เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 6-กรุงปราก (Prague) อัญมณีเม็ดงามแห่งยุโรป
สวัสดีครับ หลังรับประทานอาหารกลางวันเมื่อตอนที่แล้ว คณะของเราเดินทางกันต่อเพื่อไปชมความสวยงามบริเวณเมืองเก่าของกรุงปราก (Prague Old Town) เชิญติดตามไปด้วยกันครับ
ดูแผนที่กรุงปรากกันก่อน เราจะเดิน(ขอย้ำว่าเดินอย่างเดียวจริง ๆ) ตั้งต้นที่จุดหมายเลข 1 ข้ามสะพานชาร์ลส์ไปยังจุดหมายเลข 2 แล้วเดินไปชมศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) ที่จุดหมายเลข 3 จนถึงจัตุรัสใหญ่กลางเมือง (Town Square) ที่จุดหมายเลข 4
เราเริ่มต้นท่องเที่ยวในภาคบ่ายกันที่เวลา 12.55 น. โดยเดินตรงไปตามถนนด้านหน้า
มองเห็นสะพานชาร์ลส์อยู่ข้างหน้า ไม่ไกลแล้ว
มีนักท่องเที่ยวมากมาย เดินสวนกันไปมา
บริเวณเชิงสะพาน มีรถสวยงามเปิดประทุนมาจอดให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งชมเมืองเก่า ด้วยราคาคันละ 1,200 โครูน่าเช็ก (ประมาณ 1,700 บาท)
เดินผ่านซุ้มประตูนี้ก็จะถึงสะพานชาร์ลส์แล้วครับ ซุ้มประตูนี้ชื่อ Old Town Bridge Tower มีอยู่ทั้งสองปลายของสะพาน
เดินเข้ามาถึงสะพานชาร์ลส์แล้ว
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในเมือง สร้างบนจุดที่น้ำตื้นที่สุดขนาดเดินลุยน้ำเพื่อข้ามฝั่งได้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1357 เพื่อทดแทนสะพานแห่งเดิมที่พังทลายจากน้ำท่วม สะพานชาร์ลส์เชื่อมฝั่งปราสาทปรากทางตะวันตกเข้ากับเขตเมืองเก่าทางตะวันออก มีความยาว 516 เมตร และกว้างถึง 10 เมตร มีเสาค้ำยัน 16 ต้น ประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์
สะพานนี้จัดให้เป็นถนนคนเดินคือไม่ให้รถทุกชนิดแล่นผ่าน บนสะพานจะมีศิลปินแขนงต่าง ๆ มาแสดงดนตรี รับจ้างวาดภาพเหมือน จำหน่ายของที่ระลึกที่ประดิษฐ์ด้วยมือ ฯลฯ มีนักท่องเที่ยวเดินสวนกันไปมามากมาย ดูมีชีวิตชีวาทั้งวัน กล่าวกันว่าถ้าใครไปกรุงปรากแล้วไม่ได้เดินข้ามสะพานนี้ก็ถือว่ายังไม่ถึงกรุงปรากทีเดียว
มองย้อนกลับไปยังจุดที่เดินผ่านมา จะเห็นนักท่องเที่ยวมากมาย
รูปปั้นนักบุญที่อยู่บนขอบของสะพาน
บริการวาดภาพเหมือน
ถ้าสนใจก็นั่งเป็นแบบให้ศิลปินลงมือวาดเลย
บรรยากาศบนสะพานก็เป็นแบบนี้ละครับ
รูปปั้นนักบุญอีกองค์หนึ่ง
ส่วนองค์นี้สำคัญมากคือรูปปั้นของเซนต์จอห์น เนโปมุก (St.John Nepomuk) ตามตำนานบอกว่าท่านถูกโยนลงแม่น้ำวัลตาวาโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่ง เนื่องจากปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับว่าพระราชินีของพระองค์มาสารภาพบาปว่าอะไร ใต้รูปปั้นมีแผ่นทองเหลืองภาพนูนต่ำ ว่ากันว่า ถ้าใครได้มาลูบแผ่นทองเหลืองนี้จะได้กลับมาเยือนกรุงปรากอีก
