Bloggang.com : จอบศักดิ์ : ‘บิ๊กแอ้ด’เมินตรวจ’สพรั่ง’ถลุงงบดูงาน อ้างยังจ่ายน้อยกว่า

‘บิ๊กแอ้ด’เมินตรวจ’สพรั่ง’ถลุงงบดูงาน อ้างยังจ่ายน้อยกว่า

บิ๊กแอ้ด’เมินตรวจ’สพรั่ง’ถลุงงบดูงาน อ้างยังจ่ายน้อยกว่า

สนใจยุบทิ้งวอร์รูม
“สุรยุทธ์” เมินตรวจสอบ “สพรั่ง” ถลุงงบดูงานเมืองนอก อ้างจ่ายน้อยกว่าบอร์ดชุดเก่า ๆ ชี้ไม่อยากแทรกแซงองค์กรตรวจสอบเหมือนยุค "ทักษิณ" ครองเมือง พร้อมรับข้อเสนอสื่อทำเนียบฯ ยุบทิ้ง "วอร์รูม" พีอาร์เชิงรุกติดลบ ฟังเสียงวิจารณ์ทุกฝ่ายเป็นกระจกเงาสะท้อน ย้ำฤาษียึดหลักรอบคอบ-รวดเร็ว-ติดดิน โยนเผือก "คมช." เช็กบิลขบวนการคว่ำร่างรธน.50 ลั่น "ครม.ขิงแก่" ไม่สืบทอดอำนาจแน่ แนะ "มท.-กกต." เน้นทำความเข้าใจประเด็นสำคัญกับชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องอธิบายทุกมาตรา ส่วนเวทีระดมสมอง "นายพัน" จุดยืนชัดเจนไม่เอานายกฯ คนนอก ขณะที่ "กมธ.ฯ" ได้ข้อยุติให้ "ศาลฎีกา-ศาลปกครองสูงสุด" แจกใบเหลือง-ใบแดง "ประสงค์" ตอกย้ำมีขบวนการล้มร่างรธน.จริง ระบุนายกฯ คนนอกเป็นทางเลือกยามวิกฤติเท่านั้น โพล "ส.ส.ร." หนุนนายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. เท่านั้น "สนช." ว่างจัดนัดสัมมนา-ตีกอล์ฟรีสอร์ตหรู ฝ่าย "สุชน" ร่อนจ.ม.ชวนเพื่อน ส.ว.ปี 43 เสนอร่าง รธน. ขณะที่ "กลุ่มต้านคมช.-รัฐนาวา" จัดแรลลี่ปลุกม็อบสนามหลวงชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้

"แอ้ด" ยันแบ่งงานสื่อไม่มีนัย
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกฯ และรมว. อุตสาหกรรม นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมงานแถลงข่าว "นายกฯ พบสื่อทำเนียบ" ครั้งที่ 5 แต่เป็นน่าสังเกตว่านายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้าร่วมงานด้วย

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวถึงการแบ่งงานดูแลสื่อของ รมต.สำนักนายกฯ ว่า ไม่ได้มองเรื่องอื่นนอกจากการทำงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างเช่นเรื่องการตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ซึ่งนายธีรภัทร์ได้ดูแลทั้ง อสมท และกรมประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อเกิดกรณีไอทีวีและจำเป็นต้องให้กรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ภายใต้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เข้ามาเกี่ยวข้องจึงได้มอบหมายให้คุณหญิงทิพาวดีที่ดูแลเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นรับผิดชอบดูแลต่อไป

รับไอเดียยุบวอร์รูม "ธีรภัทร์"
นายกฯ ยังกล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ว่า จนถึงวันนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังทำหน้าที่ต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และนายธีรภัทร์ป่วยจึงไม่ได้มาร่วมชี้แจง ตนจึงไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้

เมื่อถามว่าจะยุบคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวหรือไม่ เพราะไม่มีผลงานให้เห็น พล.อ.สุร ยุทธ์ กล่าวว่า จะรับข้อเสนอไว้ และถ้าถามว่าพอใจการทำงานของวอร์รูมนี้หรือไม่ในขณะนี้ ตนได้บอกหลายครั้งแล้วว่า ไม่ควรใช้คำว่าวอร์รูม เพราะตนไม่ได้ทำสงครามกับใคร คำว่าวอร์รูมฟังแล้วเหมือนจะไปรบทัพจับศึกกับใครอยู่ตลอดเวลา ตนแก้ในส่วนนี้แล้ว ส่วนผลงานที่ยังไม่ออกมา ตนยังไม่แน่ใจ เพราะมีการลาออกของคณะกรรมการบ้าง มีปัญหาต่าง ๆ บ้าง คงต้องติดตามดูอีกระยะหนึ่ง

