|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
วรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์
วรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์ [๑]
๑. บทนำ
วรรณกรรมถือเป็นงานเขียนที่มีคุณค่าต่อผู้อ่านและสังคมส่วนรวม โดยเรียบเรียงภาษาด้วยชั้นเชิงลีลาทางศิลปะการเขียนขั้นสูง และนำเสนอแนวคิดผ่านรูปแบบที่หลากหลายทั้งสารคดีและบันเทิง วิวัฒนาการของวรรณกรรมปัจจุบันทั้งรูปแบบและเนื้อหามีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับความเปลี่ยนแปลงของสังคมด้วย (รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ ๒๕๔๔: ๕)
จิตร ภูมิศักดิ์ได้ประพันธ์วรรณกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์บ้านเมืองในแต่ละยุคสมัยย่อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางแนวคิดและการสร้างสรรค์ผลงานของจิตร โดยจิตรได้แสดงสภาพการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงของการเมืองและสังคม รวมทั้งสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในรูปแบบวรรณกรรม และพร้อมกันนั้นจิตรก็ได้เสนอแง่มุมความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ภายหลังแนวความคิดของจิตรมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อกลุ่มนิสิตนักศึกษาในช่วงปีพ.ศ.๒๕๑๖-๒๕๑๙ และยังคงมีอิทธิพลต่อนักคิดนักเขียนรุ่นต่อๆมาจนถึงปัจจุบัน
ผลงานของจิตรได้รับการศึกษาอย่างลึกซึ้ง และวิเคราะห์ต่อยอดโดยนักวิชาการสมัยใหม่ และจิตรเป็นนักเขียนไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ผลงานได้รับการยกย่องให้อยู่ในทำเนียบหนังสือที่คนไทยควรอ่าน[๒] มากที่สุดถึง ๓ เล่ม (วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง ๒๕๔๙: ๕๕) นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกองทุนจิตร ภูมิศักดิ์ ขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๗ รวมทั้งการจัดตั้งโครงการสรรพนิพนธ์จิตร ภูมิศักดิ์โดยสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เพื่อรวบรวม ชำระ และเรียบเรียงผลงานของจิตรให้เป็นระบบระเบียบเพื่อความสะดวกในการศึกษาต่อไป
๒. ชีวประวัติของจิตร ภูมิศักดิ์โดยสังเขป
จิตร ภูมิศักดิ์ เดิมชื่อ สมจิตร ภูมิศักดิ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๓ ที่ตำบลประจันตคาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เป็นบุตรคนที่สองของนายศิริ ภูมิศักดิ์กับนางแสงเงิน ฉายาวงศ์
จิตรจบการศึกษาจากโรงเรียนสตรีกาญจนานุเคราะห์ โรงเรียนประจำจังหวัดสมุทรปราการ โรงเรียนประจำจังหวัดพระตระบอง[๓] และโรงเรียนวัดเบญจมบพิตรตามลำดับ จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในปีพ.ศ.๒๔๙๓ จิตรสอบผ่านได้เข้าศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความสามารถของจิตรปรากฏชัดทั้งงานเขียนสารคดี และบันเทิงคดี โดยได้ร่วมทุนกับเพื่อนทำหนังสือ ทรรศนะ ขึ้น และต่อมารับเลือกให้ทำงานตำแหน่งสาราณียกรหนังสือมหาวิทยาลัย ๒๓ ตุลา ฉบับปี ๒๔๙๖ จิตรเขียนบทความเชิงวิพากษ์ศาสนา และกวีนิพนธ์เกี่ยวกับผู้หญิงลงในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยพิจารณาว่ามีเนื้อหาแบบคอมมิวนิสต์ จนทำให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นภายในสถาบัน และถูกจับโยนลงจากเวทีในหอประชุมของมหาวิทยาลัย (เรียกเหตุการณ์นี้ว่า โยนบก) ทำให้ต้องพักการเรียนเพื่อรักษาตัว
จิตรสำเร็จการศึกษาเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๐ แล้วทำงานเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนอินทรศึกษา โรงเรียนเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์และมหาวิทยาลัยศิลปากรตามลำดับ ขณะนั้นได้เรียนต่อระดับปริญญามหาบัณฑิตแต่ไม่บรรลุเป้าหมาย เนื่องจากถูกจับกุมด้วยข้อหาคอมมิวนิสต์ หากแต่จิตรยังคงค้นคว้า หาความรู้ทางวิชาการ พร้อมทั้งเขียนบทความและกวีนิพนธ์อันมีคุณค่าหลากหลายเล่ม โดยใช้นามแฝงแตกต่างกันไป อาทิ ทีปกร อิฐ ศูลภูวดล ศรีนาคร กวีการเมือง สมชาย ปรีชาเจริญ สุธรรม บุญรุ่ง สมสมัย ศรีศูทรพรรณ
