Melanie Fiona - Gone & Never Come Back แม้ว่าในช่วงยุคนี้ พ.ศ. นี้ ดนตรีแนว Contemporary RnB และ Soul RnB จะแห้งเหี่ยว สู้กับ Electro ต่างๆ ไม่ไหว แต่ก็ยังสามารถอยู่ และมีให้คนฟังได้ฟังกันเรื่อยๆ ต่อไป อาจจะออกแนวริบหรี่ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้างก็ตาม ซึ่งวันนี้ขอยี้ Electro ทั้งหลาย มาชวนฟังดนตรีแนวๆ นี้ กับสาวน้ำเสียงคุณภาพเป็นเลิศคนนี้ดีกว่า ซึ่งเธอก็คือ Melanie Fiona เธอเป็นหนึ่งในสาวเสียงสังค์แห่งตองอูที่มีน้ำเสียงคุณภาพ กินใจ และเข้าถึงอารมณ์มากมายกับการถ่ายทอดเพลงในแนว RnB ของยุคนี้เลยทีเดียว แม้ว่าเธอเองจะไม่ได้ดังอะไรนักหนา แต่ในเรื่องของการทำเพลงและการร้องนั้นดีกรีเข้าชิงรางวัล Grammy Awards สาขา Best Female RnB Vocal Performance กับเพลง It Kills Me และรางวัล Best New Artist ของ Soul Train Music Awards มาแล้ว ซึ่ง ณ พ.ศ.นี้ ก็ได้เวลาของการออกอัลบั้มใหม่ของเธอซะที กับชื่ออัลบั้ม The MF Life ซึ่งก็ขอเปิดตัวกับของถนัดกับเพลง Ballad ซะเลย กับเพลง Gone & Never Come Back ซึ่งต้องลองฟังดูว่าจะถูกจริตหรือไม่ (ถ้าเพลงไม่ได้เล่นเองโดยอัตโนมัติ สามารถคลิกที่ปุ่ม Play เพื่อให้เล่นได้เลยครับ) Review: Gone & Never Come Back เมื่อเลิกรากับคนที่รักมากในช่วงแรกๆ ก่อนที่เวลาจะทำให้ทำใจได้ จริงเหรอที่มีคนมองโลกในแง่ดี คิดบวก ประมาณว่า "ก็แค่นี้ แค่เลิกกัน แล้วไง กรูเปรี้ยว" (ไม่ใช่พวกที่ต่อหน้ามั่น แต่ลับหลังน้ำตาตกทั้งนอกและในนะ) ถ้ามีคงจะ 1 ในล้านเอาได้เลยทีเดียว ก็อยากรู้เหมือนกันว่าหัวใจทำด้วยอะไรเนี่ย ถึงได้ไม่สะทกสะท้านขนาดนี้ แน่นอนว่า ถ้าในช่วงที่เลิกรามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสียใจ สะกดจิตตัวเองว่า "ไหว" แต่จริงๆ ไม่ไหวจะเคลียร์ ซึม ร้องไห้ตลอด พลางถวิลหาคืนวันเก่าๆ ที่เคยร่วมทุกข์และสุข บางทีก็โกรธทั้งคนเคยรักและตัวเอง สารพัดปัญหาจริงๆ ซึ่งเพลงนี้ของเจ๊กระเซิงบอกอารมณ์เศร้าซึมแบบนี้ได้หมดทุกเม็ด เพราะบอกถึงว่า "มันง่ายเสียที่ไหนกัน ที่จะผ่านคืนวันแบบนี้ไป เพราะยังไง เขาก็จากไปและไม่มีวันกลับมายืนตรงนี้อีก ในแต่ละวันเหมือนจะตายลงช้าๆ มันทรมานมากรู้ไหม" ยิ่งเพลงนี้มาพร้อมกับท่องทำนอง Soul RnB ที่ไล่เรียงดนตรีจากเบามาหนักได้สวยงามมากๆ แกล้มด้วยเสียงร้องที่กินขาดความบาดจิตและเข้าถึงอารมณ์เพลงของความเจ็บลึกที่จากค่อยๆ มาสู่การระเบิดอารมณ์ "ไม่ไหวแล้วว้อย" แล้วก็ค่อยๆ มาสู่การกลับมาเป็นเจ็บลึกอีกครั้ง ตามวัฏจักรของการอดทนและเยียวยา ก็ทำไงได้ ก็ต้องมีชีวิตต่อไป เลี่ยงได้ที่ไหนกัน Quote: "Sad That Memories Never Die" ถ้าในแง่ความสุขมันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าความทุกข์นี่สิ มักตอกย้ำเราไม่รู้จักจบสิ้นเอาได้เลย เพราะประโยคนี้แหละที่ทำเอาขนลุกตั้งแต่ต้นเพลงเลยทีเดียว (ถามหน่อยเหอะเจ๊ ทำไมเจ๊ต้องยืนแหกขาไปร้องเพลงไป กลัวอับชื้นหรืออย่างไรกัน ยิ่งบางซีนที่เอาคนมาทาปากจู๋ขาวๆ อย่างกับผีหลอกวิญญาณหลอนเอาเลยทีเดียว ยิ่งเปิดดูกลางคืน ยิ่งเอาหลอนผีปากจู๋ไปเลย คราวหน้าเอาให้มันน่ากลัวน้อยกว่านี้หน่อยนะเจ๊กระเซิง ไม่งั้นเดี๋ยวคนเขาไม่สนใจ ไม่ดังไปกว่านี้นะเจ๊ อุตส่าห์เป็นคนเสียงคุณภาพซะขนาดนี้) ป.ล.1 เบี้ยวไป 1 สัปดาห์ เผอิญภาระหน้าที่เยอะขึ้น เลยหมดแรงก่อนจะมาอัพบล็อคทุกทีเลย ตอนนี้ไม่มีภาระอะไรมากแล้วครับ กลับมาปกติแล้วครับ ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียน อ่าน และฟังเพลงใน Blog นี้ ที่สำคัญมากเลย คือ Comment ของคนเข้ามาครับ เพราะมีค่ามากเลยสำหรับผม ช่วยฝากเอาไว้หลังฟังเพลงหรืออ่านจบแล้วหน่อยนะครับ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ Older Post: ย้อนอดูตกับเพลงสุดฮิตของหนุ่มๆ วง BBMak   Create Date : 20 มีนาคม 2554 3 comments Last Update : 21 มีนาคม 2554 0:09:14 น. Counter : 1775 Pageviews. Share Tweet

เพราะมากครับ ชอบๆ   โดย: Nomad IP: 182.52.220.15 21 มีนาคม 2554 1:48:21 น.

ฟัง It kills me จนเลี่ยนแล้วครับ ได้เพลงนี้ไว้ฟังสลับกัน อะอะ ชอบครับ   โดย: baddpigg IP: 203.130.134.132 24 มีนาคม 2554 10:56:00 น.

แวะมาเยี่ยมครับ   โดย: Kotaro IP: 49.49.90.98 10 เมษายน 2554 1:59:28 น.