กีฬาของลูก..กับความเหมาะสมของพ่อแม่
สุภาษิตที่ว่า .. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น .. ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ (ถ้าจะให้แน่ต้องดูถึงยาย) หรือพูดแบบธรรมดาๆก็คือ พ่อแม่เป็นไง ลูกก็เป็นอย่างนั้น ป้าโซเชื่ออย่างนั้นเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเผื่อเป็นการแตกเหล่าเผ่ากอของตัวเด็กเองเอ้า!!
เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า และจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ สามัญสำนึกเหมาะสมหรือไม่นั้น การอบรมสั่งสอน การทำตัวของพ่อแม่จะเป็นเรื่องพื้นฐานที่เด็กจะซึมซับเอามาเป็นแบบอย่างของตนได้
เกริ่นมานี่เพราะมีเรื่องจะเล่าให้ฟังอีกละค่ะ ..
หัวข้อหลักของบล็อกนี้คือ " กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ.." เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแล้ว ยังสอนได้อีกหลายๆเรื่อง เช่นการรู้แพ้รู้ชนะ ให้อภัย มารยาทการอยู่ร่วมในสังคม แต่สำหรับบางคนแล้วคงไม่ใช่เช่นนั้น..
ในกลุ่มกีฬาที่นี่ ขอพูดเฉพาะในเรื่องของยูโดนะคะเพราะประสบการณ์ตรง .. แต่ละกลุ่ม ทีม ชมรม ที่จัดตั้งฝีกซ้อมยูโดขึ้นมาจะลงทะเบียนขึ้นตรงต่อส่วนกลางของท้องถิ่นนั้นๆ เป็นสมาคมยูโดของแต่ละที่จัดเป็นระดับอำเภอ จังหวัด ..
เรื่องมีอยู่ว่ามีอยู่ทีมหนึ่งที่จัดตั้งมานาน มีชื่อเสียงทั้งในอำเภอและนอกอำเภอจนถึงระดับจังหวัด เนื่องจากเป็นทีมที่สามารถเอาชนะในการแข่งขันเข้าถึงรอบงวดๆมาโดยตลอด ชนะเลิศมาก็หลายครั้ง ทุกปีทีมนี้จะต้องมีติดอันดับในการแข่งขันไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ..
แต่ทีมนี้ภายหลังมีปัญหาภายในเนื่องจากครูฝึกจะคัดเฉพาะเด็กที่ตัวชอบใจ มาฝึกปรือและให้ออกแข่งบ่อยครั้ง ไม่กระจายการแข่งขันให้เด็กอื่นในทีมได้ออกแข่งบ้าง บรรดาผู้ปกครองจึงไม่พอใจจนต่อมาเกิดการแบ่งแยกทีม โดยครูฝึกกลุ่มที่ว่าได้ชักชวนพาเด็กเก่งๆทั้งหมดออกไปตั้งทีมใหม่ของตัวเอง
ไอ้จะออกไปตั้งทีมใหม่น่ะได้.. ก็ตั้งทีมของตัวไปแล้วหาเด็กใหม่มาเข้าทีม จะให้เก่งแค่ไหนก็ฝึกซ้อมกันไปไม่มีใครว่า .. แต่การพาเด็กที่เก่งๆทั้งหมดในทีมเก่าออกไปนี่ถือเป็นเรื่องไร้มารยาท ไม่ให้เกียรติทีมเก่า เขาไม่ทำกันเพราะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ไม่น่าเชื่อว่าคนประเภทนี้เติบโตมากับกีฬายูโดซึ่งถือเป็นกีฬาของลูกผู้ชาย
