Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ตกหลุมรัก “อัมสเตอร์ดัม” เมืองแห่งคลองมากเสน่ห์


อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงแห่งเนเธอร์แลนด์

ฉันเกิดอาการ “ตกหลุมรัก” และเหมือนโดนมนต์เสน่ห์เข้าอย่างจัง!!
แต่อย่าเพิ่งนึกว่าฉันเกิดไปปิ๊งรักแรกพบเข้ากับชายหนุ่ม หล่อ ขาว หุ่นสมารท์คนไหนเข้าหรอกน่ะ
เพราะอาการตกหลุกรักที่ว่านั้นไม่ได้เกิดกับคน แต่กลับเกิดกับสถานที่ท่องเที่ยวอันมีเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล
ที่ฉันได้เดิน ทางมาเที่ยวในทริปนี้ที่มีนามว่า “อัมสเตอร์ดัม” (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกว่าเป็น “เวนิสทางเหนือของยุโรป”

“อัมสเตอร์ดัม” ชื่อ นี้มีที่มาอันน่าสนใจ มาจากคำ 2 คำ คือ
อัมสเตล หมายถึง แม่นํ้าอัมสเตล บวกกับคำว่า ดัม ที่แปลว่าเขื่อน
ซึ่งเมื่อรวมความแล้วก็หมายถึง “เขื่อนที่อยู่ริมเเม่นํ้าอัมสเตล” อันมีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ตอนต้นศตวรรษที่ 13
อัมสเตอร์นั้นถือว่าเป็นเมืองที่มีลักษณะพื้นที่เป็นเกาะ มีคูคลองล้อมรอบเมืองถึง 4 ชั้น
ที่ถูกขุดขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 มีความยาวรวมกันกว่า 100 กม. เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้า
รวมถึงเป็นคูเมืองเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรู มีประตูกันน้ำถึง 16 แห่งด้วยกัน
จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเรียกว่าอัมสเตอร์ดัมนี้เป็นเมืองแห่งคลอง
และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่แล้ว จะต้องไม่พลาดกิจกรรมทัวร์
ที่ถือว่าป็นไฮไลต์ของการเที่ยวอัมสเตอร์เลยก็คือ การล่องเรือหลังคากระจกเที่ยวชมคลองในอัมสเตอร์ดัม


ล่องเรือหลังคากระจกเที่ยวชมคลองในอัมสเตอร์ดัม

ฉันเองก็ไม่พลาดที่จะขอนั่งเรือชมคลองต่างๆ อันมีความสวยงามไม่ใช่น้อย
เรือกระจกจะพาเราลัดเลาะล่องไปตามลำคลองน้อยใหญ่ เพื่อชมทัศนียภาพของเมือง
ชมตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่ริมคลองอันมีเอกลักษณ์ที่สวยงามแปลกตา
ซึ่งบ้านริมคลองเหล่านี้จะมีส่วนหน้าบ้านไม่กว้างมากนัก
และสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมสเปนผสมกับเรอเนสซองส์ ตัวตึกใช้อิฐแดงก่อแบบไม่ฉาบปูน
ตกแต่งเป็นภาพปูนปั้นเทพเจ้ากรีกอย่างสวยงาม
และหน้าจั่วมีไม้ยื่นออกมา เพื่อแขวนลอกไว้ชักลอกสิ่งของเข้าบ้านทางหน้าต่าง
เพราะหน้าบ้านแคบและประตูก็เล็ก และในลำคลองยังมีเรือนแพรที่เป็นที่อยู่อาศัยอีกด้วย


บรรยากาศของเรือนแพในคลองที่เป็นที่อยู่อาศัย

การนั่งเรือหลังคากระจกเที่ยวชมคลองอัมสเตอร์ดัมทำให้ฉันได้เห็นถึง วิถีชีวิตแความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย
สงบเงียบของคนเนเธอร์แลนด์ แต่มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมทั้งทีจะนั่งเรืออย่างเดียวก็ใช่ที่
เพราะว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชมอีกมากมาย
ตามฉันขึ้นฝั่ง เดินตะลุยบนบก (ถนน) เที่ยวกันให้เพลินเลยดีกว่า

ฉันมุ่งหน้ามาที่ สถานีรถไฟกลาง (Centraal Station)
ที่นี่เป็นสถานีรถไฟอันสวยงามที่ตั้งอยู่ตรงชายฝั่งอ่าวไอย์ (ij) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1889
เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรอเนสซองส์ผสมผสาน กับสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิกที่สวย งามและยิ่งใหญ่
ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ ด็อกเตอร์ เกาเปอร์(Dr. Cuypers)
เป็นคนเดียวกับที่ออกแบบสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไรค์มิวเซียม


