ยูโดเริ่มแรก..
ยูโดในชมรมที่ร.ร.นั้น ตอนแรกป้าโซก็คิดว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ร.ร.จัดให้ และทุกคนต้องเลือกเรียนอย่างใดอย่างหนึ่ง เหมือนกับวิชาเลือกในร.ร.ไทย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ อยู่ๆไปถึงรู้ว่ากิจกรรมนี้ร.ร.ไม่เกี่ยว ให้ใช้สถานที่เฉยๆ อย่างอื่นต้องจัดการกันเอาเองค่ะ
ยกตัวอย่างเช่นเบาะตะตะมิสำหรับซ้อม บรรดาผู้ปกครองก็ต้องเฉลี่ยตังค์กันซื้อ ซึ่งรุ่นก่อนๆเขาซื้อกันไว้แล้วก็ใช้กันต่อๆมา แต่ถ้าเบาะนั้นเสียหายจะเป็นอันตรายต่อการซ้อมก็ต้องเฉลี่ยเงินซื้อกันใหม่ ไม่ต้องถึงกับซื้อใหม่หมด
ชมรมนี่เขาจะจัดกลุ่มทำงานประจำปีกันค่ะ ก็พวกแม่ๆนั่นเองจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันทำงานไป งานที่ว่านี่ก็คือเข้ามาดูแลความเรียบร้อยในวันที่มีซ้อมยูโด เช่นมาเปิดห้อง เปิดแอร์ ไฟ เตรียมพร้อมให้เด็กๆมาขนเบาะซ้อมไปวาง เตรียมน้ำดื่มให้ครูผู้ฝึกซึ่งก็เป็นครูที่สอนอยู่ในร.ร.แหละค่ะ ครูคนไหนมีความสามารถพิเศษทางกีฬาชนิดใดก็จะเข้าไปช่วยสอนให้กิจกรรมนั้นๆ โดยไม่มีค่าจ้างค่าออนหรอกค่ะ เป็นการสมัครใจทำแบบอาสาสมัคร ในคลับยูโดนี่จะเรียกครูฝึกคนไทยมาช่วยสอนเด็กๆด้วย โดยให้ค่าจ้างค่าออนเล็กน้อยพอเป็นค่ารถ ครูฝึกคนไทยจะมาจากการจัดคนให้ของครูฝึกยูโดในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นที่ดินแดง
เมื่อเจ้าตัวโตเข้าไปเรียนยูโดนั้น เริ่มต้นเขาก็ให้ซ้อมตบเบาะก่อนเลยค่ะ เป็นท่าพื้นฐานที่ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้เพราะเวลาล้มจะเนื่องจากถูกทุ่มท่าไหนก็ตาม การล้มที่ถูกท่าจะเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะเซฟตัวเรา พอฝึกท่าล้มคล่องก็ค่อยขี้นท่าต่างๆจากง่ายไปยาก การเรียนไม่ได้เร่งรัดอะไรขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็กที่จะพัฒนาไปได้แค่ไหน วันดีคืนดีก็จัดไปประลองฝีมือกับเด็กไทยที่ค่ายยูโดของสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น
พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็หาที่ซ้อมให้ลูกต่อเพราะไม่อยากให้ทิ้งไปกลางคัน ปรากฏว่าที่ร.ร.ที่เข้าเรียนนี่ไม่มีชมรมนี้ ต้องไปต่างตำบลกันซึ่งก็ขับรถไม่ไกลนักประมาณสิบนาทีก็ถึง อีตาพ่อก็ขับรถพาลูกไปนั่งดูลู่ทางก่อน ว่าเขาสอนกันยังไงพอจะไปกับเขาได้ไหม?..
