Bloggang.com : หนูลีลี : Give Up Tomorrow เรื่องจริงของแพะ ที่ความยุติธรรมยังเข้าไม่ถึง กม.นิรโทษกรรมไม่เคยช่วยผู้ที่บริสุทธิ

Give Up Tomorrow เรื่องจริงของแพะ ที่ความยุติธรรมยังเข้าไม่ถึง กม.นิรโทษกรรมไม่เคยช่วยผู้ที่บริสุทธิ

จริง ๆ ดูเรื่องนี้มาได้ซักพักแล้วล่ะ
เป็นหนังที่องค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จึงได้จัดภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Give Up Tomorrow”
เป็นเรื่องของการจับแพะในฟิลิปินส์ ที่ดูแล้วก็หดหู่พอ ๆ กับแพะในเมืองไทยและทั่วโลก
หนังสร้างจากเรื่องจริง และถ่ายจากเหตุการณ์จริง เลยไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสารคดีหรือหนังดี

เรื่องมันเกิดขึ้นมาว่า
เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มีเหตุฆาตรกรรมข่มขืนยับ 2 สาวพี่น้องแล้วโดนโยนลงจากหน้าผาที่เกาะเซบูทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
เป็นคดีสะเทือนขวัญมากในสมัยนั้น คือสมัยมประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตราดา
ผู้คนในฟิลิปินส์ก็ต่างให้ความสนใจและเรียกร้องให้ตำรวจเร่งหาเหล่าฆาตกรมาลงโทษให้เร็วที่สุด
แล้วตัวเอกของเรา คือ ปาโก้ก็ถูกจับ
ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรนี้เลยเพราะตอนนั้นเข้ากำลังเรียนทำอาหารกับเพื่อนที่มะนิลา ซึ่งอยู่ห่างจากเซบูไป 600 กิโล
ด้วยความที่เขาเป็นลูกครึ่งสเปน-ฟิลิปินส์ ซึ่งมีนามสกุลที่เก่าแก่
แม่จึงอยากให้เขาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตระกูลด้วยการบินไปให้การต่อศาลที่เซบู
ซึ่งในความจริงแล้ว ณ ขนะนั้น เขาสามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพักอยู่กับญาติที่สเปนหรืออเมริกาก็ได้
แต่เขาก็เชื่อแม่ที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและตระกูล
เมื่อไปถึงที่เซบู เขาถูกจับตัวเข้าคุกทันทีพร้อมกับคนรุ่นราวคราวเดียวกับเขาอีก 6 คน
แล้วตำรวจนำพวกเขามาแถลงการจับกุม ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และปิดคดีให้จำคุกตลอดชีวิต

ผู้คนต่างประนามและเรียกร้องให้มีการประหารชีวิต 7 ฆาตกรผู้โหดเหี้ยมนี้
โดยไม่ได้มีใครสนใจเลยว่าพวกเขาทำจริงรึเปล่า
ตลอดเวลาที่คดียืดเยื้อเป็น 10 ปี
ครอบครัวของปาโก้เจ็บปวดมาก
พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ศาลเห็นว่าลูกชายของเขาไม่ได้ทำ
ทั้งเอาภาพยืนยันว่าเวลานั้น เขาอยู่กับเพื่อน ๆ รวมทั้งคุณครูที่มะนิลา แถมมีภาพร่วมกับเพื่อน ๆ ตอนไปปาร์ตี้
แต่ศาลก็ไม่ฟัง หาว่าเป็นรูปตัดต่อ

ทุกครั้งที่ขึ้นศาล ก็เหมือนว่าศาลไม่ได้ให้ความสนใจกับคำให้การของปาโก้และครอบครัวรวมถึงพยานของเขาเลยแม้แต่น้อย
อีกทั้งไม่มีใครให้ประเด็นของครอบครัวของ 2 พี่น้องผู้ตาย
ซึ่งมีเรื่องเกี่ยวพันไม่ลงรอยกับนักการเมืองและยาเสพติดเพียงไม่กี่วันก่อนที่ลูกสาว 2 คนของตนจะเสียชีวิต
แล้วระหว่างนั้นหลายปีที่ขึ้นศาลนั้นเต็มไปด้วยความพยายามและความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าดังที่ได้สัมผัสในสารคดี

