เตือนใจ เจริญพงษ์
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) เพื่อเป็นระบบประกันสังคมให้กับผู้ที่อยู่นอกระบบกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งมีรูปแบบเหมือนกองทุนประกันสังคมและกองทุนอื่นโดยรัฐจะจ่ายเงินสมทบส่วนหนึ่งเข้ากองทุน ทั้งนี้กระทรวงการคลัง จะต้องจัดทำข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่เป็นสาระสำคัญของการดำเนินการกองทุนรวมทั้งสิ้น7 ฉบับให้แล้วเสร็จ คาดสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้
.................................................................................................................................
กองทุนดังกล่าว จะเริ่มดำเนินการได้โดยคาดว่า ช่วง 5 ปีแรกจะมีสมาชิกเข้าร่วมกองทุน กอช.ประมาณ 3 ล้านคนจากจำนวนแรงงานนอกระบบทั้งหมด 39 ล้านคนคิดเป็นเงินที่รัฐต้องจ่ายสบทบ 2,704 ล้านบาทจากวงเงินที่รัฐต้องจ่ายทั้งหมด 22,537ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.18%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
..................................................................................................................................
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมาย7 ฉบับ ที่ต้องออกภายใต้พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติพ.ศ.2554 คือ
................................................................................................................................
-าiร่างกฎกระทรวงกำหนดการเป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำนาญอื่น ที่ไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนฯ โดยผู้เข้าเป็นสมาชิกกอช. ต้องไม่เป็นบุคคล ที่เป็นสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงานของรัฐหน่วยงานอื่นที่มีเงินสมทบจากนายจ้างเพื่อการชราภาพ ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนฯ
........................................................................................................................................
กำหนดให้การจ่ายเงินแบบขั้นบันได3ช่วง ได้แก่
ใ......................................................................................................................................
d
-
ร่iร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบให้สมาชิกจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนปีละไม่เกิน 13,200บาท และรัฐบาลจ่ายเงินสมทบตามอายุสมาชิกมีการจ่ายเงินไว้แบบขั้นบันได 3 ช่วง คือ
1. อายุ15-30 ปี รัฐจ่ายให้ 50%ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อปี
2. อายุ30-50 ปี รัฐจ่ายให้ 80%ของเงินสะสม แต่ต้องไม่เกิน 960 บาทต่อปี
3. อายุมากกว่า50 ปี แต่ไม่เกิน 60ปี รัฐจะสมทบจ่ายให้ 100% ของเงินสะสมแต่ไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี
............................................................................................................................
นอกจากนี้ยังมี
- ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญและจำนวนเงินบำนาญขั้นต่ำให้เพียงพอกับการจ่ายบำนาญให้แก่สมาชิกได้จนถึงอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์ร่างกฎกระทรวงกำหนด วิธีการจ่ายเงินให้กับสมาชิก หรือผู้รับบำนาญหรือผู้รับเงินดำรงชีพ ตามมาตรา 40ของกฎหมายว่าด้วยกองทุนฯร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของกองทุนฯ
......................................................................................................................................
สุดท้ายเป็น
- ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการจ่ายเงินชดเชยกำหนดให้กองทุนจ่ายเงินชดเชยจากบัญชีเงินกองกลางให้แก่สมาชิก ส่วนในข้อกฎหมายของพ.ร.บ.ดังกล่าวยังกำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 50ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก10 ปีนับแต่วันที่เป็นสมาชิกเพื่อให้ผู้ที่มีอายุมากที่สมัครในช่วงปีแรก ได้มีระยะเวลาในการออมมากขึ้นโดยรัฐบาลจะไม่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับเงินสะสมที่โอนมาดังกล่าวเนื่องจากได้รับเงินสมทบจากกองทุนประกันสังคมแล้ว
เริ่มเปิดรับสมัครสมาชิกเข้า กอช. ภายในเดือนมิ.ย.นี้
................................................................................................................................