Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
11 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
Sukida หรือความเงียบ จะเป็นการบอกรักที่โรแมนติกที่สุด

เพิ่งดูหนังเรื่องนี้จบ



ชอบมากกกก

จริง ๆ ชอบตั้งแต่ยังไม่ดูแล้ว
เพราะชอบหนังประเภทนี้อยู่แล้ว
ไปอ่านรีวิวต่าง ๆ
มีแต่คนบอกว่าเป็นหนังที่เงียบมาก ตัวละครพูดกันน้อย
ซึ่งเป็นหนังที่เราชอบดูเลย
คือเราชอบดูหนังที่ต่างจากชีวิตจริงเราน่ะ
เพราะจริง ๆ แล้วเราเป็นคนพูดเยอะ
เลยชอบดูหนังที่ตรงกันข้ามกับชีวิตเรา

กว่าเราจะเลือกเวลาดูหนังเรื่องนี้ได้
ใช้เวลานานมาก
เพราะเราอยากดูตอนเราอยู่บ้านคนเดียวเงียบ ๆ
จะได้มีสมาธิในการดูหนังเงียบ ๆ
แล้วทีวีกับเครื่องเล่น DVD มันดันอยู่ตรงห้องนั่งเล่นเนี่ยสิ
กว่าเราจะหาเวลาดูตอนอยู่บ้านคนเดียวได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะป๊ากับม้าเราก็อยู่บ้านตลอด
มีวันนี้แหละที่เค้าออกไปซื้อของที่โลตัสกัน
เราเลยมีเวลาได้ดูหนังเรื่องนี้ซะที หลังจากซื้อมารอไว้นานแล้ว


Sukida เป็นหนังเงียบที่ดูแล้วไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย
เพราะถึงแม้จะบทพูดน้อย แต่ตัวละครเค้าแสดงเยอะนะ
เราสามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวละครโดยที่เค้าไม่ต้องพูดอะไรออกมา

ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นหนังรักวัยรุ่นม.ปลายที่เขินกันไป เขินกันมาทั้งเรื่องนะ
เพราะเท่านั้นเราก็ชอบแล้ว
แต่หนังแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ทั้งคู่อยู่ม.ปลาย กับอีก 17 ปีต่อมา



ตอนส่วนของตอนเป็นวัยรุ่นม.ปลาย
เราชอบฉากในหนังมากเลย
คาดว่าคงเป็นวัยรุ่นต่างจังหวัด
เลยได้เห็นความเขียวของหญ้าวันฝนพรำ
เห็นท้องฟ้าฉ่ำฝน
แล้วก็ได้เป็นลำธารใสไหนเอื่อย
แค่มองก็มีความสุขแล้ว







โทนสีของเรื่องจะเป็นสีหม่น ๆ ซะเกือบหมด
วันที่ท้องฟ้าไม่สดใส ไม่มีแดด ครื้มฟ้า ครื้มฝน แต่ก็สวยไปอีกแบบนะ
แต่เท่าที่เรารู้สึกได้
เวลาพูดถึงน้องสาว ท้องฟ้าจะไม่สดใส
แต่เวลาพูดถึงพี่สาว ท้องฟ้าจะสดใส มีแดด




ฉากที่ไม่มีบทพูดยาวนาน เราก็ไม่รู้สึกอึดอัดนะ
เรารู้สึกได้ถึงอณูของความเขิน แล้วต่างกันก็ต่างไม่พูดอะไรกันยาวนาน
มันกินใจเราดีจัง

แปลกเหมือนกันนะที่หนังทั้งเรื่อง
เราแทบจะไม่เห็นหน้าตรงของตัวละครเลยนะ
ส่วนใหญ่เราจะได้เห็นด้านข้างของทุกคนทั้งเรื่องเลย
แต่เรารู้สึกว่ามันอาร์ทดี




หนังมิเพียงแต่เงียบในบทพูดเท่านั้นนะ
แต่เงียบด้วยบรรยากาศด้วย
ซึ่งเราชอบจัง
ถ้าทั้ง 2 คนเงียบ แต่ฉากของทั้งคู่มันจอแจ วุ่นวาย หลายเสียง
เราก็ไม่รู้สึกดีเท่านี้

เราชอบนะ
ที่หนังบทพูดมันเงียบ
แล้วต้นหญ้า ท้องฟ้า หรือลำธารก็เงียบเป็นใจด้วย
แต่มีบางครั้งที่มีเสียงกีต้าร์ 1 ท่อนที่พระเอกของเราเล่นวนซ้ำไป ซ้ำมา เข้ามาเติมเต็มความเงียบ
ทำให้บรรยากาศมันไม่วังเวงเกินไปนัก
แต่ทำให้เราอิ่มเอมกับธรรมชาติตรงหน้าได้มากกว่าตัวละครที่มีบทพูดเยอะ ๆ








