|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสน่ห์อิตาลี : 10-หอเอนแห่งเมืองปิซ่า (Pisa)
หลังจากชมเมืองลุคค่าในตอนที่แล้ว เราออกเดินทางต่อไปยังเมืองปิซ่า เพื่อรับประทานอาหารกลางวันและชมความงามของหอเอนแห่งเมืองปิซ่า ตามผมไปด้วยกันครับ
ปิซ่า (Pisa) เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ด้านตะวันตกของเมืองปิซ่าติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ปิซ่าก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และสิ่งที่ทำให้ปิซ่าโด่งดังก็คือ หอเอนแห่งเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) นั่นเอง
หอเอนแห่งเมืองปิซาตั้งอยู่ในบริเวณ จัตุรัสดูโอโม (Piazza del Duomo หรือ Cathedral Square) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก การเข้าไปชมจัตุรัสดูโอโม จะมีลักษณะแตกต่างกับเมืองอื่น ๆ บ้าง คือเมื่อรถโค้ชจอดส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณจุดจอดรถบัสแล้ว จะมีรถบัสแบบต่อพ่วงของเมือง (City bus) รับนักท่องเที่ยวเข้าไปส่งภายในจัตุรัสอีกทอดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ต้องเดินอีกประมาณ 800 เมตรจึงจะถึงจุดหมายปลายทางในวันนี้ครับ
ถึงบริเวณจัตุรัสแล้ว ด้านซ้ายมือคือกลุ่มอาคารของดูโอโม ด้านขวามือจะเห็นแผงลอยเป็นทิวแถวคือร้านจำหน่ายของที่ระลึกครับ หัวหน้าไกด์บอกว่าอย่าเพิ่งซื้อของและถ่ายรูป เพราะต้องทำเวลาไปให้ถึงร้านอาหารที่อยู่สุดถนนนี้ก่อน หลังจากอาหารกลางวันแล้วจะให้เวลาในการถ่ายรูปและซื้อของตามอัธยาศัย
ดูโอโมของเมืองปิซ่า มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร (Church Complex) ประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง คือ อาคารแบ๊บทิสเตอรี่ (Babtistery หรือ Babtistry) โบสถ์ (Duomo หรือ Cathedral) หอระฆัง (Campanile) และสุสานอนุสาวรีย์ (Camposanto Monumentale or Monumental Cemetery) ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านซ้ายของภาพ
แผนผังของกลุ่มอาคาร แสดงที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ภายในแต่ละอาคาร
อาคารแบ๊บติสเทอรี่รูปทรงกลมสร้างด้วยหินอ่อน เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีแบ๊บติสต์หรือพิธีรับศีลจุ่ม โบสถ์สำคัญแทบทุกเมืองจะมีอาคารสำหรับพิธีนี้แยกต่างหาก มักสร้างเป็นรูป แปดเหลี่ยมหรือทรงกลม ข้างในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เพื่อใช้ประกอบพิธี
เป็นวันที่อากาศค่อนข้างดี ท้องฟ้ามีเมฆกระจาย ทำให้ได้ภาพสวยงาม นักท่องเที่ยวเริ่มทะยอยเข้ามามากแล้ว
อาคารถัดมาคือตัวมหาวิหาร สร้างด้วยหินอ่อน
นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งกำลังต่อคิวเพื่อจะเข้าไปชมด้านใน (ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 9 ยูโร สำหรับการชมพิพิธภัณฑ์ภายในให้ครบทุกแห่ง)
ส่วนหอระฆังที่อยู่ด้านหลัง ก็คือ "หอเอนแห่งเมืองปิซ่า" (The Leaning Tower) ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกับหอเอนนี้ มักจะโพสท่าน่ารัก ๆ
ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น
โดยยืนอยู่บนเสาหิน เพื่อเพิ่มความสูงของตัวเองขึ้นอีกเล็กน้อย
เป็นอย่างนี้ทุกคนเลย
คนนี้ดูมุ่งมั่นจริง ๆ
มาดูแอ๊คชั่นเด็ด ๆ ที่ถ่ายคู่กับหอเอน แต่ละท่าล้วนสุดยอด โดยเฉพาะภาพขวาบน (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
หอเอนแห่งเมืองปิซ่าหรือหอระฆังนี้ เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1173 เมื่อสร้างไปได้ 3 ชั้นครึ่ง หอระฆังก็เริ่มทรุดเอียง แต่ยังทรงตัวอยู่ได้ไม่พังทลายลงมาเพราะจุดศูนย์ถ่วงยังไม่ออกนอกฐาน จึงได้ก่อสร้างเพิ่มเติมจนสูงถึง 8 ชั้น ความสูง 183.3 ฟุต สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว น้ำหนักโดยรวม 14,500 ตัน มีบันได 296 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวฉาก 3.9 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปี นับเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็กที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง
ใช้แขวนระฆัง 7 ใบ รวมน้ำหนักกว่า 3,500 กิโลกรัม
รูปปั้นเทวดาตัวน้อยน่ารัก (Cherubs statue) งานประติมากรรมจากหินอ่อนที่สวยงาม ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าหอเอน
