Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
หนังไต้หวันนอกกระแส Blue Cha Cha นิ่ง เนือย เอื่อย น้อยแต่มากมายและงดงาม

เพิ่งดูหนังเรื่อง Blue Cha Cha จบ
อินอีกแล้ว
จริง ๆ ไม่มีข้อมูลหนังเรื่องนี้เลย
ไม่นึกว่ามันจะเป็นหนังไต้หวันด้วยซ้ำ





หนังเรื่องนี้ปฏิวัติความเชื่อเกี่ยวกับหนังไต้หวันของเราเลยก็ว่าได้
แต่ก่อนเราจะคิดว่าหนังไต้หวันจะมีแต่หนังและซีรี่ย์ที่ตัวละคนจะเล่นเกินจริง การ์ตูน ๆ เพราะดูมากี่เรื่องก็เป็นแบบนี้หมด

จนมาได้เจอเรื่องนี้ที่ตกหลุมรักผู้กับกำคนนี้เลย


ข้อมูลของหนัง (ก๊อปเ้ค้ามา)

Blue Cha Cha (2005)
(บรรยายไทย)

กำกับ:Wen-Tang Cheng
สร้าง:Hao-Jie Huang, Chi-Yung Yang
เขียนบท:Ching-Feng, Wen-Tang Cheng
ดนตรี:Cincin Lee (as Xinyun Li)
ถ่ายภาพ:Cheung-Ying Lin
ตัดต่อ:Chen-Ching Lei
เวลา: 108 min
ประเทศ:Taiwan
ภาษา:Mandarin | Taiwanese
แนว:Drama | Romance
นักแสดง: Tarcy Su ... Ah Yu ,Yi-Ching Lu ... An-an


นี่คือหนังเอเชียคุณภาพอีกเรื่อง และเป็นตัวแทนของไต้หวันเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปี 2006 และยังคว้ารางวัลสบทบหญิงยอดเยี่ยมมาครองจาก Asia-Pacific Film Festival

Blue Cha Cha ผลงานการกำกับของ เฉิงเหว่นตัง(Somewhere Over the Dreamland) เรื่องของ อาหยู สาวที่ออกจากคุก และเพียงไม่นาน ความรักจากชายสองคนก็หายไปอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังเคว้งคว้าง เธอก็เดินทางไปหาอาอัน ที่เป็นเหมือนพี่ใหญ่ในคุก ซึ่งนำพาให้เธอปลดปล่อยความโศกเศร้าที่ท่าเรือด้วยการเต้นอย่างสุดเหวี่ยงเมื่อนั้นเธอจึงได้ค้นพบตัวเองอีกครั้ง หนังนำแสดงโดย ซู่ฮุ่ยหลุน นักร้องชื่อดังชาวไต้หวัน


ดารานำหญิงสองคนในหนังเรื่องนี้แสดงได้อย่างสุดยอดมากๆ ดูหนังเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังเกี่ยวกับผู้หญิงคลั่งรักเรื่อง FORGET ME (1994, NOEMIE LVOVSKY ) ที่นำแสดงโดย VALERIA BRUNI TEDESCHI ดูแล้วตัดสินไม่ได้ว่านางเอกหนังสองเรื่องนี้ ใครบ้ามากกว่ากัน ตัวละครของ VALERIA อาจจะระเบิดอารมณ์มากกว่า แต่ดูแล้วน่าไว้วางใจกว่า ในขณะที่ตัวละครนางเอกของ BLUE CHA-CHA ดูนิ่งเงียบซึมกระทือ แต่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจเป็นอย่างมาก

CHENG WEN-TANG เคยกำกับหนังเรื่อง SOMEWHERE OVER THE DREAMLAND (2002, B-) ที่ดิฉันรู้สึกว่า “พยายามอย่างมากที่จะเหงา” แต่ไม่ทำให้ดิฉันรู้สึกเหงาตามไปด้วย แต่พอเขามาทำ BLUE CHA-CHA ที่ใช้ตัวเอกเป็นสาวบ้ากับสาวแก่ ดิฉันกลับรู้สึกอินไปด้วยอย่างมากๆ หนังทั้งสองเรื่องนี้มีจุดเด่นที่บรรยากาศเหงาๆเศร้าๆเหมือนกัน

อายู่ (แสดงโดย Tracy Su) หญิงสาววัย 20เธอพ้นโทษออกมาและไปขอพักกับน้าอัน (แสดงโดย Lu Yi-Ching) ผู้ที่เคยสัญญาตั้งแต่อยู่ในคุกว่าจะดูแลเธอ

