ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ชื่อดังชาวรัสเซีย เผยว่า แล็บท็อปที่ใช้บนสถานีอวกาศนานาชาติ เคยติดมัลแวร์ที่ชื่อ Stuxnet จากอุปกรณ์ยูเอสบี ที่นักบินอวกาศคนหนึ่งนำขึ้นมาบนยานด้วย...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่า ยูจีน แคสเปอร์สกี ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ชื่อดังชาวรัสเซีย เปิดเผยว่า แล็บท็อปที่ใช้บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอเอส) ติดไวรัสมัลแวร์ชื่อ 'สตุกซ์เน็ต' (Stuxnet) จากอุปกรณ์ยูเอสบีที่นำขึ้นไปบนยานโดย นักบินอวกาศชาวรัสเซียคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แคสเปอร์สกีไม่ได้ระบุถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสถานีอวกาศ
แคสเปอร์สกี ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อใดเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้อาจเกิดก่อนเดือนพ.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ บริษัท 'ยูไนเต็ด สเปซ อัลไลแอนซ์' ซึ่งดูแลปฏิบัติการบนไอเอสเอส ดำเนินการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทั้งหมดจาก 'วินโดว์ส์ เอ็กซ์พี' เป็น 'ลีนุกซ์' เพื่อให้ระบบมีความเสถียรและน่าเชื่อถือมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ แล็บท็อปหลายสิบเครื่องที่ใช้บนสถานีอวกาศนานาชาติ ใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดว์ส์ เอ็กซ์พี ซึ่งง่ายต่อการติดมัลแวร์มากกว่าลีนุกซ์ และจากการเปิดเผยของแคสเปอร์สกี แล็ปท็อบที่นักบินอวกาศชาวรัสเซียคนนี้ทำให้ติดไวรัส ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดว์ส์ เอ็กซ์พี เช่นกัน
ทั้งนี้ แคสเปอร์สกีเผยด้วยว่า ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่งในรัสเซีย ก็ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อเสียงฉาวโฉ่ตัวเดียวกันนี้เช่นกัน
อนึ่ง สตุกซ์เน็ต เป็นมัลแวร์ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เชื่อกันว่ามัลถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดการทำงานของโรงงาน 'นาตานซ์' โรงงานเสริมสมรรถนภาพนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางการสิ่งที่สหรัฐฯกล่างหาว่าเป็นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ไวรัสตัวนี้ทำให้เครื่องหมุนเหวี่ยงแยกธาตุกัมมันตรังสีทำงานผิดปกติ จนสร้างความเสียหายแก่โรงงานแห่งนี้
ชื่อของมัลแวร์ตัวนี้เป็นที่รู้จัก เมื่อลูกจ้างคนหนึ่งของโรงงานนาตานซ์ นำแล็ปท็อปซึ่งติดมัลแวร์จากที่ทำงานมาใช้งานที่บ้าน และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ส่งผลให้มัลแวร์ตัวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และฝังตัวเข้าสู่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหลายล้านตัวทั่วโลก.