ปีพ.ศ.๒๕๐๘ จิตรเดินทางเข้าป่าเพื่อเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ด้วยเห็นว่าน่าจะเป็นหนทางสร้างสังคมที่ดีงาม ทว่าพรรคมิได้ยอมรับจิตรในฐานะสมาชิก และจากนโยบายการกำจัดคอมมิวนิสต์สมัยนั้น ทำให้จิตรถูกฆ่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๙ ที่หมู่บ้านหนองกุง ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เมื่อเสียชีวิตแล้ว จิตรจึงได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์
๓. ประเภทของวรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์
การจำแนกประเภทวรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์มีความสับสน ซับซ้อน และทำได้ยากลำบากยิ่ง กล่าวคือ แม้ว่าจะมีการรวบรวมวรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์อย่างเป็นระบบได้บ้างแล้ว กระนั้นก็ยังคงมีความบกพร่องอยู่หลายประการ ด้วยงานของจิตรบางส่วนสูญหาย บางส่วนกระจัดกระจาย และไม่สามารถสืบหาต้นฉบับจากแหล่งต่างๆได้ครบ อีกทั้งผู้ตีพิมพ์ผลงานมีหลายสำนักพิมพ์และหลายบรรณาธิการ ทำให้หนังสือมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป แต่เนื้อหาภายในทั้งหมดหรือหลายส่วนเหมือนกัน โดยเฉพาะผลงานด้านกวีนิพนธ์ ซึ่งการจำแนกประเภทวรรณกรรมของจิตรในครั้งนี้จะใช้เกณฑ์ของรูปแบบ เนื้อหา และการสร้างสรรค์งานเป็นหลัก จึงจำแนกประเภทวรรณกรรมได้ ดังนี้ ๓.๑ สารนิพนธ์ ๓.๒ งานแปลร้อยแก้ว ๓.๓ กวีนิพนธ์
๓.๑ สารนิพนธ์
จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นคนที่ค้นคว้าวิชาการได้ลึกซึ้งถี่ถ้วนและกว้างขวาง (วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง ๒๕๔๙: ๑๖๒) การศึกษาของจิตรเป็นการวิเคราะห์และเชื่อมโยงศาสตร์หลายสาขามาสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ละเอียดแยบคาย โดยถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นในรูปแบบของบทความทางวิชาการ บทความวิจารณ์ และบทความกึ่งสารคดีซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อแวดวงวิชาการอย่างยิ่ง สารนิพนธ์จะเน้นน้ำหนักของเนื้อหามากกว่าสุนทรียะ อาจจำแนกเป็น ๔ กลุ่มดังนี้
๓.๑.๑ บทความประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ภาษา และวรรณคดี
บทความกลุ่มนี้เน้นการศึกษาที่ยึดโยงความสัมพันธ์ของพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของชาติพันธุ์ รากของกลุ่มภาษาต่างๆ และวรรณคดีที่ปรากฏในแต่ละแห่ง แต่ละสมัย เพื่อแสดงลักษณะทางสังคมของไทยและประเทศใกล้เคียง อันจะนำไปสู่ความเข้าใจกันในภูมิภาค ผลงานกลุ่มนี้มี ๖ เรื่อง คือ
๑) ความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ บทความนี้ได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ว่าเป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษ (วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง ๒๕๔๙: ๘๘) และยังเป็นหนึ่งในทำเนียบหนังสือดี ๑๐๐ เรื่องที่คนไทยควรอ่าน เนื้อหาอธิบายที่มาของคำบ่งบอกชนชาติในสุวรรณภูมิ โดยนำหลักวิชาการด้านภาษาศาสตร์มาเปรียบเทียบเชิงประวัติ
๒) ข้อเท็จจริง ว่าด้วยชนชาติขอม เป็นภาคผนวกของบทความความเป็นมาฯ เพื่อเพิ่มเติมเสริมความเข้าใจด้านประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ของชนชาติ อันมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับลักษณะสังคมไทยสมัยก่อน
๓) โองการแช่งน้ำ และข้อคิดใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา งานสารนิพนธ์เล่มนี้จิตรใช้วรรณคดีโบราณเรื่องโองการแช่งน้ำเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการอธิบายสภาพสังคมก่อนพ.ศ.๑๘๙๓ ซึ่งเป็นปีของการสถาปนากรุงศรีอยุธยาตามเพดานความคิดเดิม (สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ๒๕๔๗ก: ๕๘-๕๙)
