|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เลิกอัยการศึก [7 ก.ย. 50 - 18:05]
เลิกอัยการศึก [7 ก.ย. 50 - 18:05] ทันทีที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ บรรยากาศประชาธิปไตย จะต้องเกิดขึ้นทันที ความอึมครึมในช่วงปฏิวัติ โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎอัยการศึกอย่างเข้มงวด ต้องผ่อนคลายลง จะมาอ้างปัญหาความมั่นคงไม่ได้อีก เพราะหลังจากมีรัฐธรรมนูญแล้ว สิทธิเสรีภาพของประชาชนจะต้องได้รับความคุ้มครองเหนือสิ่งอื่นใด
ยกเว้น จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือจังหวัดที่มีการสู้รบจริงๆ เท่านั้น
หากไม่เป็นไปตามนี้ ก็แสดงว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่บังคับใช้อยู่ ไม่มีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริง จะมีรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ค่าเท่ากัน เนื่องจากกฎอัยการศึก ถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนขั้นรุนแรง โดยเฉพาะยังมีการประกาศใช้กระจัดกระจายอยู่ถึง 35 จังหวัดทั่วประเทศ
ข้อสำคัญ การประกาศใช้กฎอัยการศึกของฝ่ายความมั่นคง ก็เพื่อควบคุม กดดัน และลิดรอนสิทธิกลุ่มคนที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างไปจากคณะปฏิวัติ ซึ่งในทางประชาธิปไตยแล้ว ไม่สามารถทำได้อย่างเด็ดขาด แต่เนื่องจากช่วงนั้น อำนาจการปกครองถูกยึดไปโดยคณะนายทหาร รัฐธรรมนูญที่เป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกฉีกทิ้ง จึงไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น
การใช้กฎอัยการศึกที่ถือกันว่าล้าหลังในทางประชาธิปไตย ได้ส่งผลให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนหายสาบสูญไปจากแผ่นดินไทยอย่างสิ้นเชิง แม้ผู้มีอำนาจจะอ้างว่าไม่เคยควบคุมกดขี่ประชาชนก็ตาม
แต่การมีเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย จะต้องไม่ขึ้นอยู่กับความเมตตาปรานีที่ใครจะมาหยิบยื่นให้เด็ดขาด ตรงกันข้าม การมีเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง จะต้องเกิดขึ้นพร้อมกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายการปกครองสูงสุดของประเทศ จึงจะเป็นหลักประกันได้ว่า เสรีภาพนี้จะเป็นของพลเมืองตลอดไป มิใช่ขึ้นอยู่กับอารมณ์หรือความเมตตาปรานีของใครคนใดคนหนึ่ง
ในยุคปฏิวัติ แม้ผู้มีอำนาจจะมีความใจกว้างเพียงใดก็ตาม แต่ก็ได้ใช้กฎหมายอันเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นรุนแรงครอบคลุมไปทั้งประเทศ การใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ปกครองทุกฝีก้าว ไม่ต่างอะไรจากเสรีภาพจอมปลอมที่ไร้หลักประกัน และไม่ใช่เสรีภาพที่ประชาชนทุกคนในประเทศได้รับอย่างเท่าเทียมกัน
เรื่องนี้เห็นได้จากประชาชนบางจังหวัดก็ได้รับเสรีภาพที่ว่านี้ แต่ประชาชนบางจังหวัดกลับไม่ได้รับแม้แต่น้อย ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวา ถูกควบคุม ถูกติดตาม ถูกอุ้มไปสอบสวน เชื่อว่าในการลงประชามติรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ประชาชนบางจังหวัดก็ประสบกับชะตากรรมเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากใครได้
แม้ผู้มีอำนาจจะพยายามอ้างความชอบธรรมในการคงกฎอัยการศึกเอาไว้ โดยบอกว่า ไปสอบถามชาวบ้านที่ภาคเหนือแล้ว ชาวบ้านบอกว่า กฎอัยการศึกไม่มีปัญหาสำหรับคนดี ถือเป็นการดูแลความปลอดภัยให้พวกเขา
แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปนั่นแหละว่า การดำรงไว้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองนั้น เป็นบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยได้กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ฉะนั้น ทุกฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ไม่สามารถจะนำความเห็นของใครคนใดคนหนึ่ง หรือข้ออ้างใดๆจากฝ่ายความมั่นคงมาหักล้างได้ง่ายๆ
ยิ่งรัฐบาลและ คมช.ประกาศว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด เพราะคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่ารัฐธรรมนูญปี 40 แต่ปรากฏว่า ยังคงกฎอัยการศึกเอาไว้ครึ่งค่อนประเทศ
ทำเช่นนี้ จะต่างอะไรจากพวกปากประชาธิปไตย แต่ใจเผด็จการเล่า.
"เห่าดง"
//www.thairath.com/news.php?section=society05&content=60138
Create Date : 07 กันยายน 2550 |
Last Update : 7 กันยายน 2550 17:45:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 227 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|