Venezia (2) Venice   St. Mark วันต่อมาผมก็มาเดินเ่ล่นในเวนิส จากมิลานมาเวนิส ด้วยรถไฟ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษ ระยะทางจากมิลานไปยังเวนิส242 กิโลเมตรผมยังไม่ได้กระเป๋าเดินทางที่หายไป การไม่มีอะไรมากนักผมสามารถเดินทางโดยรถไฟ จากมาเพ็นซ่า หาทางไป MILANO CENTRALE และหาทางลง Santa Lucia ( BY Canel )โปรแกรมเดินทางมาเวนิส มีรถไฟหลายขบวนไม่ต้องจองเหมาะสำหรับคนไม่มีสัมภาระ ต้องเดินกันยาว เพราะ เวนิส มีแต่ทางเดินแคบๆและคลอง มากมาย เป็นเมืองที่มีอากาศเย็น แดดดูแรงแต่ไม่ร้อน ไม่มี่รถบนถนน Shuttle bus ก็มีที่จอดเรียกว่าสถานีเช่นกัน สิ่งที่น่าทำได้ ผมจะต้องพักที่นี่สัก1 คืนก่อนเดินทางต่อ ผมอยากดู เวนิสยามค่ำ และอีกใจหนึ่งตกลงใจกลับมิลานตามเดิม อาจจะสัก2-3 ทุ่ม รถไฟมีตลอดเวลาและเราก็ไม่มีธุระอะไร....แต่ความมีเสน่ห์ของเวนิส ทำให้อยากเห็นเวนิสยามค่ำ เพราะกระเป๋าเดินทางหายนี้เอง เลยเสียความรู้สึก ค่อนข้างวุ่นวาย.. เวนิส เป็นบ้านเกิดของนักเดินทางที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เขามีชื่อว่ามาโคโปโล มีสนามบิน เรียก Marcopolo Airport คนที่่ กล่าวกันว่าน่าจะนำเส้นหมี่ของจีนมา เป็นคนแรกที่อิตาลี และชาวเมืองก็มาปรับ เปลียนเป็น เส้นสปาเก็ตตี้ ( ลาซานญ่า และ มักโรนี....???) เมืองที่มีแม่น้ำลำคลองมากที่สุดในโลก จนเกิดการค้าข้ามโลกโดยทางเรือ วรรณกรรมลือชื่อ The Merchant of Venice วรรณกรรมบันลือโลก คนต่อมาคือปุคชินี่ คุณอาจจะรู้จักดีกว่า Madama Butterfy, La bohème อีกคนนี้เป็นนักร้องดังนะ Luciano Pavarotti ผมชอบเขามากๆเป็นนักร้องที่เก่งมากและรื่นเริง และชาวเวเนเชียน ( Venetian)เรียกเมืองเวนิสว่าเวเนเชีย ที่เป็นบทละคร และเป็นภาพยนต์ ที่อัลปาชิโน เล่นเป็นไชล็อก ได้น่าดูมาก และตรงสิงโตที่มีปีก ที่เวนิส จำบทบาทของ Heath Ledger ที่แสดงเป็น Casanova ทีู่ถูกจับแขวนคอ พร้อมกับคู่รัก ตรงนี้....  Now Playing: Gymnopedie No. 1 Necessity They say necessity is the mother of all invention. I have had some firsthand experience with that over the last 2 days. As you may know, the Airline lost my luggage and I am in Venice without too many clothes and a camera which has photos to download without my attachment and my cell phone without any power and my charger in my lost baggage. Luckily I have my computer and my electrical connection which does not work in Italian circuits. ความจำเป็น มีคนกล่าวกันว่าความจำเป็นนั้นเป็นมารดาแห่งการคิดค้น ผมมีประสบการณ์ตรงเมื่อสองวันที่ผ่านมา คุณก็คงทราบว่าสายการบินทำกระเป๋าผมหายไปและผมอยู่ในเมืองเวนิสโดยที่มีเสื้อผ้าอยู่ไม่มากนัก กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือที่ไม่มีพลังงานและที่ชาร์จไฟอยู่ในกระเป่าที่สูญหาย แต่โชคดี(หรือเปล่านะ)ที่ผมมีคอมพิวเตอร์และสายไฟที่เข้ากันไม่ได้กับระบบไฟฟ้าของประเทศอิตาลี Not to worry, I did manage to buy an adapter and plugged my computer but my wireless network does not work in my room because the signal is poor. So I have to charge my laptop and work with it in the lobby of my hotel. I have managed to send pictures and post blogs except for the fact that the computer ate my blog twice and it was