะ
อย่าเพิ่งเห็นแก่การดู clip ฟรีจนไม่เปิดใจ

คือตอนนี้มีผู้ไม่หวังดีเผยแพร่คลิพอุบาทว์หมิ่นฯอยู่
เรานี่แหละ และอีกหลายๆคนโทรแจ้ง ict ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
รวมถึงโทรแจ้ง แฟกซ์แจ้ง อีเมลล์แจ้งให้ youtube เอาคลิพออก

อ่อ ก่อนจะเกิดการบล็อกเนี่ย คลิพตัวนี้มันอยู่ใน youtube มาตั้งหกวันแล้ว จู่ๆ ก็มีการเผยแพร่ในพันทิพซะงั้น

ทาง ict จัดการบล็อก youtube เป็นการชั่วคราว เพื่อยุติการเข้าชมของคนในเมืองไทย (ระงับการลุกฮือ , ก่อความรุนแรง หรืออะไรก็ตามแต่) เพราะไอ้ตัวคนโพสท์มันหวังผลทางเมืองไทยแน่ๆ

ทาง ict ประสานงานไปยัง youtube เพื่อให้เอาออก แต่ youtube ยืนกรานปฏิเสธ เพราะไม่เห็นว่าเสียหายกับใครตรงไหน (อ่านช้าๆชัดๆ)

ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศคงกำลังกดดันเพิ่มไป

ใจเย็นๆกันก่อนนะ ให้คลิพอุบาทว์นั่นมันหายไปก่อน เด๋วก็ได้กลับไปดูคลิพฟรีๆกันอีกแล้วจ้า


โดย: patsypacky IP: 203.156.44.241 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:10:45:42 น.  

 
==> เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปซื้อ ความลับ (Himitsu) มาอ่านช่วงวันหยุดสงกรานต์ .....ไว้อ่านพร้อมกันนะจ๊ะ

==> ตอนดู The Fountain จบ ได้ยินคนบ่นว่า "หนังอะไรวะดูไม่รู้เรื่องเลย"

อยากเดินเข้าไปบอกเขาเหมือนกันว่าผมก็ดูไม่รู้เรื่องเหมือนกันครับ

....เราเป็นเพื่อนกันนะ


โดย: black forest IP: 125.24.162.237 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:02:51 น.  

 
เข้ามาเชียร์ความลับค่ะ เราชอบมากกก ถ้าคุณอ่านเรื่องอื่นจบ อย่าลืมมารีวิวนะคะ เพราะเรื่องอื่นเรายังไม่เคยอ่าน แล้วก้ออยากถามว่าหนังสือ ฟิล์มไวรัสอยู่บูธไหนเหรอ
จริงๆเราก้อไปมาแล้วหละ แต่เดินได้นิดเดียวเอง อยากไปอีกจัง เฮ้อ


โดย: lovefullhouse IP: 124.120.206.87 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:06:49 น.  

 
เคยฟังจริต 6 แบบ audio อ่ะ น่าหาหนังสือมาให้คนที่บ้านอ่านมั่งจัง ....

ว่าแต่ อยากไปจังอ่ะ งานหนังสือ


โดย: หนูชล วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:14:16 น.  

 
อ่านของคุณ patsypacky แล้ว
ชวนให้นึกว่าคนโพสน่าจะมีหน้าเป็นรูปทรงเรขาคณิตสี่มุม
(หรืออย่างน้อยก็คนบงการ 55555)

ถ้าถามผม
ผมว่า youtube ก็ถูกของเขา...
เราเป็นเดือดเป็นร้อนเอง แต่ถามว่าคิงของเราสึกหรอมั้ย ก็ไม่... (เหอๆๆ ตอบแบบนี้สมควรโดนถีบกลางกระหม่อมสิ้นดี)

แต่ในพันทิป คนหนึ่งเขียนน่าสนใจ เขาบอกว่า youtube ขาด cultural sensitivity
ตรงนี้แหละ... ตัวสำคัญ...
(เพราะก็มีเคสตัวอย่างอย่างกรณีการ์ตูนล้อศาสดาของเดนมาร์กมาแล้ว อันนั้นจะบอกว่าไม่มีผลกระทบก็คงพูดได้ไม่เต็มปากล่ะนะ)


ปล. กราบเท้าพี่เมอร์งามๆ... ผมอยู่รัฐศาสตร์แท้ๆ ยังมีหนังสือการเมือง ประชาธิปไตย (และบลาๆๆ) น้อยกว่าพี่อีก

ปล.2 ไปเที่ยวนี้ได้หนังสือมาน้อยครับ (ส่วนใหญ่พ่อกับแม่ขนกลับบ้านเยอะ เพราะหนังสือแนว royal family ลดราคากันกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์สุดๆ เล่มนึงแถมซีดี ราคาลดจาก 499 เหลือ 199 + คึกฤทธิ์ลด 25 เปอร์เซนต์ยกเซ็ต) Bliss ฝากเพื่อนไปซื้อ 6-7-8 เพราะมีบัตรลด 30 เปอร์เซนต์ ไปเที่ยวนี้เลยไปขน unputdownable กับ พี่วินทร์(ฝนตกขึ้นฟ้า, โลกใบที่สองของโม และ นิยายข้างจอ) มาซะหมดตรูด

ปล.3 บู๊ตแจ่มใส.. คนมหาศาล แถมยังไม่ลงทุนทำบู๊ตใหญ่ๆด้วยนะ มีอยู่ล็อกเดียวแล้วคนก็ไปแออ๊าดดดด แออัด (เมื่อก่อนยังจะยอมไปแออัด เพราะเอนเทอร์บุ๊กส์ ทำนิยายสืบสวนสนุกหลายเล่ม แต่เดี๋ยวนี้มันมีแต่นิยายน้ำเน่าเกาหลีอะ - -*)


โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:15:06 น.  

 
คิงเราไม่สึกหรอหรอกค่ะ และโดยธรรมชาติของคิงเราซึ่งถืออุเบกขาเป็นที่ตั้ง ท่านก็คงไม่ว่าอะไร

แต่ในฐานะคนไทย ที่รักในหลวงมาตั้งแต่จำความได้ จะบอกว่า อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร เดี๋ยวก็เงียบไปเองมันยากมากๆๆเลยนะคะ ตอนโหลดมาดูเจ็บที่สุดเลยค่ะ เจ็บเหมือนมีคนเอามีดมากรีดใจเลย

ทีทำไปทั้งหมด เพื่ออยากให้ยูทู้บเข้าใจจิตใจคนอีกซีกโลกหนึ่งในโลก คนที่เค้ามีวัฒนธรรมอื่น ประเพณีอื่น จะมาบอกว่าตัวเองไม่มีสิ่งต่างๆเหล่านี้ ไม่เข้าใจ มันดูเห็นแก่ตัวมากเลย

รู้สึกมั้ยคะ ก่อนหน้านี้ ช่วงจักรวรรดินิยม ชาติตะวันตกไม่เคยเคารพความแตกต่างของคนอื่นอย่างไร ผ่านไปกี่ร้อยปีพวกเค้าก็ยังเป็นอย่างนั้น แถมแย่ขึ้นเรื่อยๆ การที่เค้าไม่เคารพอย่างหนึ่ง ก้ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะทำอะไรกับใครก็ได้ตามอำเภอใจนี่คะ

แต่ที่ยิ่งกว่านั้น ที่เจ็บกว่านั้น ก็เห็นคนไทยบางคนออกมาเรียกร้องให้เลิกบล็อกยูทู้บ เพราะจะได้ดูคลิพใหม่ คลิพที่ต้วเองชอบโดยไม่สนใจอะไรนี่แหละค่ะ คนอื่นทำเรา เราก็เจ็บ แต่เจ็บน้อยกว่าคนชาติเดียวกัน คนที่โตมาบนแผ่นดินและใต้ฟ้าเดียวกันนี่แหละ

พยายามทำใจให้ยอมรับโลกสมัยนี้อยู่ค่ะ พยายามอยู่จริงๆ สุดๆแล้ว


โดย: patsypacky IP: 203.156.44.241 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:12:59:47 น.  

