ให้ปากกามันพาไป ให้หัวใจมันขีดเขียน
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
20 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
พาโธ คืออะไร

พาโธ, พาโถ, ปาโธ, ปาโถ (Patho) นั้น ย่อมาจากคำลาตินที่ว่า Pathology อันมาจากรากศัพท์สองตัวคือ Pathos อันแปลว่า ความทุกข์ทรมาน กับ Logos อันแปลว่าวิชา Pathology จึงมีความหมายว่าวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับความทุกข์ทรมาน ดังนั้น การเรียนการสอนวิชานี้จึงเป็นการเรียนการสอนเชิงประจักษ์ก็คือทำให้ผู้เรียนนั้น “ทุกข์ทรมาน” อันจะนำไปสู่การเข้าใจวิชานี้อย่างลึกซึ้งถ่องแท้ และคำว่า Pathologist จึงหมายถึง “ผู้ที่ต้องทนทุกทรมานจากการศึกษาวิชา”

เราจะแปลดีๆกันได้หรือยัง?

ครับ ความทุกทรมานอันนี้ ก็คือโรคภัยไข้เจ็บและความผิดปกติต่างๆของร่างกายนั่นเอง ทางราชบัณฑิตได้บัญญัติศัพท์ภาษาไทยเอาไว้ว่า Pathos = พยาธิ [อ่านว่า พะ-ยา-ทิ] เป็นคำนาม แปลว่าความเจ็บไข้ ดังนั้น Pathology หรือพยาธิวิทยาก็คือวิชาว่าด้วยการศึกษาโรคและภาวะผิดปกติต่างๆนั่นเอง ถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะสงสัย อ้าว! แล้วหมอทั่วไปเค้าไม่ได้เรียนเรื่องพวกนี้เรอะ ถ้าหมอไม่ได้รู้จักโรคต่างๆ แล้วมันมารักษาโรคได้ไงฟะ

คำตอบก็คือ เรียนครับ หมอทุกคนต้องเรียนรู้พยาธิวิทยาเบื้องต้น คือเรื่องกำเนิดของโรคต่างๆมาแล้วอย่างคร่าวๆทั้งนั้น แต่ว่า..วิชทุกอย่างก็ล้วนมีความลี้ลับในตัวของมัน พยาธิวิทยาเอง มันก็ไม่ได้ง่ายๆแค่ติดเชื้อแล้วเป็นหวัดเพียงเท่านั้นมันยังมีอะไรอีกมากมายหลายอย่างซ่อนอยู่ตรงนั้น

ว่าแต่ หมอพยาธิหรือว่าหมอ patho นี่เค้าทำอะไรกันล่ะ ส่องพยาธิหรือ? อันนี้ผมขอโบ้ยความผิดให้กับ...อะไรดีล่ะ คำว่าพยาธิ (พะ-ยา-ธิ) กับ พยาธิ (พะ-ยาด) เป็นคำพ้องรูปครับ อันแรกผมแปลไว้แล้ว อันที่สองผมคงไม่ต้องแปล คิดว่าทุกคนคงนึกถึงหนอนกระดื้บๆที่เป็นปรสิตในท้องเราออก ดังนั้น หมอพยาธิส่องพยาธิไหม คำตอบคือส่อง ก็ในเมื่อพยาธิมันก็คือโรคภัยไข้เจ็บชนิดหนึ่ง เราซึ่งเป็นผู้ศึกษาโรคภัยครอบจักรมาลอย่างนี้ ย่อมต้องศึกษามันด้วยเป็นธรรมดา แต่งานของเราไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านั้น

พยาธิวิทยาในประเทศไทย แบ่งออกเป็นสามแขนงใหญ่ๆ (ตามการแบ่งของไอติม) คือพยาธิวิทยากายวิภาค หรือสิ่งที่ไอติมกำลังจะเรียนและได้รู้จักกันต่อไป พยาธิวิทยาคลินิก คือวิชาว่าด้วยการวินิจฉัยจากสิ่งส่งตรวจ (เลือด ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย อะไรก็ได้ที่เก็บส่งแล็บได้) และพยาธินิติเวช คืองานของแพทย์หญิงคุณหญิงคนดังนั่นเอง สำหรับคำว่าหมอพาโธ โดยทั่วไปจะหมายถึงคุณหมอที่เรียนทางพยาธิวิทยากายวิภาค และที่สำคัญ ไม่ว่าจะพยาธิแพทย์แขนงใด ประเทศเราก็มีไม่พอเพียงทั้งสิ้น

แล้วคุณหมอพาโธ วันๆทำไรกัน? ยังไม่เห็นจะตอบเลย
ใจเย็นๆสิ จะบอกอยู่นี่แล้ว ในเมื่อเรียนมาเรื่องโรคต่างๆ สาเหตุของมัน อาการที่แสดงออก ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเกิดเป็นโรคขึ้น ก็เลยมีหน้าที่หลักๆในการ “วินิจฉัยโรค” หน้าที่ของเราก็ไม่มีอะไรมาก นั่งรอนอนรอให้คุณหมอแผนกอื่นๆ ตัดโน่นตัดนี่ ดูดนั่นดูดนี่ หรือแม้แต่ป้ายนั่นป้ายนี่ส่งมาให้เราตรวจ เราก็เอามาเมียงๆมองๆชิ้นเนื้อ ถ้ามันใหญนักก็สับๆๆๆให้มันเล็กลง ถ้ามันเล็กอยู่แล้วหรือป้ายมาดูดูดมาก็ไม่ต้องสับ เอาไปทำสไลด์แล้วก็มาส่องๆดู พร้อมกับเขียนคำวินิจฉัยไปให้ ซึ่งคำวินิจฉัยของเรา เปรียบได้กับคำตัดสินของศาลฎีกา เป็นคน “ฟันธง” ว่าตกลงผู้ป่วยรายนี้เป็นอะไรแน่ มะเร็งหรือไม่ใช่มะเร็ง คำวินิจฉัยของพาโธถือเป็นที่สุด (โดยปกตินะ)

