- แป้งเค้กบัวแดง 190 กรัม ( ประมาณ 2 ถ้วยและตักออก 2 ชต. )
- ยีสต์ 5 กรัม ( 1/2 ชต. )
- น้ำตาลทราย 5 กรัม ( 1/2 ชต. )
- น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งส่วนที่ 2 
- แป้งเค้กบัวแดง 75 กรัม ( ประมาณเกือบๆ 3/4 ถ้วย )
- ผงฟู 2.5 กรัม ( 1 ชช. )
- น้ำ 20 กรัม ( 1/8 ถ้วยตวง )
- น้ำตาลทราย 50 กรัม ( ประมาณ 1/3 ถ้วย+ 1 ชต. )
- เกลือ 2 กรัม ( 1/2 ชช. )
- น้ำมันพืช 25 กรัม ( 2 ชต. )





ส่วนของไส้หมูสับ
** แปลงสูตรเล็กน้อย แต่รับรองอร่อยครับ

- เนื้อหมูสับติดมัน 150 กรัม
- แครอทหั่นเต๋าเล็กๆ 115 กรัม ( ต้นฉบับใช้มันแกวขูดเส้น แต่เราว่าแครอทอร่อยดี )
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ ( ต้นฉบับเมื่อลดสูตรแล้วเหลือ 1/2 ชต. แต่เราว่าใส่เยอะๆ หอมอร่อยกว่า )
- พริกไท 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 2 ต้น ( ต้นฉบับเมื่อลดสูตรใช้แค่ 1 ต้น )
- เห็ดหอมหั่นชิ้นเล็ก 1 ดอก ( เราไม่ได้ใส่เพราะหมดพอดี )


** เพิ่มเองนอกสูตรคือ .....
1.ไข่ขาว ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
   ไข่ขาวจะช่วยให้ไส้หมูนุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง หากใครชอบไส้แบบแข็งๆ ก็ไม่ต้องใส่น่ะครับ
2. ไข่ต้มสุก











วิธีทำแป้งส่วนที่ 1

- ร่อนแป้งเค้กพักไว้
- ใส่ยีสต์ น้ำ และน้ำตาล ลงไปในแป้ง ( กรณียีสต์ดีๆใหม่ๆเพิ่งแกะก็ทำตามนี้เลย แต่ถ้ายีสต์เก่าเก็บอาจต้องไปกระตุ้นกันก่อน )


** การกระตุ้นยีสต์ ( จากความรู้ในห้องก้นครัว )
ละลายน้ำตาลทรายกับน้ำ (ใช้น้ำอุ่นนิดๆ ไม่ถึงกับร้อน ) ใส่ยีสต์แล้วคลุมผ้าไว้รอให้ยีสต์ทำงาน ( ลักษณะจะเป็นฟองๆ )



















- นวดมือจนเข้ากันเกือบๆ 10 นาที
- ถ้าแห้งไปเติมน้ำเปล่าทีละ 1/2 ชต.แล้วลองนวดดูก่อนว่า ok ขึ้นไหม
เราเติมไป 1 ชต.จากสูตรที่ว่าไว้ด้านบน










- คลุมพลาสติกไว้ในที่อากาศอ้าวๆหน่อยประมาณ 45-60 นาที

*** ของเราคลุมด้วยพลาสติกแร็ป 1 ครั้ง
คลุมด้วยผ้าดำอีก 1 ครั้ง แล้วเอาไปตั้งไว้ระเบียงที่ไอร้อนเข้ามา











ระหว่างรอแป้งขึ้น …….. มาทำไส้กัน

- นำส่วนผสมทั้งหมดเทในอ่างผสม คนๆ กวนๆ ไปซักระยะ ให้เริ่มหนืดๆ เหนียวๆ
- ใส่ไข่ขาว คนต่อให้หนืดๆ เหนียวๆ
- พักไว้ซัก 1 ชม.ในตู้เย็น ( ไม่ต้องถึงก็ได้มั้ง อันนี้ไม่แน่ใจ 55 )
















