Bloggang.com : จอบศักดิ์ : 'บิ๊กสงค์' รับห่วง คมช.ถูกตลบหลัง [23 มี.ค. 50

'บิ๊กสงค์' รับห่วง คมช.ถูกตลบหลัง [23 มี.ค. 50 - 04:17]

'บิ๊กสงค์' รับห่วง คมช.ถูกตลบหลัง [23 มี.ค. 50 - 04:17]

วานนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่แนวคิดกำหนดการนิรโทษกรรม คมช. ไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ทุกครั้งที่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นการนิรโทษกรรมจะออกเป็น พ.ร.บ. แต่ในครั้งนี้เกรงกันว่าเมื่อรัฐธรรมนูญปี 50 ประกาศใช้ไปแล้ว บทบัญญัติเรื่องการนิรโทษกรรมในรัฐธรรมนูญปี 49 จะต้องถูกยกเลิกตามไปด้วย จะส่งผลกระทบต่อ คมช.ได้ ดังนั้นจึงหารือว่าในบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญปี 50 ควรจะมีการเขียนไว้ด้วยว่าการกระทำใดๆในช่วงที่มีการทำรัฐประหารให้ถือว่ามีการนิรโทษกรรมตามที่รัฐธรรมนูญปี 49 บัญญัติไว้ด้วย ทั้งนี้ เมื่อเขียนเป็นบทเฉพาะกาลไว้แล้ว วันข้างหน้าจะออกเป็น พ.ร.บ.อย่างไรก็แล้วแต่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ขอให้กำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องมาจาก รธน.ปี 49 และยืนยันว่าตนเองและกรรมาธิการฯมีเจตนาดีที่จะให้เกิดความรอบคอบไม่ให้เกิดเงื่อนไขให้พวกหัวหมออาจจะก่อปัญหาได้อีก รู้สึกเป็นห่วงผู้ที่หวังดีอย่างคณะ คมช.ที่เข้ามาช่วยเหลือจัดการกับระบอบทักษิณให้ยุติลงไปได้ ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรให้ไปกระทบหรือเป็นเงื่อนไข เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้รับเลือกตั้ง ควรป้องกันไว้ก่อนน่าจะเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวไม่ได้มีการหารือ หรือรับใบสั่งมาจากทาง คมช.แต่อย่างใด

ยันไม่ปูทางทหารสืบทอดอำนาจ

น.ต.ประสงค์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญใหม่แม้จะมีบทเฉพาะกาล แต่ไม่นำไปสู่การสืบทอดอำนาจ เพราะถ้าประชาชนดูเนื้อหาทั้งหมดแล้วจะเข้าใจว่ามีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ ในฐานะที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการฯพูดได้เลยว่าจะไม่มีช่องทางให้ทหารเข้าไปสืบทอดอำนาจในรัฐธรรมนูญใหม่แน่นอน และเชื่อว่ากรรมาธิการฯทั้ง 35 คน ก็คิดเช่นเดียวกับตนเอง

“การขึ้นหลังเสือแล้วจะลงหลังเสือให้ปลอดภัยต้องทำให้ประชาชนพออกพอใจ ผมเรียนตรงๆว่า เท่าที่รู้จักมักคุ้นคนเหล่านี้เขาอยากหมดหน้าที่ใน 1 ปี และกลับบ้านอย่างสบาย ดังนั้น การที่เขาจะเข้ามาสืบทอดอำนาจ หรืออะไรต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่าเขาไม่คิดที่จะเอาตัวเข้ามาผูกพันอีก เท่านี้เขาก็ลำบากใจอยู่มากแล้ว ผมเคยพูดกับเขา ผมจึงกล้าบอกอย่างนี้” น.ต.ประสงค์กล่าว

แนะรัฐบาลชงเรื่องให้ สนช.ซักฟอก

ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างกล่าวถึงการแถลงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาลว่า รู้สึกว่าฝ่ายบริหารยังค่อนข้างทำงานล่าช้า บางสิ่งบางอย่างไม่ชัดเจน ไม่มีรูปธรรมที่จับต้อง ขณะที่ความใจร้อนของทุกคนก็อยากให้ดีขึ้น ยิ่งหวังสูงเท่าไหร่ ความผิดหวังก็ยิ่งเข้ามาแทนที่ จึงเป็นสัญญาณที่ฝ่ายบริหารควรจะเข้าใจ และรีบปรับปรุงกระบวนการทำงานใหม่ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างฝ่ายบริหารสามารถช่วยสะสางได้ เช่นปัญหาทุจริตในกระทรวงต่างๆที่มีอยู่ก็ควรกระตือรือร้น ทั้งนี้ เรื่องการทำงานของรัฐบาลได้พูดไว้ตั้งแต่การแถลงนโยบายแล้วว่านโยบายสวยงาม แต่ควรเร่งผลงานให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วย เพราะมีระยะเวลาทำงานแค่ 1 ปี จึงควรจัดลำดับสำคัญก่อนหลัง “ผมพูดเมื่อวันนั้นผมจำได้ เพราะผมอยากให้ทุกคนที่เข้ามาทำงานกลับไปด้วยความสบายใจ มีประชาชนมาส่ง ไม่ใช่มาขับไล่ แล้ววันนี้ผ่านมา 6 เดือน ผมมองข้างหน้าออก เหลืออีก 6 เดือนจะครบปี ต้องรีบขยับเขยื้อนทำงานให้ทันอกทันใจตามความต้องการของประชาชน”

น.ต.ประสงค์ยังเห็นด้วยกับ สนช.ที่จะเข้าชื่อเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล แต่ตนเห็นว่าในบรรยากาศการเมืองในปัจจุบัน รัฐบาลควรขอเปิดสภานิติบัญญัติเพื่อให้มีการอภิปรายด้วยตัวเอง จะได้รับการยกย่องมากกว่าถูก สนช.รวบรวมรายชื่อ เพราะหากรัฐบาลใช้โอกาสทำความเข้าใจกับประชาชน ก็จะช่วยระงับบรรยากาศอารมณ์ความรู้สึกลดลงไปได้

“มีชัย” เสนอวิธีป้องกันสภาผัวเมีย

ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่อนุกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอแนวทางป้องกันปัญหาสภาผัวเมีย โดยจะกำหนดห้ามคู่สมรสลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว. ในสมัยต่อไป และเมื่อพ้นจาก ส.ว.ต้องไม่เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า โดยหลักทั่วๆไปก็ไม่ควรห้าม เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่คณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญคงพยายามจะแก้ปัญหานี้ จึงเห็นว่า หากจะป้องกันควรกำหนดเฉพาะหลักไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วรายละเอียดค่อยไประบุในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เผื่อว่าเมื่อมีการเลี่ยงกฎหมายจะได้แก้ไขง่ายกว่าการที่จะไปแก้รัฐธรรมนูญ และหากจะกำหนดควรใส่ไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าจะห้ามสามีภรรยาก็ควรคลุมไปถึงลูกด้วย

//www.thairath.com/news.php?section=politics&content=41059

Create Date : 28 มีนาคม 2550

Last Update : 28 มีนาคม 2550 15:20:26 น.

0 comments

Counter : 204 Pageviews.