Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
อินเดีย ณ ที่ฟ้าจรดทราย “จัยซัลเมียร์” นครสีทอง


“จัยซัลเมียร์” นครสีทอง

มีคำกล่าวว่าถ้ามาอินเดียฝั่งทิศตะวันตกแล้วไม่ได้มาที่นครสีทอง “จัยซัลเมียร์”
ก็เสมือนว่ายังมาไม่ถึงแคว้นราชาสถานของอินเดียโดยสมบูรณ์

“จัยซัลเมียร์” (Jaisalmer) ได้รับสมญานามว่าเป็น นครสีทอง ตั้งอยู่ห่างจากกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
921 กิโลเมตร เนื่องจากอาคารบ้านเรือนสร้างด้วยหินทรายสีเหลืองนวล
อยู่บนที่ราบสูงทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) อันยิ่งใหญ่ของอินเดีย เป็นเมืองชายแดนติดพรมแดนปากีสถาน


ขี่อูฐท่องทะเลทรายธาร์

ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของเมืองนี้ว่ากันว่า ต้องเป็นช่วงยามเย็นที่ทั้งเมืองถูกทาบทาด้วยแสงอาทิตย์
เมืองทั้งเมืองประดุจถูกอาบด้วยสีทองก็ไม่ปาน จัยซัลเมียร์ เป็นเมืองที่ค่อนข้างแห้งแล้ง
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนอยากเที่ยวแน่ๆ จัยซัลเมียร์
ก่อร่างสร้างอาณาจักร โดย ราว จัยซาล (Rao Jaisal) เมื่อปีค.ศ.1156

ความเชื่อหนึ่งที่คนจัยซัลเมียร์เชื่อถือเกี่ยวกับมหาราชาของพวกเขา คือ
ราชบุตรแห่งจัยซัลเมียร์ สืบเชื้อสายมาจากพระกฤษณะ

หากสงสัยว่าดินแดนที่อยู่กลางทะเลทรายแห่งนี้จากฐานะมาจากอะไร จะเฉลยให้ฟังว่า
ที่นี่ในอดีตเป็นเมืองการค้าที่สำคัญระหว่างประเทศทางตะวัน ตกแถบอาหรับ เช่นเปอร์เซีย ตุรกี
จนถึงยุคที่อังกฤษล่าอาณานิคม และเปลี่ยนเมืองท่าเป็นแถบท่าเรือชายทะเล เมืองนี้จึงค่อยๆ ซบเซาไป
แต่เมืองนี้ก็สร้างตัวมาได้พอสมควร จากการเก็บภาษีค่าผ่านทางจากกองคาราวานสินค้า ผ้าไหม และเครื่องเทศ


Jaisalmer Fort ป้อมโบราณอันยิ่งใหญ่

มาจัยซัลเมียร์ แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการเที่ยว “Jaisalmer Fort” หรือ ป้อมแห่งจัลซัลเมียร์
ที่ซึ่งเราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของจัยซัลเมียร์อย่างชัดเจน เพียงแค่ข้างนอกเราก็จะได้เห็นความอลังการ
ภายในป้อม มิอาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงป้อม เพราะภายในช่างดูยิ่งใหญ่เหมือนเมืองๆหนึ่งก็ไม่ปาน

ที่นี่เป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจัยซัลเมียร์ ป้อมนี้ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองสีทองแห่งนี้
บรรยากาศพลุกพล่านเต็มไปด้วยผู้คน และรถรามีกระทั่ง วัว ควาย เดินขวักไขว่อย่างเป็นปกติ
สะท้อนในเห็นอย่างหนึ่งว่า ที่นี่ไม่มีความแตกแยกของทุกชีวิต ไม่ว่าใครก็สามารถอยู่ที่จัยซัลเมียร์ได้


สถาปัตยกรรมของวัดเชนอันอ่อนช้อย

ป้อมของ จัยซัลเมียร์สร้างความแตกต่างให้จัยซัลเมียร์ได้อย่างเด่นชัดกว่า ป้อมที่ จัยปูร์ และที่ จ๊อดห์ปูร์
เพราะป้อมปราการโบราณแห่งนี้เป็นเมืองเก่าที่มีชีวิต ผู้คนตั้งบ้านเรือนอาศัยกันอยู่จนปัจจุบัน
ภายในป้อมนอกจากจะมีสิงสาราสัตว์แต่ผู้คนดังที่กล่าวมาแล้ว
ที่นี่ยังมี วัดของศาสนาเชน (Jain Temple) สร้างอยู่ภายในอีกด้วย
วัดเชนที่ตั้งอยู่ภายในป้อมมีความอ่อนช้อยงดงามแปลกตา ลวดลายละเอียดอ่อนสวยทุกมุมมอง

ภายในป้อมยังมีพระราชวังของมหาราชาสร้างอยู่อีกด้วย แต่ว่าในปัจจุบันมหาราชาไม่ได้พักอยู่ที่นี่แล้ว
จะยังคงเสด็จมาเมื่อมีงานเฉลิมฉลองเท่านั้น