และแล้วทางสมาคมยูโดส่วนกลาง ก็ได้ลงโทษทีมนี้โดยจำกัดสิทธิ์การลงแข่ง ไม่ให้ลงแข่งในพื้นที่จังหวัดฟุกุโอกะหนึ่งปีเต็ม ทีมที่ว่านี่จึงต้องระหกระเหินออกไปแข่งตามต่างจังหวัด ได้ยินว่าแม้กระทั่งพื้นที่ในการซ้อมก็มีปัญหา เพราะยังหาที่ๆจะซ้อมอย่างถาวรไม่ได้ ย้ายไปซ้อมที่โน่นทีนี่ที ฟังแล้วก็สงสารแต่เด็กที่มีความสามารถเหล่านั้น แทนที่จะได้ประลองฝีมือตามธรรมชาติของเขาซึ่งถ้าเก่งจริงก็ได้เลื่อนระดับขึ้นไปเป็นตัวแทนจังหวัดได้ อนาคตกลับต้องมาชะงักอยู่ปีนึงเพราะความไม่เป็นผู้ใหญ่พอของผู้ใหญ่
ดูจากลีลาการเล่นยูโดของลูกทีมแล้ว ก็เข้าใจถึงพื้นฐานการอบรมฝึกซ้อมจากครูฝึกได้เลยทีเดียว เพราะเด็กทุกคนในทีมนี้จะเล่นแบบเดียวกันหมด นั่นคือไม่ประจันหน้ากันตรงๆ หนีไปเรื่อยๆและหาจังหวะก้มตัวลงต่ำจะคว้าแต่ขาคู่ต่อสู้ เมื่อไม่ประจันหน้ากันเช่นนี้แล้วจะจับปกเสื้อเข้าท่าตามหลักยูโดกันได้อย่างไร? เอะอะก็กระโจนลงต่ำพรวดแล้วคว้าขาคู่ต่อสู้ให้ล้มลงน่ะ นั่นมันหลักของมวยปล้ำไม่ใช่ยูโด!! และก็จะเล่นแต่ขอบๆริมๆเบาะแข่ง เพื่อที่ว่าเวลาตัวเพลี่ยงพล้ำแล้วจะได้ดิ้นหนีออกนอกเบาะแข่งให้กรรมการพักการแข่งขันได้ เห็นแล้วมันเขี้ยวพิลึก ถ้ากลัวแพ้แล้วจะลงแข่งทำมั้ย??.. แข่งน่ะใครก็อยากจะชนะ แต่ถ้าเพื่อให้ได้ชัยชนะด้วยลีลาการเล่นแบบไม่สง่างามอย่างนี้ .. อย่าลงแข่งซะดีกว่า ดูเด็กในทีมนี้เล่นแล้ว รู้ไปถึงอุปนิสัยของครูฝึกประมาณ.. ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ .. อุ๊ย.. วกเข้ามาได้แฮะ
นอกจากครูฝึกแล้ว ยังมีกองเชียร์พ่อสั่งมาอีก ประมาณ..เมื่อลูกตัวเพลี่ยงพล้ำ พ่อจะตะโกนทันทีให้กรรมการตัดสินพักการแข่งขันชั่วคราวเพื่อตั้งหลักใหม่ ซึ่งปกติแต่ละท่าก่อนกรรมการจะตัดสินพักเนี่ย ต้องมีระยะเวลาตามดุลพินิจของกรรมการอยู่แล้ว ไม่ใช่ใครก็เจ๋อไปสั่งกรรมการได้.. นอกจากนี้ยังนำกรรมการตัดสินอีกด้วย ประมาณท่าที่ทำล้มกรรมการตัดสินให้เป็นระดับการทำคะแนนอย่างนึง แต่พ่อตัดสินอีกอย่างที่ได้คะแนนสูงกว่า .. ทีมนี้แปลก..ทั้งครูฝึกทั้งพ่อนิสัยเหมือนกันหมด และด้วยการเชียร์อย่างนี้แหละ จึงเคยมีกรณีที่กรรมการไล่ครูฝึกออกไปนอกสนามแข่งเพราะไร้มารยาทในการเชียร์
ล่าสุดที่ป้าโซเจอมาก็คือ เด็กในตัวแทนทีมป้าโซแข่งกับเด็กในทีมนี้ซึ่งพ่อของเด็กก็เป็นครูฝึกด้วย เด็กสองคนนี้ทั้งขนาดตัวและฝีมือไล่เลี่ยกันมาตลอด ผลัดกันแพ้ชนะมาเรื่อยซึ่งมันก็เป็นธรรมดาในการแข่งขัน ความสนุกอยู่ตรงนี้แหละ ตรงที่แต่ละครั้งที่พบกัน เด็กจะพยายามเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้เพราะรู้ลีลาการเล่นของอีกฝ่ายอยู่แล้ว ต่างก็พยายามจะฉวยเอาจุดอ่อนของอีกฝ่ายมาเล่น บ่อยครั้งที่การตัดสินจะจบลงด้วยคำตัดสินชี้ขาดตามดุลพินิจของกรรมการ ไม่ใช่จากการเล่นแพ้ชนะที่เด็ดขาดบนเบาะ ..