สถานีรถไฟกลาง

สถานีรถไฟแห่งนี้ใหญ่โตโอฬารสร้างบนเสาเข็มจำนวนถึง 8,657 ต้น
ที่หน้าตึกจะมีนาฬิกาเรือนใหญ่อยู่ 2 เรือน เรือนทางซ้ายบอกทิศทางลม ส่วนเรือนทางขวาบอกเวลา
และจากสถานีรถไฟแห่งนี้เราสามารถ ที่จะเดินทางไปสู่ทุกประเทศในยุโรปได้เลย และที่สำคัญยังเป็นจุดรวมของ
รถรางรถเมล์ทุกสายที่ใช้ในอัมสเตอร์ดัม และรอบนอกใกล้กับสถานีรถไฟทุกแห่งอีกด้วย
เรียกว่าเป็นจุดการเดินทางหลักที่สำคัญของเมืองอัมสเตอร์ จึงทำให้ที่นี่จอแจไปด้วยผู้คนมากมาย

จากสถานีรถไฟกลาง ฉันเดินออกมาสู่ใจกลางเมือง ที่ถือว่าเป็นจุดนัดพบที่สำคัญ
สถานที่แห่งนี้ คือ ดัมสแควร์ (Dam Square) เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ที่มีสถานที่สำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย
อย่างมุมหนึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ใหม่ ที่สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14
และผ่านการบูรณะซ่อมแซม ปรับปรุงจนถึงสร้างใหม่หลายต่อหลาย จนมีความสวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง
และก็จะเห็นอนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ เป็นรูปทรงกรวยสีขาวสูงประมาณ 70 ฟุต
สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2


พระราชวังหลวง

และฝั่งตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ยังมีอาคารเก่าแก่ที่สวยงามและสำคัญคือ พระราชวังหลวง (Koninklijk Plaeis)
หรือ วังหลวง ที่ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1655 มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่ว่าการอำเภอ
สร้างโดยสถาปนิกที่ชื่อ ยาคอบ ฟาน กัมเปน ตรงหน้าจั่วของตึกแห่งนี้มีรูปปูนปั้นที่สวยงาม
เป็นรูปเทพีแห่งทะเล และสัตว์ในเทพนิยายกรีก ภายในเป็นห้องโถงกว้างปูด้วยหินอ่อน
เป็นรูปลูกโลกขลิบด้วยทองเเดงสวยงาม เพดานวาดเป็นรูปภาพจักรวาล แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1801
หลังจากที่เนเธอร์แลนด์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ได้ใช้เป็นพระราชวัง
ที่ ประทับของพระเจ้าหลุยส์ โบนาปาร์ตน้องชายของนะโปเลียน โบนาปาร์ต จนถึงปี ค.ศ. 1810
เมื่อฝรั่งเศสหมดอำนาจลง ก็ยังคงใช้เป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ เนเธอร์แลนด์
ในปีค.ศ.1967 สมเด็จพระราชินีนาถจุเลียนา ได้ทรงย้ายไปประทับอยู่ที่เมืองเฮกจึงมีการซ่อม แซมพระราชวังแห่งนี้
และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวังหลวง ที่วิจิตรงดงามไปด้วยสถาปัตยรรมแบบ ยุโรป

หลังจากชมวังหลวงอันสวยงามแล้ว ฉันเดินออกจากวังมาที่ถนนสายหนึ่งข้างวัง ที่มีชื่อว่า
กาลเวอร์ สตราท (Kalver Straat) เป็นถนนชอปปิ้งสายสำคัญของคนอัมสเตอร์ดัม และของนักท่องเที่ยวด้วย
ซึ่งถ้าใครเป็นนักท่องเที่ยวขาช็อปตัวยง มีหวังได้หมดกระเป๋ากันเป็นแน่ เพราะถนนสายนี้จะคลาคล่ำไปด้วย
ร้านรวงที่ขายของและสินค้าของที่ระลึกให้ เลือกซื้อหาเป็นของขวัญของฝากอย่างมากมาย


พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซด์

ฉันรีบเดินผ่านถนนสายนี้อย่างรวดเร็ว ดูของที่ระลึกติดไม้ติดมือมาเพียงแค่ชิ้นสองชิ้นเป็นพอ
เพราะกลัวจะถูกสูบเงินในกระเป๋าไปจนหมดเสียก่อน
และก็เดินมาจนถึงหัวถนนก็พบกับ ห้างสรรพสินค้าPeek&Cloppenburg ที่ชั้นบนของห้างแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซด์ (Madame Tussauds Scenerama) ที่น่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
เพราะภายในจัดเป็นนิทรรศการหุ่นขี้ผึ้งที่มีชีวิตชีวา หุ่นทุกตัวดูราวมีชีวิตสมจริงมากๆ
มีการจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอัมสเตอร์ดัม
รวมทั้งหุ่นขี้ผึ้งของบุคคลสำคัญต่างๆ มากมาย ให้เราได้กระทบไหล่ประชิดตัว (หุ่น) จริงๆ กันแบบใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็นหุ่นนักร้องชื่อดังอย่าง บียอนเซ่, เอลวิส เพรสลี่, จัสติน ทิมเบอร์เลค
ผู้นำระดับโลกก็มี บารัค โอบามา ประธานาธิบดีUSA. , องค์ทาไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของฑทิเบต เป็นต้น
และมีหุ่นดาราฮอลลีวูดให้แอ็คท่าถ่ายรูปคู่ด้วย
อาทิ แองเจลินา โจลี, แบรด พิตท์, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, มาริลิน มอนโร และหุ่นขี้ผึ้งบุคคลสำคัญต่างๆ อีกมากมาย