ฟังเสียง "เติ้ง" ปรับวิธีทำงาน
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลเร่งมือทำงานด้านต่าง ๆ ไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลได้ประชุมร่วมกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลพยายามปรับตัวในการทำงาน อยากให้มีการบูรณาการและประสานงานกันมากขึ้น และตระหนักดีถึงเสียงติติงที่ผ่านมา และพร้อมรับฟัง เพื่อนำมาปรับปรุง ส่วนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย วิจารณ์การบริหารประเทศว่าซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอแต่ต้องติดดินด้วยนั้น ตนรับฟังเสียงวิจารณ์มาตลอดเพื่อเป็นการประเมินตัวเอง และนำมาปรับแก้ ยืนยันว่าการทำงานของตนยึดหลักความรอบคอบ รวดเร็ว และฟังปฏิกิริยาจากคนอื่นด้วย

ต่อข้อถามว่า จะลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาตามที่เคยระบุไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นการลงไปรับฟังความทุกข์ร้อนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่ไม่ได้ไปเพื่อหาเสียง หากมีเรื่องเดือดร้อนรุนแรง อย่างเหตุการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาเน่าเสีย

เมินข้อหาเลือกปฏิบัติเชือดโกง
ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบเอาผิดเฉพาะรัฐบาลชุดที่แล้ว ในกรณี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ในฐานะประธานบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. นำคณะไปดูงานต่างประเทศไม่เหมาะสมกลับไม่มีการตรวจสอบ ทำให้มองว่าความสมานฉันท์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ย้อนถามว่า "ท่านจะให้ผมสมานฉันท์กับใคร" รัฐบาลอยู่ตรงกลางระหว่างประชาชนที่มีความแตกต่างทางความคิด ดังนั้นรัฐบาลต้องรับฟังทั้งสองด้าน พยายามหาทางแก้ปัญหาให้ลุล่วงไป โดยยืนอยู่บนพื้นฐานกฎหมาย เป็นธรรม และโปร่งใส รัฐบาลไม่มีหน้าที่ไปควบคุมหรือแทรกแซงการทำงานของ คตส. หรือองค์กรตรวจสอบอื่น และไม่แน่ใจว่า คตส. จะมาตรวจสอบตนหรือไม่ เพราะมีผู้ยื่นให้ตรวจสอบตนเช่นกัน

อ้าง ทอท. อุ้ม "สพรั่ง" โปร่งใส
"หากตรวจสอบผม ผมก็ยินดีไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมที่จะรับการตรวจสอบ ผมมาอยู่ตรงนี้อยู่ด้วยหลักการของความโปร่งใส เป็นธรรม และยืนอยู่บนข้อกฎหมาย ถ้าผมไปในทางด้านหนึ่งด้านใดจนมากเกินไป ปัญหาก็จะยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น ถ้าจะพูดกันง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือคำว่าความพอดี ซึ่งความพอดีจากมุมมองของแต่ละกลุ่มก็ไม่เหมือนกัน จึงเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากในการนำมาสู่ความสมานฉันท์ แต่ทำอย่างไรที่จะช่วยประคับประคองให้บ้านเมืองไปสู่แนวทางที่ควรจะเป็น ไม่ควรทำให้เกิดการสะดุด หรือเกิดปัญหาความรุนแรง" นายกฯ ระบุ

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องของ พล.อ.สพรั่ง บอร์ด ทอท. ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นการดำเนินการของทอท. ตามปกติ วงเงินก็น้อยกว่าคณะที่เคยเดินทางไป ทั้งนี้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ตนไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องการตรวจสอบ ถ้ารัฐบาลเข้าไปยุ่งทั้งหมดจะเหมือนกับสิ่งที่ผ่านมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือ มีคนสั่งอยู่คนเดียวไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุล

