|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสน่ห์เยอรมนี : 8-เมืองโรเธนบวร์ก (Rothenburg)
สวัสดีครับ ออกจากเมืองมิวนิคเมื่อตอนที่แล้ว ช่วงเช้าคณะทัวร์ของเราเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันยิวที่เมืองดาเชา (Dachau Concentration Camp) และตอนบ่ายเดินทางต่อไปที่เมืองโรเธนบวร์ก ซึ่งจะค้างคืนที่เมืองนี้ ผมรู้สึกว่าที่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันยิวจะมีแต่เรื่องที่น่าหดหู่ เศร้าใจ ไม่เข้ากับธีมของบล็อกชุดนี้ จึงขอข้ามไปเล่าสิ่งที่สวยงามน่าประทับใจของอีกเมืองหนึ่งที่อยู่บนเส้นทางสายโรแมนติคดีกว่า เชิญติดตามไปด้วยกันครับ
เส้นทางสายโรแมนติคของเยอรมนี (Romantic Road เริ่มจากเมือง Wurzburg ไปจนถึงเมือง Fussen ตามแผนที่ด้านล่าง) มีเมืองที่น่ารักน่าหลงไหลอยู่มากมาย แต่มีเมืองหนึ่งที่อยู่ตอนต้น ๆ ทาง ของเส้นทางสายนี้ ที่ถือว่าเป็นเมืองยุคกลางแห่งเดียวของเยอรมันที่ยังคงเก็บรักษาสภาพเดิมไว้ได้มากที่สุด นั่นก็คือเมือง โรเธนบวร์ก ชื่อเต็ม ๆ คือ โรเธนบวร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) ซึ่งแปลว่าเมืองโรเธนบวร์กที่ตั้งอยู่ข้างๆ แม่น้ำเทาเบอร์ เพื่อป้องกันการสับสนกับชื่อโรเธนบวร์กอื่นๆ
โรเธนบวร์ก ได้ชื่อว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของเยอรมนี มีกำแพงเมืองล้อมรอบอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยประตูเมือง และหอคอยทั้ง 8 หอ ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค และเรอเนสซองส์ พร้อมบ้านเรือนรูปแบบเยอรมันขนานแท้
เนื่องด้วยเป็นเมืองยุคกลางที่ยังคงสภาพเดิมได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด การเดินเล่นในเมืองนี้ จึงมีคนเปรียบเปรยว่าเสมือนการเดินชมอยู่ใน พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Outdoor Museum)
เราเดินทางมาตามเส้นทางสายโรแมนติก จนเริ่มมองเห็นตัวเมือง ก็เลี้ยวซ้ายครับ
เข้ามาถึงเขตตัวเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ รถจะลอดผ่านประตูนี้เข้าไป มองไกล ๆ เห็นประตูค่อนข้างเล็ก
เมื่อเข้ามาใกล้จึงพบว่าประตูมีขนาดสูงใหญ่ รถโค้ชของเราคงผ่านเข้าไปได้ไม่ลำบากนัก
ลักษณะของกำแพงที่ล้อมรอบเมืองเก่า จะเชื่อมต่อถึงกันหมดทุกด้าน และมีทางเดินไม้ลัดเลาะบนกำแพงเมืองให้เราเดินไปตามกำแพงเมืองได้โดยรอบ (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
เราเข้ามาในเมืองช่วงบ่ายมากแล้ว จึงเข้าไปยังโรงแรมที่พักก่อน รถแล่นตรงเข้ามาตามถนนสายหลัก โดยปกติแล้วรถนักท่องเที่ยวจะต้องจอดบริเวณนอกกำแพงเมือง จะอนุญาตให้นำรถเข้ามาภายในเมืองได้เฉพาะผู้ที่พักอาศัย หรือรถนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนในเขตเมืองเก่าเท่านั้น สังเกตอาคารในยุคกลาง จะก่ออิฐสีสันสวยงาม มีหลังคายอดแหลม มุงด้วยกระเบื้องสีแดง ดูแดงไปทั้งเมือง สมชื่อ Rothenburg ซึ่งแปลว่าป้อมปราการสีแดง (Rote ภาษาเยอรมันแปลว่า สีแดง)