 
อ่าน ค่ำคืนนี้ ยัง


โดย: quyawayg IP: 202.12.74.8 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:13:22:05 น.  

 
กูอิจฉาโว้ย...........

มีหนังสือมากมายที่อยากได้แต่ไม่มีตังค์ซื้อ (ซึ่งสุดท้ายก็ต้องรอห้องสมุดซื้อมาให้อ่าน อนาจเหลือหลาย) โดยเฉพาะหนังสือของพี่ซี๊ด

เฮ้ยต่อ พี่ไปดู The Fountain มาล่ะ ชอบมากว่ะ เดี๋ยวจะเขียนบล็อก ได้ดุหนังปรัชญาแล้วร้องไห้แบบนี้มานานแล้ว (สงสัยเริ่มบ้าละ)


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:15:21:11 น.  

 
ติดใจความลับใต้ทะเลสาบเหมือนกัน

สงสัยต้องไปซื้อ "ความลับ" เพิ่มอีกเล่มซะแล้ว


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:16:41:37 น.  

 

เกี่ยวกับเรื่อง youtube

ต้องบอกก่อนว่าผมทราบดีว่า สาเหตุการ block มาจากอะไร และได้ดูคลิปนั้นแล้วด้วย (แล้วก็ไม่ได้กระสันอากดูเอ็มวีอะไรจนหน้ามืดตามัวหรอกนะ)

ความหงุดหงิดของผมมาถึงขีดสุด ก็หลังจากอ่านกระทู้ในพันทิปเนี่ยแหละ ทั้งขำ ทั้งคลื่นไส้ ไปพร้อมๆกัน กลายเป็นว่าคนเห็นดีเห็นงามไปกับการบล็อค youtube ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย กลับถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัว เห็นแก่คลิปวิดีโอมากกว่าประเทศชาติ บลา บลา บลา

ผมเบื่อจัง ความคิดที่ว่าคนอื่นต้องคิดเหมือนตัวเอง อย่าลืมนะครับว่าในทุกประเด็นทุกเรื่องยังมีบางคนที่ไม่คิดเหมือนคนหมู่มาก

อย่างไรก็ดี ผมก็คงต้องขอแสดงความเสียใจและเห็นใจกับชาวไทยทุกท่านเกี่ยวกับคลิปที่ว่า แต่ผมถ้าลองตั้งสติดูดีๆ คลิปนั้นมันสร้างขึ้นมาด้วยวิธีที่ปัญญาอ่อนมากๆ เลยครับ อย่าให้ความโกรธหรือความรักใน "อะไร" บางอย่างมากเกินไป มาจุดชนวนทะเลากันเองดีกว่า



ขออนุญาตยกข้อความของคุณ pc จากเวบบอร์ดไบโอสโคปมาโพสต์ตรงนี้

//www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=145.0

"ผมเคยคิดไว้ตั้งแต่กระทรวงนี้ตั้งขึ้นมาในสมัยแม้วแล้ว ว่าที่ตั้งกระทรวงอย่างนี้ขึ้นมาก็เพื่อจะควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เคยคิดเล่นๆว่าวันหนึ่งอาจจะบล็อกเว็บอย่าง YouTube กับ MySpace แต่ไม่เคยคิดว่าพวกนี้จะงี่เง่ากันได้ถึงขนาดทำกันจริงๆ ผมว่าที่ผ่านมา บางทีเราอาจจะประเมินความงี่เง่าของพวกนี้ต่ำเกินไปนะครับ

ผมลองเข้าไปดูกระทู้ที่พันธ์ทิพย์ คราวนี้มันยิ่งแย่เข้าไปอีกครับ พวกเขาพูดกันว่าเป็นเพราะมีคลิพหมิ่นเบื้องสูง เอาอีกแล้ว ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ว่า ผมสงสัยว่าทำไมถึงไม่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกแสดงความเห็นต่อต้านล่ะครับ มันกลับกลายเป็นว่า หลายคนเห็นว่ารัฐบาลทำถูกที่บล็อก YouTube

ผมเพียงแต่สงสัยว่า ถ้าคนที่อัพโหลดอยู่ต่างประเทศ เขาสามารถจะทำอย่างนี้ได้เรื่อยๆ และทุกครั้งที่เขาทำ รัฐบาลคงจะต้องตามบล็อกเว็บทุกครั้ง คนที่ต้องการจะเข้า YouTube เพื่อดูมิวสิควิดิโออย่างผมและอีกหลายคนในห้องนี้ก็คงจะต้องทนรับสภาพอย่างนี้ไปเสียทุกๆครั้ง และยิ่งไปบอกให้ทาง YouTube ลบคลิพนั้นออกไป ทั้งๆที่สังคมออนไลน์ของเขาเป็นสังคมที่มีเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารข้อมูล ทำอย่างนี้มันก็เหมือนกับเอาวัฒนธรรมเห่ยๆของเราไปเที่ยวบังคับใช้เอากับคนนู้นคนนี้ไปทั่ว เที่ยวไปออกคำสั่งให้เขาปลดคลิพ ทำอย่างนี้บ่อยๆเข้าชุมชนออน์ไลน์ทั่วโลกคงจะรำคาญความมากเรื่องของคนไทยขึ้นมาแน่ๆครับ เราทนได้กับการอยูในกะลา เราก็เลยอยากจะเอากะลาของเราไปยัดเยียดให้กับผู้คนทั่วโลก และพยายามบอกเขาว่า วัฒนธรรมในกะลาของเรามันน่าภูมิใจขนาดไหน

ถ้ารัฐบาลบังคับใช้กฎหมายกันอย่างนี้ล่ะก็ ผมก็มองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปเชื่อฟัง ผมจะถือว่าเป็นความชอบธรรมที่จะหลบเลี่ยงให้ได้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม"


โดย: merveillesxx วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:20:13:22 น.  