วันที่เขาไปดูกันป้าโซไม่ได้ไปดูด้วยหรอกค่ะ เขากลับมาก็คุยกันเสียงในฟิล์มพ่อลูก แม่นอกคอกอย่างป้าโซจับความได้แว่วๆว่าดีๆๆ จากนั้นโปรแกรมแปลภาษาโนะเนะของป้าโซก็มีอันเดี้ยงไป เลยต้องลากอีตาพ่อมาเค้นสอบถามด้วยภาษากลางไม่ฝักใฝ่ชาติใด ได้ความว่าที่นี่เขาฝึกซ้อมกันอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่เหมือนกับที่เราเคยซ้อมๆมาที่เมืองไทย ดูครูฝึกก็ท่าทางใจดี เจ้าตัวโตเขาเห็นก็สมัครใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่นี่ เป็นชมรมยูโดเอกชนค่ะ ซึ่งมาอาศัยสถานที่ร.ร.มัธยมต้นสอนเนื่องจากครูฝึกผู้เริ่มตั้งชมรมนี้ทำงานอยู่ที่เทศบาลประจำท้องถิ่น เลยติดต่อขอยืมใช้สถานที่ราชการนี้ได้ จะว่าไปรัฐบาลเขาก็ให้การสนับสนุนกีฬาอย่างเต็มที่อยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้..
พูดถึงเรื่องกีฬาของที่นี่ อดไม่ได้ที่จะพูดถึงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของภาครัฐเขา .. เขาจะสร้างสนามกีฬาให้แต่ละท้องถิ่นเลยค่ะ มีสนามกีฬาใหญ่ประจำอำเภอ ซึ่งจะมีครบทุกชนิดกีฬา นอกจากนั้นยังมีสนามกีฬาย่อยเป็นโรงยิมขนาดกลางๆสามารถเล่นกีฬาได้หลากหลายอีกเช่นกันตามตำบลต่างๆ ที่น่าแปลกก็คือ เขาจะสร้างสนามกีฬาอย่างดีให้ตามบ้านนอก ทั้งๆที่บ้านนอกบางแห่งคนอยู่ไม่หนาแน่นเท่าไหร่ แต่เขาก็ลงทุนสร้างให้ คงเป็นเพราะเขาถือว่าคนตามบ้านนอกค่อนข้างด้อยโอกาสกว่าคนอยู่ในเมืองหรือไงก็ไม่ทราบ สนามกีฬาจึงเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งที่ภาครัฐเขาลงทุนสร้างให้ และส่วนมากนักกีฬาทีมที่มาจากต่างจังหวัด มักจะเก่งมีชื่อเสียงพอตัวทีเดียวค่ะ คงเป็นเพราะเขาได้มีโอกาสฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะอยู่ตามบ้านนอกก็ตาม การแย่งพื้นที่ใช้สอยในสนามกีฬาก็ไม่ค่อยมีเพราะคนอยู่อาศัยไม่หนาแน่นเท่าเมืองใหญ่ กิจกรรมอย่างอื่นแบบเมืองใหญ่ก็ไม่ค่อยมีเช่นดูหนังฟังเพลง มีเรื่องเดียวที่เขาทุ่มได้ก็คือกีฬานี่แหละ .. ก็อาจเป็นได้ (ครือ.. เป็นความเห็นของอีตาพ่อที่เล่าสู่ป้าโซอีกที ถ้าผิดพลาดก็ไปโทษอีตาคนนี้ก็แล้วกันนะคะ )
ไปไหนแล้วป้าโซ ? ต่อค่ะต่อๆ ..
สรุปว่าเจ้าโตก็ไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ชมรมนี่เลย โดยต้องจ่ายเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าปิ่นโตอาหารกลางวันในวันที่ไปแข่งนอกสถานที่ ค่ารถบัส ค่าที่พักและอื่นๆ ที่อาจจะมีขึ้นเดือนละสองพันเยนต่อคน แต่ถ้าเป็นพี่น้องก็เพิ่มอีกคนละหนึ่งพันเยน ซึ่งราคาขนาดนี้นับว่าถูกมากสำหรับชมรมยูโดเอกชน บางแห่งที่มีชื่อเสียงเขาเก็บกันแพงกว่านี้ค่ะ ถือเป็นค่าวิชา.. แต่ที่นี่ครูที่สอนเป็นอาสาสมัครทั้งนั้น ทำด้วยใจรัก ตัวครูเองแรกเริ่มก็เอาลูกชายลูกสาวมาฝึกที่นี่ ต่อๆมาครูก็ลงมาฝึกให้เด็กๆด้วยตัวเองตลอดไป โดยไม่มีค่าจ้างค่าออนใดๆ ตัวครูฝึกก็มีอาชีพหลักทำอยู่แล้ว ..
