เด็กน้อยเล่าเรื่อง วังระแงะเมืองนราฯ
เด็กน้อยเล่าเรื่อง วังระแงะเมืองนราฯ
คอลัมน์ สดจากเยาวชน สุตาภัทร หมั่นดี
จังหวัดชายแดนใต้เต็มไปด้วยเรื่องราวหลากหลายมิติ ควรค่าให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และอนุรักษ์ สภาพบ้านเรือน อาคารสำคัญต่างๆ คือสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ บ่งบอกความสามารถในงานศิลปะ
"อนาคตหากไม่มีวังหลังนี้ ผมก็หวังว่าประวัติและเรื่องเล่าต่างๆ ที่เกี่ยวกับ วังระแงะจะมีให้ ลูกหลานได้ยินต่อไป" อาหะมะสักรี ตาเละ ยืนอยู่ในอาคารโบราณขนาดใหญ่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนและปากซอยเต็มไปด้วยบ้านและร้านค้า หากไม่สังเกตให้ดี หลายคนก็จะผ่านเลยไป
วังระแงะ อยู่ที่บ้านกำปงตาโก๊ะ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ตรงข้ามที่ทำการดับเพลิงนราธิวาส ไม่ไกลจากแม่น้ำบางนรา มีสภาพชำรุดทรุดโทรมน่าใจหาย หลายคนที่เคยมาเยือนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าสมควร แก่การอนุรักษ์ไว้ พร้อมกับมีอาสาสมัครจำนวนมากพร้อมจะช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อรักษาสถาปัตยกรรมอันมีคุณค่าเพื่อให้วังระแงะมีโอกาสบอกเล่าเรื่องราวแต่หนหลัง ให้ผู้คนในอนาคตรับรู้
ในยุคโบราณที่ผืนดินกว้างใหญ่ เดินทางติดต่อกันไม่ง่าย ชุมชนใหญ่น้อยในแผ่นดินมักรวมตัวกันอยู่เป็นหย่อมย่าน และเมื่อเจริญถึงระดับหนึ่งก็กลายเป็นนครรัฐใหญ่น้อย หากเข้มแข็งมากขึ้นก็จะมีเมืองหรือนครหลายเมืองอยู่ในอาณัติ เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแว่นแคว้นต่างๆ ในแหลมมลายูมีอาณาจักรปาตานีที่รุ่งโรจน์และร่วงโรยตามเหตุปัจจัยในแต่ละยุคสมัย
ระแงะคือหนึ่งในหัวเมืองเก่าของอาณา จักรปัตตานีที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ช่วงที่มีระบบการปกครอง 7 หัวเมืองนั้นวังระแงะเดิมตั้งอยู่ในเมืองระแงะ ชายแดนเชื่อมต่อรัฐกลันตัน มาเลเซีย ต่อมาย้ายมาอยู่ที่ตันหยงมัส และในที่สุดก็สร้างวังระแงะหลังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน เจ้าเมืองท่านสุดท้ายของเมืองระแงะคือพระยาภูผาภักดี ศรีสุวรรณประเทศวิเศษวังษา (เต็งกูเงาะ ซำซูดิน)
อาหะมะสักรี ตาเละ เล่าว่า "กำปงตาโก๊ะแปลว่าหมู่บ้าน กลัว มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อก่อนเขาบอกเด็กๆ ไม่ให้เข้าไปในเขตวังเจ้าเมือง เดี๋ยวจะโดนเฆี่ยน พอหมดยุคการปกครองไม่มีเจ้าเมือง วังถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีใครดูแล สภาพทรุดโทรมน่ากลัวไม่มีใครกล้าเข้าไปอีกเหมือนกัน หมู่บ้านนี้เลยชื่อว่าบ้านกำปง ตาโก๊ะ"