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อปลายๆของการแข่งขัน เนื่องจากแต่ละฝ่ายไม่สามารถทำอะไรกันได้ ฝ่ายโน้นก็หนีฝ่ายเราก็ไล่จับ อีท่าไหนไม่รู้พ่อฝ่ายโน้นตะโกนบอกกรรมการให้ปรับโทษฝ่ายเราโดยเอ่ยชื่อทีมมาเสียงลั่น.. "มิซุม่า ชิโดะ!!" เฮ้ยย!! ใครเค้าทำกันอย่างนี้วะ? ประเภทกล่าวโทษอีกฝ่ายน่ะเค้าไม่ทำกัน ใช้อะไรคิดถึงตะโกนมาอย่างนี้วะอิพ่อเด็กนี่!! เชียร์ก็เชียร์ไปสิ อยากให้เด็กของตัวทำยังไงก็ตะโกนสอนไปสิ ป้าโซไม่เคยเห็นมีใครมากล่าวโทษอีกฝ่ายชัดเจนดังลั่นอย่างนี้เลยจากประสบการณ์ที่แข่งมาหกปี.. บังเอิญแม่เด็กฝ่ายเราอยู่ใกล้ๆได้ยินเข้าเลยตะโกนออกไปด้วยความไม่พอใจว่า "อย่ามาหาเรื่องนะ" อิพ่อคนนั้นเลยเงียบไป .. คงลืมตัวว่าตัวเป็นกรรมการมัง..
ทั้งๆที่เค้าก็เห็นอยู่ว่าครูฝึกของเราคนนึงเป็นกรรมการร่วม ยังกล้าตะโกนออกมาอย่างนี้ โอ้..ช่างเป็นการแข่งที่เอาเป็นเอาตายจริงๆ ระดับประถมนะนี่.. ผลการแข่งวันนั้นออกมาที่ฝ่ายของเราแพ้จากการตัดสินของกรรมการ เด็กเราน้ำตาไหลป้อยๆออกมาจากเบาะ ช่างไม่คิดถึงจิตใจเด็กบ้างเลย ผู้ใหญ่บางคนก็สักแต่ว่าได้ชื่อเป็นผู้ใหญ่ คิดแต่เข้าข้างลูกตัวเองเมื่อลงแข่งต้องฆ่ามันให้หมด คิดประมาณนี้หรือเปล่านะ?
การแข่งขันมันก็คือการแข่งขัน มีแพ้มีชนะเป็นรสชาติของชีวิต และนี่ก็คือการแข่งขันในระดับประถม .. เด็กมันก็คือเด็ก ยังไงมันก็เด็ก จิตใจเด็กสำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นเด็กเค้าเด็กเรา สรุปแล้วมันก็คือเด็ก .. เมื่อพ่อแม่เป็นอย่างนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กโตขึ้นจะเป็นยังไง จะสอนลูกให้รู้จักคำว่าการเสียสละ การอยู่ร่วมกันในสังคม การเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างหรือเปล่านะ? หรือจะรู้จักแต่คำว่า เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว ช่างน่าสงสารเด็กจริงๆ
ในขณะที่พ่อแม่เด็กบางคนมีนิสัยแย่ๆ กลับพบว่าเด็กบางคน.. ย้ำ.. "เด็ก" นะคะ .. กลับมีนิสัยที่ผู้ใหญ่บางคนสมควรจะอาย
ในการแข่งขันครั้งนึงของเจ้าตัวเล็ก เค้าทำคะแนนยูโคได้ครั้งนึง ซึ่งเมื่อจบการแข่งขันสมควรที่เจ้าตัวเล็กมันจะชนะ แต่กรรมการกลับยกมือตัดสินให้คู่ต่อสู้ชนะ .. แต่แล้วคู่ต่อสู้เจ้าตัวเล็กกลับบอกกรรมการว่า "ผมเป็นฝ่ายถูกยูโคครับ" กรรมการเลยกลับคำตัดสินให้เจ้าตัวเล็กชนะไป .. น่ารักมั้ยล่ะคะกับความซื่อ ความตรงไปตรงมาของเด็ก น่าเรียกอิพ่อคนนั้นมาก้มหัวคำนับเด็กคนนี้เสียจริง
จบบล็อกนี้ด้วยการบันทึกการแข่งขันเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา 17/10/10 แข่งประเภททีมของอำเภอคุรุเม่ ทีมเจ้าตัวเล็กได้ที่สอง แข่งประเภทเดี่ยวเจ้าตัวเล็กบาย.. ไม่ได้ลงเนื่องจากนักกีฬาของเราตัวรุมๆมีไข้ต่ำๆตั้งแต่คืนวันเสาร์ กัดฟันลงแข่งประเภททีมให้เพราะไม่งั้นทีมเดือดร้อน พอแข่งทีมเสร็จเลยขอถอนตัวแบบเดี่ยว
วานนี้ในหนังสือพิมพ์ได้ลงชื่อเจ้าตัวเล็กที่ไปแข่งเดี่ยวคราวที่แล้วที่ได้ที่สามด้วย เป็นการได้ลงหนังสือพิมพ์ครั้งแรกของเค้า.. เรื่องนี้ต้องตัด นสพ.แปะเข้าไฟล์
Create Date : 20 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 12:18:38 น. |
|
25 comments
|
Counter : 697 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:17:36:06 น. |