lost to posterity. ไม่ต้องเป็นห่วง ผมได้ซื้อadapterใส่และสามารถเสียบคอมพิวเตอร์ใช้ได้แต่เครือข่ายไร้สายในห้องของผมไม่ทำงานเพราะสัญญาณแย่มาก ผมเลยต้องชาร์จไฟเครื่องแลบท๊อปและทำงานที่ล๊อบบี้ของโรงแรมที่ผมพักอยู่ ผมสามารถส่งภาพและเขียนบล๊อกได้ยกเว้นแต่ว่าคอมพิวเตอร์กินบล๊อกผมไปสองหน และมันหายไปสู่คนรุ่นหลังเสียแล้ว Now to the necessity. I found out that I can charge my Cell Phone by using the USB Cable on my Computer, now I have a Cell Phone with fully charged battery and I managed to download my pictures using the same cable. I guess you are never too old to learn new things. ตอนนี้มาพูดถึงความจำเป็น ผมพบว่าสามารถชาร์จไฟเข้ามือถือโดยการโดยการใช้สายยูเอสบีต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ผมมีมือถือที่ชาร์จไฟเต็มแล้วและผมสามารถดาวน์โหลดรูปภาพได้โดยใช้สายเส้นเดียวกัน ผมเดาว่าคุณจะไม่แก่เกินไปที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ Grand Canal ชาวเมืองเรียก Canalettoเรือชมทิวทัศน์ของเมือง ออกไปยังเกาะ MURANO เกาะแห่งสีสรร เราจะเห็นเรือกอนโดล่า มากมาย    PC.รูปสะพานริอัลโต (Rialto) ทางเดินไปมีการขายสินค้า ของที่ระลึก มีนักท่องเที่ยวมากมาย เสียงไกด์นำทางไม่ขาดสาย ที่น่าสนใจคือร้านMurano Art di Venezia เป็นแกลเลอรี่โชว์เครื่องแก้ว อันหรูหรา เมื่อตัดสินใจเลือกไปเกาะมูราโน ก็ต้องจองที่พัก1คืนค่าที่พักแพงมากๆทั้งที่เป็น4 ดาวมีราคา340 ยูโร-290ยููโร และมักจะเต็ม ผมเลยเลือกห้องที่เห็นสะพาน Rialto และมีคุ้งน้ำ         มีเครื่องประดับจากแก้วด้วย เป็น Silver setting เป็นต่างหู สวยดี ผมตัดสินใจเลือกไปเกาะ Murano เป็นเกาะที่มีการเป่าแก้ว และบ้านเรือนมีอุตสาหกรรมขนาดย่อมกับการเป่าแก้ว น่าจะดูดี ใช้เวลา แล่นเรือไปกลับ2 ชั่วโมง ท่าเรื่อ ก็ ใกล้ๆสะพาน Rialto....ใช่ตรงนี้แหละ Santa Lucia ท่าเทียบเรือไม่ไกล ที่ผมหาทางเดินมาจากสถานีรถไฟ เวนิสบนถนนไม่มี่ีรถยนต์ มีแต่คนเดิน           โบสถ์ศิลปแบบไบเเซ็นไทน์ คือศิลปที่กล่าวว่า มีความเป็นโลกมนุษย์มากขึ้น การใช้กระเบื้องโมเสกเป็นสิ่งหนึ่งในการประกอบเป็นภาพ ความอลังการน้อยกว่าเช่นใหญ่Duomo โบสถ์ในมิลาน และืSan Marco St. Mark ที่เวนิส นี่เเและแบบไบแซ็นไทน์                Arsenal Clock     Pont VECCIO สะพาน Veccio  San Marco's Campanile Divine Order Venice has been a city tht has really excited me from the moment I laid eyes on the city. This is unusual because I am not giving to such sentiment. Even the McDonalds here is interesting. Of course it was a reality check when the chicken sandwich cost over 7 euros (about $11) and the Ketchup was extra. I love the Italians. I have found them a lot more hospitable and willing to go the extra distance when I ask something. This is so different from the French who had a snobbish attitude towards me while I was there. They did not even feel the need to try to find out what I needed sometimes. I guess to each their own. I am sure I have been like that before because one says that every time you encounter adversity, you are actually encountering yourself in a different person. Anyway back to the