วังเจ้าเมืองระแงะเป็นสถาปัตยกรรมทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยช่างจากตรังกานู ภูมิปัญญาการออกแบบอาคารในยุคสมัยนั้นตกแต่งด้วยลวดลายแบบต่างๆ มีทั้งอักษรอาหรับ ลายบุหงานานาพรรณ ลายเรขาคณิตและลายอื่นๆ ประดับประดาเกือบทุกส่วนของบ้าน ตามเชิงชายหลังคา ช่องลมเหนือบานประตูและหน้าต่าง ภายในวังใช้วิธีการฉลุไม้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนหลังคาใช้ฉลุโลหะ
ปัจจุบันวังเจ้าเมืองระแงะล้อมรอบด้วยอาคารบ้านเรือนของชาวบ้าน ใกล้เส้นทางสัญจร เคยมีคนมาอยู่อาศัยชั่วคราวเป็นระยะ กรรมสิทธิ์เป็นของทายาท แต่การดูแลอนุรักษ์นั้นเป็นเรื่องใหญ่และต้องใช้งบประมาณมาก ตัวอาคารจึงค่อยๆ ทรุดโทรมลงโดยลำดับ ปัจจุบันมีครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งอยู่อาศัย
"พ่อของอาเยาะเคยดูแลเจ้าเมือง ก่อนมาที่นี่อาเยาะไปอยู่มาเลเซีย กลับมาเห็นต้นไม้เต็มไปหมดก็เริ่มมาดูแล ซ่อมแซมไปเรื่อยๆ" ยูฮา ต่วนดือราแม และครอบครัวเข้ามาอาศัยดูแลวังระแงะ และซ่อมแซมแก้ไขปัญหา กระดานผุ หลังคารั่ว เฉพาะหน้าไปตามอัตภาพ ตั้งแต่ลูกสาวอายุสองขวบจนตอนนี้อยู่ชั้นป.6
ซิกรี บินมามะ ประธานกลุ่มภาคีสถาปัตย กรรมปาตานี เล่าว่า "วังหลังนี้พิเศษในรูปแบบผังของวัง ซึ่งเป็นผังแบบโบราณ และเป็นวังสุดท้ายของดินแดนมลายูที่ยังใช้ผังแบบนี้อยู่"
อาหะมะสักรี ตาเละ บอกว่า "วังระแงะจะเป็นประโยชน์สำหรับ ผู้ที่สนใจด้านสถาปัตยกรรมบ้านไม้แบบโบราณ เป็นสถานที่เรียนรู้ของเยาวชน และตั้งใจให้เป็นสถานที่เรียนอัลกุรอาน เจ้าเมืองก็จะได้บุญด้วย"
ขณะที่บางคนยังไม่ทราบว่ามีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ในชุมชนเมืองนราธิวาส กลุ่มคนส่วนหนึ่งก็อาสาทำหน้าที่ศึกษาและหาแนวทางร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ทายาท นักวิชาการ และกลุ่มคนที่เห็นคุณค่าและต้องการรักษาวังระแงะให้คงอยู่ เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งในทางประวัติศาสตร์ ความงามของสถาปัตยกรรมและแหล่งเรียนรู้ทางศาสนา
วังระแงะยังรอผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันมาฟื้นฟูดูแล ที่สำคัญไปเห็นแล้วว่าสภาพของ วังระแงะในวันนี้ ทำให้เราได้รู้ว่าต้องรีบดำเนินการ เพราะวังระแงะอาจจะพังลงมาในเวลาอันใกล้ แม้ว่าประวัติศาสตร์จะผ่านไปแต่ร่องรอยยังคงปรากฏชัดเป็นหลักฐานบอกเล่าเรื่องราวในอดีต
ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2556 นี้ ทุ่งแสงตะวันร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม นำเสนอสารคดีวิถีชีวิตวัฒนธรรมหลายแง่มุมจากพื้นที่ชายแดนใต้ ขอชวนเชิญติดตามสารคดีอันมีคุณค่าชุดนี้ วันเสาร์ที่ 2 พ.ย. เวลา 06.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 นำเสนอเรื่อง "วังระแงะ" โดยมีเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่อาศัยในวังระแงะเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2556 3:28:33 น. |
Counter : 2311 Pageviews. |
|
|
|