หรือตอนอีกพาร์ทนึงของหนังอีก 17 ปีถัดมา
ที่ทั้ง 2 คนได้คุยกันในห้องอันแสนจะเงียบ
เงียบจนกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจ
เราว่าบรรยากาศแบบนั้นมันทำให้เรากล้าจะพูดความในใจออกมากันได้เยอะนะ
แต่กว่าตัวละครจะพูดกันได้ซักประโยค
ก็ต้องคิดกันเนิ่นนานหน่อย ซึ่งเราก็ชอบอีกนั่นแหละที่จะคอยลุ้นและเฝ้าคอยว่าประโยคต่อไปจะเป็นอะไร
เพราะเราสามารถสัมผัสได้ว่า
กว่าแต่ละคนจะพูดอะไรออกมา
มันได้ผ่านกระบวนการคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะกลั่นมันออกมาเป็นคำพูด
เราเลยรู้สึกว่าไม่เสียเวลาเลยที่จะรอตั้งใจฟังในแต่ละประโยคพร้อมกับหน้าตาและท่าทางของตัวละคร





เราชอบนะที่ตอนเราโตเป็นผู้ใหญ่
แล้วได้มารำลึกถึงความหลังที่เรามีร่วมกัน
ได้มีท่อนเพลงที่ฟังร่วมกัน ที่รู้กันอยู่ 2 คน
ความรู้สึกสามารถต่อกันติดโดยที่ไม่ต้องคุยอะไรกันเยอะ

เหมือนที่พี่ก้อง ทรงกลด บางยี่ขันเคยบอกว่า
เวลาได้ยินเพลงใหม่ เราได้ยินเสียงเพลง
แต่เวลาได้ยินเพลงเก่า
เราได้ยินเสียงเพลงกับภาพอดีตตอนที่เราฟังเพลงนั้น


เราคิดว่าหนังเรื่องนี้จะนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ทั้งเรื่องนะ
แต่มันก็มีเหตุการณ์ให้เราไม่รู้สึกนิ่งจนเกินไปเหมือนกัน
เป็นอะไรนั้น คงต้องไปดูกันเอาเองนะ
หวังว่าเราคงไม่ได้สปอยล์หนังเรื่องนี้จนหมดสนุกนะ
เพียงแต่ที่เราเขียนเยอะ
เพราะเราชอบมันมากเท่านั้นเอง
แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น
หนังดี คือหนังที่เราชอบดู
ซึ่งมันอาจจะเป็นหนังที่น่าเบื่อของคนส่วนใหญ่ไปก็ได้
เพราะรสนิยมการดูหนังของเรามันไม่เหมือนคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว






เราชอบหนังเงียบ ๆ แบบนี้นะ
เรารู้สึว่าเราต้องใช้สมาธิมากกว่าหนังตลกทั่วไปซึ่งเป็นหนังที่เราคิดว่าต่อให้ได้ตั๋วมาฟรี เราก็จะไม่ไปดู
มันทำให้เรารู้ค่าของการเฝ้ารอคอย
ทำให้เราตั้งใจฟัง ฟังทิ้งสิ่งที่ตัวละครพูดและไม่ได้พูดออกมา
บางครั้งความเงียบ ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะไม่ได้บอกอะไรเรา
บางครั้งมันบอกได้ดีกว่าคำพูดซะอีก
แม้กว่าเราจะกลบเกลื่อนพูดอะไรไม่ตรงกับใจเราออกมา
แต่สายตา สีหน้า ท่าทาง มันหลอกกันไม่ได้
สิ่งเหล่านี้ตะโกนได้ดังกว่าคำพูดซะอีก

หรืออย่างที่พี่'ปราย พันแสง นักเขียนที่เราชอบ
เคยเขียนไว้ว่า

"ความเงียบ คือการบอกรักที่โรแมนติกที่สุด"

ดูหนังเรื่องนี้จบ
บอกได้คำเดียวแต่หลาย อ.อ่างว่า
อบอุ่น อิ่มอก อิ่มใจ มากมาย



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2557 10:16:06 น. 2 comments
Counter : 2533 Pageviews.

 
เรื่องนี้ได้อ่านรีวิวของหลายท่าน

แล้วก็อยากดูนะคะ อยากรู้ว่าหนังมันเงียบยังไง

และอยากรู้ด้วยว่า

"ความเงียบ คือการบอกรักที่โรแมนติกที่สุด" ยังไง


โดย: มะนาวเพคะ IP: 101.109.178.117 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:19:09:08 น.  

 
ถึงตอนนี้ ท่วงทำนองกีต้าร์อะคูสติกของพระเอกก็ยังคงอบอุ่นติดหูอยู่เลยค่ะ : )
ฉากที่ชอบเหมือนกันคงจะเป็นตอนที่ 17 ปีให้หลัง
ฉากที่นางเอกไปเทสเพลงที่บริษัทเดียวกันกับพระเอกน่ะค่ะ ...แค่เสียงอินโทรขึ้น ชอบที่นางเอกจำได้ก่อน แล้วทำทีเป็นดีด อินโทรอะคูสติกจังหวะที่ทั้งสองคน รับรู้กันได้เอง มันเป็นการทักทายที่แบบว่า แบบว่า
เนาะ
มันน่ารักอ่ะค่ะ (เชื่อว่าคุณลีลีก็คงพอนึกความรู้สึกออกนะคะ^^)



โดย: nobuta wo produce วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:10:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.