|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไทยร่วงคัดเลือกฟุตบอลโลก2014 : เหตุการณ์ที่ไม่ได้เหนือคาดหมายคล้ายผีกลับคืนหลุม
หลังผลการแข่งขันฟุตบอลรอบ๒๐ทีมสุดท้าย นัดสุดท้ายของเอเชียจบลง ผมก็เป็นไปตามคาดหมาย ทีมฟุตบอลชาติไทยตกรอบไปตามที่ควรจะเป็น และก็ได้สะท้อนถึงความเป็นฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นอย่างดี เพราะทำดีได้แค่นี้
จริงๆน่าจะเกินคาด เพราะความจริง ฟุตบอลทีมชาติไทยตกรอบตั้งแต่นัดรองสุดท้ายแล้ว แต่บังเอิญโอมานได้สร้างปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยการไปบุกเสมอซาอุดิอาระเบียทีมแกร่งแห่งเอเชียที่ตอนหลังฟอร์มตกด้วยสกอร์ ๐-๐ จึงทำใหความหวังทีมชาติไทยเกิดขึ้นมาอีกครั้ง หรือจะเรียกว่าปลุกผีขึ้นจากหลุมนั้นเอง
ห้วงเวลาที่ผ่านมา การเตรียมทีมชาติไทยก็ดูเหมือนจะลุ่มๆดอนๆ ตามประสาการบริหารจัดการแบบไทยแท้ เป็นเอกลักษณ์ที่ยั้งยืนและถาวรมาอย่างยาวนาน ซึ่งคงจะได้ทราบข่าวมาเป็นระยะๆสำหรับการเตรียมทีมเพื่อสู้กับโอมานนัดสุดท้ายในวันนี้
ในระหว่างการเตรียมทีม ได้แต่ขอให้โชคช่วย นั่นก็คือ ขอให้ออสเตรเลียชนะซาอุดิอาระเบีย สุดท้ายก็เป็นจริงดังฝัน เพราะออสเตรเลียชนะซาอุฯจริงๆเรียกได้ว่าสวรรค์ประทานให้แล้ว ทั้งที่โดนนำก่อนและเข้ารอบไปแล้วด้วย ก่อนนี้ผมยังเคยพูดกับเพื่อนๆว่าโอมานมีสิทธิ์สูงที่จะเข้ารอบ เพราะออสเตรเลียจะต้องเล่นไปตามเกมของเขาไม่ว่าจะแพ้ ชนะหรือเสมอ แล้วก็เป็นจริง แต่เพือนแย้งว่าซาอุฯรวย อาจจะทำให้เกมพลิกได้ เพราะออสเตรเลียเข้ารอบแล้ว แต่ผมก็ยังเชื่อในความเป็นออสเตรเลียที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพสูง มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักฟุตบอล
แต่ทีมชาติไทยกลับโดนนำตั้งแต่ครึ่งแรก ใกล้เคียงกับที่ออสเตรเลียโดนนำไปก่อน การเล่นของโอมานวันนี้นับว่าเล่นดีมาก อาจจะเป็นเพราะว่าในบ้านด้วย แต่เริ่มจากที่โอมานชนะออสเตรเลียในบ้าน โอมานก็ถือว่าฟอร์มดีขึ้นมาโดยลำดับ สามารถบุกไปยันเสมอซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทำให้ทีมชาติไทยฟื้นขึ้นมาจากหลุ่มดังกล่าว ต้องยอมรับในความมุ่งมั่นของโอมานเป็นอย่างมาก และก็เหมาะสมแล้วที่โอมานได้เข้ารอบ๑๐ทีมสุดท้าย
ทีมชาติไทยในนัดนี้ถือว่าเล่นได้ดี แต่เสียประตูง่ายเกินไป หากเทียบกับนัดที่พบกับซาอุดิอาระเบียในบ้านเราแล้ว ในวันนี้เล่นดีกว่ามาก เพราะไม่เห็นอาการอ่อนแรงจนแทบจะเดินเล่นเหมือนวันที่พบกับซาอุในนัดเหย้านั้น(ในช่วงท้ายเกม) แต่เราก็เจาะโอมานไม่ได้ แถมท้ายด้วยโดนสวนเสียอีกประตู ซึ่งก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว เหมือนกับว่าผีอยู่ในหลุมแล้ว ก็ต้องลงหลุมไปตามเดิม
ความจริงมันก็สะท้อนวิถีของฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นอย่างดี การจัดอันดับในการแบ่งกลุ่มของฟีฟ่ามันเป็นมาตรฐานที่ไม่อาจจะเอาชื่อเสียงจอมปลอมหรือโคมลอยมาจัดอันดับได้ อันดับเท่าไรก็จะประมาณนั้น นอกจากทีมนั้นๆจะพัฒนาทีมของตัวเองขึ้นมาอย่างมาก
ตอนจัดอันดับแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทยก็อยู่อันดับที่๔ของกลุ่มตั้งแต่แรก แต่๒นัดแรกนั้นทำให้ไทยมีความหวังขึ้นมา โดยโค้ชเชเฟอร์เป็นผู้ที่จุดประกายความหวังนี้ขึ้นมา หลังจากฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำไปนาน ซึ่งทุกคนยอมรับฝีมือของโค้ชคนนี้ แม้ในวันที่แพ้ในวันนี้ก็ตาม เพราะเข็ญนักเตะไทยไม่ขึ้นจริงๆ อันดับมันอยู่แค่นี้ จบสุดท้ายก็จบที่อันดับที่๔เหมือนเดิม เพียงแค่มีสีสรรให้ได้ลุ้นในตอนเริ่มต้นเท่านั้น