 
ตอบ พี่ grappa

เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่า goodnight electric นี่มันโจ๊ะจริงๆ



ตอบ Oakyman

ไปดู The Fountain อีกรอบๆๆๆๆ กัน ฮ่าๆๆ



ตอบ สาว sax

ไม่มีชื่อที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ อิอิ



ตอบ fonkoon

20th เล่มนี้มันส์มาก (อีกแล้ว) แต่รู้สึกว่าที่ญี่ปุ่นก็ออกถึง 22 เหมือนกัน คงต้องรออีกนาน แต่เล่มหน้ามันคงจบแล้วล่ะ



ตอบ ปืนกล

ดนตรี คีตา ราคาปก 350 ในงานขาย 280 จ้าา



ตอบ patsypacky

ก็ขอเป็นกำลังใจให้คลิปนั้นอันตรธานหายไปโดยไว และไม่มีโผล่มาอีกแล้วกันนะ



ตอบ black forest

มีบทวิจารณ์อันนึงเขียนว่า The Fountain คือ "วิดีโอสอนโยคะขนาดยาว" (ฮา)



ตอบ lovefullhouse

หนังฟิล์มไวรัส อยู่บูธ alternative writer โซน atrium บูธ W11 จ้า



ตอบ น้อง nanoguy

แหะๆ พี่ซื้อมาก็อ่านไม่หมดหรอก บางอันก็อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจด้วย อย่างหนังสือรัฐประหารของฟ้าเดียวกัน เมื่อเช้าพี่อ่านต่อแล้วหลับเลย



ตอบ quyawayg

ค่ำคืนนี้ นี่ของใครล่ะเนี่ย ใช่ j-book ป่าวอ่ะ



ตอบ พี่ดอง

บอกแล้ว The Fountain นี่มันแรงจริงๆ



ตอบ หัวใจสีชมพู

ชอบ เรื่องรักในโลกพิศวง มากกว่าอ่ะครับ lakeside ตอนท้ายๆ มันอ่อนไปหน่อย


โดย: merveillesxx วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:20:51:55 น.  

 
อื้ม อ่านที่คุณ merveillesxxเอามาให้อ่านแล้วก็แอบเจ็บเล็กๆแหละ

การที่เราปกป้องในหลวง โดยการรวมตัวกันไปบอก youtube ว่าที่เค้าทำมันไม่ถูกต้องนะ (ยูทูบไม่ได้โดนประเทศไทยฟ้องประเทศเดียวนะ ประเทศอื่นก็ยื่นฟ้องยูทู้บเหมือนกัน) กลายเป็นวัฒนธรรมเห่ยๆ เราก็ไม่รู้จะให้ความเห็นว่าอย่างไรจริงๆ

เราไม่ว่าหรอก การที่คิดไม่เหมือนกัน แต่แอบสลดใจนิดหน่อยว่าสังคมไทยมันเปลี่ยนไปจริงๆ คนที่คิดแบบเรา คนที่ปกป้องสิ่งที่เรามีและรัก กลายเป็นพวกเห่ยๆ เชยๆ

มันบอกไม่ถูกอะนะ


โดย: แพทสี IP: 58.9.159.140 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:20:59:41 น.  

 
อ่อ อีกทีๆๆ อย่าว่างั้นงี้เลย ขอเอาท่อนที่ก๊อบมาให้อ่าน ไปให้คนเชยๆอย่างพวกเราเปิดหูเปิดตานิดนึงนะ จะได้ตาสว่างกันซะที


โดย: แพทสี IP: 58.9.159.140 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:01:24 น.  

 
อิจฉาจริงๆ ผมเองยังไม่รู้เลย่วาจะได้เดินงานหนังสืออีกเมื่อไหร่ ไม่มีตัง ไม่มีเวลาด้วย ไบโอเล่มใหม่ยังไม่ได้อ่าน แต่เล่มก่อนปกมาช่า ผมว่าทำได้ดีขึ้นเยอะ อ่านง่ายขึ้นหน่อย The fountain ไปดูในโรงมาแล้วครับ ยังไม่อาจหาญพอที่จะเขียนถึง แต่ก็ยอมรับว่าเป็นประสบการณ์ภาพยนตร์อีกครั้งที่ไม่น่าเสียดายตังครับ ถ้าค่าตั๋วสัก 100บาทนะ ฮิฮิ


โดย: joblovenuk วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:08:00 น.  

 
แวะมาทักทาย

blog น่าสนใจคะ

ว่าง ๆ เชิญที่ blog ได้นะคะ มีหนังสือเล่มนึงแนะนำคะ

ว่าง ๆ จะแวะมาทักทายอีกคะ


โดย: goodpeople (goodpeople ) วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:26:11 น.  

 
เราขอแสดงความเห็นเรื่อง Youtube หน่อย กระทู้ในพันทิปไม่อยากโพสต์กลัวเจอด่า แค่คนเห็นต่างแม่งด่ากันเป็นหมาเลย

เรื่องนี้เราในฐานะคนเรียนสื่อมา บอกได้เลยว่า พฤติกรรมคนมันเหี้ยส่งผลให้สื่อนั้น ๆ รองรับพฤติกรรมมัน มิใช่ตัวสื่อไปมีอิทธิพลกับมัน แล้วทำให้มันเป็นอย่างนั้น

เหมือนอย่างแคมฟรอก ประโยชน์มันมี เพียงแต่คนใช้มันเอาไปใช้โชว์เซ็กซ์ แล้วบังเอิญมันดัง แค่นั้นแหละ แคมฟลอกแม่งกลายเป็นของบาปประจำบ้านเลย

สำหรับกรณี His Majesty The King เราในฐานะคนที่เคยเป็น Royalism ในอดีต และเลิกเป็นแล้วในปัจจุบัน คาดการณ์ว่าคนทำแม่งจ้องทำลายแน่นอน เรามองว่าคนต่างชาติไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเล่นกับสถาบันกษัตริย์ เพราะมันก็คงคิดว่ามีไว้งั้น ๆ เหมือนอย่างในเรื่อง The Queen ราชินีก็ไม่ได้มีอะไรเลย

หรือถ้าเป็นคนต่างชาติก็อาจจะทำเพราะคนองเสียมากกว่า (อันนี้เรามองเองน่ะ เราไม่รู้เหมือนกันว่าจริง ๆ เป็นเช่นไร)

คนที่ต่อต้านเลือดสีน้ำเงินในประเทศนี้มีไม่น้อย แต่ไม่กล้าเปิดตัว ก็อาจจะใช้วิธีนี้เป็นได้

เรามองเหมือนต่อว่าวิธีแก้ปัญหามันไม่ใช่การไปบล็อก เพราะถ้ามันทำต่างประเทศ การบล็อกก็จบสิ้น ไม่มีผลอะไรทั้งนั้น แล้วคราวนี้ทำอย่างไรต่อล่ะ

สมมติมีการอัพกันอย่างเมามันในทุกเวบ ict ต้องตามบล็อกทุกเวบหรอ

เราว่าสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจให้เวบมาสเตอร์ของ youtube รวมถึงเวบอื่น ๆ ที่สามาถอัพไฟล์อะไรแบบนี้ให้ได้ทราบว่า เรื่องนี้ประเทศกูถือโว้ย ไม่ใช่แบบอังกฤษที่มิสเตอร์บีนเอาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มาล้อเล่นเป็นที่สนุกสนาน

myspace อาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องพวกนี้เพราะวิดีโอที่อัพโหลดจะออกอากาศได้ต้องได้รับการตรวจสอบโดยเวบมาสเตอร์ก่อน

เราไม่รู้ว่าตอนนี้เขาดำเนินการทางคดีกับ youtube ไหมที่เพิกเฉยไม่ลบ นี้เป็นกรณีทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจน่ะ เมื่อมันเกิดความคิดต่างวัฒนธรรมกันขึ้น (ในกรณีที่มันทำด้วยความคะนอง) หรืออยากทำลายจริง ๆ (ในกรณีที่เลือดไม่ได้สีน้ำเงิน)

จะจบอย่างไรก็ต้องรอดูกัน


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:21:33:09 น.  

 
himitsu ได้ที่เป็นหนังมายังไม่ได้ดูเลย ได้มาเป็นปีละ ดองต่อไป
ที่จริงก็มีหนังสือจะซื้อเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปงาน คงไว้ซื้อตามร้าน

the fountain นี่ก็อยากดูมาก รอมาตั้งนาน
ไม่รู้จะได้ไปดูมั๊ย ถ้าช่วงหยุดสงกรานต์ยังไม่ออกอาจจะไปดูได้


โดย: KjkGs IP: 58.136.94.172 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:22:22:01 น.  