|
|
|
โดย: apple.007 วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:22:42:53 น. |
|
|
|
โดย: ไอ้เจ้าตาของป้าโซจ้ะ (เกลือหนึ่งกำน้อย ) วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:1:25:28 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:1:49:17 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:8:21:30 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:11:35:08 น. |
|
|
|
โดย: tarika วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:12:23:50 น. |
|
|
|
โดย: หน่อย - ตั้ม (tumauto ) วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:15:03:44 น. |
|
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:21:26:55 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:4:15:32 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปู IP: 118.172.252.73 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:7:45:02 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:8:12:44 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:13:01:29 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:13:03:41 น. |
|
|
|
โดย: Dingtech วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:14:21:48 น. |
|
|
|
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:14:57:46 น. |
|
|
|
โดย: พล (aoigata ) วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:17:22:16 น. |
|
|
|
โดย: xv IP: 202.183.235.3 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:17:44:37 น. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:22:02:08 น. |
|
|
|
โดย: tuk IP: 81.247.44.185 วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:17:58:15 น. |
|
|
|
โดย: apple.007 วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:22:49:22 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 25 ตุลาคม 2553 เวลา:10:16:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ ..
ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น
เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คู่ต่อสู้ของเจ้าตัวเล็กนี่ ต้องยกความดีให้กับพ่อแม่ และคนที่อบรมสั่งสอนมาจริง ๆ ค่ะ ตัวแต่นี้ยังมีสปิริตดีกว่าผู้ใหญ่หลาย ๆ อีก น่าชื่นชมจริง ๆ แต่ว่าเจ้าหลานชาย ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับชัยชนะอีกครั้งนะคะ แต่สงสัยว่า เวลาป้าโซเชียร์ลูกนี่ เชียร์เป็นภาษาอะไรคะ
ถ้าชอบนะ ป้าโซต้องไปเที่ยวที่นี่ให้ได้เลย เพราะของเค้าใหญ่โตอลังการงานสร้างจริง ๆ จ้ะ คิดว่าลูก ๆ น่ะแหละ น่าจะชอบ 19 พิพิธภัณฑ์ วอชิงตันดีซี ทำให้ตู่รู้สึกว่าเราอยู่เมืองคนยักษ์ยังไงก็ไม่รู้ อะไรนี่มันช่างใหญ่โตไปหมด
ไอ้มือที่เห็นน่ะ นายแบบประตัวตู่เอง บอกให้เค้าเอามือไปวางแมะเอาไว้ และทำตัวนิ่ง ๆ ด้วยนะ จะเทียบว่าหินมันใหญ่ขนาดไหน ถ้าเป็นไอ้ก้อนที่อยู่นอกกระจกน่ะ ให้เค้าเอามือไปสัมผ้สได้ค่ะ เค้าไม่ว่า แต่ที่ห้าม เค้าก็เอาซ่อนไว้ในตู้กระจกเลย
วันนี้ทำอาหารเย็นอะไรให้เด้ก ๆ ทานกันคะ ทางนี้ยังนึกไม่ออกเลย