|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
หมากก้นคก
หมากก้นครก
ช่วงฤดูทำนา หรือหน้าฝน สมัยเป็นเด็ก เมื่อพาควายไปเลี้ยงแถวตีนโคก หรือชายป่าละเมาะ เด็กๆ มักจะเดินเสาะหาผลไม้ป่า มากิน หนึ่งในนั้นคือ หมากก้นคก
หมากก้นคก หรือบักก้นคก (หรืออาจเขียนว่า ก้นครก) เป็นไม้พุ่มเตี้ย ในหนึ่งพุ่มหรือหนึ่งกอ จะมีหลายๆ ลำต้นเกิดอยู่ด้วยกัน แต่ที่เป็นต้นเดี่ยวก็มีเช่นกัน
ลักษณะใบ บรรยายยาก จึงไม่ขอบรรยาย (ใบคล้ายๆ ใบต้องแล่ง)
หมากก้นคก ภาษาภาคอื่น เรียกว่า ตับเต่าน้อย หรือกล้วยเต่า
หมากก้นคก ผลดิบสีเขียว ผลสุกสีเหลืองอมเขียว
ผลดิบ รสฝาด ผลสุก โดยทั่วไปรสชาติหวานอมฝาดนิดๆ แต่หากสุกงอมจริงๆ อาจไม่เหลือรสฝาดเลยก็มี
หมากก้นคก แม้จะให้ความอร่อยได้ไม่จุใจ ให้ความอิ่มได้ไม่เต็มท้อง แต่นั่นคือ ผลไม้ป่าละเมาะ ที่ให้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ แก่เด็กๆ
ข้อควรระวัง : ตามพุ่มต้นก้นคก อาจมีรังแตน เช่น แตนขี้หมา และแตนราม เป็นต้น ดังนั้น การเปิดหาหมากก้นคก ควรใช้ลำไม้ยาวๆ หรือไม่ตีควาย ช่วยเปิดหา มิเช่นนั้น ท่านอาจถูกแตนตอดได้ (แตนตอด = แตนต่อย)
ดอกก้นคก น้ำหอมตามธรรมชาติ ดอกก้นคก มีกลิ่นหอมกรุ่นๆ ไม่หอมมาก ประมาณว่าดมแล้วไม่อิ่ม อยากดมอีก แต่เมื่อพยายามสูดดม กลิ่นก็จะจางหายไป ดอกก้นคก จึงบอกว่า ดอกก้นคก หอมหน่อย จนใจที่สิแบ่ง ดมแล้วหากดมซ้ำ กลิ่นม้อยค่อยหาย คันอยากดมดนผ่าย ดอกก้นคกหอมกรุ่น ให้มุนมุนห่อไว้ ใส่พกซิ่น แฮ่งหอม นั่นหนา
ในสมัยเป็นเด็ก มักจะพบเห็นคนเฒ่าคนแก่ นำดอกก้นคก มาเสียบหู แทนตุ้มหู ซึ่ง ดอกก้นคก ที่เสียบอยู่ตามหูนั้น แทบจะไม่มีกลิ่นหอมให้ได้รู้สึกแล้ว แต่มันเหี่ยวยาก ดอกก้นคกที่เด็ดจากต้นแล้ว นำมาห่อไว้ในผ้า จะอยู่ได้เป็นวันทีเดียว
นอกจากนั้น มักจะพบเห็นพวกผู้หญิง เก็บดอกก้นคก มาห่อไว้ที่ชายผ้าถุง หรือไม่ก็ห่อไว้ที่ผ้าขาวม้า (เพราะสมัยก่อนไม่มีผ้าเช็ดหน้า) เพื่อเก็บกักความหอมเอาไว้ นานๆ ทีก็เอามาดมที ยิ่งเก็บนานยิ่งหอม
เวลาที่ชายหนุ่ม เข้าใกล้หญิงที่พกพาดอกก้นคก ก็จะได้กลิ่นหอมกรุ่นๆ อ่อนบาง เป็นครั้งคราว แต่มองไม่เห็นดอกไม้ใดๆ ชวนให้คิดไปว่า สาวคนนี้เนื้อหอมดีแท้....
ดอกก้นคก เป็นทั้งดอกไม้ประดับหูก็ได้ ใช้แทนน้ำหอมก็ดี...ด้วยประการฉะนี้
ข้อมูลด้านพฤกษศาสตร์
ชื่อพื้นบ้านอีสาน : ก้นคก สกคก ปกคก ชื่อทั่วไป : ตับเต่าน้อย กล้วยเต่า ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polylthia debilis Finet & Gagnep. วงศ์ : Annonaceae ประเภท : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลักษณะวิสัย : ตับเต่าน้อยเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 25-60 ซม. กิ่งก้านจะมีขนสีน้ำตาลคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่แกมขอบขนานหรือรูปไข่ขอบขนานแบบกลับหัว ยาวประมาณ 5-10 ซม.กว้าง 2-4 ซม. ยาวประมาณ 5-8 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีขนาดเล็กสีเหลืองอมเขียว ออกตามซอกใบ ผลเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยรูปทรงกลมหรือทรงกระบอก สีเหลือง มีขนละเอียดสีเหลืองอ่อน ผลรับประทานได้ เมล็ดมีสีดำ เปลือกรากสีดำบาง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ขึ้นได้ทั่วไปตามป่าละเมาะ ป่าโปร่ง ประโยชน์ : ราก รสเย็น แก้ตัวร้อนดับพิษไข้ทั้งปวง ดับพิษตานซาง แก้วัณโรค ต้มดื่มแก้ปวดท้อง
ที่มา : //www.walai.msu.ac.th/cdb/question.asp?QID=281 //www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/?transaction=post_view.php&cat_main=all&id_main=24&star=0#top
Create Date : 20 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 28 เมษายน 2554 15:54:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1997 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อิสานเท้ IP: 182.255.13.51 วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:9:01:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|