 
ทริปไทยอินดี้และเพื่อน ถ้าสนใจ ก็ลงชื่อซะ

//thaiindie.com/showdetail.asp?boardid=63


โดย: x6jo IP: 58.9.63.183 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:2:13:01 น.  

 
สวัสดีเมอร์ฯ

ที่ซื้อมาพี่อยากอ่านฮีชีอิทกับของวินทร์หละ

แต่ปีนี้พี่ตั้งใจจะไม่ช้อปงานหนังสือ (ถ้าจะไปในสามวันนี้ก็คงไปเพื่อซื้อหนังสือที่จำเป็นต่อการที่จะต้องไปทำทัวร์เร็วๆ นี้เท่านั้นอะนะ)



ส่วนเรื่องยูทูบ

พี่เจ็บปวดกับคลิปนั้นน่ะนะ จริงๆ แล้วพี่อยากให้ลบ แต่ก็คงยาก ถ้าทางยูทูปไม่เข้าใจเรื่องวัฒนธรรมและการเคารพในสถาบันกษัตริย์ของคนไทยส่วนใหญ่

แล้วเมื่อมันลบไม่ได้ ทำยังไงดี?

จริงๆ พี่ก็ไม่เห็นว่าการบล็อกจะมีประโยชน์อะไรนอกเหนือไปจากการไม่ให้มันลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้
(อย่าลืมว่าเหตุการณ์ ๖ ตุลา ก็ใช้วิธีนี้มา "เล่น" กับนิสิตนักศึกษานะ)

คิดว่า คงไม่บล็อกตลอดไปหรอกนะ

ถ้าดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ก็คงเปิดมาให้ดูเหมือนเดิม


ถ้าตราบใดที่กระทรวงไม่มีคนที่เก่ง IT จริงๆ และเชี่ยวชาญพอจะรู้ว่าทำอะไรได้มากกว่าการบล็อกเว็บ

มันก็คงต้องเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ




นี่ถ้าพี่เป็นคนที่เรียนด้านไอทีมาเก่งๆ พี่จะไปสมัครดูแลด้านนี้นะ จะได้ทำอะไรที่มันได้ผลมากกว่านี้ และกระทบกับคนอื่นๆ น้อยกว่านี้

แต่ตราบใดที่มันยังมีปัจจัยอย่างนี้อยู่

เราก็อาจต้องยอมลำบากในบางเรื่อง บางด้าน เพื่ออะไรบางอย่างที่มันใหญ่กว่าน่ะ



พี่อาจเป็นคนรุ่นเก่ามั้ง พี่คิดอย่างนี้น่ะนะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:8:51:28 น.  

 
ตอนแรกฉันได้ยินข่าวก็เจ็บปวดเหมือนกัน ที่หนักยิ่งกว่านั้นคือประชาชนในพันทิพหลายๆคน ดันเห็นด้วยกับกระทรวง...ที่สั่งบล็อกยูตูบ แทนที่จะให้คนเข้าใช้ได้ลงความเห็นว่ามันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง


โดย: initial A IP: 203.107.196.64 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:11:48:57 น.  

 
ต้องไปหามาอ่านบ้างแ้ล้วละ


โดย: frank3119 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:12:14:23 น.  

 
อ่านความเห็นพี่สาวไกด์ฯ แล้วก็ชวนให้นึกถึงหกตุลาขึ้นมาจริงๆแฮะ...
ตอนนั้นพวกเวรๆก็เอาคิงลงมาเป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกให้ประชาชนเหมือนกัน...

ส่วนของน้องไอนิเชียลเอ พี่อ่านแล้วนึกถึงกรณี Anna and the King อะ... (พูดแล้วก็อยากดู The King and I เวอร์ชั่น Yul Brinner ขึ้นมาตะหงิดๆแฮะ)


เอาเถอะครับ
คนไทยในพันทิป "ส่วนใหญ่" พอกระทบถึงคิงนิดๆหน่อยๆ ก็จะเป็นแบบนี้... ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการบล๊อกเว็บ เพราะเป็นอะไรที่ปลายเหตุสุดๆ.. (แต่ก็เข้าใจว่ารู้สึกกันยังไงน่ะนะ - -*)


โดย: nanoguy วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:15:28:29 น.  

 
อิช้านนนน เปลี่ยนชื่อแร้วค่ะคุณเมอร์


โดย: ตลาดพลูวาไรตี้ IP: 58.10.102.35 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:19:34:57 น.  

 
ขากลับพวกเราก็ใช้บริการรถใต้ดินเหมือนเคย โชคดีมากที่ได้นั่ง (ตอนนี้เหนื่อยและหนักมาก ต่อให้เป็นแตงโม-ภัทรธิดา กูก็ไม่ลุกให้) ==> อ่านแล้วฮามากมาย

อยากไปงานหนังสืออ่า คาดว่าอาทิตย์นี้น่าจะได้ไปกับเขามั่ง อยากไปบู๊ธของ Bliss เห็นชื่อเรื่องที่พี่ไปซื้อมาแล้วน่าอ่านมาก เดี๋ยวจะไปซื้อมาอ่านบ้าง (ความลับกับจดหมายจากฆาตกร)

เคยอ่านของ J BooK เรื่อง ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และ ร่างไร้วิญญาณของฉัน สนุกมากเลย พี่เคยอ่านหรือยังคะ ถ้ายังก็น่าจะไปหามาอ่านดูน้า ... > < ...

ปล. อยากรีบอ่าน BIO เร็วๆ จังเลย


โดย: BaRoquE IP: 58.9.48.207 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:21:39:37 น.  

 
แต่ที่แน่ๆ มีคนเสนอวิธีที่น่าสนใจ และคิดว่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
จากกระทู้นี้

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5295475/A5295475.html


โดย: initial A IP: 203.209.117.119 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:21:40:12 น.  

 
เราไปมาเเว๊บนึง
มุ่งตรงไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม

คาดว่าคงต้องกลับไปอีก

เพื่อ??


โดย: สุด IP: 58.8.46.195 วันที่: 6 เมษายน 2550 เวลา:22:41:55 น.  