แล้วจู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง
มาแสดงตัวว่าเป็น 1 ในคนที่โดนบังคับให้ขมขืนและฆ่า 2 สาวนั้น
เข้าคนนั้นสารภาพว่ารู้จักทั้ง 7 คนเป็นอย่างดี และได้ร่วมกันกระทำโดยเจตนา
ทั้งที่ทั้ง 7 คนนั้นไม่รู้จักไอ้คนนี้เลยซักคน
แล้วประวัติของไอ้คนนี้ก็มีคดีติดตัวมาเพียบจากอเมริกา
คือเรียกว่าอยู่ที่นั่นก็ตาย มาสารภาพที่ได้ก็ตาย ชีวิตมันไม่มีค่า
แต่มาป้ายความผิดให้แพะทั้ง 7 คนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แล้วสุดท้ายไอ้นี่ก็โดนปล่อยตัว เพราะสารภาพผิด ตลกมาก

แล้วแปลกมากตรงที่
แม่ของ 2 พี่น้องผู้ตาย กลับเลี้ยงดูปูเสื่อไอ้นี่เป็นอย่างดี
เป็นเรา
ถ้าเขาข่มขืนและฆ่าลูกสาวเรา เราจะยังญาติดีกับมันอยู่มั้ย

แล้วเรื่องราวก็เดินถึง ศาลสูงสุดมีคำสั่งให้ประหารชีวิตทั้ง 7 คน
แล้วหลังจากคดีเสร็จสิ้น
ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ทนาย ศาล ได้รับการเลื่อนตำแหน่งทุกคน
สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวของทั้ง 7 คนเป็นอย่างมาก
แต่สารคดีนี้จะโฟกัสไปที่ปาโก้
ซึ่งเราจะได้เห็นความเจ็บปวดของทุกคนทั้งตัวเขาเอง พ่อ แม่ พี่ น้องที่รู้ว่าเขาบริสุทธิ์
ชีวิตในคุกที่เค้าติดกล้องไปแอบถ่ายก็บัดซบมาก
สกปรกและแออัดสุด ๆ รู้สึกว่าจะมีนักโทษเกิน 2-3 เท่าตัวของจำนวนนักโทษจะรับได้ที่เซบู
แล้วพวกเขายังโดนบังคับให้เลือกเข้ากลุ่ม และโดนบังคับให้สัก
สกปรกมาก บางคนก็ติดเชื้อ โอ๊ย ดูไป หดหู่ไป

ด้วยความที่เขาเป็นลูกครึ่งสเปน
เขาเลยลองขอร้องให้ประชาชนสเปนช่วยเรื่องที่เขาเป็นแพะและต้องโดนประหารชีวิต
โดยที่เขาถ่ายคลิปและพูดเป็นภาษาสเปน
แล้วมีสื่อเข้ามาช่วยโปรโมทนิดหน่อย
มีการล่ารายชื่อร่วม 2 หมื่นรายชื่อของประชาชนชาวสเปนเพื่อให้ปล่อยตัวปาโก้
แล้วยื่นเรื่องกลับมาที่ประธานาธิบดีของฟิลิปินส์ซึ่งตอนนั้นเปลี่ยนเป็นกลอเรีย อาร์โรโย
กษัตริย์สเปนถึงกับเดินทางมาที่ฟิลิปินส์เกี่ยวกับเรื่องปาโก้เลยทีเดียว
แต่อาร์โรโยก็ทำอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากเป็นคำตัดสินของศาลสูงสุด
ทำได้เพียงยกเลิกการประหารชีวิตให้ช่วงเวลาดำรงตำแหน่งของตนเอง
ไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น

เรื่องราวที่เล่ามานี้ ยังหดหู่และเจ็บปวดไม่ได้ครึ่งนึงของรายละเอียดในหนังเรื่องนี้เลย
อยากรู้เรื่องราวมากกว่านี้ ลองไปหาหนังหรือสารคดีเรื่องนี้มาดูกันนะ
แล้วอย่างที่ปาโก้บอก ว่าถึงแม้จะมีความหวังน้อยขนาดไหน เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
เมื่อคิดถึงเรื่องยอมแพ้ ให้ยอมแพ้ในวันพรุ่งนี้ พอพรุ่งนี้มาถึงก็บอกว่าให้ยอมแพ้พรุ่งนี้
มันจึงเป็นที่มาของหนังเรื่องนี้ If I want to give up, I'll give up tomorrow.

Create Date : 01 ธันวาคม 2556

Last Update : 1 ธันวาคม 2556 17:50:09 น.

4 comments

Counter : 1862 Pageviews.