เอชพี ส่งนวัตกรรมจัดเก็บข้อมูลใหม่บนแพลตฟอร์ม Software-defined Storage เพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วล ในชื่อ HP Converged Storage...
เอชพี ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมการจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก "HP Converged Storage" ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนติดตั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบเสมือน หรือ เวอร์ช่วล โดยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเพิ่มความคล่องตัว รวมถึง การนำสมรรถนะของระบบมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ เอชพี ยังสานต่อความเป็นผู้นำโซลูชั่นระบบ Software-defined Storage (SDS) อย่างต่อเนื่อง 6 ปี ด้วยการเปิดตัวการใช้งานสำหรับซอฟต์แวร์อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเสมือนใหม่ HP StoreVirtual Virtual Storage Appliance (VSA) software ซึ่งช่วยลดใช้จ่ายในการทำสำรองข้อมูลของสำนักงานขนาดเล็กลงได้สูงสุดถึง 65% ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ระบบย้ายข้อมูลไปเก็บไว้ตามประเภทฮาร์ดดิสก์ หรือ sub-LUN (logical unit number) แบบอัตโนมัติ และการทำงานร่วมกันระหว่าง VMware และไมโครซอฟท์ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อประสิทธิภาพและสมรรถนะการทำงานที่เหนือกว่า ทั้งยังมีลิขสิทธิ์การใช้งานแบบใหม่ ตอบรับความต้องการทั้งในปัจจุบันและการขยายงานในอนาคตอย่างยืดหยุ่น
อย่างไรก็ตาม องค์กรที่ใช้สภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วล ตั้งแต่สำนักงานขนาดเล็กและสำนักงานสาขาขององค์กร จนถึงผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะได้ปรับเปลี่ยนมาใช้โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล SDS ที่ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์จัดสรรทรัพยากร หรือไฮเปอร์ไวเซอร์ได้อย่างหลากหลาย เพื่อเพิ่มความพร้อมในการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และรองรับบริการข้อมูลอื่นๆ ที่ทำงานบนระบบโครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นมาตรฐาน ขณะที่ โซลูชั่น HP StoreVirtual VSA ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ HP LeftHand และมาพร้อมกับเทคโนโลยี HP Adaptive Optimization โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล SDS แบบ scale-out รุ่นแรกของวงการที่มีฟีเจอร์จัดลำดับความสำคัญของข้อมูล (Data Tiering) ซึ่งจะย้ายข้อมูลไปเก็บในหน่วยจัดเก็บที่มีสมรรถนะสูงหรือให้ความคุ้มค่าสูงสุดตามความต้องการใช้งานได้อย่างอัตโนมัติ จึงช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและสมรรถนะในการทำงาน
ปัจจุบัน เอชพีมีออปชั่นลิขสิทธิ์การใช้งานโซลูชั่น HP StoreVirtual VSA ให้เลือกอย่างหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ปริมาณงานทั้งในปัจจุบันและการขยายงานในอนาคต ทั้งยังสามารถบริหารจัดการได้ง่ายภายใต้สภาพแวดล้อม VMWare และไมโครซอฟท์ โดยผู้มีความรู้ด้านไอทีในระดับทั่วไปก็สามารถทำได้ ติดตั้งได้เร็วขึ้น 3 เท่า และปรับขยายได้เร็วขึ้น 11 เท่า เมื่อเทียบกับโซลูชั่นระบบ SDS ของแบรนด์อื่นๆ ที่รองรับการทำงานร่วมกับ VMware ทั้งนี้ บริการสนับสนุนใหม่สำหรับโซลูชั่น VMware ParaVirtualized SCSI Controller จะช่วยให้การใช้งานซีพียูมีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเพิ่มการทำงานร่วมกันระหว่าง Microsoft Windows Server และซอฟท์แวร์ Hyper-V เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตั้งโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลจากโปรแกรม Microsoft System Center Virtual Machine Manager และนำมาใช้งานได้รวดเร็วขึ้น
นายสุรชัย อรรถมงคลชัย ผู้จัดการธุรกิจ HP Storage เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า องค์กรที่มุ่งเน้นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ได้ปรับเปลี่ยนจากการใช้ฮาร์ดแวร์แบบปกติ เป็นโซลูชั่นระบบ SDS ที่สามารถใช้งานกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์แบบมาตรฐานที่มีอยู่เดิมเพื่อลดการลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลและการดำเนินงานลง ทั้งนี้ เอชพีเป็นผู้บุกเบิกโซลูชั่นระบบ SDS และออกลิขสิทธิ์การใช้งานโซลูชั่น StoreVirtual VSA แล้วกว่า 170,000 ราย ในวันนี้เราเดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำดังกล่าว ด้วยการพัฒนาความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมทั้งองค์กรที่มีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ในที่อื่นๆ ได้รับประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างสูงสุด และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างคุ้มค่า
ทั้งนี้ โซลูชั่น HP StoreOnce VSA ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานแบบเวอร์ช่วลร่วมกับเซิร์ฟเวอร์แบบมาตรฐานที่ลูกค้ามีอยู่ได้ทันที จึงไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม โดยช่วยให้ผู้ให้บริการเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์สามารถนำเสนอบริการสำรองข้อมูลแก่ลูกค้าได้ และช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายในการปกป้องข้อมูลของสำนักงานสาขาซึ่งตั้งอยู่ในที่อื่นๆ พร้อมลดความจำเป็นในการใช้เครื่องฮาร์ดแวร์แบบปกติได้สูงสุดถึง 50% และลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 70% แตกต่างจากโซลูชั่นของแบรนด์อื่นๆ ที่ซับซ้อนและไม่ครบครัน เนื่องจากมาพร้อมสถาปัตยกรรมระบบจัดเก็บข้อมูลซึ่งตอบโจทย์ความต้องการสำรองข้อมูลบนดิสก์ที่หลากหลายได้ในหนึ่งเดียว.