subject at hand. I was on the Island of Murano today. It was an interesting trip on the boat. Unfortunately, my camera died and I had to use disposable cameras to get my pictures. I will not be able to develop these till I get to Saint Louis. My camera is dead and will need to be charged before use. Thankfully I will be in Milan tomorrow and my luggage will be in my hand provided of course the airlines have found it. Having to live on the meager clothes I had in my carry on was a challenge and needed laundry to be done frequently. Drying clothes in a room is not easy. At least in Bali, there was a veranda and the weather was very cooperative for my purposes. I am looking forward to going to Sicily to visit Mount Etna and then to Naples to visit Mount Vesuvius. Then I will go to Pisa and one question is whether people on the leaning tower are also leaning or not. I will get a pictorial documentation of this when I am there.      
เวนิชตอนที่นัทไป ไม่สวยอย่างนี้ อากาศมัวซัว มีแต่หมอก นัทชอบที่นั่นตรงที่ เดินยังไงก็วนกลับมาที่เก่าได้ ไม่ต้องกลัวหลง..
ฝันดีและก็มีความสุขมากๆค่ะ โดย: Why England
 วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:3:32:15 น.สวยมากๆเป็นเมืองที่ใครๆก็อยากไปค่ะ เข้ามาชมก็เหมือนกับไปเองเลยที่เดียว
คิดว่าเป็นภาพถ่ายเองทั้งหมด ชอบที่สุดคือภาพน้ำที่อยู่ระหว่างตึกสองข้าง มีศิลปะการถ่ายมากค่ะ โดย: YUCCA
วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:15:01:19 น. สวัสดีค่ะ ... จูนแวะมาเยี่ยม และไปเที่ยวด้วยคน  ดูภาพแล้วอยากจะไปจริงๆเลยค่ะ  ..ถ่ายภาพได้สวยจัง  Ps. ฝากสวัสดีคุณ Cheria ด้วยนะคะ  และขอบคุณที่พาเที่ยวด้วยค่ะ  โดย: จูน (June4
) วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:9:31:44 น.สวยมาก คนบรรยายได้ดีมาก
ทำให้เราสามารถหลับตาเห็นภาพ และสถานที่ต่างๆ ไปกับคุณด้วย สมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัยมากมาย ยายเก๋าตามไม่ทัน.. ตอนที่ยายเก๋าไปเที่ยวกับกรุ๊บเพื่อน 8-9 คน เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว มีแค่กล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์ม ธรรมดา เมื่อกลับมาอัดรูป ก็อยู่ในอารบั้ม.. ไม่เหมือนปัจจุบันถ่ายรูปเสร็จสามารถเล่าเรื่อง ส่งรูปข้ามโลก ให้ดูได้เลย ขอบคุณที่พาไปเที่ยว แล้วจะกลับมาเยี่ยมอีก โดย: ยายเก๋า (ชมพร
) วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:16:53:28 น. ชอบเมืองเวนิชจังค่ะ งุงิ อยากไปมั่ง แง่มๆๆๆๆ ดุรูปไปพลางๆ ก่อง แง่มๆๆๆ คุณเชรียา กับคุณนิชานสบายดีนะคะ Take care ..... ^ ^ โดย: Butterflyblog
วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:19:58:57 น.หายไปนาน ตอนนี้คุณหมอมาอยู่เวนิสแล้วหรือค่ะนี่ ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนหลังๆดูซะแล่น
 โดย: rambujan
วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:21:23:47 น. |
SwantiJareeCheri
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
All Blog
|
|||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||||||||
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อคนะค่ะ