เสน่ห์ฝรั่งเศส : 09-พระราชวังแวร์ซาย (Chateau de Versailles)
สวัสดีครับ พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังหลวงตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซาย ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก เป็นต้นแบบของพระราชวังอื่น ๆ ในยุโรปเกือบทั้งหมด และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางควรไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต วันนี้ผมเดินทางมาถึงกรุงปารีสแล้วจะพาไปชมครับ
เดิมเมืองแวร์ซายเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขาเหมือนชนบทแห่งอื่นๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ทรงมีพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ.2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น
ต่อมาในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในตำบลแวร์ซาย เมื่อปี พ.ศ.2204
การสร้างวังใหม่ครั้งนี้ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ เงินก้อนนี้นำมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ใช้คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี จึงแล้วเสร็จใน พ.ศ.2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว ทำในรูปแบบศิลปกรรมที่งดงาม
ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายยังอยู่ในสภาพดี และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ ภายในพระราชวังแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ รวมทั้งหมด 700 ห้อง ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง จำนวน 6,123 ภาพ และงานแกะสลักทั้งหมด 15,034 ชิ้น
ห้องไฮไลต์ในพระราชวังแวร์ซาย คือ ห้องกระจก เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึก ระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนามเมื่อครั้งเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงดำเนินการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน
เมื่อเปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายอันงดงาม
พระราชวังแวร์ซายได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ.2522 และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย
ภาพและข้อมูลข้างต้นเรียบเรียงมาจากวิกิพีเดีย ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (https://en.wikipedia.org/wiki/Palace_of_Versailles) และไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/content/1251781)
คณะของเราเข้ามาถึงพระราชวังแวร์ซายในช่วงบ่าย
เดินเข้ามาถึงประตูของพระราชวังแล้ว
พบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยืนเข้าคิวรอเข้าไปชมภายใน
ระหว่างรอคิวเข้าไปชมภายใน มาชมบรรยากาศและตัวพระราชวังจากภายนอกไปพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกันครับ ตัวอาคารเป็นหินอ่อนสีชมพู มีการตกแต่งขอบด้วยวัสดุที่เป็นสีทองทั้งนั้น งดงามจริง ๆ
เราเป็นคณะทัวร์ที่มีไกด์ท้องถิ่น จึงมีทางเข้าโดยเฉพาะที่ประตู B แต่ก็ต้องรอคิวกลุ่มที่มาถึงก่อนเหมือนกัน อย่างไรก็ตามจะใช้เวลารอน้อยกว่ารายบุคคลที่มากันเอง ซึ่งบางครั้งต้องรอคิวนานถึง 3-4 ชั่วโมงก็มี
ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมง ไกด์ท้องถิ่นซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ปารีส ก็นำเราเข้ามาด้านใน เดินขึ้นบันไดที่อยู่ตรงหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นไปชั้นบน ตามรอยพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ที่เคยมาเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั่นเอง
เดินผ่านรูปปั้นที่สวยงามบริเวณนี้
เดินเข้ามาถึงห้องแสดงประวัติความเป็นมาของการก่อสร้างพระราชวัง ไกด์ท้องถิ่น (สุภาพสตรีคนขวามือสุดที่กำลังพูด) จัดให้สมาชิกแต่ละคนแขวนเครื่องช่วยฟังขนาดเล็กไว้ที่คอ และติดหูฟังไว้ 1 ข้าง เมื่อไกด์บรรยายรายละเอียดผ่านทางไมโครโฟนของตน จะทำให้ทุกคนได้ยินชัดเจนและทั่วถึงครับ
หุ่นจำลองพระราชวังในปัจจุบัน
มีภาพเขียนแสดงเหตุการณ์ในช่วงเวลาต่าง ๆ ติดอยู่บริเวณผนังและเพดานห้อง
