Bloggang.com : จอบศักดิ์ : สั่ง 'พจมาน' รายงานตัว 26 มี.ค. [23 มี.ค. 50

สั่ง 'พจมาน' รายงานตัว 26 มี.ค. [23 มี.ค. 50 - 03:57]

สั่ง 'พจมาน' รายงานตัว 26 มี.ค. [23 มี.ค. 50 - 03:57]

วานนี้ (22 มี.ค.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงาน อัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยถึงขั้นตอนการยื่นฟ้อง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน กรณีการเลี่ยงภาษีในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯว่า อัยการสูงสุดทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 แล้วว่า ให้แสดงตัวที่ฝ่ายอัยการคดีพิเศษ ถนนรัชดาฯ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 จะเดินทางมารายงานตัว และแม้จะไม่มารายงานตัว ทาง อสส.ก็จะต้องยื่นฟ้องแน่นอน โดยไม่ผ่อนผันเวลาให้อย่างเด็ดขาด ส่วนขั้นตอนการดำเนินการนั้น เมื่อมารายงานตัวก็จะให้ลงนามในหนังสือรับทราบข้อกล่าวหา แล้วจะนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทันที ส่วนการยื่นประกันตัวให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณา

ทนายฟุ้ง “คุณหญิงอ้อ” มั่นใจสู้ได้

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวชินวัตร แถลงถึงการทำงานของ คมช. และ คตส.ในรอบ 6 เดือน ว่า ที่ผ่านมา คมช.หาเหตุผลในการยึดอำนาจ 4 ข้อ มากกว่าแก้ไขปัญหาสำคัญ ส่วนที่ คตส.แสดงความดีใจหลังนำคดีการเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ เข้าสู่ชั้นศาลได้ก็เป็นแค่ จุดเริ่มต้น กระบวนการยังอีกยาวไกล ฉะนั้นไม่อยากให้ คมช.และ คตส.ดีใจมากนัก คุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์มั่นใจว่าต่อสู้คดีได้เมื่อเข้าสู่ศาล เพราะการ เมืองจะแทรกแซงกระบวนการตรงนี้ไม่ได้ และในวันส่งตัวจำเลยรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 26 มี.ค.นี้ คุณหญิงพจมานและนายบรรณพจน์คงจะเดินทางไปด้วยตัวเอง และเราหวังว่าจะได้รับการประกันตัว

ยัน “ทักษิณ” กลับไทยเพื่อขึ้นศาล

นายนพดลกล่าวต่อว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีกำหนดจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้าเพื่อไปพบปะเพื่อนฝูง โดยไม่มีการนัดสัมภาษณ์หรือปาฐกถาที่ใด ส่วนการจะกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินคดีที่จะพิจารณาในชั้นศาล ถ้าศาลมีคำสั่งก็จำเป็นต้องเดินทางกลับ โดยเฉพาะคดีอาญาที่กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการต่อหน้าจำเลยเท่านั้น ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ ระบุว่าได้คุยโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ทักษิณโดยระบุว่าจะกลับหลังการเลือกตั้ง ก็เป็นช่วง 2 เดือนก่อน แต่คาดว่าเวลาที่พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับประเทศได้คือช่วงหลังเลือกตั้ง เพราะคดีความต่างๆก็น่าจะมีการพิจารณาในช่วงเวลานั้น วันนี้อดีตนายกฯได้เอาใจช่วยให้รัฐบาลแก้ปัญหาต่างๆได้สำเร็จ ตอนนี้ท่านอยู่ในฐานะประชาชนธรรมดาทุกฝ่าย ไม่ต้องหวาดระแวงอะไร

ย้ำไม่เคยสั่งใครเคลื่อนไหวในไทย

เมื่อถามว่า มีการมองว่าแขนขาของ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ที่ประเทศไทย นายนพดลตอบว่า ไม่เพียงเฉพาะแขนขา เพื่อนฝูงพี่น้องและจิตวิญญาณก็อยู่ที่ประเทศไทย แต่ต้องดูว่าเอาแขนขาไปทำอะไร ขอให้สบายใจได้ พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้มีการสั่งการให้ใครทำอะไรเลย ส่วนตัวอยากให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. และ ผบ.ทบ.มีสมาธิแก้ไขปัญหาภาคใต้อย่างเต็มที่มากกว่า สำหรับประเด็นเรื่องการสืบทอดอำนาจของ คมช.นั้น ส่วนตัวคิดว่าถ้าหลังวันที่ 30 ก.ย.2550 พล.อ.สนธิเกษียณไปแล้ว จะเข้าสู่ระบบการเมืองด้วยวิถีทางประชาธิปไตย อย่างนั้น คงไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรเคลือบแคลง เรายังเชื่อว่าอำนาจรัฐนั้นมาจากปลายปากกาไม่ใช่กระบอกปืน

“แก้วสรร” ชงดีเอสไอสอบฟอกเงิน

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบการทุจริตในรัฐบาลชุดก่อนนั้น วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการบ้านเอื้ออาทรที่มีนายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นประธาน โดยนายแก้วสรร กล่าวว่า การตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทรต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการปราบคอรัปชัน และการฟอกเงิน ในกรณีการฟอกเงิน ทางสำนักงานป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เข้ามาดูแล อาทิ การยึดอายัดทรัพย์ เพราะเป็นอำนาจของ ปปง. โดยตรง พร้อมการขยายผลเรื่องการฟอกเงิน ปิดบังอำพรางแหล่งที่มาของเงินด้วย ส่วนการตรวจสอบที่ประชุมคณะอนุฯมีมติว่าจะส่งเรื่องนี้ให้กรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอดูแล เพราะกระบวนการตรวจสอบที่ผ่านมา คตส. ยืมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาช่วยงาน จึงให้ดีเอสไอสานงานต่อเพื่อความรวดเร็วขึ้น เพราะคดีนี้จัดเป็นคดีที่มีอิทธิพล ซึ่งในวันที่ 23 มี.ค.นี้ ดีเอสไอจะมีการประชุมว่าจะรับเรื่องนี้ไว้ดำเนินการหรือไม่

ชุดสอบกล้ายางพร้อมสรุปคดี เม.ย.