ยามฟ้าหลังฝนเริ่มสดใสเมื่อชาย 2 คน เข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอทั้งสองคนแรกคือนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เปี่ยมเสน่ห์ที่ใช้เงินเป็นเบี้ย
อีกหนึ่งคือหัวหน้าคนงานหนุ่มอนาคตไกลที่เคยบอกรักเธออย่างจริงใจ แต่แล้วความรักของพวกเขาทั้งสองก็ไม่ต่างอะไรกับฟองคลื่นที่สาดซัดชายฝั่ง...สั้นและหายวับในพริบตา

เมื่อจิตใจอันบอบช้ำของสองสาวต่างปลอบประโลมซึ่งกันและกันผ่านทางการเต้นรำชะชะช่า ริมฝั่งท่าเรือ ทั้งสองช่วยกันฟันฝ่าคลื่นชีวิตทั้งจากบาดแผลในอดีตและปัจจุบัน ด้วยหวังว่าจะพบความสุขล้ำในปลายทางชีวิตแสนขมขื่นนี้

ผลงานกำกับของ Cheng Wen-Tang ผู้กำกับไต้หวันรุ่นใหม่ถ่ายทอดอารมณ์เหงาของหญิงสาวสอง วัยผ่านทางภาษาภาพและดนตรีประกอบที่งดงามไต้หวันในมุมมองของผู้กำกับคือเมืองแสนซบเซา มีวิญญาณความเหงาแทรกอยู่ทุกซอกมุม แววตาความรานร้าวของหญิงทั้งสอง ส่งถึงความรู้สึกนั้นได้ดียิ่ง




Trailer ที่พอหาได้
ดูสิ ยังไม่มีบทพูดซักกะประโยคเลย





Blue Cha Cha (Shen hai)เป็นตัวแทนของไต้หวันเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในปี 2006

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังถึงได้ชิงหรือได้รับรางวัล
เพราะคงมีกรรมการที่ชอบดูหนังแนวเดียวกับเราสินะ

หนังมันเจ๋งมาก ตรงสเป๊กเราเลย
ที่บทพูดน้อยมาก แสดงอารมณ์เยอะ ลำดับภาพแบบค่อย ๆ ไหลไปเอื่อย ๆ โดยมีแค่เสียงดนตรีประกอบไปเรื่อย ๆ
เหมือนกับเรื่อง Waiting in the dark ที่เราอินมากและเวิ่นเว้อไปแล้วใน
บล็อคก่อนหน้านี้

ผู้กำกับจะถ่ายทอดแต่ละฉากค่อนข้างเนิบช้า นิ่ง เงียบ ละเมียดละไม เปลี่ยวเหงา หม่น ๆ แต่งดงาม

(ใครไม่ชอบหนังแนวนี้คงเบื่อและรำคาญแน่นอน พอ ๆ กับที่เรารำคาญ Inception หนังที่ทุกคนบอกว่าดีมาก เข้าไปดูกัน 2 รอบ 3 รอบ แต่เรารู้สึกว่าเราไม่ชอบหนังที่ยิงกันโป้ง ป้าง special effect เยอะ ๆ เกินจริงแบบนี้เลย เราแค่ชอบหนังที่เอามาจากชีวิตคนจริง ๆ ไม่ต้องมีเนื้อเรื่องที่เป็นคนรวยมารักกับคนจน แค่คนธรรมดา 2 คนมารักกันมันก็มีเรื่องให้เล่า ให้อินได้)

แต่หนังเรื่องนี้ก็ไม่น่าเบื่อซะทีเดียวนะสำหรับคนที่ไม่ชอบ
เพราะมีเสียงดนตรีคลอ ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครว่าเค้ามีความเหงามากมายขนาดไหน
ในหนังจะแทรกมาด้วยดนตรีจังหวะ Cha Cha Cha เพราะอาอันเป็นนักเต้น เต้นได้พริ้วมากแม้จะแก่แล้ว



ด้วยความที่นางเอกพูดน้อย
เราเลยรู้สึกว่านางเอกมีปมในใจเยอะ เข้าถึงยาก และรู้สึกได้ถึงความสับสนพร้อม ๆ กับความเหงาลึก ๆ ที่อยู่ในใจของนางเอก

หนังเปิดมาด้วยคุก
ก่อนที่นางเอกจะถูกปล่อยตัว
แล้วไปหาอาอัน

ด้วยความที่นางเอกเป็นคนสวย
เลยมีผู้ชายมาทำดีด้วย
ซึ่งคนแรกก็เป็นผู้ชายที่ไม่ได้จริงใจ
ใช้เงินเป็นเบี้ย