ล่องเรือที่ทะเลสาบ Gadsisar lake

ภายในพระราชวังมีการแบ่งเป็นชั้นนอกเรียกว่า Diwan-i-khas
และส่วนในเรียกว่า Diwan-i-am เช่นเดียวกับพระราชวังในเมืองอื่นเช่น จัยปูร์ หรือ จ๊อดห์ปูร์
ความยิ่งใหญ่ของป้อมแห่งนี้ เดินทั้งวันยังไม่ทั่วด้วยซ้ำ
ยิ่งใครที่รักการถ่ายรูปแล้วล่ะก็รับรองได้ว่า จะต้องรั่วชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง เลยทีเดียว

จากป้อมโบราณที่มีชีวิตต้องแวะมาพักผ่อนกันริมทะเลสาบ “Gadsisar lake” เป็นทะเลสาบ
ซึ่งชาวจัยซัลเมียร์ใช้เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
ที่นี่คุณสามารถให้อาหารปลา ก่อนนั่งมองสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
และโดมที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบ จะนั่งเรือชมทะเลสาบที่นี่เขาก็มีเรือไว้บริการ


หนึ่งใน Haveli อันละเอียดงดงาม

อีกหนึ่งสิ่งเมื่อมาเยือนจัยซัลเมียร์แล้วพลาดไม่ได้เลย คือ การมาชม “Haveli” ซึ่งเป็นปราสาทหินทราย
เป็นคฤหาสน์ของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือบรรดาคหบดี
ที่มีการแกะสลักตัวอาคารบ้านเรือนอย่างสวยงามอ่อนช้อย แทบทั้งหลัง บางหลังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ
แต่ก็เปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมบ้านของพวกเขาได้ แต่ละหลังใหญ่โตยิ่งนัก
แต่บางหลังปล่อยทิ้งร้างไว้เหลือเพียงแค่ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมศิลปะ สถาปัตยกรรมอินเดียโบราณเท่านั้น
ว่าครั้งหนึ่งที่นี่เคยรุ่งเรืองเพียงไร


อูฐที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวในทะเลทรายธาร์

จัยซัลเมียร์ ถึงแม้เป็นเมืองท่ามกลางทะเลทราย มีแต่ความแห้งแล้ง แต่อย่างหนึ่งที่ควรรู้ไว้เมื่อว่าเยือนเมืองนี้ว่า
ที่นี่ บ้านเมืองมีซอกซอยเล็กน้อยเต็มไปหมด และที่สำคัญเดินที่นี่อาจจะเหนื่อยเร็วเป็นพิเศษ
เพราะว่าที่ตั้งของเมืองอยู่บนเขา ฉะนั้นการเดินที่เมืองนี้ จึงเท่ากับว่าเรากำลังเดินเล่นอยู่บนเขานั่นเอง


วิถีชาวทะเลทรายธาร์

จัยซัลเมียร์ ขึ้นชื่อเรื่อง Camel safari คือการขี่อูฐและการไปนอนกลางทะเลทรายดูพระอาทิตย์ขึ้น
พระอาทิตย์ตกที่ “Sam Sand Dunes” ทะเลทรายอันร้อนระอุแต่หนาวลม
การขี่อูฐที่นี่นอกเหนือจากทะเลทรายที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแล้ว เรายังจะได้พบประสบการณ์แปลกใหม่
ได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่อาศัยอยู่กับ ทะเลทรายตลอดจนสัตว์ทะเลทรายอีกด้วย


ที่จัยซัลเมียร์วัวกับคนอยู่บนถนนเดียวกัน

คู่รักที่ยังหาที่ฮันนีมูนไม่ได้ ฉันแนะนำให้ลองมาที่นี่
เพราะบรรยากาศการชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลทราย ใช่ว่าจะหาดูกันได้ง่ายๆ
เป็นความโรแมนติกอีกรูปแบบหนึ่งทีเดียว ที่ทะเลทรายแห่งนี้นกจากจากการขี่อูฐแล้ว
เขายังมีบริการค้างคืนให้ตั้งแค้มป์ปิ้งกันกลางทะเลทรายอีกด้วย
ของที่ระลึกสินค้าพื้นเมืองของชาวทะเลทรายธาร์ ก็มีให้เลือกซื้อเลือกหากัน มากมาย
แต่อาจต้องปวดใจกับราคาของฝากกันสักนิดเพราะราคาค่อนข้างสูงอยู่ที เดียว

ความยิ่งใหญ่ของทะเลทรายสีทองอย่างธาร์ ผสานกับความงดงามบ้านเมืองสีทอง
ฉันคิดว่าเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ที่จะทำให้ใครหลายๆคน เตรียมเก็บกระเป๋าไปเป็นสาวอินเดียกลางทะเลทรายที่ “จัยซัลเมียร์”


ตุ๊กตาของที่ระลึกจากจัยซัลเมียร์

**********

การ เดินทาง จากกรุงเทพฯ สู่สนามบินอินธิราคานธี ในกรุงนิวเดลี ( New Delhi ) ใช้เวลาบินราว 4 ชั่วโมง
แล้วจึงเดินทางสู่จัยซัลเมียร์ ด้วยรถไฟหรือเครื่องบินภายในประเทศ
สกุลเงินที่ใช้คือ รูปี :1รูปี=1บาทไทย โดยประมาณ


โดย : มะเมี้ยะ
ที่มา ://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000044165




Create Date : 04 ธันวาคม 2552
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 14:16:47 น. 0 comments
Counter : 1610 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.