งานอีกอย่างหนึ่งก็คือ งานชันสูตรศพ เราไม่ได้แย่งงานแพทย์หญิงคุณหญิงมาทำ เพราะว่างานผ่าศพของเราไม่ใช่ผ่าศพที่เป็นคดีความหรือสงสัยฆาตกรรม แต่เราผ่าศพที่สงสัยว่า “มันเป็นโรคอะไรตายหว่า” เพื่อที่จะไปบอกหมอคนอื่นๆว่า อ๋อ คนนี้อะ มันเป็นโรคอันนี้ตายนะ เพื่อที่เราจะได้เก็บไว้เป็นความรู้และใช้ในการรักษาผู้ป่วยคนอื่นๆที่มีลักษณะอาการคล้ายๆกันต่อไป (เขาถึงบอกว่า หมอยิ่งทำ เอ่อ..หมายถึง ยิ่งเห็นคนตายมาก ก็จะยิ่งเก่งขึ้น)

งานสุดท้าย คืองาน Support ด้านวิชาการให้แผนกอื่นๆ เช่น อยากได้รูปมะเร็งอันนี้ขอคนนั้น รูปผ่าศพของคนนี้ อยากให้ตรวจเนื้ออันนี้ ย้อมพิเศษให้หน่อย เคสนี้ไม่รู้เป็นอะไรตาย มาผ่าหน่อยนะ ผ่าแล้วเอาผลมาบอกกันด้วยนะหรือแบบว่า ไอ้โรคนี้มันโรคอะไรไม่รู้จัก ไปถามพาโธดีกว่า

งานของเรา อยู่เบื้องหลังของเบื้องหลังอีกที นิติเวชยังได้ขึ้นศาล ได้ตรวจเคสคดีทำร้ายร่างกายคนเป็นๆ ดมยายังได้คุยกับคนไข้ก่อนดมยา แต่พาโธ คนไข้เรามาเป็นชิ้นๆไม่งั้นก็ตายแล้ว เราไม่เคยมีคนไข้เป็นๆ ญาติผู้ป่วยเราก็ไม่คุยด้วย เราพูดจากับคนอื่นไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ขนาดสื่อสารกับหมอด้วยกันยังไม่ค่อยดีเลย อาจารย์บอกว่าคนอื่นปิดทองหลังพระ แต่เรา ปิดทองใต้ตูดพระ คือยกพระขึ้นมาปิดทองที่ฐานพระแล้ววางกลับลงไป สิ่งที่เราทำ ไม่เคยมีคนไข้คนไหนรับรู้ หมอบางคนที่ส่งตัวอย่างมาให้เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราชื่ออะไร

ไม่เคยมีใครคิดถึงเรา ไม่เคยมีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเรามีตัวตนอยู่จริงๆหรือเปล่า ปีใหม่กระเช้าของขวัญเต็ม OPD แต่จะมีคนไข้ซักที่คน ที่เอ่ยถาม “หมอ..หมอพาโธคนที่ดูผลก้อนเนื้อให้ผมน่ะ ชื่ออะไร”

แต่พยาธิแพทย์ก็ยังคงยิ้ม และรักงานที่เขาทำ



Create Date : 20 พฤษภาคม 2552
Last Update : 20 พฤษภาคม 2552 0:32:38 น. 7 comments
Counter : 11160 Pageviews.

 


สวัสดีคะ แวะมาทักทาย มีความสุขในวันทำงาน หน้าฝนแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: หน่อยอิง วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:04:23 น.  

 
ถูกต้อง

ทำเพื่อให้ มิใช่ได้จึงต้องทำ

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:31:00 น.  

 
ทำไมเราลำบากเหมือนกันแบบนี้ล่ะป๊า


เฮ้อออ ....

ลำบากแบบนี้น่าจะมีมามี๊เดนท์ศัลย์มาดูแล

ลูกสาวป่วยบ่อยๆเอาเดนท์ Med ดีไหมน้า

เมื่อไหร่ป๋าจะใจดีเดินไปเซอร์เวย์หาแม่ทั่วศิริราชน้า


โดย: Play Losz วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:18:57 น.  

 
กินพยาธิ หรือเปล่า
++

ได้ความรู้ดีมากๆเลยคะ อิอิ


โดย: โยปทุม (yopathum ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:18:53 น.  

 
ตอนจบคล้ายๆจะน้อยใจ
แต่ยังไงก็คือความดีของเรา
เอาน่าเดี๋ยวพี่คนหนึ่งจะยกย่องว่านายแพทย์ไอติมวินิจฉัยโรคให้
แต่ถ้าให้ดี อย่ามาวินิจฉัยให้กันดีกว่าเนอะ
ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงไหม
แต่ถ้าไม่มีโรคหมอก็ไม่มีงานทำอีก


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 20 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:19:44 น.  

 
เขยนดีนะน่าเขียนลงหนังสือ


โดย: ฟ้าใส IP: 124.120.168.215 วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:41:09 น.  

 
แล้วถ้ามีแฟนเป็นหมอ พาโธ ควรทำใจเหมือนหมอคนอื่นมั้ยครับ


โดย: Bell IP: 27.145.175.111 วันที่: 31 ธันวาคม 2560 เวลา:14:50:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน
ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี
ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี
ดูอีกทีดู"................"

เติมเองตามใจชอบเลยครับ
Friends' blogs
[Add คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.