ซื้อนางเอกมาตอนที่นางเอกไปช่วยล้างแก้วที่บาร์ของอาอัน
ผู้ชายทำดีกับนางเอกมากในคืนนั้น
แล้วก็สัญญากับนางเอกว่าพรุ่งนี้จะกลับมาหา
แต่ก็ไม่มา
(เนื่อเรื่องมันก็คุ้นชินจะตาย เพราะมันเกิดกับผู้หญิงเยอะแยะมากมายทุกชาติ ทุกภาษา ไม่เห็นจำเป็นต้องเล่นกับ special effect ใด ๆ เราก็รู้สึกว่ามันเจ๋งแล้ว เฮ้อ ไอ้ถูกผู้ชายทิ้งนี่มันเรื่องธรรมดา ต้องทิ้งผู้ชายนี่สิ อาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่)

นางเอกก็ฝังใจกับรักครั้งแรก (หลังออกจากคุก)
ก็เฝ้าเพียรโทรหาผู้ชายคนนั้น
เห็นถึงความทุกข์จากการเฝ้ารอ
ทุกข์จากการกระทำที่รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตัวตน
ทุกข์การจากโดนตัดเยื่อใย
จนเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ระเบิดลงตอนเจอผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาขอให้อาอันช่วยเอาเธอออกห่างจากผู้ชายคนนั้น

คาดว่านางเอกคงไม่รู้วิธีจัดการอารมณ์กับโศกเศร้าเวลาถูกทิ้งของตัวเองเลยแสดงมันออกมาทั้งหมด
นางเอกคงยังไม่มีภูมิคุ้มใจมากพอที่จะเก็บอารมณ์เอาไว้

ก็อย่างว่า
รักครั้งแรกสำคัญสุด รักครั้งต่อไปก็เหมือน ๆ กันหมด
เห็นมั้ยว่ามันมีคำศัพท์สำหรับ "รักครั้งแรก"
หลังจากรักครั้งแรกแล้ว รักต่อไปก็เหมือนกันหมด

จนมาได้เจอกับรักอีกครั้ง
กับผู้ชายที่เหมือนจะดีกับเธอกว่าผู้ชายคนแรก









เธอถึงกับขอย้ายไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นในวันต่อมาหลังจากมีอะไรกัน
อาอันโกรธเธอมาก เขวี้ยงสิ่งของ ๆ เธอทุกอย่างออกมากองหน้าบ้าน
ผู้ชายก็อึ้งสิ
มันเร็วเกินไปรึเปล่าที่จะย้ายมาอยู่ด้วยกัน
ตอนแรกมันก็ดีล่ะนะ
ได้อยู่ด้วยกัน
แต่เดี๋ยวมันก็เบื่อ
ผู้ชายก็อยากไปเจอเพื่อนบ้าง
อยากมีเวลาอยู่คนเดียวบ้าง
เลยผลักไสนางเอกกลาย ๆ ว่าให้ออกไปหาเพื่อนบ้างมั้ย เดี๋ยวไปส่ง
อยากมีเวลาไป hang out กับเพื่อนหรือกลับไปหาอาบ้างมั้ย
แต่นางเอกก็ตอบว่าเค้าผิดเหรอที่อยากอยู่กับเค้า






นางเอกคงไม่เคยชินกับการอยู่คนเดียวไปแล้ว
เหมือนกับคำพูดสารภาพตอนกลับมาหาอาว่า

เค้าไม่รู้จะทำยังไงเวลามีคนมาทำดีด้วย
ไม่รู้จะปิด switch ในหัวยังไง (นางเอกต้องกินยาระงับ)
ไม่รู้ว่ามันลำบากขนาดนี้กับการอยู่กับใครซักคน

เพราะหลังจากโดนผู้ชายคนแรกทิ้งก็มีผู้ชายคนนี้เข้ามาพอดี
มันเลยอาจจะทำให้ผู้ชายคนนี้อึดอัด ไม่มีความเป็นส่วนตัว
ซึ่งคำขอโทษและน้ำตาของนางเอก มันไม่มีความหมายเลยกับผู้ชาย
แต่มันมีความหมายกับอาอัน คนที่เธอรักเหมือนคนในครอบครัว
ที่ยินดีที่จะให้อภัย และยินดีที่จะยกโทษให้กับเธอ
ซึ่งการยกโทษให้กัน ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเสมอไป
แค่เป็นคนแรกที่เราเห็นเวลาที่เราลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลก็คงเพียงพอแล้ว
การจับมือกัน มันสามารถมีพลังยิ่งใหญ่ที่ทำให้ความรู้สึกผิดในใจได้คลี่คลาย สิ่งที่หนักอึ้งอยู่ข้างในของคนทั้งสองได้หลุดออกไปบ้าง