 
มาบ่นเล่นๆ (เพราะขี้เกียจอัพบล๊อกตัวเอง 555+)

เบื่อพวกพุทธคลั่งศาสนาจริงๆ - -*
เขียนลง รธน. เพื่ออะไรวะ!!


โดย: nanoguy วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:14:53:31 น.  

 
กรณี youtube เห็นด้วยกับพี่เมอร์นะ

ถ้าเราทำสิ่งต่างๆโดยใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งเราก็จะเป็นเหยื่อตลอดไป
เหรียญไม่ได้มีด้านเดียว ถ้าเรามองอีกด้านของเหรียญบ้าง อาจจะแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ก็ได้
ประเทศนี้มีคนที่ทำตามอารมณ์มามากพอแล้ว ว่ากันตามเหตุผลบ้างก็ดี
ไม่งั้นเราจะต่างอะไรจากพวกมุสลิมคลั่งศาสนาที่ไม่ว่าใครก็แตะอัลเลาะห์ของพวกเขาไม่ได้

ด้วยความเคารพทุกๆความเห็น เกี่ยวกับกรณี youtube


โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.36.124 วันที่: 7 เมษายน 2550 เวลา:20:13:31 น.  

 
เราทำงานพิเศษอยู่ที่บู๊อมรินทร์แหละ 555+
จริต 6 ขายดีมากๆ วันนี้มีน้องๆม.ปลายแต่งชุดนักเรียนมาซื้อด้วย แปลกดี
ที่ขายดีอีกอย่างคือ ธรรมมะทำไม ของ ว.วชิระเมธี

มิเนเนโกะโฮมส์เราชอบนะ เราว่าก็พอเพลินๆดี แล้วแค่คนด้วยหล่ะเนาะ
แต่ของนักเขียนคนนี้แบบที่เป็นเรื่องของเพื่อนสามคนที่มาเป็นนักสืบอ่ะ ไม่ค่อยสนุกเท่าไร

สองเล่มสุดท้ายที่คุณซื้อมา นี่เราก็อยากได้นะ 555 อยากได้ตั้งแต่เรียนทฤษฎีแล้วอ่ะ
อาศัยว่าบ้านใกล่้มสธ.ด้วย กะจะไปซื้อแล้วเชียว ไม่มีตังค์ซะก่อน
ทฤษฎีเราได้ B อ่า เพื่อนเราได้ B+ คน B คน แล้วก็ C+
ทำไมเด็กเสดสาดเรียนเก่งกว่าเด็กฟิล์มล่ะเนี่ย อนาถตัวเองหง่ะ

ยังไม่เห็น bio เล่มใหม่เลยค่ะ


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.161.178 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:1:03:42 น.  

 
เกี่ยวกับเรื่อง youtube

ไม่แน่ใจว่าคลิปใน youtube เป็นผลมาจากเรื่องนี้หรือเปล่า

Graffiti reveals Thai royal fears
//news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/6442331.stm

แปลกดีที่กรณีนี้มีการจับเข้าคุก เพราะปกติไม่ค่อยเห็นคดีหมิ่นมีบทลงโทษจเป็นรูปธรรม (หรือผมไม่รู้เอง?)



ส่วนกระทู้ "วิธีแก้" เรื่องคลิป youtube ที่น้อง initial A แปะมา ผมอ่านแล้วก็ขำ แต่ขำไปก็ยิ่งเครียด นี่แหละมั้งที่เรียกว่าการแก้ปัญหาแบบ distortion



ช่วงปี 2549-2550 ผมรู้สึกอึดอัดกับอะไรหลายๆ อย่างในประเทศตัวเอง เรียกได้ว่าอึดอัดจนมาถึงขีดสุด โดยเฉพาะเรื่องการเซนเซอร์และปิดกั้นข่าวสาร ไม่ว่าจะเรื่อง CNN, หนังสือ The King Never Smiles, youtube ไปจนถึง "นมชิสุกะ"



สำหรับท่านที่สนใจเรื่องเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 (เหตุการณ์ที่แสดงถึงความเลวร้ายของมนุษย์ "ชาติเดียวกัน" ได้มากที่สุด) อ่านที่

“เราสู้” หลัง 6 ตุลา โดย สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
//somsakwork.blogspot.com/2006/10/6.html

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ว่าด้วยข้อความ “องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”
//somsakwork.blogspot.com/2006/09/blog-post_13.html

ความหมายและความเป็นมาของ “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
//somsakwork.blogspot.com/2006/07/antithetical-qualification-tension.html


----------------------------


ตอบ x6jo

ขอบคุณนะที่ชวนไปทริป ยังไม่แน่ใจว่าจะไปได้มั้ย



ตอบ น้อง nanoguy

พี่เคยดู The King And I ฉบับที่ว่าบางส่วน ตอนที่เรียนกับ อ.แดง ครับ 2 ปีก่อน พี่รู้สึกรับหนังเรื่องนี้ไม่ได้ แต่คิดว่าตอนนี้คงดูได้แล้ว



ตอบ BaRoquE

ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และ ร่างไร้วิญญาณของฉัน << อ่านแล้วครับ ชอบมากเลยครับ



ตอบ ปลาทองแก้มยุ้ย

จริต 6 ต้องขายดีแน่นอนเพราะสาวก ดร.บุญชัย เยอะ

ตำราหนัง มสธ. ซื้อได้ที่บูธ C2 T13

ส่วนไบโอเล่มใหม่ ซื้อได้ที่บุธ alternative writer Atrium W11 จ้า


โดย: merveillesxx วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:1:57:53 น.  

 
อ๊ะ !! Lush เล่มนี้ท่าจะเจ๋งน่าดู
เสียดายที่ไม่ได้ไปงาน งบเดินทางไม่เพียงพอ


โดย: ShadowServant วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:2:27:34 น.  

 
น่าอ่านทุกเล่มเลย


โดย: Lolay IP: 58.9.189.8 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:3:18:45 น.  

 
ชั้นไม่พูดเรื่องยูทูปได้ไหม

แต่มาถามว่า ตกลง" แสงศตวรรษ"
จะได้ฉายไหม

สองวันก่อนเจอคุณสุภาพ แห่งโบโอฯ
สุภาพก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ได้ฉายนะ



โดย: grappa วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:7:22:24 น.  

 
งั้นพักเรื่องยูตูบ
มาดูเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ ขอมอบเรื่องราวนี้แก่คนที่กำลังสนุก อย่างไม่ลืมหูลืมตา(เหมาะกับเทศกาลช่วงนี้มากๆ)

//initiala0099.exteen.com/20070408/entry-1



โดย: initial A IP: 203.209.123.30 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:13:11:22 น.  

