เมื่ออกหักจาก ออแพร์เเดนโคนม เดนมาร์ก
จากที่เกิ่นๆไว้ตอนสมัครเอเจนเพื่อตามฝันไปเป็นออแพร์เมกา แต่พอทำเอกสารใกล้เสร็จโรคขี้เกียจกำเริบ ทิ้งไว้จนไม่คิดว่าจะทำแล้วจนใบสมัครหมดอายุไป บวกกับเรียนจบต้องอยู่กับปัจจุบันก่อนหางานทำเลี้ยงปากท้องก่อนหลังจากผานพ่อแม่มานานตอนเรียน จะนั่งรอ นอนรอ เมื่อไหร่จะได้มาเมืองนอกก็ไม่ได้เพราะเป็นแค่ลูกชาวไร่ชาวนาที่ทำงานหนักเพื่อส่งเสียควายแบบเราเรียนจนจบเอากระดาษที่เรียกว่า ใบปริญญา มาตั้งโชว์ไว้ในตู้ ระหว่างนั้นก็หาโฮสเองตามเว็ป แต่หาโฮสแถบสแกนดิเนเวีย ฝั่งยุโรปนั่นแหลนะ นอเวย์ สวีเดน เดนมาร์ก เยอรมัน ฮอนแลนด์เพราะไม่อยากผ่านเอเจซี่แล้วเบื่อทำเอกสารยุ่งยากเพราะจากการศึกษามานานหลายปีจนแถบจะรู้หมดทุกอย่างแถมมีให้คำปรึกษากะเพื่อนๆน้องๆได้ทุกคนจนเค้าได้โฮสไปไหนต่อไหนกันแล้ว จำได้ช่วงนั้นใกล้สิ้นปีไม่กี่เดือนหาโฮสที่เดนมาร์ก โฮสน่ารักมาก โฮสแม่เป็นพยาบาล โฮสพ่อเป็นช่างไม้ ต้องไปดูแล สามหนุ่มเนื้อทอง ก็ตกลงปลงใจ และเรื่องต่างๆก่อนจะไปใช้ชีวิตร่วมกันฉันออแพร์และโฮส ฮ่าๆๆต้องใช้คำนี้เพราะเราต้องไปนอน กิน เลี้ยงลูกเค้า อยู่บ้านเค้าเป็นปีๆเราต้องพูดคุยตกลง และบอกทั้งข้อดี ข้อเสียของเรา และโฮสต่อกันจะได้ไม่มีปัญหาเมื่อเราอยู่ร่วมกัน เช่นการเลือกสามีก็ไม่ปานฮ่าๆๆแต่อันหลังไม่มีหลงทามาให้เลือกเอิกๆๆ ดำเนินการเรื่องเอกสารเองเสร็จ สัมภาษณ์วีซ่าเสร็จทุกอย่าง และหลังจากนั้นต้องรอผลวีซ่าประมาณสองเดือน ตื่นเต้น นั่งรอโทรศัพท์ทางสถานทูตทุกวัน ทั้งเราและโฮส และระหว่างดำเนินเรื่องเราออกจากงานเพราะไม่มีกระใจคิดเรื่องไรอีกแล้วพร้อมกับต้องไปติดต่อเอกสารต่างๆ ลางานบ่อยคงไม่ดีแน่ออกมันซะเลย บอกโฮสตอนนี้ไอเป็นบุคคลว่างงานแล้วนะเพราะใจฉันมันไปรอตัวฉันที่บ้านคุณแล้วฮ่าๆ ด้วยความน่ารักของโฮสเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ส่งเมลล์มาบอก เบญฉันโอนเงินให้เธอเพิ่มจากค่าดำเนินเรื่องวีซ่านะเพราะตอนนี้เธอไม่ได้ทำงาน เธอจะได้มีเงินใช้ระหว่างรอวีซ่าบินมาเดนมาร์ก และไม่ใช่เงินเดือนล่วงหน้านะฉันจะไม่หักเงินเธอเมื่อมาถึงเป็นน้ำใจที่เธอมาช่วยดูแลลูกฉัน โอ้ยจะเหลือหรอคะ นางกระเหรี่ยงถึงกับตื้นตันในน้ำใจโฮสที่เดียว โฮสแม่ชื่อมาเรีย เธออายุห่างเราไม่มากประมาณสิบปีได้ เราขอบคุณมาเรียในน้ำใจและถามเธอว่า เธอมั่นใจในตัวฉันหรอไม่กลัวฉันเอาเงินเธอแล้วไม่ไปทำงานให้เธอหรอ มาเรียบอกเราคำเดียวฉันมั่นใจในตัวเธอเบญเพราะเธอจะมาเป็นน้องสาวฉันเร็วๆนี้ และเธอจะเป็นสมาชิกใหม่และคนในครอบครัวฉันไม่ใช่ลูกจ้าง ระหว่างรอผลวีซ่า มาเรียก็บอกตอนนี้ทำห้องให้เราใหม่ ชอบอะไร อยากได้อะไรให้บอก มาเรียยังถามไซร์เสื้อผ้า รองเท้าสำหรับน่าหนาวเพราะเราจะไปถึงที่นั่นน่าหนาวนางจะเตรียมหาซื้อไว้ให้ และสองเดือนกว่าเราก็ได้รับโทรศัพท์ให้นัดไปรับผลวีซ่า เช้าวันรุ่งขึ้นเข้ากทม.