หนังใช้แก้ว ที่นางเอกทำแตกตอนที่ถูกผู้ชายคนแรกทิ้ง
กับจาน ที่ทำแตกเมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังจะถูกผู้ชายคนที่สองทิ้ง
สื่อถึงความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างชาย-หญิงที่พร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อและไม่อาจจะประสานให้เหมือนเดิม


ความรักของชาย-หญิง
มันจะมีอะไรมากไปกว่าตกหลุมรัก บอกรัก หมดรัก แล้วก็ไม่รักกันแล้ว
แต่ความรักของคนที่รักเสมือนคนในครอบครัวมันคงแตกต่างจากนั้น
เราจะเห็นความสำคัญของคนในครอบครัวก็ต่อเมื่อเราเจอปัญหาหนัก ๆ เท่านั้น


แอบเอาบางตอนของหนังมาให้ดู
เป็นตอนที่นางเอกเพิ่งโดนผู้ชายคนแรกทิ้ง
แล้วมาได้งานใหม่ในโรงงานที่นี่ แล้วได้พบกับผู้ชายคนใหม่อีกคน
ถ้าไม่ชอบจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อมาดู หนังมันจะเอื่อย ๆ เงียบ ๆ แบบนี้แหละทั้งเรื่อง






เราชอบหนังแบบนี้จนไปหาดูสัมภาษณ์ผู้กำกับคนนี้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว







หนังจบลงด้วย location ทะเล
กับการตะโกนระบายความอัดอั้นตันใจทิ้งมันไปกับทะเล
ที่ซึ่งความกว้างใหญ่ เวิ้งว้าง สงบ สามารถเยียวยาแผลใจของทุกคนได้ดีพอ ๆ กับเวลา
ที่ ๆ สามารถทำให้คนรักและเข้าใจกันมากขึ้น





น้ำเค็มมันดีอย่างนี้นี่เอง
สังเกตมั้ยว่าน้ำอะไรที่เค็ม ๆ มันจะระบายและเยียวยาเราได้เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นน้ำตา เหงื่อ หรือทะเล






Create Date : 08 สิงหาคม 2553
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2557 10:38:08 น. 2 comments
Counter : 3734 Pageviews.

 
อ่านสำนวนคุณตั้งแต่เรื่องเที่ยวเกาหลีแล้วชอบ ขำๆดีนะคะ มาอ่านวิจารณ์หนังแล้วรู้สึกถึงอารมณ์ศิลปิน เขียนได้ดีค่ะ ชอบตรงที่ติดตามผู้กำกับขนาดนั้น แฟนตัวจริงเลย ทำให้คิดว่าจะไปหามาดูบ้าง

ได้ดู Il Mare ไหมคะ หนังอมตะของเกาหลี ท่าทางคล้ายๆกัน ในความซืมน่ะค่ะ Il Mare จะเป็นรักซึมลึก ประมาณนั้นมั้ง เพลง jazz ที่เป็นbackground ก็เห็นคนชื่นชมมาก

จะตามอ่านต่อนะคะ ขอบคุณที่มาเขียนให้อ่าน


โดย: granny IP: 183.89.92.26 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:20:40:15 น.  

 
อ่านแล้วมันคนละอารมณ์กันเลยเนอะ
ขนาดเวลาเราพิมพ์ เรายังรู้สึกถึงอารมณ์ที่แตกต่างกันของเราเลย

ดู Il Mare แล้วเหมือนกันค่ะ
ชอบเหมือนกัน
ยังชอบที่่ตัวละครบอกเลยว่า

"ความรัก เดินทางเข้ามาในชีวิตเราได้หลายรูปแบบ....แต่เหมือนกัน"

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

น่ารักจัง
มีการขอบคุณที่มาเขียนให้อ่านด้วย
ปลื้มซ้า... :)


โดย: ยัยลีลี วันที่: 11 สิงหาคม 2553 เวลา:21:51:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนูลีลี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 94 คน [?]




ไม่อินกับการเขียนบล็อคมาตั้งแต่บล็อคสุดท้ายปี 2561 แล้วค่า
Friends' blogs
[Add หนูลีลี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.