"ทรท." ผิดหวังคำตอบนายกฯ
ด้านนายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานคณะทำงานติดตามการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายกฯ ปฏิเสธตรวจสอบการใช้งบประมาณ ทอท. เดินทางไปดูงานต่างประเทศของ พล.อ.สพรั่ง ตามที่พรรคไทยรักไทยยื่นหนังสือร้องเรียนเราคาดหวังว่าจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้วจึงได้ส่งหนังสือไปถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกฉบับ ตนยืนยันว่าสิ่งที่พรรคไทยรักไทยทำก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ประชาชน ไม่ได้หวังดิสเครดิตใคร

นายสุทิน คลังแสง รักษาการรองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ผิดหวังพอสมควรกับคำตอบของนายกฯ แม้ว่าเราจะไม่ได้คาดหวังว่านายกฯ จะตรวจสอบให้ แต่ไม่คิดว่าท่านจะปฏิเสธตั้งแต่เบื้องต้นเช่นนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเราคิดว่าอย่างน้อยเป็นการกระตุ้นเตือนผู้มีอำนาจไม่ให้ทำอะไรตามใจ เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น เพราะประชาชนมีหูมีตาเฝ้ามองอยู่

"ปชป." ลงคำให้การในเว็บไซต์
ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีการไต่สวนคดียุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้านัดที่ 9 โดยพรรคประชาธิปัตย์ยื่นบัญชีพยาน 3 ราย คือ นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ อดีตรองประธานวุฒิสภา นายโสภณ โองการ บก.อาวุโสเครือเนชั่น และนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ทั้งนี้นายเจิมศักดิ์ไม่ได้เดินทางมาศาล และอัยการไม่ติดใจซักถาม ตุลาการฯ จึงให้ยกการสืบพยานรายนี้ไป

ภายหลังการไต่สวน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดียุบพรรค ได้ร้องขอคณะตุลาการฯ เพื่อเผยแพร่คำให้การของพยานในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อสาธารณะ ซึ่งนายวิชัย ชื่นชมพูนุท ตุลาการฯ ไม่ขัดข้องพร้อมกับให้เหตุผลว่า ตามข้อกำหนดวิธีพิจารณาของคณะตุลาการฯ ได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีโดยเปิด เผยอยู่แล้ว ดังนั้นการเผยแพร่คำให้การจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ขอให้อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงที่นำ เสนอต่อสาธารณะ

กลุ่มต้าน "คมช." จัดแรลลี่ปชต.
วันเดียวกัน ที่สนามหลวง กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์และกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ จัดขบวนแรลลี่ประชาธิปไตย รณรงค์ให้ประชาชนในเขต กท. และปริมณฑล มาร่วมชุมนุมใหญ่เนื่องในโอกาส 6 เดือนรัฐประหาร และตรวจสอบผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือนในวันที่ 17-18 มี.ค. ที่สนามหลวง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารสถานีพีทีวี กล่าวถึงกรณีเทศกิจเข้ารื้อเวทีของกลุ่มผู้ต่อต้าน คมช.และรัฐบาลว่า รัฐบาลอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแต่กลับปิดกั้นสิทธิของประชาชน ถ้าเทียบกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยแล้วจะเห็นว่าใจกว้างมากกว่า นอกจากนี้ไม่น่ามีจิตใจคับแคบปิดเว็บไซต์ //www.hi-thaksin.net ส่วนสถานีพีทีวีนั้นกำลังหารือว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะที่ผ่านมาถูกเลือกปฏิบัติฝ่ายเดียว สุดท้ายหากออกอากาศไม่ได้ก็จะไปเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มอื่น ๆ ที่สนามหลวง ตนอยากบอกว่าคนที่ไม่พอใจการกระทำของรัฐบาลต่อพีทีวีและกรณีอื่น ๆ ไม่ใช่มีแค่ 500-1,000 คน แต่มีมากกว่านั้นเยอะ

คนสงสัยมีร่างรธน.50 อยู่แล้ว
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญประสานการมีส่วนร่วมและการประชามติ โดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ส.ร. และประธานกมธ. วิสามัญฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประชาชนได้สอบถามตนว่า กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีพิมพ์ เขียวร่างรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว การรับฟังความเห็นจึงเหมือนเป็นการทำพอเป็นพิธี แต่ตนได้รับประกันกับประชาชนว่า กมธ.ฯ ยังไม่มีข้อสรุป และขอความกรุณา กมธ.ฯ ที่แถลงข่าวหรือสัมภาษณ์ให้ระมัดระวังถ้อยคำ อย่าเอาความคิดของท่านมาเป็นข้อสรุป

นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ประสานกับกรมประชาสัมพันธ์และ อสมท เพื่อถ่ายทอดสดรายการชี้แจงเรื่องรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศมีความเข้าใจ โดยรายการจะจัดทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. เริ่มวันที่ 25 มี.ค. เป็นต้นไป ส่วนสถานที่จัดนั้นจะใช้ห้องประชุมรัฐสภา 2 สัปดาห์ และตระเวนไปยังภาคต่าง ๆ อีก 8 สัปดาห์

โพลส.ส.ร.หนุนส.ส.เป็นนายกฯ
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า รู้สึกว่านายเจิมศักดิ์จะหงุดหงิด ต่อไปคงต้องมีเรื่องที่หงุดหงิดอีกมาก ไม่ใช่แค่เรื่องรัฐธรรมนูญเท่านั้น และตนยินดีที่จะร่วมประชุมกับ กมธ.วิสามัญฯ หรือหากอยากจะให้ไปร่วมงานที่ไหนก็ขอให้บอก เพราะเรามีเป้าหมายอยู่ที่ประชาชน พวกเรามีอะไรคุยกันได้ ไม่อย่างนั้นคนนอกจะเข้าใจผิดว่าเราเกาเหลากัน หวังว่านายเจิมศักดิ์คงจะเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็มาพบตนเมื่อไหร่ก็ได้

จากนั้น นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมร่วมกันว่า จากการรับฟังความเห็นของ กมธ.วิสามัญฯ ในเวทีระดับจังหวัด 87 เวที ผู้ตอบแบบสอบถาม 16,935 คน การประมวลความเห็นของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 23 เวที จากแบบสอบถามกว่า 3,000 ชุด และข้อมูลจากเว็บไซต์ พบว่า ร้อยละ 66 ต้องการให้นายกฯ มาจาก ส.ส. และไม่ต้องลาออกจาก ส.ส. ขณะที่เห็นด้วยให้กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกันหรือไม่เกิน 8 ปี ส.ว. ควรมาจากการเลือกตั้ง เป็นต้น

สรุปให้ศาลแจกใบเหลืองใบแดง
ต่อมาในช่วงบ่าย นายไพบูลย์ แถลงผลการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการยกร่างรัฐธรรมนูญกรอบที่ 3 ว่าด้วยองค์กรตรวจสอบอิสระและศาล โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าควรให้ศาลฎีกาหรือศาลฎีการ่วมกับศาลปกครองสูงสุดทำหน้าที่วินิจฉัยคดีเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. อีกทั้งคดีเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นให้ศาลจังหวัดเป็นผู้พิจารณาพิพากษา และกำหนดวิธีการพิจารณาด้วยความรวดเร็ว

ที่โรงแรมแก่นอินน์ จ.ขอนแก่น คณะ กมธ.รับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโดยมีกำนันจาก จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ มาร่วมแสดงความเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญประมาณ 650 คน ส่วนใหญ่ตอบแบบสอบถามว่าต้องการให้นายกฯ ต้องเป็น ส.ส. และ ส.ส. ให้คงทั้ง 2 ระบบ คือ ระบบ เขตและบัญชีรายชื่อ ในส่วนของ ส.ส.เขตให้มี 2,400 คน ขณะที่ ส.ว. ก็ควรมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น

"ประสงค์" ชี้คำตอบอยู่ที่ปชช.
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.สนธิ บุญย รัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ระบุจะไม่รับตำแหน่งนายกฯ ว่า ทำไมไปบอกว่า พล.อ. สนธิ จะเป็นนายกฯ โดยปกติในทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย เมื่อเลือกตั้งแล้วพรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมากหรือเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องสนับสนุนคนของเขาอยู่แล้ว ที่พูดกันว่านายกฯ มาจากการเลือกตั้งนั้นต้องทำความเข้าใจให้ถูกว่านายกฯ มาจาก ส.ส. ที่เลือกกันขึ้นมา เมืองไทยไม่มีนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง ประเด็นที่มานายกฯ หยิบยกขึ้นมาดูว่าในยามวิกฤติหรือเกิดทางตันจะทำอย่างไร หรือหาทางออกไม่ได้ก็ปฏิวัติรัฐประหารกันอีก เราพยายามหาทางปิดช่องเหล่านี้เอาไว้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าประเด็นนี้จะยังไม่มีการตัดสินใจ เพราะการตัดสินใจครั้งสุดท้าย คือ หลังจากได้รับประชาพิจารณ์จากประชาชนว่าเอาอย่างไร จากนั้น กมธ.ฯ จะสนองตอบ