ครูฝึกบางคนทำงานในเทศบาลประจำตำบล บางคนทำงานเครื่องอิเล็คโทรนิค บางคนทำเกี่ยวกับการจัดสวน บางคนมีร้านเบเกอรี่ของตัวเอง บางคนเป็นตำรวจ และบางคนก็ทำงานบริษัท .. หลากหลายมากค่ะ ที่เหมือนๆกันก็คือทุกคนมาช่วยสอนให้ฟรี..
น่าแปลกใช่ไหมคะ? ว่าทำไมเขาลงทุนทำให้กันขนาดนี้ ทั้งๆที่เวลาเลิกงานเขาควรจะได้พักผ่อนอยู่กับบ้านสบายๆ .. สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นการสืบทอดต่อๆมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเขาค่ะ ไม่ใช่เฉพาะยูโด กีฬาชนิดอื่นก็คงมีเหมือนกัน สิ่งที่พวกครูฝึกเหล่านี้จะได้รับก็คือความชื่นใจยามที่เด็กที่ตัวสอนมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น สามารถไปแข่งขันกับคลับอื่นๆได้ ตัวครูฝึกเองก็เป็นความสุขของเขาที่ได้ร่วมกิจกรรมที่ตัวรักและเคยเล่นมาก่อน มาถึงรุ่นลูกๆหลานๆก็เลยสอนต่อไปให้ความรู้นั้นสืบเนื่องต่อไปยาวนาน..
ครูพวกนี้จะได้สิ่งตอบแทนก็คือได้กินข้าวกล่องฟรี ยามที่ต้องพาเด็กไปแข่งนอกสถานที่ เงินที่ใช้จ่ายก็มาจากที่เก็บประจำเดือนนั่นเองค่ะ ออกไปแข่งขันแต่ละครั้งเด็กที่ลงแข่งก็จะได้ข้าวกล่องกินฟรี แต่พ่อแม่เด็กที่ตามไปดูจะต้องจ่ายตังค์กันเองตามจำนวนกล่องที่สั่ง ซึ่งจะมีคณะกรรมการช่วยจัดการดูแลเรื่องการสั่งปิ่นโต การจัดการเช่ารถในกรณีที่ต้องไปต่างจังหวัดไกลๆ การจองเรียวคังเพื่อพักแรมในกรณีที่ต้องค้างคืนที่ต่างจังหวัดไกลๆ การจัดงานปีใหม่สังสรรค์ประจำปี การจัดงานพบปะเป็นครั้งคราวของกลุ่ม .. อ้อ.. เรื่องค่ารถ ค่าพักแรม ค่ากินในงานต่างๆนี่ ครูฝึกก็ต้องออกตังค์เองนะคะ ถ้าไปร่วมกิจกรรมด้วย .. บอกแล้วว่าฟรีเฉพาะปิ่นโต
อ้าว.. กลายเป็นว่ามาเล่าเรื่องความเป็นไปภายในกลุ่มยูโดไปซะฉิบ.. งั้นโปรดตดตามต่อไปในภาคหน้าค่ะ
กราบลาค่ะ
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2552 18:13:16 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1288 Pageviews. |
|
|
|
โดย: จันทร์เพ็ญ IP: 118.172.243.228 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:09:38 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์เพ็ญ IP: 118.172.243.228 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:13:56 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:54:27 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์เพ็ญ IP: 180.180.92.57 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:18:05 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:35:27 น. |
|
|
|
โดย: จันทร์เพ็ญ IP: 118.172.242.99 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:07:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
คุรุเม่ ฟุกุโอกะ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]
|
สวัสดีค่ะ ..
ป้าโซอยู่อำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งอยู่ในเกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น
เรื่องราวที่เล่าๆสู่กันฟังนี่ มาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งสอดแทรกความคิดเห็นเข้าไปด้วย อันไหนไม่เข้าทีก็อ่านผ่านๆไปละกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เคยไปญี่ปุ่น ก็ไปดูสนามเคนโด้ เป็นของหมู่บ้าน
โอสแฟมมิลี่พาไปดูเค้าซ้อมตอนดึกๆ ขยันกันจริงๆ