เราจะเดินต่อไปยังห้องโถง (Salon) ที่อยู่ต่อเนื่องกันไป แต่ละห้องจะมีชื่อเป็นเทพเจ้า-เทพธิดาของกรีกโบราณ เช่น Salon of Hercules, Salon of Venus, Salon of Mercury, Salon of Mars เป็นต้น เพื่อชมภาพเขียนที่ฝาผนัง เพดาน รูปปั้นหินอ่อน และโคมไฟระย้าที่งดงาม ในแต่ละห้องนั้น
เดินเข้ามาถึงห้องนี้คือ Salon of Mars
รูปปั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในห้อง Salon of Diana และภาพพระชายา
มาถึงประตูทางเข้าห้องที่สำคัญของพระราชวังแล้วคือห้องกระจก
เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) และคณะทูตจากกรุงศรีอยุธยา ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ ห้องกระจกแห่งนี้ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2229
(ทั้งสองภาพนี้นำมาจาก https://www.newtv.co.th/news/13222)
ภายในห้องนี้มีนักท่องเที่ยวคับคั่งที่สุด เป็นห้องที่งดงามสมชื่อ ทั้งการตกแต่งที่ฝาผนัง โคมไฟระย้า รูปปั้นเทพีชูโคมไฟ ฯลฯ คุ้มค่าที่มีโอกาสเข้าไปชมครับ
จากห้องกระจกมีประตูเดินไปยังห้องที่อยู่ติดกัน เป็นห้องส่วนตัวของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Kings Chamber)
และมาถึงห้องเสวยพระกระยาหารเป็นห้องสุดท้าย
สมควรแก่เวลาเราจะออกจากพระราชวัง ต้องเดินลงบันไดไปชั้นล่าง
ออกมาถึงลานด้านนอกแล้ว
หันกลับไปมองพระราชวังอีกครั้งหนึ่ง ช่างยิ่งใหญ่สวยงามสมคำร่ำลือจริง ๆ นับเป็นโชคดีที่มีโอกาสได้มาชม
เชิญอ่านรายละเอียดของตอนอื่น ๆ ได้ที่ Link ด้านล่างครับ
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 01-อารัมภบท
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 02-โมนาโก (Monaco)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 03-เมืองกาซิส (Cassis)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 04-สะพานส่งน้ำโรมัน (Pont du Gard)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 05-เมืองการ์กาซอน (Carcassonne)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 06-ปราสาทอองบัวส์ (Royal Chateau of Amboise)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 07-ปราสาทเชอนงโซ (Chateau de Chenonceau)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 08-มหาวิหารมงแซงมิเชล (Mont Saint-Michel)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 10-พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
เสน่ห์ฝรั่งเศส : 11-มนต์เสน่ห์แห่งกรุงปารีส
Create Date : 15 มิถุนายน 2561 |
Last Update : 30 มิถุนายน 2561 9:33:28 น. |
|
15 comments
|
Counter : 3238 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเรียวรุ้ง, คุณmambymam, คุณตุ๊กจ้ะ, คุณKavanich96, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณtuk-tuk@korat, คุณSweet_pills, คุณซองขาวเบอร์ 9 |
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 มิถุนายน 2561 เวลา:11:29:08 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 15 มิถุนายน 2561 เวลา:12:17:12 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 15 มิถุนายน 2561 เวลา:17:33:34 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 มิถุนายน 2561 เวลา:2:19:24 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 16 มิถุนายน 2561 เวลา:6:56:37 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 16 มิถุนายน 2561 เวลา:7:27:22 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 16 มิถุนายน 2561 เวลา:19:49:34 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 17 มิถุนายน 2561 เวลา:9:19:38 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 17 มิถุนายน 2561 เวลา:16:47:59 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 18 มิถุนายน 2561 เวลา:0:45:44 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 19 มิถุนายน 2561 เวลา:8:26:06 น. |
|
|
|
|
|
อลังการณ์งานสร้างมากๆค่ะ
ฟิน อิน ไปกับ
เจ้าพระยาโกษาปาน เอกอัครราชฑูตไทย
g-hkเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14