นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท) กล่าวว่า ในการประชุม กสท วันที่ 30 ก.ย. มีวาระน่าสนใจ คือ ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการประกอบกิจการโทรทัศน์สำหรับการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของกองทัพบกโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ MUX  เพิ่มเติมอีก 1 โครงข่าย  ที่ให้บริการในระดับชาติเป็นระยะเวลา 15ปี  ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 และประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตเพิ่มเติมในส่วนการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล

"ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะ 4 รายเดิม ที่ได้สิทธิ์ทำโครงข่ายทีวีดิจิตอล หรือ MUX ไปแล้ว คือ อสมท ไทยพีบีเอส กองทัพบก กรมประชาสัมพันธ์  และมีรายใหม่ อาทิ รัฐวิสาหกิจ และ เอกชนรายอื่น ๆ ด้านโทรคมนาคม ที่มีความประสงค์และแสดงความจำนงขอรับการจัดสรรใบอนุญาต MUX ใบที่ 5 มาที่ กสทช. จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่าไทยพีบีเอสเป็นรายที่เสนอราคาค่าเช่า MUX ต่ำที่สุดซึ่งส่งผลดีต่อเอกชนที่จะเข้ามาประมูล 24 ช่อง"

กรรมการ กสทช. กล่าวต่อว่า สำนักงาน กสทช.เสนอวาระให้บอร์ดพิจารณาความพร้อมของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกในการขอใบอนุญาตเพื่อได้สิทธิ์การเป็นผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิตอลใบที่ 5 เป็นอันดับแรก โดยมีเงื่อนไขที่น่าสนใจคือจะแลกเปลี่ยนกับระยะเวลาที่สั้นลงในการยุติสัญญาสัมปทานของช่อง ที่กองทัพบกเป็นผู้ดูแลอยู่  เพราะเรื่องนี้เป็นวาระใหญ่ระดับชาติที่จะมีผลต่อการวางโครงสร้างพื้นฐานของดิจิตอลทีวีในประเทศไทย และเกี่ยวพันกับการการยุติระบบอะนาล็อกที่เร็วขึ้นพร้อมไปกับการยุติระบบสัมปทานเพื่อเข้าสู่ระบบใบอนุญาตที่เน้นการแข่งขันอย่างเสรีเป็นธรรมที่เปลี่ยนผ่านเร็วขึ้นเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ กสท มีมติให้ 4 รายเดิมได้สิทธิ์ทำ MUX แลกกับการต้องคืนคลื่นอะนาล็อก ช่อง 5 ช่อง 9 ช่อง 11 และไทยพีบีเอส เร็วขึ้นคือ ใน 5ปี  ซึ่งในแผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ฯ ระบุไว้ 10 ปี

ทั้งนี้ กสท ได้พิจารณาออกใบอนุญาต MUX ไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 4 ใบอนุญาต ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการแบบความชัดปกติ (SD) ได้จำนวน 6 ช่องรายการ และให้บริการแบบความคมชัดสูง (HD) จำนวน 2 ช่องรายการ  ซึ่งทั้ง 4 ใบอนุญาตสามารถรองรับการให้บริการแบบ SD จำนวน 24 ช่อง และ การให้บริการแบบ HD  จำนวน 8 ช่อง  จึงต้องให้ใบอนุญาตเพิ่มเติม  เพื่อให้สามารถรองรับโทรทัศน์ระบบดิจิตอลทั้ง 48 ช่อง  โดยกำหนดไว้จะให้ทั้งสิ้น 6 ใบอนุญาต.