 
แม่ผมก็พูดว่ามันมาจากเรื่องนี้หรือเปล่า...
แต่ว่าพอมาคุยกับน้าที่เป็นนักข่าว เขาบอกว่านักท่องเที่ยวคนนั้นมันมากกว่าแค่เมาแล้วไปสเปรย์รูปในหลวงน่ะครับ
(ก็ไม่รู้จะเชื่อใครดี)

คือฝั่งแม่รู้มาแค่ว่า ฝรั่งเมา แล้วก็สเปรย์มั่ว

แต่ฝั่งน้าผมที่เป็นนักข่าวบอกว่า ฝรั่งมันโกรธที่ไม่ขายเหล้าวัน 5 ธันวาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
(ถ้าผมเป็นฝรั่งก็คงงง ว่ามันเกี่ยวกันยังไงระหว่างขายเหล้ากับวันเกิดคิง) ก็เลยประมาณว่าซื้อสีสเปรย์มากะพ่น นี่คืออีกข้างหนึ่งที่ฟังมา

ก็ไม่รู้ว่าอย่างไหนจริงน่ะนะ - -*



ปล. เรียนเชิญที่บล๊อกและกระทู้ด้านล่างครับ ผมเริ่มทนไม่ได้แล้วกับพวก "คลั่งศาสนา"
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5300772/A5300772.html


โดย: nanoguy วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:15:20:45 น.  

 
อยากรู้จริงว่า เบส ซื้อเล่มไหนที่ร้านพี่ grappa ? บอกหน่อยได้ไหม ว่าเขาสนใจอะไร

โลกเราร้อนนะช่วงนี้ โดยเฉพาะบ้านเรา เรื่องราวเยอะเหลือเกิน ตอนนี้กำลังคิดและตรึกตรองดูว่าจะเอนไปทางไหนดี ที่เหมาะกับความรู้สึกในใจเรา ยังไงก็ขอให้เรื่องต่างๆจบอย่างสันติและไม่ลุกลามนะครับ อยากให้ทุกคนมีความสุข


โดย: ป้อจาย วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:19:30:26 น.  

 
ซื้อผู้ชายที่หลงรักดวงจันทร์เล่มนี้ไม่หายอ่ะคับ ไอ้ที่หายจะเป็นหนังสือวินทร์ กนกพงศ์ โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี และหนังสือไอ้ต่อที่เค้าแถมมาให้มัน หนังสือหายว่าซวยแล้วที่แย่ไปกว่านั้นคือถูกแม่ด่าอีกว่ารักษาทรัพย์สมบัติไม่เป็น
เออต่อไม่เป็นไรก็อย่างที่บอกเดี๋ยวคราวหน้ากลับมาล้างตาใหม่พร้อมกับซื้อหนังสือต่อด้วย(ถ้าไม่ติดไปค่ายน่ะนะ)
ต่อเดียวนี้บล็อกแกเป็นที่ถกเถียงเรื่องyoutubeแล้วเหรอว่ะระวังโดนอุ้มกับโดนสั่งปิดบล็อกนะเฟ้ย(5555)


โดย: เบส IP: 222.123.80.1 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:23:23:20 น.  

 
พี่ไทยทำกับ You Tube ได้นะเนี่ย เซงเลยดูอะไรไม่ได้เลย

คงเป็นเรื่องใหญ่ล่ะครับ ปิดได้ก็ปิดไปครับ แต่ถ้ามาปิดเวบเกิลลี่เบอรี่ นี่ล่ะก็..ฮึ ฮึ


โดย: โอ.. (SummerDegree ) วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:23:50:16 น.  

 
วันจันทร์ไม่ได้ขายแล้วจ้า หมดจ๊อบแล้ว

แต่ว่า อาจจะไปงานอีกรอบอ่ะค่ะ ไม่วันจันทร์กํวันอังคารแหละ ต้องดูก่อนว่าจะทำธุระ(อื่นๆ)เสร็จมั้ย

วันนี้จริต 6 หมดไปเรียบร้อยแล้วจ้ะ ว่าบ่ายๆยังเห็นอยู่แว๊บๆ มีลูกค้ามาถามอีกที อ่าว หมดแล้วค่ะ
ที่ขายดีอีกอย่างคือ ไอสไตน์พบพระพุทธเจ้า หนังสือพวกธรรมะขายดีมากๆเลยนะ คนเต็มบู๊ทเลยอ่ะ


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.161.213 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:0:51:00 น.  

 
ติดไว้ก่อนนะ รูปสาวญี่ปุ่น จะสะสมมาทีละนิดๆ น่ะ ฮ่าๆ


โดย: fonkoon วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:6:47:23 น.  

 
เห็นด้วยกับจขบ.เรื่อง youtube นะ
เราคิดว่า มันเป็นวิธีการแก้ปัญหา(?)ที่ปลายเหตุมากๆ เราเห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่มีปัญหากับการยอมรับความแตกต่างทางความคิดและการกระทำนะ

เรื่อง the king never smiles ก็เหมือนกัน เราเห็นด้วยกับอ.ใจ ที่ว่าไม่ควรห้ามการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ ยิ่งได้อ่านบางส่วนของหนังสือแล้วก็ยิ่งเห็นด้วย

สำหรับเรา เสรีภาพทางความคิดและการรับข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญนะ ความแตกต่างทางความคิดและการถกเถียงอย่างสร้างสรรค์จะนำมาซึ่งความพัฒนาในแง่ต่างๆ

บางทีเราก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมประเทศเราถึงอุดมไปด้วยคนแบบที่บล๊อคและเห็นด้วยกับการบล๊อค youtube เนี่ย


โดย: malancholia IP: 203.156.91.218 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:10:02:08 น.  

 
อยากอ่าน hesheit
รวมบทความของดีเจซี้ดก็อยากอ่าน
แล้วอีกสองเล่มของคุณวินทร์ด้วย

อยากอ่านมากกกกก

ระวังกองหนังสือล้มทับนะครับ


โดย: zoxmok IP: 58.165.141.195 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:12:15:54 น.  

 
ไม่ได้แวะไปดูบู๊ทวินทร์เพราะเข้าไม่ถึง คนเยอะ ขี้เกียจเบียด เลยไม่เห็นยาแก้ท้องผูกตาความบินเลย มันน่าจะเหมาะกับควายอย่างเรามาก ๆ

ส่วนหนังสือของไบโอสโคปที่มันช่วยคนอยากทำหนังได้จริงๆ หรือ สงสัยมากทีเดียว

วานไขให้กระจ่าง


โดย: สาว(สมอง)น้อย IP: 124.121.247.236 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:22:34:10 น.  

 
ไปงานหนังสือเพื่อไปสอยหนังสือของมูราคามิลด 50% มาจากบูธมติชน ^^


โดย: SoundSynDrome IP: 124.120.132.75 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:0:23:25 น.  