ย้ำบางกลุ่มจ้องล้มร่างรธน.50
ต่อข้อถามว่า จะปรับถ้อยคำในมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญปี 2540 ให้มีความชัดเจนมากขึ้นหรือไม่ ประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า เราดูทุกมาตรา แต่มาตรา 7 เรายังไม่ได้พูดถึง เพียงแต่ตั้งประเด็นว่าถ้ามีวิกฤติเกิดทางตันขึ้นมาจะมีหนทางอื่นหรือไม่ ซึ่งโดยหลักการแล้วนายกฯ มาจาก ส.ส. แต่ถ้าในยามวิกฤติเราจะทำอย่างไร ส่วนกรณี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช. ระบุว่ามีขบวนการจ้องล้มรัฐธรรมนูญนั้น ยอมรับว่ามีบางกลุ่มบางพวกแต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ เพราะส่วนใหญ่ต้องการรัฐธรรมนูญ แต่กลุ่มที่ไม่เอารัฐธรรมนูญจะเป็นกลุ่มการเมืองเก่าหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

"ยอมรับว่าการมีกลุ่มที่ชี้นำให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทำให้เกิดปัญหากับ ส.ส.ร. ในการให้ข้อมูลกับประชาชน ดังนั้นรัฐต้องใช้เครื่องมือสื่อสารที่มีทั้งวิทยุ โทรทัศน์ เผยแพร่เนื้อหาสำคัญที่เป็นประเด็นที่ยังถกเถียงกันอยู่ให้ประชาชนเข้าใจหรือทราบต่อเนื่องจะช่วยได้มาก ป้องกันการทำให้ประชาชนสับสนไขว้เขว หรือไปเชื่อว่าบางเรื่องเป็นเรื่องจริง ทั้งที่ยังไม่มีเรื่องจริงใด ๆ ทั้งสิ้น" น.ต.ประสงค์ ระบุ

"สุรยุทธ์" ชิ่ง "คมช." จัดการ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญเมื่อถูกถามกรณี พล.อ.วินัย ระบุว่ามีขบวนการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าแสดงความเห็นจะถูกมองว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง เข้าไปสร้างแรงกดดัน ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กมธ.ฯ พิจารณา ส่วนความห่วงใยเรื่องการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะตรวจสอบ

นายกฯ ยอมรับว่า การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่าย เชื่อว่าทุกคนก็ยังไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดของรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่มีใครทำความเข้าใจได้ทุกมาตรา เราต้อง ค่อย ๆ สร้างความเข้าใจ ถ้าสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ว่าสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านเมือง กรอบกติกาที่ควรมี รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่ใช่เป็นการกองอำนาจไว้ที่หนึ่งที่ใดก็น่าจะเป็นเรื่องดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกันดำเนินการ

ลั่น "ขิงแก่" ไม่สืบทอดอำนาจ
เมื่อถามว่า ประเด็นที่มาของนายกฯ คนนอกทำให้ประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลและ คมช. จะสืบทอดอำนาจทางการเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า การแสดงความเห็นต่าง ๆ สามารถทำได้แต่ต้องรอดูร่างรัฐธรรมนูญที่จะออกมา คาดว่าร่างแรกจะออกมาได้ประมาณเดือนเม.ย. "ถ้าถามว่าผมและรัฐบาลจะสืบอำนาจต่อหรือไม่ ผมคิดว่ารัฐบาลนี้เราพูดกันตั้งแต่ต้นแล้วว่า เราเข้ามาทำหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติในช่วงระยะเวลา สั้น ๆ เราทำหน้าที่ในการพยายามที่จะนำชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าจะเลือกใครเข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลจะพยายามไปให้ถึงจุดนั้น มันมีปัญหาแน่นอน แต่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้แค่นั้นเอง"

นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า เรื่องการคว่ำรัฐธรรมนูญกับกรณีประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญเป็นคนละประเด็นกัน ซึ่งในที่สุดเมื่อทำประชามติแล้วผลออกมาอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับ ทั้งนี้รัฐบาลคงไม่ไปชี้นำเรื่องนายกฯ คนนอก

"สุชน" นัดอดีต ส.ว.43 ถกรธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานชมรมอดีต ส.ว. ปี 2543-2549 ได้ส่งหนังสือเชิญอดีต ส.ว. ร่วมรุ่นเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 18 มี.ค. เวลา 17.00 น. ที่โรงแรมอโนมา

ขณะที่ สำนักเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหนังสือถึงสมาชิก สนช. เข้าร่วมสัมมนาสมาชิก สนช. ตามดำริของนาย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. เพื่อให้สมาชิกมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน และเสริมสร้างทัศนคติในการทำงานร่วมกันระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย. ที่โรงแรมไอยราโฮเต็ลปาร์คแอนด์รีสอร์ท จ.อุทัยธานี อย่างไรก็ดีการสัมมนาดังกล่าวไม่มีหัวข้อชัดเจน มีเพียงกำหนดการวันที่ 31 มี.ค. นายมีชัย กล่าวเปิดงานเท่านั้น นอกจากนี้ในแบบแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการมีช่องระบุถึงกิจกรรมพิเศษว่าประสงค์ให้จองสนามกอล์ฟอีกด้วย.

//www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?Newsid=121052&NewsType=1&Template=2

ไม่แปลกใจนายกฯปัดสอบ 'สพรั่ง' [16 มี.ค. 50 - 04:29]

ที่พรรคไทยรักไทย วานนี้ (15 มี.ค.) นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานคณะทำงานติดตามการบริหารราชการแผ่นดิน พรรคไทยรักไทย กล่าวกรณี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตรวจสอบการใช้งบประมาณ ทอท. เดินทางไปดูงานต่างประเทศของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะประธานบอร์ด ทอท. และคณะตามที่พรรคไทยรักไทยร้องเรียน โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลจะไม่แทรกแซงการดำเนินการของหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ อีกทั้งนางกัลยา ผกากรอง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไม่เข้าใจว่า พล.อ.สุรยุทธ์คิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร แต่เราคาดไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ จึงได้ส่งหนังสือไปถึง ป.ป.ช.อีกฉบับ ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคไทยรักไทยทำก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ ประชาชน ไม่ได้หวังดิสเครดิตใคร

ด้าน นายสุทิน คลังแสง รักษาการรองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าผิดหวังพอสมควร แม้ว่าเราจะไม่ได้คาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะสั่งดำเนินการตรวจสอบ แต่ก็ไม่คิดว่าท่านจะปฏิเสธตั้งแต่ต้นเช่นนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเราคิดว่าอย่างน้อยจะเป็นการกระตุ้นเตือนผู้มีอำนาจไม่ใช่จะทำอะไรตามใจได้ เขาต้องระวังตัวให้มากขึ้น เพราะประชาชนมีหูมีตาเฝ้ามองอยู่

พีทีวีขู่ร่วมชุมนุมสนามหลวง

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทำการรื้อเวทีพิราบขาวของกลุ่มพิราบขาว เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร และกลุ่มชมรมคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่จะนัดชุมนุมกันในวันที่ 17 มี.ค. ณ ท้องสนามหลวง และยังมีการจับกุมผู้ชุมนุมในเช้าวันเดียวกันนี้ว่า ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้มีวิธีคิดอย่างไร ทั้งที่อ้างมาตลอดว่ามีความเป็นประชาธิปไตย แต่กลับมีการปิดกั้นสิทธิของประชาชนอย่างชัดเจน ถ้าเทียบกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยแล้ว จะเห็นว่ามีความใจกว้างมากกว่า ปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุม เคลื่อนไหวอย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็คงจะหาทางออกในการเคลื่อนไหวกันต่อไป ตามสิทธิที่พึงมี รัฐบาลไม่สามารถปิดกั้นได้ สำหรับสถานีโทรทัศน์ พีทีวีนั้น กำลังหารือกันอยู่ว่าจะเคลื่อนไหวกันอย่างไร จะประกาศให้รับรู้กันอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาเราถูกกระทำ ถูกเลือกปฏิบัติอยู่คนเดียว หากสุดท้ายไม่สามารถออกอากาศได้ เราก็จะไปร่วมกับประชาชนที่มีแนวทางเดียวกัน โดยจะใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงเคลื่อนไหวภายใต้เงื่อนไขของพีทีวี อาจจะเป็นวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้

