Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
Hanamizuki - May your love bloom for a hundred years

เพิ่งดูเรื่อง Hanamizuki จบ





ได้แต่บอกตัวเองว่า
ทำไมตอนนั้นไม่ไปดูในโรง
เพราะว่าภาพและแสงสวยมากกกก
สวยเกินกว่าจอทีวีที่บ้านจะเก็บและถ่ายทอดได้หมด










จริง ๆ ตอนนั้นที่มันเข้าโรงก็ไม่ได้ติดอะไรนะ
ติดแต่ว่าไม่มีคนไปดูเป็นเพื่อนก็เท่านั้นเอง
เพราะส่วนใหญ่หนังที่อยากดูมันก็เป็นหนังอินดี้
เข้าแต่โรงลิโด้กับ House RCA ทั้งหมด

แต่ก็นะ
ทำอย่างกะไม่เคยไปดูหนังคนเดียว
ก็ไปดูที่ลิโด้กับ House RCA คนเดียวบ้างประปราย
ถ้ามันแรงฮึดอยากดูหนังเรื่องนั้นจริง ๆ

เรื่องนี้
ตอนแรกก็จะไปดูนะ
เห็นตัวอย่างแล้วก็อยากไปดู
แต่อีกใจนึงก็...
มันดูเป็นหนังรักนักเรียนม.ปลายไปหน่อยรึเปล่าว้า
ดูแล้วมันจะเสียตังฟรีมั้ยเนี่ย
เพราะตั้งแต่ทำงานนะ
ดูหนังในโรงนับครั้งได้เลย
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นบริการที่แพงนะ
แล้วก็รู้สึกเสียดายตังกับหนังที่ไปดูในโรงหลายเรื่อง
หลัง ๆ ก็เลยรอเอาแล้วกัน
อีก 2-3 เดือนมันก็ออกแผ่นมา
ถ้าไม่รีบ
แทนที่จะเสียตังร้อย สองร้อย
ก็มาเสีย 20 บาทซื้อแผ่นมานอนผึ่งพุงดูอยู่บ้านก็ได้

เสียดายไม่ได้อ่านรีวิว
ถ้าอ่านคงได้พุ่งไปดูเลยล่ะ
เพราะยิ่งเป็นคนที่อินง่ายเวลาชาวบ้านบิ้วเรื่องหนังอยู่
แล้วถ้าเป็นหนังเอเชียโรงลิโด้นะ บิ้วง่ายมาก


สิ่งที่ประทับใจอันแรกของเรื่องก็คือ
พระเอกน่ารักม๊วกกก



จมูกโด๊ง โด่ง
เห็นหน้าแล้วเคลิ้มมาก
เอาใจไปเลยค่ะน้อง

พระรองก็น่ารักไม่แพ้กัน
ให้มันได้อย่างนี้สิ





หนังดำเนินเรื่องราวชีวิตของพระเอก นางเอกในช่วงเวลา 10 ปีไปอย่างรวดเร็ว
ระหกระเหินไปหลายประเทศ
แต่ก็มีหลายฉากที่เนิบช้า อบอุ่น สวยงาม
หนังก็แอบบีบคั้นเล็ก ๆ ในหลาย ๆ ฉากระหว่าง 10 ปีนั้น
ชีวิตบางคนมันก็ไม่ได้ราบเรียบไปซะหมดนี่เนอะ
มันก็จะมีหลุม มีบ่อ มีทางขรุขระให้เราแข็งแรงขึ้น เติบโตขึ้นบ้างตามปีที่ผันผ่านไป

หนังมีพูดถึงเรื่องโอกาส
อย่างที่แม่นางเอกบอกว่า
ชีวิตคนเรา เกิดและตายครั้งแรก
ดังนั้น ถ้าอยากทำอะไรก็อยากทำ

ทำให้นึกถึงคำว่า
"คาร์เพ เดียม"
แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า
"seize the day"
ภาษาไทยคงประมาณว่า
ให้คว้าวันนี้เอาไว้
คว้าโอกาสนี้ ช่วงเวลานี้เอาไว้
แล้วเราจะได้ไม่เสียใจกับสิ่งที่เราสามารถคว้าได้แต่เราไม่ได้คว้า ณ ขณะนั้น

เวลาเราอายุ 60
ย้อนคิดกลับมา
เราจะได้ไม่เสียใจกับช่วงเวลาอึมครึมนั้น
อย่างน้อยเราถ้าเราตัดสินใจตามใจตัวเอง
แก่ตัวไป
เราจะไม่ตั้งคำถามกับตัวเอง
ว่าถ้าวันนั้นเราทำมันลงไป ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไงนะ
เสียใจในสิ่งที่ทำ
ดีกว่าเสียใจในสิ่งที่ไม่ได้ทำ
เหมือนอย่างที่เราดูคลิปที่พี่เอ๋ นิ้วกลมไปพูดที่เกษตร คลิปนี้