 

About YOUTUBE (Maybe...this is the last one)

พันทิป.คอม กล้าดีอะไร ถึงตั้งกระทู้ชี้นำมวลชนได้ถึงขนาดนี้ ช่างเป็นการกระทำที่น่า "ประณาม" สิ้นดี (กล่าวคือ น่าตั้งกระทู้ประณามกระทู้ที่ PANTIP.COM ชวนให้คนมาร่วมลงนามประณาม google) การเพิ่มเรทติ้งเวบตัวเองด้วยความนิยมแบบ "สีเหลืองๆ" นี่มันน่ายินดีขนาดนั้นเชียวหรือ ...ช่างน่าสมเพช

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5292969/A5292969.html


ตอนนี้ผมมีแพลนจะสร้างหนังสั้น ซึ่งเป็นภาคต่อของ "2499 อันธพาลครองเมือง" นั่นคือ "2549 คนคลั่งครองเมือง" (ตอนแรกจะชื่อ "2549 คลั่งเจ้าครองเมือง" แต่คงถูกแบนตั้งแต่ชื่อเรื่อง)

พุทธศักราช 2549-2550 ประเทศไทยเต็มไปด้วยคนคลั่ง

คลั่งชาติ (ชาตินิยมเสื้อเหลือง)

คลั่งศาสนา (จากที่น้อง nanoguy แจ้งมาเรื่องการให้ระบุในรัฐธรรมนูญว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ)

คลั่งพระมหากษัตริย์ (ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มแล้วมั้ง)

การที่เอะอะอะไรก็อ้างว่าเป็น "ปีมหามงคล" เนี่ยเหรอครับ คือการแสดงว่า "เรารักในหลวง" ...ผมอยากจะอาเจียนครับ

ด้วยความสัตย์จริง, ผมเห็นใจในหลวงท่านเหลือเกิน

----------------------------------

ไปงานหนังสือมาอีกรอบแล้วจ้า ก็ได้มาประมาณเนี้ย

1. โทโมโกะ คนใจเล็ก (2005, Suzuki Tomoko, วงกลม)

2. เปลี่ยนตัวเองใหม่ใน 5 นาที (2006, Tome Kamioooka, วงกลม)

3. ฉลาม (2007, ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์, ระหว่างบรรทัด)

4. ร่างหลอน (สมเถา สุจริตกุล, กาย มารุต)

5. ความรักของวัลยา (เสนีย์ เสาวพงศ์, มติชน)

6. เขียนบทแบบ เป็นเอก รัตนเรือง (2005, นวรัตน์ รุ่งอรุณ, สามสี)

7. คนในหนัง (2007, ธิดา ผลิตผลการพิมพ์, พิมพ์บูรพา)

8. อยากทำหนัง แต่ฉันไม่มีตังค์ (2007, ไบโอสโคป)

9. The Masters 8 (2007, openbooks)

10. ฟ้าเดียวกัน ปีที่ 4 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2549 (องค์กรเร้นรัฐ: สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์)

แต่เล่มที่ดีใจที่สุดคือ

11. Stuff (Feb 2005) หน้าปก แตงโม ภัทรธิดา

แต่อ่านข่าวนี้แล้วเครียดหลาย
//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000039481

แล้วก็เซ็งมากที่หนังสือ "ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง" ของ อ.สมศักดิ์ หมดซะงั้น !!


โดย: merveillesxx วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:6:01:57 น.  

 
ตอบ น้อง initial A

น้องขา ทีหลังเตือนกันก่อนสิคะ ว่าเข้าไปจะเจอกับอะไร พี่ตกใจมากอ่ะ (ถึงแม้จะเคยได้ fwd mail มาแล้ว)



ตอบ เบส

ตราบใดที่เวบฟ้าเดียวกันยังอยู่ดี กูก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆ



ตอบ SummerDegree

เห็น "เธอกับฉัน" เล่มใหม่ยังครับ ปก grily berry แจ่มมาก โดยเฉพาะกิ๊บซี่ รู้สึกว่าเขาจะอวบขึ้นอ่ะ ดูดีขึ้นมากๆ อยากซื้อจัง แต่ทำใจไม่ได้ (ฮา)



ตอบ ปลาทองแก้มยุ้ย

เราจะเขียนหนังสือแข่งกับ อ.บุญชัย ในชื่อ "ดัดจริต 6"



ตอบ malancholia

ได้ข่าวว่าเด็กคณะเราบางคน (ที่เวลาเดินหัวพวกมันจะเฉๆ ไปทาง "ซ้าย") มีสำเนาของ The King Never Smiles อ่ะ เราก็ตามหาอยู่ (แต่ไม่ค่อยสนิทกับพวกนี้ เรา...กลัว ฮ่าๆๆ)



ตอบ สาว(สมอง)น้อย

เราว่ามีส่วนในระดับหนึ่ง คือมันมีหนังสือหนังไม่กี่เล่มน่ะ ที่พูดถึงกระบวนการสร้าง หนังสือหนังบางเล่มกูนึกว่าเขียนให้คนตาบอดอ่าน


โดย: merveillesxx วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:6:12:58 น.  

 
บวกคลั่งจตุคามด้วยนะ


โดย: initial A IP: 203.209.123.33 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:10:46:40 น.  

 
Prince of Tennis รู้สึกจายังไม่จบนะงับ แต่ภาคที่เปนอนิเมะจบแล้ว 170 กว่าตอนหรือไงนี่แหละ ดูในอนิเมะแจ่มกว่าอ่านอีก แต่มันเกย์มั่กๆเรยนะ....เหอๆ

ไปงานหนังสือมา 2 รอบ เมื่อวานได้เจอวินทร์ด้วย แต่ด้วยความที่ซื้อหนังสือที่เค้าออกใหม่ 2 เล่มไปเมื่อวันก่อนเรยต้องซื้ออีกเล่มด้วยความคลั่งอยากได้ลายเซ็นจัด..-*- ซื้อ สมุดปกดำกับใบไม้สีแดงมางับ

วันนี้อาจจะได้ไปดูเดอะฟาวเทนกะฝน(คาดว่าพี่น่าจะรู้จัก ฝนอยู่ม.4ขึ้นม.5ที่เซ็นโย เคยคุยเอ็มกะพี่ด้วย) เพอ่งรู้จักกะฝนได้ไม่นานแต่เหมือนรู้จักกันมานาน อาจจะเปนรักแรกพบ เหอๆๆๆ

ช่วงนี้อากาศแปลกๆ รักษาสุขภาพด้วยนะงับ


โดย: oHMu IP: 202.28.62.245 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:11:15:21 น.  

 
อุ๊ย ต่อค่ะ คิดว่ากลัวหรอค่ะ เรื่องคุกเรื่องตาราง

อิอิ ต้องเอาประโยคของ Marilyn Manson วันนั้นที่เราคุยกันมาประยุกต์คงจะเก๋ไม่น้อย 555



โดย: I will see U in the next life. วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:12:38:55 น.  

 
55+ จตุคามรามเทพนี่ให้ฟีลเหมือนกับตอนที่คนไทยคลั่งชาเขียวเลย...

เรื่องกระทู้ pantip picks นั่นผมก็ไม่ค่อยพอใจเหมือนกันครับ มันเวอร์ไปอะ - -*
รักอะไรก็รักแบบมีขอบเขตหน่อยเฮอะ ผมเห็นแบบนี้แล้วอยากอ้วก...

สงสารในหลวงท่านเหมือนกัน
ท่านก็ตรัสแล้วเมื่อปีก่อน 4 ธันวา ว่า
"The King can do wrong ได้ เพราะถ้า The King can do no wrong แล้ว The King ก็ไม่ใช่คน"

แล้วดูที่พวกคลั่งสถาบันมันทำอยู่ซิ!!


ปล. มีอะไรให้ช่วยได้มั่งครับ หนังสั้นเรื่องนี้? (แต่ตอนนี้อยู่บ้านนอกนะจ๊ะ กลับกรุงปลายเมษาจ้ะ)


โดย: nanoguy วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:14:10:16 น.  

