|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
เปิดโผ5 ชื่อขุนคลังคนใหม่!เอกชนตอกย้ำ ทบทวน บทบาท-หน้าที่อุ๋ย [1 ก.พ. 50 - 04:42]
เปิดโผ5 ชื่อขุนคลังคนใหม่!เอกชนตอกย้ำ ทบทวน บทบาท-หน้าที่อุ๋ย [1 ก.พ. 50 - 04:42] นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ ไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวในการสัมมนาเรื่องทิศทางการลงทุนภาครัฐ และเอกชนปี 2550 และการรับมือค่าเงินบาทผันผวน ว่า ขอย้ำว่า จากนี้ไปเงินบาทจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ หากถามว่า จะทำอย่างไรให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว ก็มีทางเดียว คือ ยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% เพื่อกลับเข้าสู่ความเป็นจริง เพราะรัฐบาลบริหารประเทศในนโยบายการเงินการคลังไม่ดีพอ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในปัจจุบัน มีการปล่อยให้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินบาท ปล่อยให้เกินดุลการค้า แทนที่จะทำให้ขาดดุลการค้า และถ้ามีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออาร์พี 14 วันตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ณ ขณะนี้ ก็ไม่ต้องใช้มาตรการกันสำรอง 30% แล้ว
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงมาตรการนี้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนกังวลใจในนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เพราะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วแบบกลับลำ 360 องศา และไม่มีการอธิบายให้ชัดเจนแก่นักลงทุน เพราะที่ผ่านมา ไทยมีนโยบายเปิดเสรีการลงทุน ใช้กลไกตลาดเป็นหลัก เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศ แต่เมื่อเม็ดเงินเข้ามามากกลับกลายเป็นข้ออ้างว่าเงินบาทแข็งตัว และหันไปใช้นโยบายเข้มงวดการลงทุนแทน ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองสูงมาก เพราะขั้วอำนาจเก่าก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว มีการจ้างล็อบบี้ยีสต์ประชาสัมพันธ์ตัวเองนำตัวเองไปออกอากาศผ่านโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น และเร็วๆนี้ก็จะลงสัมภาษณ์ในนิตยสาร TIME ขณะที่ขั้วอำนาจใหม่ได้แต่เพียงตั้งรับสถานการณ์
ถ้าหากทั้งสองฝ่ายยังเล่นเกมช่วงชิงชัยชนะกันอยู่เช่นนี้ สุดท้ายก็ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ชนะบนความบอบช้ำของประเทศ ถึงเวลานั้น ประเทศ ไทยก็จะสูญเสียภาพพจน์ด้านการลงทุนไปหมด เพราะทุนจากต่างประเทศก็จะต้องรอดูว่า ปัญหานี้จะจบลงเมื่อใด จึงจะเริ่มต้นลงทุนใหม่อีกครั้งในประเทศไทย
ด้านนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) วันนี้ (1 ก.พ.) อาจเสนอให้สำนักงานบีโอไอทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อยกเว้นมาตรการกันสำรอง 30% ทั้งหมดแก่นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับบีโอไอไม่ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขธปท. เพราะนักลงทุนเหล่านี้มีแผนลงทุนที่ชัดเจน และตั้งใจจะลงทุนจริง จึงควรอำนวยความสะดวกให้เป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นักธุรกิจจำนวนมากต่างเรียกร้องให้รัฐบาลหันมารับฟังปัญหาของพวกตนอย่างจริงๆจังๆ แทนที่จะรับฟังแต่เฉพาะ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และ รมว.คลัง เพียงคนเดียว ในขณะที่ดำเนินมาตรการการเงินการคลังผิดพลาด และยังคงกัดฟันยืนยันว่า ทำถูกอยู่เพียงคนเดียว ทั้งๆที่ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมเงินบาทจึงยังแข็งค่าอยู่ การผ่อนคลายมาตรการกันสำรอง 30% ที่ให้เอกชนที่กู้ยืมเงินตราต่างประเทศทั้งที่เป็นการกู้ยืมทั่วไป และเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ ต้องทำสวอปเต็มจำนวน 100% ระยะเวลา 1 ปี ไม่ได้ช่วยให้ภาคเอกชนดีขึ้น เพราะต้นทุนการทำสวอป 1 ปี สูงมาก ขณะที่เอกชนส่วนใหญ่ทำสวอปในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ส่วนที่ผ่อนคลายให้ตลาดหุ้น ก็ไม่ได้ผ่อนคลายให้ตลาด ตราสารหนี้ ผลกระทบจึงยังมีต่อตลาดตราสารหนี้ กองทุนรวม และกองทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่
ทางที่ดีควรยกเลิกมาตรการนี้ไปเลย เพราะได้พิสูจน์หลังจากออกมาตรการมาแล้วว่า ไม่ได้ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงตามที่แบงก์ชาติต้องการ และในทางตรงกันข้าม ยังมีผลให้ค่าเงินบาทในตลาดต่างประเทศแข็งค่าขึ้น จน ธปท.ต้องเข้าไปแทรกแซงมาโดยตลอด และประสบปัญหาการขาดทุนโดยตลอด ซึ่งจะเห็นได้จากตัวเลขการขาดทุนจากการทำสวอป 80,000 ล้านบาท
นักวิเคราะห์การเงินให้ความเห็นว่า เมื่อยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ได้ ธปท.ควรหันไปปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก เพื่อให้ผลตอบแทนที่มาในรูปดอกเบี้ยลดต่ำลง พร้อมหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เกี่ยวกับการทบทวนนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้มาเป็นเวลา 10 ปี เช่นที่ประเทศอื่นๆในภูมิภาคต่างก็ทำกันเพื่อให้สามารถรับมือกับกระแสการหลั่งไหลเข้ามาของเงินทุนจำนวนมหาศาลได้
ยังมีข้อเสนอจากนักธุรกิจและบรรดานักวิเคราะห์การเงินด้วยว่า เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการเศรษฐกิจช่วงสั้นของประเทศ รัฐบาลควรทบทวนบทบาทของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ใหม่ และหากเป็นไปได้ควรพิจารณาหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถในสายงานด้านเศรษฐกิจมหภาค หรือด้านนโยบายการเงินการคลัง มาทำหน้าที่แทนก่อนที่ความเสียหายจะมีมากกว่านี้ โดยผู้ที่ถูกเสนอชื่อมีอยู่ 5 รายด้วยกัน ได้แก่ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธาน บมจ.แอ๊ดวานซ์ อะโกร, ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท., นายวิจิตร สุพินิจ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, นายเอกกมล คีรีวัฒน์ อดีตเลขาธิการสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายศุภชัย พิศิษฐวานิช อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศเมื่อ 31 ม.ค. อยู่ที่ระดับ 34.55 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทที่ซื้อขายในตลาดในประเทศ อยู่ที่ 35.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ.
//www.thairath.com/news.php?section=economic&content=35419
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 20:09:26 น. |
|
1 comments
|
Counter : 231 Pageviews. |
|
|
|
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:19:48 น. |
|
|
|
| |
|
|