เพื่อรับผลวีซ่า เจ้าหน้าที่ยื่นซองให้เปิดอ่าน น้ำตาถึงกลับล่วงเราโดนปฏิเสธวีซ่า สถานทูตให้เหตุผลภาษายังไม่ขั้นเทพเพราะเดนมาร์กไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่คนที่นั้นก็พอเข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษกันบ้างดังนั้นเราจึงจำเป็นภาษาอังกฤษขั้นเทพ อยากจะบ้าหลังอ่านจดหมายจบ ก็บอกคุณไปแล้วนะเหตุผลตอนสัมภาษณ์ทำไมอยากไปเป็นออแพร์เดนมาร์ก ฉันจะไปพัฒนาภาษาและเรียนรู้ภาษาบ้านเกิดคุณนะคุณท่านทูต กลับถึงบ้านโทรหาแม่ร้องไห้ ส่งเมลล์ไปขอโทษโฮส มาเรียถึงกะโมโหสถานทูตและโทรไปต่อว่าไม่แฟร์กะนางและเราเลยต้องเสียทั้งเงินทั้วเวลาทำเอกสาร แต่เมื่อคำสั่งอนุมัติออกมาแล้วสถาณทูตก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก แนะนำเพียงว่าลองรออีกสักหกเดือนทำเรื่องขอใหม่ และเราก็รู้ว่ามันไม่ประโยชน์เพราะเรารู้อยู่แล้วการขอใหม่หลังจากโดนปฏิเสธมาแล้วรอบแรก รอบต่อไปก็คงจะยากที่จะผ่าน เราเสียใจมาก รวมทั้งโฮส แต่ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป เราบอกมารียขอโทษที่ไม่สามารถไปช่วยเธอได้ มาเรียบอกไม่ใช่ความผิดของเธอเบญ เราบอกจากนี้จะหางานทำและคืนเงินเธอที่โอนมาให้เราใช้ตอนรอผลวีซ่า แต่มาเรียปฏิเสธไม่รับคืน เธอเต็มใจช่วยเหลือเรา และเราถามเธอจะหาคนใหม่มัยจะช่วยหา มาเรียบอกว่าไม่แล้วหละเธอจะลองพยายามเลี้ยงลูกเอง นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมาให้เราได้พบเจอมิตรภาพและเพื่อนใหม่ที่ดีๆแบบ มาเรียก็ได้ ทุกวันนี้เมื่อมีโอกาสเราก็พูดคุยถามสาระทุกข์สุกดิบไม่ขาดทางเฟรส....ล้มหนึ่งครั้ง ก็เป็นบทเรียนให้เรารู้ว่าก้าวต่อไปจะเดินยังงัยไม่ให้ล้ม .. ...ใครท้อก็พักสักหน่อยเพิ่มพลัง แต่อย่าถอยทิ้งความฝันตัวเองนะคะ โอกาสไม่ได้มีให้กับคนที่ได้แต่นั่งรอโดยที่ไม่ลงมือทำก่อนนะคะ...เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคน
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2555 |
|
3 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2556 6:21:21 น. |
Counter : 1774 Pageviews. |
|
|
|