 
แวะไปกดไฟแดงมา ไอ้กระทู้ pantip picks
ปรากฏว่าโดนปล่อยผ่านอย่างรวดเร็ว ชิ


โดย: nanoguy วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:17:12:01 น.  

 
รูปแบคกราวด์ฉันแน่นอน บอยแบนด์ยุค primitive ก็งี้แหละ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:20:24:13 น.  

 
Marilyn Manson นักร้องดังที่ถูกหาว่าเป็น Antichrist กล่าวไว้ว่า

"I never hate the one true God but the God of people that I hate"

ผมรู้สึกของผมก็คล้ายๆ แบบนี้แหละ

แทนค่าสมการกันเอาเองนะครับ


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:20:24:59 น.  

 
แวะมาเซ็งกองเซนเซอร์เรื่อง "แสงศตวรรษ"
สนับสนุนให้พี่เจ้ยโอนสัญชาติครับ - -*

ในเมื่อเป็นคนไทย
ทำหนังภาษาไทย
ใช้ดาราไทยเล่น
แต่ยังอุตส่าห์โดนดับเบิลสแตนดาร์ดแบบนี้ ผมว่าพี่เจ้ยอย่าทนเลยครับ


โดย: nanoguy IP: 125.24.138.200 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:0:52:52 น.  

 
ไมหนังสือที่มึงซื้อมา เหมือนกูไม่เคยผ่านตาเลยวะ
เราไปงานเดียวกันป่าววะเนี่ย


โดย: อ๋อง IP: 124.120.198.20 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:4:05:35 น.  

 

เฟิร์นไปงานหนังสือเพื่อไปยกการ์ตูนกลับซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะไปกะเพื่อน (เงินตัวเอง .. ประมานนั้น 55+)


ฝนตกข้นฟ้า .. อ่านแล้ว สนุกมาก แบบว่าวางไม่ลง
hesheit ทั้ง 2 เล่มไปแอบอ่านที่นายอินทร์แถวมหา'ลัยอ่ะ 555+ ประหยัด


2 เรื่องแรกน่าอ่านอ่ะ .. เอามาให้ยืมมั่งสิ อิอิ


ps. ประชุมเสาร์นี้ (28) นะคะ 10.30 ใต้คอมมอนนะ



โดย: Fernnie.* IP: 125.25.56.140 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:2:49:07 น.  

 
สุสานใต้ดวงดาว : เอส.พี.สมเถา
นวนิยายที่ได้รับการยกย่องจากสมาคมห้องสมุดอเมริกันว่าเป็นนวนิยายยอดเยี่ยมเพื่อเยาวชน และเด็กมัธยมศึกษาทั่วสหรัฐยกย่องให้เป็นหนังสือในดวงใจ นี่เป็นงานเขียนของนักเขียนไทยที่ระบือระบิลมาก สมเถาใช้ปรัชญาพุทธสอดแทรกผ่านเรื่องเล่าของครอบครัวที่พ่อแม่ยังติดยึดกับระเบียบชีวิตแบบบุปผาชน ค้นหาและวุ่นวายอยู่กับ ทาง ของชีวิต จนลืมคิดที่จะ นำทาง ให้แก่ลูกชายทั้งสอง วันหนึ่งลูกชายคนโตซึ่งทั้งเรียนเก่ง หน้าตาดี และมีความมั่นใจในตัวเองใช้ปืนยิงตัวตาย ตายจากไปท่ามกลางความฉงนของน้องชายซึ่งพร่องคุณสมบัติเกือบจะทุกด้านหากเปรียบเทียบกับพี่ เขาจึงสับสนว่าจะอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อพ่อแม่ก็ไม่เอาไหน พี่ชายก็คิดสั้น เขาจึงออกเดินทางสืบหาความจริงว่าทำไมพี่ชายจึงฆ่าตัวตาย การเดินทางครั้งนั้นทำให้เขาค้นพบตัวเอง ค้นพบความจริงของชีวิต เข้าใจพี่ชาย และเข้าใจพ่อแม่ด้วย เล่มนี้พ่อแม่อ่านคงสะดุ้งสะเทือนหลายอย่าง และเด็กๆ อ่าน คงให้อภัยและเข้าใจความไม่สมประกอบบ้างของเส้นทางที่พ่อและแม่เดินนำ นับเป็น ทางสายกลาง ซึ่งประนีประนอมได้อย่างซาบซึ้ง สมเหตุสมผล และถือเป็นนิยายที่ให้อารมณ์สะเทือนใจสูง และอบอุ่นอย่างยิ่งในตอนจบ


.....................

ไม่มีอะไรหรอก คือแค่งานสัปดาห์หนังสือเมื่อครั้งก่อนนู้นนนนนน เจอหนังสือเล่มนี้ แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะงบน้อย เป็นหนังสือเก่า อยากอ่านมากเลยหละ
คราวหน้า จะหามาอ่านให้ได้เลย (อันเก่าก็อ่านยังไม่หมดเลยนี่นา...เหอะๆ)


โดย: N_TTTTaLent IP: 203.149.13.210 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:00:38 น.  

 
-ช่วงปีหลังๆ นี่ ไปงานหนังสือทีไร เหนื่อยยังกับไปเข้าค่ายรด.
ขนาดหนีไปวันธรรมดา คนยังเยอะ
แถว plenary hall ผมจะเข้าไปหาบูทส์คุณวินทร์, aday, วงกลม แล้วหนีไปโซนอื่นเลย เพราะทนแออัดไม่ได้จริงๆ

-ต้องมีการจำกัดงบประมาณเหมือนกันครับ
และตั้งกฏไว้ในใจว่า ถ้ารู้ตัวว่าเอาไปแล้วอาจไม่ได้อ่าน ห้ามซื้อ
มิฉะนั้นงบอาจบานปลายได้

-ปัจจุบันหนังสือที่ผมซื้อจากสัปดาห์หนังสือมาแล้วยังไม่ได้อ่าน (ตั้งแต่ 10 ปีก่อนจนถึงปีนี้) มีประมาณ 50 เล่ม
ปีหน้าว่าจะหยุดซื้อสักปี ขอเคลียร์ของเก่าให้หมดก่อน

-หนังสือที่ผมกับคุณเมอร์ ซื้อตรงกันมี เบอร์ 6-11, 15-18
ซึ่งผมอ่านจบหมดทุกเล่มแล้ว ยกเว้นของอ.ไชยันต์ และของคุณศิโรตม์
เพราะภาษาที่เขาใช้ และเรื่องที่เขาเขียนค่อนข้างอ่านยาก ต้องใช้เวลาในการย่อย (ถึงตอนนี้ยังย่อยไม่หมด ท้องอืดอยู่เลย)

-ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณเมอร์เรื่องยูทูปครับ
และส่วนตัวคิดว่า นี่เป็นแค่ออเดิร์ฟเท่านั้น
ความขัดแย้งอีกหลายอย่างที่น่าจะรุนแรงกว่านี้ กำลังจะตามมาแน่นอน


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:2:10:00 น.  

 
งานหนังสือจามีอีกเมื่อไหร่อ่ะ

เดือนตุลาใช่มะ

วันที่เท่าไหร่อ่ะ

ใครรู้ช่วยบอก


โดย: Bogus IP: 203.172.60.195 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:12:28:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.