พอใกล้ๆจะครบเวลาหมักแป้งส่วนที่ 1

ก็เอามาหมูมาปั้น
เป็นก้อนกลมเตรียมสำหรับใส่ไส้
ของเราปั้นได้ 14 ก้อนพอดี
( ขนาดประมาณเล็กกว่าลูกปิงปองนิดนึง )



















เวลาผ่านไปประมาณ ชม.กว่าๆ
เปิดดูด้วยความตื่นเต้น
ฟูขึ้นเยอะเลย กลิ่นยีสต์รุนแรงด้วย


















แหวกแป้งดู
จะเป็นใยหยาบ ๆ











วิธีทำแป้งส่วนที่ 2
- ร่อนแป้งกับผงฟู
- ใส่น้ำ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันพืช ลงในแป้ง
- นวดให้พอเนียนเข้ากัน จะดูแฉะๆไปซักนิด ไม่ต้องตกใจ
- นำแป้งสปันจ์ส่วนที่ 1 ที่หมักได้ที่แล้วใส่
- นวดต่อจนเข้ากัน

** ไม่ต้องนวดนาน เอาแค่พอเข้ากันเป็นใช้ได้
เห็นบางคนที่ทำแล้วบอกว่า นวดนานแล้วแป้งเนื้อเหนียวเหมือนขนมปัง จะไม่อร่อย
























- ตัดน้ำหนักก้อนละ 30 - 35 กรัม
** ถ้าตัด 40 กรัม ..... จะได้ลูกใหญ่แบบกิน 1 ลูกอิ่มพอดีสำหรับคุณผู้หญิง 

ไม่มีเครื่องชั่งก็กะๆเอาไม่มีอะไรผิด










- คลึงแป้งให้เป็นทรงกลม บางๆได้ ( แป้งมีความยืดหยุ่นสูงไม่ขาดง่ายเท่าไร )
- ใส่ไส้หมู และ ไข่ต้ม
- จับจีบแล้ววางบนกระดาษ ( ใช้กระดาษไขที่รองเวลาอบเค้ก พอดีมีอยู่เยอะ )












สภาพโดยรวม  ดูแย่สนิท 555


หน้าตาไม่เหมือนกันซักอัน
ดีอย่างนึงคือ
สามารถจองได้ว่า จะกินอันไหนตั้งแต่ยังไม่นึ่ง
แอบมีใส้แตกด้วย
















- รอซาลาเปาขึ้นเป็น 2 เท่า ประมาณ 20-30 นาที
- นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 12 - 15 นาที


** ในรูป มีซาลาเปาแตก 1 ลูก
เกิดจากการเอามีดผ่าดูใส้ว่าสุกไหม ไม่ใช่ว่านึ่งแล้วแตกน่ะ



















เสร็จแล้ว

ทานทันทีก็อร่อย
หรือ
เก็บในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วันครับ
ก่อนทาน
เข้าไมโครเวฟประมาณ 35 วินาที
อร่อยล้ำ





















เนื้อแป้งจะนุ่มแบบ เด้งๆ

ชอบ .... ซาลาเปาแบบนี้จริงๆเลย
ไม่ชอบแบบฟูเหมือนขนมถ้วยฟู
แบบนี้อร่อยดี

















บริเวณแป้งที่โดนไส้
ไม่แฉะมาก ไม่ยุ่ย อร่อยดี

















สำหรับสูตรนี้ ......ให้เลย 10/10 
สูตรนี้ผ่านฉลุย อร่อยมากๆๆๆๆๆๆ



ขอบคุณสูตร : ซาลาเปายีสต์ สูตร ม.เกษตร
//topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5692772/D5692772.html




แม้แต่สมาชิกของบ้าน
ก็ยังชอบ






































........ ปิดท้ายด้วยคนทำ ........



















.