งานถนนเทคโนโลยี 2554 ที่จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีกิจกรรมอีกหนึ่งอย่างในงานก็คือ การจัดประกวด นวัตกรรมเพื่อการเกษตร โดยผลการประกวดครั้งนี้มีผลงานที่น่าสนใจมากมาย
รางวัลชนะเลิศ ก็คือผลงาน เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวนาน้ำตม ของ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก โดย นายวัฒนชัย สุภา ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก นายประมาณ แย้มชู นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ นายประพันธ์ พงษภู่ นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน
นายประมาณ แย้มชู หนึ่งในผู้ประดิษฐ์ นวัตกรรมชิ้นนี้ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการคิดค้นเครื่องนี้ขึ้นมา เนื่องจากที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ ได้รับมอบหมายจากกรมการข้าวให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวปีละประมาณ 5,500 ตัน โดยแต่ละปีจะมีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์หลักประมาณ 160 ตัน แต่ก็ประสบปัญหาเมล็ดพันธุ์หลักมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ ทางศูนย์ฯ จึงคิดประดิษฐ์และพัฒนาเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวนาน้ำตม เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เกษตรกรลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ โดยที่ไม่มีผลต่อคุณภาพ ปริมาณผลผลิต และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรได้
สำหรับโครงสร้างของ เครื่อง จะประกอบด้วยต้นฐานรองรับส่วนกลไกหยอดเมล็ดพันธุ์ ใช้วัสดุที่เป็นเหล็กเพื่อรองรับส่วนกลไกหยอดเมล็ดพันธุ์ ที่ใช้วัสดุเป็นท่อพลาสติกเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว นำมาตัดเป็นท่อนยาว 13 ซม. แล้วเจาะเป็นรูครึ่งวงกลมจำนวน 12 รู และส่วนที่ประกอบใช้ สแตนเลสทำเป็นรูปกล่อง โดยท่อนพลาสติกจะหมุนแล้วตักเมล็ดพันธุ์ข้าวจาก กล่องสเตนเลส ลงแปลงปลูก
สำหรับในส่วนขับเคลื่อน ประกอบไปด้วยวงล้อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 110 ซม. มีเพลาติดกับล้อโซ่พร้อมสเตอร์ทำหน้าที่เป็นต้นกำลังให้ส่วนของกลไกการหยอด เมล็ดทำงาน ส่วนการบังคับการทำงานจะใช้วิธีการล็อกแผ่นเหล็กสองแผ่นเข้าหากัน มีสลักบังคับให้ส่วนกลไกหยอดเมล็ดทำงาน หรือหยุดทำงานได้ โดยสามารถใช้เครื่องนี้ร่วมกับรถไถเดินตาม
นายประมาณ กล่าวต่อว่า ก่อนเครื่องมือจะสำเร็จต้องลองผิดลองถูกทำการวิจัยเป็นเวลา 2-3 ปี และเพิ่งประดิษฐ์สำเร็จและทดลองจนได้ผลที่พอใจเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยใช้งบประมาณในการประดิษฐ์จำนวน 35,000 บาทต่อเครื่อง จากการนำไปทดลองใช้ในแปลงนาทดลองของเกษตรกร ที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พบว่าสามารถช่วยเกษตรกรลดต้นทุนได้ประมาณ 1,250 บาทต่อไร่
ทั้ง นี้ปัจจุบันเกษตรกรจะมีต้นทุนในการปลูกข้าวเฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อไร่ และต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เมื่อทดลองใช้เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวนาน้ำตม แล้ว ทำให้ใช้ต้นทุนในการปลูกข้าวเหลือประมาณ 3,000 กว่าบาทต่อไร่ และจะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเหลือเพียง 6-10 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น ขณะที่ผลผลิตที่ได้มีปริมาณเท่าเดิม คือ 700 กิโลกรัมต่อไร่ โดยเกษตรกรจะมีต้นทุนลดลงจากการใช้เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงในปริมาณต่อไร่ที่ลดน้อยลง แต่คุณภาพข้าวที่ได้ดีขึ้น
อย่าง ไรก็ตามทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิษณุโลก ได้มอบผลงานให้หน่วยงานทางต้นสังกัด คือ กรมการข้าว เป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีการนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์หรือไม่นั้น ทางอธิบดีกรมการข้าวจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนเกษตรกรที่สนใจผลงานสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เมล็ด พันธุ์ข้าวพิษณุโลก โทร.0-5531-1018 หรืออีเมล : psl_rsc@ricethailand.go.th
จิราวัฒน์ จารุพันธ์
Jirawatj@dailynews.co.th