ขบวนแห่ของชาวเมืองปิซ่าในชุดแต่งกายยุคกลาง มาร่วมพิธีในวันฉลองนักบุญแพทตรอน (Celebrating The Patron Saint's Day) ในวันนั้นพอดี เห็นว่าชุดแต่งกายสวยงามดีจึงถ่ายมาให้ชมครับ
ตามปกติหอเอนนี้ยอดหอจะเอนไปทางขวามือ แต่เนื่องจากถ่ายภาพอีกด้านหนึ่งโดยเปิดระยะโฟกัสแคบสุด จึงได้ภาพลักษณะนี้(คือเอนไปทางซ้าย) ดูแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง
มหาวิหารเมื่อถ่ายด้านข้างให้เห็นเต็ม ๆ
ภายในมหาวิหารเป็นศิลปะแบบโรมาเนสก์ (Romanesque) ที่สวยงาม แต่คณะของผมไม่ได้เข้าไปชมจึงขอนำภาพจากอินเทอร์เน็ตมาให้ชมครับ
ย้อนกลับมาถึงอาคารแบ๊บติสเทอรี่ เพื่อดูรายละเอียดกัน
เป็นอีกภาพหนึ่งคนละช่วงเวลากัน
ซูมให้เห็นใกล้ ๆ
เห็นรายละเอียดของผนังที่ประกอบด้วยงานแกะสลักบนหินอ่อน ที่ละเอียด งดงาม
มาดูที่หอเอนกันใกล้ ๆ บ้าง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวบนหอเอนนี้ได้ โดยเสียค่าขึ้นไปชมคนละ 18 ยูโร สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์นี้ครับ boxoffice-v2.opapisa.it
เวลาจะขึ้นไปชมจะต้องเข้าคิวรอขึ้นไปเป็นรอบๆ รอบละ 40 คน แต่ละรอบจะให้อยู่บนนั้นได้เพียง 30 นาที
นักท่องเที่ยวขึ้นไปอยู่บนยอดหอเอนแล้ว
มองเห็นลวดลายที่สวยงามด้านข้าง และระฆังที่แขวนไว้ ซึ่งมีทั้งหมด 7 ใบ
บนหอเอนนี้ กาลิเลโอ (Galileo Galilei : 1564 - 1642) ซึ่งเป็นทั้งนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักปรัชญาชาวอิตาลี เคยทำการทดลองที่โด่งดัง โดยการปล่อยวัตถุสองก้อนที่มีน้ำหนักต่างกันลงมาจากยอดหอเอน ปรากฏว่าวัตถุทั้งสองตกถึงพื้นพร้อมกัน แสดงว่าเวลาที่วัตถุตกถึงพื้นไม่ขึ้นกับน้ำหนักของวัตถุ ได้กฎทางฟิสิกส์อีกข้อหนึ่ง สุดยอดจริง ๆ
วิวที่เห็น เมื่อมองจากชั้นบนของหอเอน เห็นกลุ่มอาคาร และนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่ด้านล่าง เป็นภาพที่งดงามคุ้มค่า (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
มาดูความงามของตัวมหาวิหาร
และยอดโดม
อาคารทั้งชุดสร้างด้วยหินอ่อนสีเดียวกัน มองมุมนี้เห็นชัดเจนว่าหอระฆังด้านหลัง"เอน" จริง ๆ
รูปปั้นพระแม่มาเรีย ติดตั้งอยู่ด้านบนของหน้าบันมหาวิหาร
ก่อนกลับก็แวะซื้อของที่ระลึกกันก่อน ผมสังเกตว่าคนขายของที่ระลึกที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย และสินค้ามีราคาถูกกว่าแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ซ้ำยังมีสินค้าจากเมืองท่องเที่ยวอื่นมาขายในราคาถูกกว่าอีกด้วย
เราจะออกเดินทางกลับผ่านประตูกำแพงนี้ ซึ่งก็เป็นประตูเดียวกันกับขาเข้านั่นเอง
ปิดท้ายวันนี้ด้วยดอกไม้สีสวย ที่พบเห็นระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 27 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2556 10:28:37 น. |
|
23 comments
|
Counter : 9015 Pageviews. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:44:22 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:15:03 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:36:23 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:33:50 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 27 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:25:32 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:13:24 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:26:30 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:4:51:21 น. |
|
|
|
โดย: ฝากเธอ วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:44:48 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:10:46 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 28 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:55:05 น. |
|
|
|
โดย: untalai วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:00:32 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:12:07 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 1 มิถุนายน 2556 เวลา:1:38:35 น. |
|
|
|
โดย: NENE77 วันที่: 2 มิถุนายน 2556 เวลา:11:25:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มาชมตอนที่ 10 อิตาลี
เหมือนได้ไปทัวร์เอง
ขอบคุณภาพสวยๆที่นำมาให้ชมค่ะ