ทนายย้ำไม่หนักใจเรื่องขึ้นศาล

วันเดียวกัน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัวชินวัตร กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ รวมทั้งนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ในข้อหาร่วมกันหลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยเบื้องต้น คตส.ได้กำหนดวันรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 26 มี.ค. ว่า หากเป็นเงื่อนไขที่ศาลกำหนดออกมาแล้วก็ต้องปฏิบัติตาม ทางเราก็พร้อมหากในวันดังกล่าวไม่ได้ติดปัญหาอะไร คุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์ก็จะเดินทางไปชี้แจงที่ศาลด้วยตนเองอย่างแน่นอน ดังนั้น ที่มีข่าวว่าทาง คตส.อาจต้องออกหมายจับนั้นคงไม่จำเป็น เพราะกระบวนดังกล่าวที่ออกมาเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องไปชี้แจง และไม่คิดจะบิดพลิ้วอยู่แล้ว โดยเบื้องต้นเท่าที่มีการประเมินนั้น ขั้นตอนการดำเนินการของอัยการนั้นไม่มีอะไรน่าตกใจเพราะหลังจากนี้ก็จะต้องมีการสืบสวนดำเนินคดีถึง 3 ศาล ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสู้คดีอีกหลายทาง เพราะกรณีดังกล่าวต้องเชื่อมโยงกับคดีภาษี นอกจากนั้น อัยการต้องดูว่าเจตนาภายในของผู้ถูกกล่าวหานั้นจงใจหลีกเลี่ยงภาษี มีภาระทางภาษีรวมถึงมีความผิดทางกฎหมายอาญาหรือไม่ ซึ่งเราก็พร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทุกประเด็นอยู่แล้ว

“ทักษิณ” มั่นใจได้รับความเป็นธรรม

“พ.ต.ท.ทักษิณได้ทราบแล้วว่าจะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในขั้นตอนของศาล จึงได้ย้ำมาในส่วนของทีมทนายให้การเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องข้อมูล หลักฐานต่างๆ ตลอดจนเตรียมการเข้าชี้แจงของคุณหญิงพจมานและคุณบรรณพจน์ในวันที่ 26 มี.ค. 50 นี้ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางการเมือง และมีผลกระทบต่อครอบครัวของท่าน แต่เบื้องต้นเท่าที่ประเมินท่านก็มีความสบายใจระดับหนึ่งว่า เมื่อเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลแล้ว ประเด็นทางการเมืองก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องน้อยลง มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น เพราะเรื่องนี้ไม่ได้จะดูในแง่กฎหมายเท่านั้น แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดจนสังคมไทยควรที่จะดูลึกลงไปถึงเจตนาภายในว่าครอบครัวชินวัตรที่บริจาคเงินเป็นพันๆล้านเข้ามูลนิธิไทยคมจะมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีเพียงไม่กี่ร้อยล้านจนต้องถูกดำเนินคดีได้อย่างไร” นายนพดลกล่าวย้ำ

ขอบคุณคำทำนายหมอไพศาล

นายนพดลยังกล่าวถึงกรณีที่นายปราโมทย์ ปิตตะพันธุ์ หรือ “หมอไพศาล” ทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาผงาดอีกครั้งว่า ขอขอบคุณที่ทำนายออกมาในแนวโน้มที่ดี แต่อนาคตก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังอยู่ต่างประเทศ และประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว ฉะนั้น อนาคตจะเป็นอย่างไรคงไปตอบแทน พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ เป็นเรื่องที่ตัวท่านเองตัดสินใจ และคงขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่าจะคิดอย่างไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณในอนาคตข้างหน้า เป็นไปได้ว่าท่านอาจกลับมาทำประโยชน์กับประเทศในฐานะอื่นที่ไม่ใช่ นายกฯ และคนที่เคยเข้าใจท่านผิดอาจจะกลับมาเข้าใจมากขึ้น

//www.thairath.com/news.php?section=politics&content=40270

Create Date : 16 มีนาคม 2550

Last Update : 16 มีนาคม 2550 14:49:10 น.

0 comments

Counter : 266 Pageviews.