บล็อกผมทำให้ไม่มีคนเรียนพาโธ
มีอาจารย์บางท่านให้ความเห็นว่า งานเขียนของผมนั้น แสดงให้เห็นว่าวิชาชีพพยาธิแพทย์นั้นไม่น่ามาเรียนเอาเสียเลย ผมก็ต้องยอมรับว่าจริงเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักอะไรเกี่ยวกับงานพยาธิวิทยาเลย เพราะว่าสายตาที่คนภายนอกมองเรานั้น เราเป็นแพทย์ที่ทำงานสบายที่สุดในโรงพยาบาล เช้ามาเก้าโมง สี่โมงเย็นกลับบ้าน วันๆนั่งดูสไลด์ในห้องแอร์เย็นๆ แล้วก็จิบกาแฟ ว่างก็เข้า Conference เบื่อๆก็ไปเที่ยวไปดูหนังฟังเพลง ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร ช่างไม่มีความลำบากยากเย็นเอาเสียเลย
ดังนั้น คนที่เข้ามาเรียนพาโธ ครึ่งหนึ่งก็คือคนที่อยากสบาย จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าจริงๆแล้วเราทำอะไรกัน จะมีใครรู้ไหมว่าเราตัดเนื้อกันอย่างไร มากมายแค่ไหน ทำงานหนักขนาดไหน ดูสไลด์ก็ไม่ใช่ว่าส่องลงไปปุ๊บ ก็รู้ปั๊บว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้ เราเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อต่างๆมากแค่ไหน และไม่จริงเลยที่พยาธิแพทย์ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับใคร เพราะว่าต่อให้เราไม่อยากจะยุ่งกับใคร ใครต่อใครก็เรียกร้องหาผลพาโธ แล้วก็พวกเรานี่แหละที่คอยให้ความสนับสนุนงานด้านวิชาการ การเข้า Conference แต่ละครั้งไม่ใช่ว่าเดินดุ่มๆเข้าไป เราจำเป็นต้องมีความรู้ และต้องรู้ให้มากกว่าคนอื่นๆในเรื่องของตัวโรค และการจะทำให้ตัวเองมีความรู้ที่ทันสมัยอยู่เสมอนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
เช่นนี้แล้ว การเรียนพาไม่ใช่เรื่องสบาย และไม่ใช่เรื่องสนุกของคนรักสบาย แต่ผมขอยืนยันว่าอาชีพพยาธิแพทย์นั้นมีเกียรติอย่างยิ่ง สำคัญอย่างยิ่ง และสนุกอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักและชอบงานด้านนี้ เพียงแต่ว่าในหลักสูตรการเรียนการสอนของคณะแพทย์ในปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีการให้นิสิต นักศึกษาแพทย์ได้สัมผัสการทำงานของพยาธิแพทย์เลยแม้แต่นิดเดียว!!!
เวลาที่นิสิต นักศึกษาแพทย์ได้พบกับอาจารย์ก็คือในชั่วโมงเรียน ส่วนในชั่วโมงปฏิบัติการนั้น ไม่ได้เข้าใกล้งานของพยาธิแพทย์เอาเสียเลย การนั่งดูชิ้นเนื้อในกล่องพลาสติกใสๆ ไม่ได้สื่ออะไรถึงการตัดเนื้อ ขุดคุ้ยหาต่อมน้ำเหลือง หรือผจญกับสารพัดสารคัดหลั่ง หรือการทำเคส Autopsy (ผ่าศพ) แม้แต่การดูสไลด์ ซึ่งในการเรียนการสอนนั้นเป็นการดูให้ได้คำวินิจฉัย อันเป็นเพียงกระผีกหนึ่งของการทำงานในทุกวันนี้ จะมีใครรู้ไหมว่าเราประเมิน Grade (ความรุนแรง) ของเนื้องอกด้วยปัจจัยอะไรบ้าง เราดูขอบของเนื้องอก (Margin) อย่างไร แต่ละเรื่องแต่ละรายละเอียด
ไม่ เคย มี ใคร รู้ กลายเป็นว่า มาเรียนพาโธกันเพราะอยากสบาย มันคงง่ายดี แค่นั่งดูสไลด์แล้วก็กลับบ้าน สุดท้าย เมื่อไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด ก็ลาออก ในความคิดเห็นของผม ถ้าคนที่อยากมาเรียนพาโธจริงๆจังๆ แค่งานเขียนแค่นี้ คงหยุดเขาไม่ได้ ที่ผ่านมามีแต่ "คนที่อ่านบล็อกนี้แล้วอยากเป็นหมอพาโธ" อย่างน้อยๆ ก็สามสี่คน และเรียนอยู่ที่เดียวกับผมสองคน ผมแน่ใจ และเชื่อสิ่งที่ผมเขียน ไม่ได้ทำให้คนอ่านไม่อยากเรียนพยาธิวิทยา แต่ในเมื่อมีคนคิดแบบนั้น และมีความไม่สบายใจเกิดขึ้น ผมก็ต้องทำอะไรสักอย่าง
ผมคงไม่เลิกเขียน ถ้าผมเลิกเขียน ก็จะไม่มีทางที่ใครๆจะได้รู้ว่าแพทย์เฉพาะทางสาขานี้นั้นมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสำคัญ ทำงานหนักและมีความยากลำบากไม่น้อยไปกว่าแพทย์เฉพาะทางสาขาอื่นๆ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า การที่คนเราจะทำให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองมีเกียรตินั้น จะต้องพูดความจริง เปิดเผยความจริง ไม่ใช่เผยแพร่แต่ส่วนดี การที่เราทำแบบนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกหก และเมื่อเราปกป้องสิ่งใดก็ตามมากเกินไป แทนที่จะทำให้มันดำรงคงอยู่ กลับกลายเป็นว่าจะเป็นการทำลายสิ่งนั้นลงเสียเอง เหมือนพ่อแม่ที่รักลูกมากเกินไปจนลูกเสียผู้เสียคน
ผมทำในสิ่งที่ผมเชื่อ และเชื่อในสิ่งที่ผมทำ ถ้าจะห้ามไม่ให้ผมทำ ก็ห้ามไม่ให้ผมหายใจก็แล้วกัน
ปล. เพื่อความสบายใจของผู้เขียนเอง หลังจากสิ้นเดือนนี้ผมจะทำการล็อกบล็อก "Resident ไส้แห้ง" เอาไว้ หากท่านใดมีความประสงคือยากอ่านต่อ สำหรับสมาชิกให้แจ้งความประสงค์ใน comment ผมจะหลังไมค์ส่ง password ไปให้ ส่วนผู้อ่านท่านอื่นๆช่วยทิ้งอีเมล์เอาไว้ ผมจะตามส่งให้ทุกท่านแน่นอนครับ
กูอยากเขียน กูก็เขียน ไอติม
Create Date : 15 ตุลาคม 2553 |
|
18 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2553 18:59:09 น. |
Counter : 4038 Pageviews. |
|
|
|
ศิษย์พี่ ข้าน้อยขอคารวะ..