พิพิธภัณฑ์ไรค์

แต่ถ้าใครกลัวหุ่นขี้ผึ้งที่เหมือนจริงมากๆ แต่กลับชอบชมพวกงานศิลปะและประวัติศาสตร์
ในอัมสเตอร์ดัมก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจไปเที่ยวชมกันอีก อย่างที่ พิพิธภัณฑ์ไรค์ (Rijksmuseum)
หรือ ไรค์มิวเซียม ที่ฉันได้ไปเยือน ถือว่าเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1885
เพื่อเป็นที่รวมรวบผลงานศิลปะของเนเธอร์แลนด์ทุกแขนง
ตัวอาคารมีลักษณะคล้ายกับตึกสถานีรถไฟ สร้างด้วยอิฐสีเเดงสไตล์นีโอโกธิก

ภายในพิพิธภัณฑ์อันกว้างใหญ่มีทั้งหมด 260 ห้อง
จัดเก็บรวบรวมภาพเขียนของจิตรกรชาวดัตช์ผู้มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 ถึงศตวรรษที่19
อย่างจิตรกรที่คนไทยรู้จักกันดีคือ เรมบรันด์ (Rembrandt) ผู้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากภาพ The Night Watch
ซึ่ง แขวนอยู่ในห้องโถงใหญ่ด้านหน้า และยังมีภาพอีกกว่า 200 ภาพของเขาแขวนอยู่ในนี้ด้วย
รวมไปถึงภาพเหมือนจากศตวรรษที่ 16 งานเซรามิก พอร์ซเลน
และประวัติศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์ในห้องประวัติศาสตร์ชั้นล่าง
และมีภาพสำคัญอยู่ภาพหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ควรพลาดชมก็คือ
ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา ที่วาดขึ้นโดยนักเดินเรือนนิรนามชาวฮอลันดา ชื่อภาพโยเดีย (Iodla)
และประวัติศาสตร์การเดินเรือของกลุ่มดัตช์ อีสต์ อินดีส คัมปานี (Dutch East Indles Company หรือ V.O.C)
เรียกว่าใครที่ชื่นชอบงานด้านศิลปะและประวัติศาสตร์รับรองว่า
มาที่ไรค์มิวเซียมนี้แล้วจะเพลิดเพลินเดินชมกันได้ทั้งวัน


ภาพดอกทานตะวันที่มีชื่อเสียงของแวนโกะห์

แต่ถ้ายังเสพศิลปะไม่จุใจฉันขอแนะนำว่าให้มาที่ พิพิธภัณฑ์แวะโกะห์ (Van Gogh Museum)
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงผลงานของแวนโกะห์ไว้มากที่สุด และเห็นถึงพัฒนาการในงานศิลป์ของเขา
มีภาพวาดสีน้ำมันของแวนโกะห์ จิตรกรแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ชาวดัตช์ในสมัยศตวรรษที่ 19
ตั้งแสดงอยู่ถึง 200 ภาพ และมีงานสเก็ตช์ดรออิง เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของแวนโกะห์
รวมทั้งภาพของโมเนต์ (Monet) และโกแกง (Gauguin) ตั้งแสดงอยู่ด้วย
และภาพวาดที่มีชื่อเสียงของแวนโกะห์ที่ไม่ควรพลาดไปชมก็มี ภาพสาวน้อยที่สะพานบาง, ภาพดอกทานตะวัน,
The Potato, Still Life with Sunflower และ Cornfield with Crow เป็นต้น
และภาพวาดอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้เราได้เสพงานศิลปะสวยๆ กันอย่างอิ่มเอิบใจ
และแล้วทริปทัวร์อัมสเตอร์ดัมในครั้งนี้ของฉันก็จบลงด้วยความสุข สดชื่นของหัวใจ
บอกได้เลยว่า “อัมสเตอร์ดัม เธอทำให้ฉันตกหลุกรักเธอ”

* * * * * * * * * * * * * * * *

“อัมสเตอร์ดัม” (Amsterdam) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์
ส่วนที่ทำการรัฐบาลและสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่เมืองเฮก (The Hague)
ชาวเนเธอร์แลนด์ใช้ภาษาดัตช์ (Dutch) และพูดได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ
ใช้เงินยูโร (Euro) 1 ยูโร ประมาณ 46 บาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น



โดย : หมวยเกี๊ยะ
ผู้จัดการออนไลน์
ที่มา //www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000038736




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 11:32:37 น.
Counter : 1775 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.