เราต้องยอมรับว่า ฝีเท้าของนักแตะไทยมีอยู่เท่านี้จริงๆ รวมทั้งจินตนาการในการเล่นฟุตบอลก็มีอยู่เท่านี้จริงๆ ไม่เคยเกินจากนี้ นอกจากทีมจะเล่นเป็นระบบและมีวินัยในการเล่นจริงๆ จึงจะขยับอันดับขึ้นมา เหมือนกับยุคดรีมทีมที่เคยเข้าสู่๑๐ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา
ยิ่งศูนย์หน้าของนักเตะไทยยังไม่เคยแจ้งเกิดขึ้นมาจริงๆแล้ว ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ต้องยอมรับว่าทีมชาติไทยทำได้แค่นี้จริงๆ หากสามารถมีศูนย์หน้าที่ดีกว่านี้ เปรียบเท่ากับปิยะพงษ์ ได้เมื่อไหร่ถึงจะมีความหวังมากขึ้น เพราะตำแหน่งอื่นของเราที่มีอยู่หรือแม้แต่ชุดนี้ก็พอจะสู้ได้บ้างแม้ว่าเป็นรองทีมใหญ่ก็ตาม แต่หากช่วงที่นักแตะอ่อนล้าและไร้พลังที่จะเล่นเพื่อชาติจริงๆก็จะยิ่งถึงจุดตกต่ำ
ในตอนนี้ ผมว่าให้เชเฟอร์ทำงานต่อไปในระยะยาวน่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะเขาเป็นโค้ชที่ทุ่มเทมากๆ แต่เกรงว่ามาถึงจุดนี้อาจจะไม่อยู่ยืนยาวก็ได้
ต้องชมทีมชาติโอมานที่สามารถเลื่อนอันดับมาอยู่ที่๒ของกลุ่มแทนซาอุดิอาระเบีย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนักแตะที่มีเต็มเปี่ยม ทั้งที่ฝีเท้าใกล้เคียงกันกันกับทีมชาติไทย แต่พวกเขาทำได้
แต่อย่างไรก็คือกีฬา มีแพ้มีชนะ เพียงแต่ทีมชาติไทยมักชนะน้อยกว่าและแพ้มากอยู่เสมอ แต่ก็ขอย้ำอีกครั้งว่า วันนี้ทีมชาติไทยก็เล่นได้ดี ขาดแต่สกอร์ ทั้งที่โชคมีแล้ว แต่ทำไม่ได้ แค่เฉือนชนะก็เข้ารอบแล้ว ออสเตรเลียก็เหมือนกับช่วยแล้ว
ต้องบอกอีกครั้งว่า ทำไม่ได้เอง
อันดับของกลุ่มตั้งแต่วันแบ่งกลุ่มจึงไม่เปลี่ยนแปลงในอันดับสุดท้าย ทีมชาติไทยจึงอยู่ในอันดับสุดท้ายเหมือนเดิม
บทสรุปนี้จึงสะท้อนถึงนักฟุตบอลไทยทุกคนว่า ยังห่างไกลจริงๆ และก็เหนื่อยจริงๆที่จะไปฟุตบอลโลก ต้องพัฒนาฝีเท้าและจินตนาการอีกมาก มากจริงๆด้วย เพราะว่าบทพิสูจน์มันประจักษ์ได้จริง
ผมยังเฝ้ารอว่า ในช่วงชีวิตของผมจะได้เห็นฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกหรือเปล่า เพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่ไปนั่งดูฟุตบอลนัดไทยกับซาอุดิอาระเบียในนัดเหย้าด้วยกัน ซึ่งเป็นคนที่รักฟุตบอลและเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยมาตลอดและดูเกือบทุกนัด ก็เพิ่งจากโลกนี้ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทั้งนัดกันว่าจะไปดูไทยกับออสเตรเลียอีกครั้งในนัดเหย้า(ที่ผ่านมา) แต่ก็ไม่ได้ดูเพราะลาโลกไปก่อนดังกล่าวแล้ว ผมจึงคิดว่า แล้วผมจะทันได้เห็นหรือไม่ ว่าฟุตบอลไทยจะไปฟุตบอลโลก
ไม่ได้ดูถูกทีมชาติไทย เพราะแพ้ชนะผมก็ดูทุกนัดที่แข่ง(ส่วนใหญ่ดูการถ่ายทอด) เพราะอยากเห็นทีมชาติไทยเล่น แม้วันนี้ผมยังบอกว่าเล่นดี
แต่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเล่นได้เท่านี้จริงๆ และก็ไม่มีอะไรจะช่วยได้จริงๆ นอกจากจะพัฒนาฝีเท้าให้ดีกว่านี้ ทั้งชุดใหญ่ในปัจจุบันนี้และชุดอื่นๆที่จะขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่
ที่สำคัญที่สุด เวลาลงเล่นในนามทีมชาติต้องเอาจิตวิญญาณลงไปเล่นด้วย ไม่ว่าฟุตบอลจะแพ้หรือชนะก็ตาม
Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 22:29:33 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1431 Pageviews. |
|
|
|
โดย: r_sriket IP: 101.109.25.42 วันที่: 2 มีนาคม 2555 เวลา:19:40:28 น. |
|
|
|
|
|
|
.....มีความฝันเป็นเรือ
ล่องลอยไปในทะเล
แห่งกาลเวลา............
|
|
|
|
|
|
|