จึงพบเห็นนักท่องเที่ยวมาลูบแผ่นทองเหลืองนี้จนเป็นมันวาว คงอยากกลับมาอีกนั่นเอง
รูปปั้นพระสันตปาปาและกษัตริย์
อาคารสวยงามหลังนี้มองเห็นจากบนสะพาน
แม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ที่ไหลผ่านกรุงปราก เมื่อมองจากกลางสะพาน (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น)
นักดนตรีเปิดหมวก แสดงอยู่บนสะพาน
รูปปั้นพระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขนและพระสาวก เป็นจุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปคับคั่ง
มองย้อนกลับไปทางต้นสะพาน บ่ายวันนี้นักท่องเที่ยวแน่นจริง ๆ
ยืนที่ด้านข้างสะพานมองเห็นปราสาทปราก โดดเด่นสวยงามอยู่บนเนินเขา
ในแม่น้ำพบเรือลำหนึ่ง นักท่องเที่ยวกำลังสนใจฝูงหงส์ที่เล่นน้ำอยู่ในแม่น้ำ
เป็นมิตรกับผู้คน มีสีขาว สะอาด สวยงาม น่ารักจริง ๆ
เดินมาเกือบถึงปลายสะพานแล้ว หลังคาโดมสีเขียวซ้ายมือคือโบสถ์ Saint Francis of Assisi Church
เดินลอดซุ้มประตูมาถึงฝั่งตรงข้าม
ประติมากรรมเหนือซุ้มประตู
โบสถ์สวยงามที่อยู่ตรงหน้าคือโบสถ์เซนต์ซัลวาเทอร์ (Church of St. Salvator)
ประดับรูปปั้นนักบุญ 14 องค์ บนหลังคา
อนุสาวรีย์พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 อยู่บริเวณเชิงสะพานด้านนี้
บริเวณนี้สามารถเดินไปริมฝั่งแม่น้ำที่มีลูกกรงกั้นอยู่ เพื่อชมทิวทัศน์ของฝั่งตรงข้าม มองเห็นปราสาทปรากบนเนินเขาได้เต็มทั้งปราสาท งดงามมากครับ
เดินกันต่อ มาถึงศูนย์กลางของบริเวณเมืองเก่า
อาคารหลังนี้คือศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old City Hall) บนยอดหอคอยมีนาฬิกาบอกเวลาปัจจุบัน และยังมีนาฬิกาชนิดพิเศษติดอยู่ที่ผนังด้านหน้าอีก 2 เรือน
ด้านบนเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ ด้านล่างเป็นนาฬิกา 12 ราศี
ทุกต้นชั่วโมง ก่อนที่นาฬิกาจะตีบอกเวลาผู้คนจะมารอชมปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือจะมีหุ่นสาวกของพระคริสต์ ปรากฏออกมาจากช่องหน้าต่างเล็กๆ ด้านบนของนาฬิกาดาราศาสตร์ ด้วยกลไกที่ดูน่าตื่นเต้นสำหรับผู้คนในยุคก่อน (ลักษณะเดียวกันกับที่เมืองโรเธนบวร์ก - Rothenburg ประเทศเยอรมนี)
หันไปชมอาคารสวยงามที่อยู่ในบริเวณนั้นกันบ้างครับ
ผนังอาคารเขียนภาพบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในกรุงปราก
อาคารหลังนี้จำหน่ายเครื่องแก้วโบฮิเมียน ที่งดงามและมีราคาแพงมาก
ดูตัวอย่างสัก 2-3 ชิ้น
รถบริการนักท่องเที่ยวนั่งชมรอบเมือง สีเขียวสวยงาม