ดูหนังเรื่องนี้แล้ว
ทำให้เรานึกถึงหนังฝรั่งเรื่อง A Lot Like Love




เป็นหนังฝรั่งเรื่องแรกที่เราดูเกิน 1 รอบ
ชอบนะ
หนังนำเสนอการดำเนินชีวิตตลอด 10 ปีของพระเอก นางเอกเหมือนกัน
แล้วก็พูดถึงโอกาสเหมือนกัน
เรายังจำประโยคนึงได้เลยที่พระเอกพูดว่า
"It could be nothing but I want to give it a try"
บางครั้งชีวิตมันก็ไม่ได้ลงล็อคกันในครั้งแรก






รักครั้งแรก
อาจจะไม่ได้ลงเอยกันเสมอ
แต่รักครั้งแรกมีอิทธิพลกับชีวิตของคนเราเสมอ

ไม่อย่างนั้นมันจะมีคำว่า "รักครั้งแรก" ทำไมกัน
ไม่เห็นมีคำว่า "รักครั้งที่สอง ครั้งที่สาม..." เลย
รักต่อจากนั้น มันก็เหมือนกันหมด





หนังเรื่องนี้
ทำให้เรารู้สึกดีกับคำว่า "Tadaima" หรือ "ฉันกลับมาแล้ว"
มันทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและมั่นคง
สิ้นสุดการรอคอย การตามหา การเดินทาง
รู้สึกว่าเค้าจะหยุดอยู่กับเรา เค้าจะไม่ไปไหนอีก
เพราะที่ ๆ ทำให้เรามีความสุขที่สุด คงหนีไม่พ้นบ้านเรา
บ้านที่เราอยู่นานที่สุดในชีวิต
บ้านที่มีเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน โตมาด้วยกันอยู่ที่นั่น

รู้สึกดีที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนบ้านเราอากาศเย็น ๆ
เพราะมันทำให้หัวใจอุ่น ๆ




Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 11:51:04 น. 4 comments
Counter : 1545 Pageviews.

 
รู้จักหนังเรื่องนี้เพราะพระเอกค่ะ
ส่วนตัวแล้วเราว่าหนังทั้งเรื่อง ไม่ค่อยมีจุดพีค
จุดซึ้งน้ำตาไหล(ตามคอนเซ็ปท์หนัง)เท่าไหร่

แต่พระเอกแสดงดีจริงๆค่ะ (ไม่ได้อวยนะ)
ให้ได้อารมณ์เด็กชนบทมาก ส่วนรองพระเอกก็ดีเช่นกัน

ส่วนนางเอก ยังไม่อินไม่ได้อารมณ์เลย
ไม่รู้เพราะเค้าไม่ค่อยแสดงหนังเลิฟๆหรือเปล่า


โดย: กิงกิง IP: 58.136.20.233 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:14:59:11 น.  

 
โทมะซัง ยูอิจัง เป็นการจับคู่ที่น่ารัก ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ แต่เชื่อว่าหนังภาพสวยแน่นอน


โดย: prysang วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:21:22:34 น.  

 
ขอรำลีกความหลังก่อน : )
เรื่องนี้ได้ไปดูในโรงค่ะ
ดูที่ลิโด
เราชอบลิโด ไม่สิ รักเลยล่ะ
ขอบคุณลิโดที่ยืนหยัดราคาตั๋ว 100 บาท อย่างเสมอต้นเสมอปลาย (อันนี้สำคัญที่สุด^^) และขอบคุณที่เอาหนังนอกกระแส และหนังในกระแสมาฉายอย่างต่อเนื่อง
เป็นโรงเดียวที่เดินเข้าไปดูคนเดียวได้อย่างไม่เก้อเขิน(เพราะส่วนมากก็มาคนเดียวกัน ฮ่าๆ:)

ฉากสวยมากค่ะ ยอมรับเลย
ดูในโรงเห็นอิคุตะตัวโตๆนี่ ก็ทำให้กระชุ่มกระชวยดีเหลือเกิน 555 มีอยู่ฉากหนึ่ง เป็นฉากเล็กๆ ค่ะ และก็ไม่ใช่ฉากหลักของพระเอกนางเอกด้วย แต่เป็นตอนที่

เพื่อนพระเอกเดินออกมาจุดบุหรี่สูบข้างนอก
ทั้งๆที่รู้ว่า ปล่อยให้พระเอกกับ ผู้หญิงที่ตัวเองรักอยู่ด้วยกันตามลำพัง
แบบตอนนั้นคิดว่า โหยยย คนนี้ยิ่งกว่าพระเอกอีกนะ
แบบ ได้ใจเรามากอ่ะค่ะ

เป็นฉากเล็กๆที่ชอบค่ะ



โดย: nobuta wo produce วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:22:37 น.  

 
แปะหัวใจให้นะคะ
โนบูตะว่ามันโตขึ้นนะ
^^


โดย: nobuta wo produce วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:25:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.