"พันธุ์ทิพย์" ยอมรับการเมืองทำยอดขายหด จัดงาน "ฮอต เซลส์ 2014 ซัมเมอร์" เรียกกำลังซื้อไอที-สมาร์ทโฟน จาก 3 สาขา คาดสร้างเงินสะพัดได้กว่า 800 ล้านบาท เผยปีนี้ปรับปรุงโฉมสาขาประตูน้ำแน่นอน…

นายยงยุทธ ไชยชนะ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพันธุ์ทิพย์ (ไอที) บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า "พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า" เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดไอทีในช่วงนี้ ยังอยู่ในช่วงซบเซา จากปัญหาทางเศรษฐกิจและการเมือง ทางศูนย์การค้าฯ จึงจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายและสร้างสีสันการขายให้แก่ผู้เช่าพื้นที่ในตึกสาขาประตูน้ำ ในชื่อกิจกรรม "พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซลส์ 2014 ซัมเมอร์" ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-6 เม.ย. 2557 รวมทั้งสิ้น 9 วัน โดยมีไฮไลท์ที่สินค้าประเภทสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำ ทั้งซัมซุงและไอโฟน รวมถึงแก็ตเจ็ตต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดปัจจุบัน

"ยอมรับว่า กระแสสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ตเจ็ตมาแรงมาก ขณะที่ตลาดโน้ตบุ๊กและพีซีก็ลดลง ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในตลาด และส่วนหนึ่งก็เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ทางการเมือง การจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นตลาด โดยบริษัทจัดงานขึ้นทั้ง 3 ศูนย์การค้าของพันธุ์ทิพย์ คือ ประตูน้ำ งามวงศ์วาน และบางกะปิ โดยใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสร้างสีสันให้กับทางศูนย์การค้าฯ ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผู้เช่าพื้นที่รู้สึกมีส่วนร่วมกับทางศูนย์ฯ และได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ลูกค้าลดลง" กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพันธุ์ทิพย์ (ไอที) บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต กล่าว

นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า แม้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแก็ตเจ็ต จะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้การตอบรับและมีความต้องการซื้อในตลาดสูง แต่การจัดงานในครั้งนี้ ก็ยังมีสินค้าไอทีมาจำหน่ายด้วย โดยสินค้าในกิจกรรมครั้งนี้ จะเน้นการทำโปรโมชั่นราคา และการทำตลาดแบบลด แลก แจก แถม รวมถึงกิจกรรมมอบโชคชิงรางวัลแก่ลูกค้า ซึ่งเชื่อว่าช่วงเวลาในการจัดงานถือเป็นช่วงที่ลูกค้ามีความสนใจจับจ่ายใช้สอย แม้ว่า พันธุ์ทิพย์ ฮอต เซลส์ 2014 ซัมเมอร์ จะจัดขึ้นหลังงานคอมมาร์ต แต่ร้านค้าไอทีที่ไปเปิดพื้นที่ขายในงานคอมมาร์ตนั้น ส่วนหนึ่งก็คือ ผู้เช่าพื้นที่ของศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ซึ่งยอมรับว่ากำลังซื้อจากผู้บริโภคอาจลดลงบ้าง แต่เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะยังสามารถขายได้ตามปกติ เนื่องจากลูกค้าส่วนหนึ่งก็ต้องการมาเห็นหน้าร้าน ที่ตั้งของผู้ขาย จึงมองว่าการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ ประกอบกับการทำโปรโมชั่นก็จะคล้ายกัน และผู้บริโภคบางส่วนก็นิยมรอซื้อในช่วงหลัง เพื่อเปรียบเทียบราคาและต้องการสินค้าราคาพิเศษ

นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการสาขาประตูน้ำ ลดลงราว 20-30% จากความไม่สะดวกในการเดินทาง แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้า และส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าฯ เพิ่มขึ้นราว 10% คาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดให้ศูนย์การค้าฯ ทั้ง 3 สาขา ได้รวม 800 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากสาขาประตูน้ำ

กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพันธุ์ทิพย์ (ไอที) บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต กล่าวอีกว่า จุดเด่นของสาขาประตูน้ำ คือ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของลูกค้าทั้งหมดในสาขา และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างดี โดยอดีตนิยมซื้อทีวี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมานิยมซื้อสมาร์ทโฟนและแก็ตเจ็ต ขณะที่ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ วัยรุ่นก็นิยมซื้อสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ส่วนยอดขายพีซียังคงขายได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการซื้อเฉพาะกลุ่มคนเล่นเกมส์ ที่ซื้อเครื่องราคาหลายหมื่นบาทถึงแสนบาทขึ้นไป สำหรับโน้ตบุ๊กก็ยังมียอดขายต่อเนื่องจากกลุ่มนักเรียน นักศึกษา แม้จะมีสัดส่วนลดลงบ้าง

"เชื่อว่าสินค้าไอทีจะไม่หายไปจากตลาดอย่างแน่นอน ทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ก ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตและผู้ค้าจะดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างไรให้รองรับความต้องการของลูกค้า ในฐานะผู้ให้บริการพื้นที่ บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้เช่าพื้นที่ ขณะที่เจ้าของร้านก็ต้องการปรับตัวตามลูกค้า ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดโซนนิ่งใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ซื้อ อดีตทางศูนย์ฯ มีสัดส่วนสินค้าไอทีขายอยู่กว่า 90% แต่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเริ่มเพิ่มมากขึ้น ก็ต้องมีการปรับปรุงและเน้นรองรับสมาร์ทดีไวซ์ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น" นายยงยุทธ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพันธุ์ทิพย์ (ไอที) บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับการปรับโฉมภาพลักษณ์ของสาขาประตูน้ำ ให้ทันสมัย และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าให้ได้ครอบคลุมขึ้น ทั้งสินค้า บริการ และไลฟ์สไตล์ ซึ่งบริษัทมีแผนจะดำเนินการภายในปีนี้ และแล้วเสร็จในต้นปี 2558 ซึ่งการปรับโฉมครั้งนี้จะเป็นครั้งใหญ่ หลังจากสาขาประตูน้ำเปิดให้บริการมากว่า 30 ปี โดยหลังการปรับโฉมครั้งนี้ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ จะเน้นเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพูดคุยกับลูกค้าและผู้เช่าพื้นที่มากขึ้น เพื่อเปิดรับคำแนะนำในการจัดรูปแบบการขายและโซนนิ่ง ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น

นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า สำหรับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางศูนย์การค้าฯ ยืนยันว่า ไม่เคยสนับสนุนให้มีการขาย อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.ย.นี้ จะเป็นปีครบกำหนดสัญญาเช่าพื้นที่ ซึ่งบริษัทจะเข้าไปดูแลและจัดพื้นที่ขายใหม่ ถือเป็นการจัดระเบียบผู้ค้าด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ซอฟต์แวร์ไม่เคยหายไปจากศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ โดยภายหลังจากการจัดระเบียบใหม่นี้ จะมีการนำเสนอทั้งกลุ่มซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิงแบบถูกลิขสิทธิ์ต่อไป.