สวทช. ร่วมกับสถานพินิจฯ เปิดโอกาสการเรียนรู้ด้านไอทีแก่เด็กและเยาวชนในสถานพินิจ 5 แห่ง หวังสานต่อสร้างอาชีพนักออกแบบดีไซน์ พร้อมจัดกิจกรรมเยาวชนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์ได้ด้วยไอที...
วานนี้ (27 ต.ค.) โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมจัดงาน "เยาวชนรุ่นใหม่...สร้างสรรค์ได้ด้วยไอที" ซึ่งนำเสนอผลงานเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 5 แห่ง อาทิ บ้านกาญจนาภิเษก บ้านบึง บ้านอุเบกขา บ้านกรุณา และบ้านปรานี เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาคุณภาพและทักษะด้านคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เพื่อการเรียนรู้และการประกอบอาชีพ หรือเป็นทางเลือกในการทำงานหรือศึกษาต่อ โดยภายในกิจกรรมดังกล่าวได้มีการสาธิตการถ่ายภาพและตกแต่งภาพ การออกแบบตกแต่งนามบัตร การ์ดอวยพร และผลงานออกแบบลายสกรีนเสื้อ กระเป๋า ถุงผ้า ฯลฯ
ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ รองประธานคณะกรรมการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ กล่าวว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงตระหนักถึงประโยชน์ และความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะสร้างเสริมและพัฒนาคุณภาพ และศักยภาพของเด็กไทยในชนบท เด็กป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เพื่อการเรียนรู้ และประกอบอาชีพ เพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระองค์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ จัดทำโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2538 ที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 4 ด้าน คือ ด้านพัฒนาการศึกษา ด้านพัฒนาผู้ต้องขังในทัณฑสถาน เพื่อผู้พิการและเพื่อเด็กป่วยในโรงพยาบาล และกลุ่มเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ
ล่าสุด จึงเกิดความร่วมมือกันระหว่างโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สวทช. และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดทำโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขึ้น ซึ่งเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ นั้น มีเยาวชนอายุ 18-24 ปี อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้เทคโนโลยีได้เร็ว อีกทั้งเยาวชนจะอยู่ในสถานพินิจฯ ไม่นาน หากมีทักษะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็น่าจะนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ อาจพิจารณาจัดเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่เน้นสอนตามความต้องการของตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานโครงการฯ พระราชทานอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกทักษะด้านคอมพิวเตอร์ให้แก่เยาวชน ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ พรินเตอร์ โปรเจกเตอร์ กล้องถ่ายรูป เป็นต้น เพื่อพัฒนาเยาวชนในสถานพินิจฯ ให้ได้รับความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ในระหว่างฝึกอบรม และให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างสร้างสรรค์ผลงานที่เกิดจากการฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ ซึ่งการทำงานได้รับความร่วมมืออย่างดีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์ จัดกิจกรรมฝึกอบรมให้เยาวชนในหลักสูตรการออกแบบกราฟิกและออกแบบสิ่งพิมพ์, การผลิตภาพยนต์สั้น, การถ่ายภาพเบื้องต้นเพื่อผลิต stopmotion และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย จัดกิจกรรมฝึกอบรมให้เยาวชนในหลักสูตร "การเรียนรู้การเป็น Graphic Designer มืออาชีพ" ซึ่งเยาวชนได้สร้างสรรค์ผลงานมากมาย เช่น การออกแบบปฏิทิน, โปสเตอร์, การ์ดอวยพร, การทำนามบัตร, การออกแบบโลโก้, การตกแต่งภาพ และการทำพรีเซ็นเทชั่น เป็นต้น
นายฐานิส ศรียะพันธ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า การดำเนินงานในโครงการฯ ที่ผ่านมา นอกจากเด็กและเยาวชนจะได้รับประโยชน์ ในส่วนของศูนย์ฝึกฯ ยังสามารถต่อยอดจากฐานความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรมข้างต้น โดยให้การสนับสนุนเยาวชนให้ได้แสดงความสามารถที่ตนเองมีอยู่ คาดว่าในอนาคตศูนย์ฝึกฯ อาจมีการเปิดสอนหลักสูตรดังกล่าวแก่เด็กและเยาวชนที่สนใจ โดยเปิดเป็นหลักสูตรระยะสั้น 60 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาเยาวชนได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ปรับแนวความคิด เปิดมุมมองการใช้ชีวิตและการอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และนำความรู้ที่ได้รับมาสร้างผลงานและนำความรู้ และทักษะที่ได้รับไปประกอบอาชีพได้ภายหลังการปล่อยตัว.