วันเดียวกัน ได้มีการประชุมอนุกรรมการตรวจสอบโครงการทุจริตจัดซื้อกล้ายาง 90 ล้านต้น ที่มีนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.เป็นประธาน โดยนายบรรเจิด เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้วางกรอบการพิจารณาศึกษาว่าจะต้องมีการค้นหาพยาน หลักฐานส่วนใดเพิ่มเติม โดยได้แยกการไต่สวนออกเป็นกลุ่มๆ คือ คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการกลั่นกรอง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบริษัทเอกชน เพื่อศึกษาหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ก่อนนำผลสรุปมาประมวลว่าจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่ หากไม่มีก็จะสรุปสำนวนเสนอต่อที่ประชุม คตส. ชุดใหญ่ เพื่อขอมีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องศาลได้ ไม่เกินสิ้นเดือน เม.ย.

เรียก “พงส์” สอบนอมินีกุหลาบแก้ว

ต่อมาเวลา 14.00 น. ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ กรรมการ คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบเป็นประธานที่ได้เชิญนายพงส์ สารสิน หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทกุหลาบแก้ว เข้าชี้แจงกรณีการถือหุ้นแทน หรือนอมินี

ขณะที่นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.ในฐานะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เปิดเผยว่า นายพงส์ได้ให้ข้อมูลในภาพรวมในการซื้อขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเอกสาร

“ไพบูลย์” นัด กคช.สางโกงบ้านเอื้อ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกฯและ รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวถึงการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการที่พัวพันการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ว่า ทาง คตส.ยังไม่ส่งข้อมูลมาให้ แต่ทางการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้ ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหาร กคช. ในวันที่ 26 มี.ค. เพื่อพิจารณาเรื่องนี้แล้วโดยขอให้ผู้ว่าการ กคช.สรุปเรื่องทั้งผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่กระทรวงตั้งขึ้น รวมกับข้อมูลจาก คตส.มา ให้ตนทราบ กรณีนี้กระทรวงมีการจัดแบ่งการทบทวนการดำเนินการโครงการบ้านเอื้ออาทรไปแล้ว ทั้งในส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการและส่วนที่ทำไปแล้ว เรามีแผนงานชัดเจนส่วนเรื่องการทุจริตคงต้องว่าเป็นอีกส่วนหนึ่ง หากผลการสอบสวนของ คตส.ออกมาอย่างไรก็คงต้องว่าไปตามนั้น ถ้าเกี่ยวข้องกับอดีตผู้บริหารต้องว่าไปเป็นเรื่องส่วนบุคคลแต่ถ้าเกี่ยวข้องกับผู้บริหารปัจจุบัน หรือพนักงาน กคช.ก็ต้องดำเนินการทางวินัย

ดึง “คัมภีร์” เคลียร์ปัญหาข้อ ก.ม.

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้เชิญนายคัมภีร์ แก้วเจริญ อดีตอัยการสูงสุด มาเป็นที่ปรึกษากฎหมายอาวุโสเพื่อช่วยงานของคณะกรรมการบริหาร กคช. เพราะเมื่อความผิดเกิดขึ้นตามกฎหมาย จะทำอะไรต้องดูในแง่ กฎหมายให้ดี ส่วนจะมีข้าราชการของกระทรวงและ กคช. พัวพันการทุจริตกี่รายนั้น ยังไม่ควรพูดไป ต้องให้ คตส. พูดออกมาจะดีกว่า ทั้งนี้ ยังได้ตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลเพื่อช่วยทางคณะกรรมการฯและ รมต.ในการดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร โดยเฉพาะการเตรียมตัวร่วมกันเป็นกลุ่มหรือชุมชน เพื่อป้องกันปัญหาตัวเลขความต้องการปลอมที่เคยมีถึง 2 แสนหน่วย และช่วยให้ประชาชนได้มีชีวิตที่มั่นคง ไม่ใช่เพียงการมีบ้านให้ คนมาซื้อแล้วจบเท่านั้น

ป.ป.ช.สอบ “อาคม” ทุจริตขายยาง

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังการประชุมนายกกล้านรงค์ จันทิก โฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายอาคม เอ่งฉ้วน อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ กับพวก ข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีการทำสัญญาขายยางพาราตามโครงการแทรกแซงตลาดยางพารา ปี 2542-2543 โดยฝ่าฝืนมติ ครม.ที่กำหนดให้ขายยางพาราของโครงการแทรกแซงตลาดยาง พาราให้แก่บริษัทต่างประเทศเท่านั้น และอนุมัติให้ขยายเวลาการส่งมอบยางพารา โดยยกเว้นค่าปรับให้แก่ผู้ซื้อ ทั้งที่ผู้ซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญา เป็นเหตุให้องค์การสวนยางได้รับความเสียหาย โดยมีตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน

//www.thairath.com/news.php?section=politics&content=41056

Create Date : 28 มีนาคม 2550

Last Update : 28 มีนาคม 2550 15:22:11 น.

0 comments

Counter : 250 Pageviews.