๔) สังคมไทยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนสมัยศรีอยุธยา สันนิษฐานว่า จากระยะที่จิตรเขียนโองการแช่งน้ำฯขึ้นในพ.ศ.๒๕๐๕ แล้วจึงเขียนสังคมไทยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาฯหลังจากนั้นไม่นาน และเนื้อหาที่สอดคล้องจึงน่าจะเป็นไปได้ว่าจิตรเขียนสังคมไทยลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาฯขึ้นเป็นภาคต่อของโองการแช่งน้ำฯ (สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ๒๕๔๗ข: ๖๓)
๕) ศัพท์สันนิษฐานและอักษรวินิจฉัย เป็นหนังสือเล่มเดียวกับ ภาษาและนิรุกติศาสตร์ มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการใช้หลักทางนิรุกติศาสตร์ อธิบายและวิเคราะห์ความเป็นมาของภาษา ตัวอักษร และคำศัพท์ต่างๆ เช่น ตำรวจ ขยองเหียร วรำ เป็นต้น
๖) ภาษาละหุหรือมูเซอร์ เป็นพจนานุกรมภาษามูเซอร์เล่มแรกของประเทศไทย หากแต่เป็นงานที่เนื้อหาไม่สมบูรณ์ จิตรใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการรวบรวมคำศัพท์ภาษามูเซอร์จากพ่อลูกเผ่าดังกล่าวที่ถูกจำคุกที่เดียวกับจิตร
เชิงอรรถ
๑ คัดจากรายงานเรื่อง วรรณกรรมจิตร ภูมิศักดิ์ ในวิชาค้นคว้าและเขียนรายงาน ของนิสิตชั้นปีที่ ๑ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากมีข้อบกพร่อง สามารถท้วงติงแก้ไขได้ ๒ เป็นรายชื่อหนังสือจากโครงการวิจัยเพื่อคัดเลือกและแนะนำหนังสือดีในรอบศตวรรษ งานวิจัยของวิทยากร เชียงกูล ร่วมกับคณะวิจัยอีก ๑๐ คน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยได้คัดเลือกหนังสือจำนวน ๑๐๐ เล่ม ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๐๘-๒๕๑๙ ที่มีการใช้ภาษาดี มีอิทธิพลต่อผู้อ่านในยุคหนึ่งๆ และอ่านได้ทุกยุคสมัย ๓ พระตระบองเคยเป็นส่วนหนึ่งของไทยในสมัยรัฐบาลจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ต่อมาคืนดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสในปีพ.ศ. ๒๔๘๙
รายการอ้างอิง
รื่นฤทัย สัจจพันธุ์. วรรณกรรมปัจจุบัน. พิมพ์ครั้งที่ ๑๓. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๔. วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง. จิตร ภูมิศักดิ์ คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย. กรุงเทพมหานคร: สำพิมพ์สารคดี, ๒๕๔๙. สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน. ก. ชนเผ่า ชาติพันธุ์ ดอกไม้หลากสีในแจกันลุ่มเจ้าพระยา. ศิลปวัฒนธรรม ๒๕, ๑๑ (๒๕๔๗): ๕๘-๕๙ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน. ข. สังคมไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยาฯ: ภาค ๒ ของโองการแช่งน้ำฯ. ศิลปวัฒนธรรม ๒๕, ๑๒ (๒๕๔๗): ๖๒-๖๓
Create Date : 24 ตุลาคม 2551 |
|
7 comments |
Last Update : 24 ตุลาคม 2551 11:14:40 น. |
Counter : 706 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:14:57:50 น. |
|
โดย: runch วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:17:22:41 น. |
|
โดย: haiku วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:23:06:52 น. |
|
โดย: runch วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:9:33:22 น. |
|
โดย: เนเธกเธขเน IP: 125.27.74.235 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:11:27 น. |
|
โดย: ผู้ผ่านมา IP: 124.122.98.37 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:1:38:32 น. |
|
| |
|
ดนย์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เคยได้ยินชื่อ อ.จิตร ภูมิศักดิ์มานานแล้ว เพิ่งได้ทราบชีวประวัติของท่านจากบล็อกนี้นี่เอง
วีรบุรษในโลกนี้หลาย ๆ ท่าน ได้รับการยอมรับก็ต่อเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