เดินต่อไปอีกเล็กน้อยจะถึงจัตุรัสใจกลางเมือง ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยอาคารสวย ๆ มากมายจนเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งได้ทีเดียว แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือโบสถ์โกธิกสูงใหญ่ มียอดแหลมราวกับเปลวเพลิงพุ่งสูงเสียดฟ้า มีชื่อว่า Church of Our Lady before Tyn หรือเรียกสั้น ๆ ว่าโบสถ์ทิน (Tyn Church) เป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญอันดับสองรองจาก St.Vitus Cathedral ในปราสาทปรากที่ผมพาไปชมเมื่อครั้งที่แล้ว
ความสวยงามของแท่นบูชาภายในโบสถ์ทิน
ตรงกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์ของนักปฏิรูปศาสนาชื่อยาน ฮุส (Jan Hus) ท่านผู้นี้ต่อต้านความเหลวแหลกฟุ้งเฟ้อของศาสนาคริสต์นิกายแคธอลิกในยุคนั้น ในที่สุดเขาถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็น เหตุการณ์นี้ทำให้มีการลุกฮือเพื่อต่อต้านอำนาจของพวกแคธอลิก มีการจับบาทหลวงโยนลงมาจากหอคอย จนเกิดเป็นสงครามฮุสไซต์ (Hussite Wars) ระหว่างฝ่ายที่ยึดมั่นต่อคริสตจักรกับฝ่ายที่ต่อต้าน ยาน ฮุส ผู้นี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษที่สำคัญคนหนึ่งของชาวเช็ก
หอนาฬิกาสูง 60 เมตรที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งของศาลาว่าการเมืองเดิม (Old City Hall) ที่เคยใช้เป็นศาลาว่าการเมืองตั้งแต่สมัยยุคกลาง สามารถขึ้นไปชมวิวรอบทิศบนยอดหอคอยได้ เสียค่าขึ้นชมคนละ 160 โครูน่าเช็ก (ประมาณ 220 บาท)
ตัวอย่างทิวทัศน์ที่มองเห็นจากยอดหอคอย (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
ร้านนี้ให้บริการนวดแผนไทย ผู้ชายที่ทำหน้าที่เรียกแขกแต่งตัวแปลกดี (เหมือนชุดกันฝน) ใส่งอบ จอดรถสามล้อคนถีบอยู่ด้านหลัง
อาคารสวยงามบริเวณนี้เป็นร้านสินค้าแบรนด์เนม
ส่วนอาคารหลังนี้เป็นโรงละครโอเปร่า
ศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้ ๆ จัตุรัส มีชื่อว่า Palladium ภายในมีร้านค้าย่อยอยู่ถึง 200 ร้าน
เย็นนี้ทัวร์ให้รับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย ก็คงอาศัยร้านอาหารในศูนย์การค้านี้ และหลังอาหารขอแวะดื่มกาแฟสตาร์บัคส์ของชอบ ปิดท้ายรายการสำหรับวันนี้
หมายเหตุ ข้อความบรรยายในส่วนที่เป็นประวัติของบุคคลและสถานที่ ผมเรียบเรียงมาจากบล็อก //cherokee.exteen.com/20090829/prague ขอขอบคุณท่านเจ้าของบล็อกด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมแล้วพบกันใหม่ในครั้งต่อไปที่เมืองโรแมนติก คาร์โลวีวารี ครับ.
Create Date : 20 กรกฎาคม 2558 |
|
8 comments |
Last Update : 22 สิงหาคม 2558 13:26:03 น. |
Counter : 3898 Pageviews. |
|
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
-----------------------------
พลาดไปหลายตอนเลยค่ะ แหะ ๆ
ภาพยังสวยและเนื้อเรื่องยังคุณภาพอัดแน่นเหมือนเดิมนะคะ
ชอบภาพหงส์ขาวในน้ำค่ะ นี่ถ้าน้ำใสกว่านี้จะสวยมากเลยนะคะ