ถึงแล้วครับ โรงแรมของเราในคืนนี้คือ Hotel Goldener Hirsch ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า
เป็นโรงแรมที่อยู่ไกล้วิวมหาชนของเมืองโรเธนบวร์ก คือวิวนี้ เพียง 50 เมตร ไม่น่าเชื่อว่ามุมตรงนี้จะเป็นจุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดจุดหนึ่งของประเทศเยอรมนี และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโรเธนบวร์กทันทีหลังจากนั้น
โรงแรมนี้มีอาคาร 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม (ที่เห็นนักท่องเที่ยวยืนอยู่หน้าโรงแรม 2 คน)
ผมได้ห้องที่อยู่อาคาร 2 ได้พวงกุญแจมี 2 ลูก ลูกใหญ่ไขเข้าประตูโรงแรม ลูกเล็กไขเข้าห้อง
ห้องล็อบบี้ของโรงแรมที่อาคาร 1 ดูสวยงามคลาสสิค
ห้องอาหารเช้าดูหรูหรา
สามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกสวยงาม
เช็คอินและเก็บกระเป๋าเดินทางแล้ว เราจะออกเดินชมเมืองกันครับ โดยเดินย้อนกลับไปทางที่รถแล่นเข้ามา ระหว่างทางจะสังเกตเห็นหอคอยที่มีประตูเมืองเป็นระยะ ๆ
ผมสังเกตเห็นป้ายบอกชื่อโรงแรมและร้านค้าที่ทำด้วยเหล็กดัด แขวนโลโก้และป้ายชื่อไว้อย่างสวยงาม ดูน่ารักดี เลยถ่ายมาฝากหลายแห่ง
ร้านนี้เป็นร้านกาแฟ มีโต๊ะอยู่หน้าร้าน
ร้านจำหน่ายของที่ระลึกร้านนี้มีชุดเกราะนักรบอยู่หน้าร้านด้วย มีคนนิยมเข้าไปยืนถ่ายรูปคู่
ตัวอย่างของที่ระลึกที่ถ่ายจากตู้โชว์หน้าร้าน ส่วนหนึ่งเป็นตุ๊กตาไม้ โรเธนบวร์กมีชื่อเสียงเรื่องตุ๊กตาคริสมาสต์ จึงมีตุ๊กตาไม้พวกนี้ขายอยู่ทั่วไป
ลูกบอลกลมๆ ที่เห็นอยู่นี้เป็นขนมหวานที่มีเฉพาะเมืองนี้เท่านั้น มีชื่อเรียกว่า Schneeballen หรือ ลูกบอลหิมะ (Snow Ball) ทำจากแป้งและน้ำตาล ดูน่ากลัวนิดหน่อย เวลากินไม่สามารถกัดเข้าไปทั้งลูกได้เพราะค่อนข้างแข็ง ต้องค่อยๆ ลอกออกมากินทีละชั้นครับ
เดินต่อมาอีกครู่หนึ่งก็ถึงจัตุรัสกลางเมือง (Marktplazt)
ประกอบด้วยศาลาว่าการเมือง (Rathaus) เป็นอาคาร 2 หลังสร้างติดกัน อาคารด้านหน้าเป็นสไตล์เรอเนสซองค์ ส่วนอาคารสีขาวด้านหลังสไตล์โกธิค เป็นอาคารที่สร้างขึ้นก่อนตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเมือง ปัจจุบันอาคารสีขาวจัดเป็นพิพิธภัณธ์ แสดงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต ตั้งแต่ยุคสงคราม 30 ปี ของประเทศเยอรมนี (ค.ศ.1618-1648) นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองโรเธนบวร์กจากมุมสูงบนหอคอยงาช้างสีขาวได้ (ค่าขึ้นชมคนละ 2 ยูโร)
อาคารสีชมพูอยู่ทางด้านขวามือของศาลาว่าการเมือง มีชื่อว่า Ratstrinkstube เดิมเป็นโรงเหล้าเก่า ปัจจุบันเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง และเป็นที่ตั้งของสำนักงานการท่องเที่ยว (อาคารนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง จึงมีการนำป้ายรูปอาคารทำด้วยไวนิล มาขึงปิดไว้ให้มองเห็นสภาพของอาคารเมื่อปรับปรุงเสร็จ)
ปัจจุบันเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง เนื่องจากมีหอนาฬิกาที่ทุก ๆ ชั่วโมง ในช่วง 11โมง-บ่ายสาม และ สองทุ่ม-สี่ทุ่ม จะมีตุ๊กตารูปคนดื่มไวน์โผล่มากระดกแก้วให้ชมกัน ในช่องหมายเลข 1 และ 2
ตุ๊กตารูปคนกระดกแก้วไวน์นี้มีความเป็นมาคือครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 1631 กองทัพคาทอลิค นำโดยท่าน Count Tilly กะว่าจะยกทัพมาตีโรเธนบวร์กซึ่งเป็นโปเตสแตนท์ เจ้าเมืองในขณะนั้นคือ Mayer Nusch จึงต่อรองโดยการท้าดวลซดไวน์ 3 ลิตรให้หมดในครั้งเดียว ผลก็คือ Count Tilly ทำไม่สำเร็จ เมืองโรเธนบวร์กจึงรอดพ้นจากการถูกยึดไปได้ :)
ด้านซ้ายมือของศาลาว่าการเมืองมีอ่างน้ำพุเซนต์จอร์จ (Georgsbrunnen หรือ St. George's Fountain) เป็นอ่างน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ลึก 8 เมตร แต่เดิมมีไว้ให้ประชาชนใช้น้ำและกักตุนน้ำไว้ยามไฟไหม้ โรเธนบวร์กมีบ่อน้ำพุทั่วเมืองกว่า 40 แห่ง
มีรูปอัศวินขี่ม้าใช้ทวนแทงมังกร อยู่ที่ยอดเสา
ถ้าเดินไปทางด้านหลังศาลาว่าการเมือง ก็จะพบโบสถ์เซนต์จาคอปส์ Saint Jakobs Kirche โบสถ์โกธิคหลังใหญ่แห่งโรเธนบวร์กแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1311 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1485
โรเธนบวร์กนับเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งแม้กระทั่งยามค่ำคืน ที่ทั่วทั้งเมือง ตลอดจนร้านค้าต่างๆ (ที่ปิดทำการไปแล้ว) จะประดับประดาไฟอย่างสวยงาม ดูโรแมนติกอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในตอนกลางคืนจะมีกิจกรรมอย่างหนึ่ง ก็คือการเดินชมเมืองกับชายที่มีชื่อเรียกว่า Night Watchman เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่มาเยือนโรเธนบวร์ก (ค่าทัวร์คนละ 7 ยูโร เริ่มเวลา 2 ทุ่มทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ไนท์วอท์ชแมนในอดีตมีหน้าที่ตรวจตราเมืองยามค่ำคืน ระแวดระวังความปลอดภัยให้กับชาวเมืองโรเธนบวร์กทุกคน ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ และตำนานเล่าขานของเมืองให้กับผู้มาเยือน โฉมหน้าของไนท์วอท์ชแมน ดูเหมือนผู้ชายที่หลุดออกมาจากยุคกลาง ถือหอกปลายขวานและตะเกียงโบราณ เดินนำนักท่องเที่ยว (ผมไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ จึงขอนำภาพจากอินเทอร์เน็ตมาให้ชมแทนครับ)
วันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้า เวลา 06.37 น. ผมก็พร้อมอยู่บนถนนหน้าโรงแรม เพื่อถ่ายภาพเมืองโรเธนบวร์กในยามเช้ามาฝากครับ
ออกจากโรงแรม(อาคาร 2) ผมเดินเลี้ยวซ้ายไปเพียง 20 เมตร ก็ถึงมุมมหาชน ภาพนี้ครับ
เดินต่อไปยังหอนาฬิกาที่อยู่ด้านหน้า
เมื่อเดินผ่านประตูใต้หอนาฬิกาและมองกลับไป
สังเกตเห็นว่ารถยนต์ส่วนใหญ่บนถนน จอดอยู่เลนขวาเท่านั้น คงอนุญาตให้จอดด้านเดียวเพราะถนนค่อนข้างแคบนั่นเอง
เดินต่อไปข้างหน้าจนมองเห็นหอคอยของกำแพง และเป็นทางออกจากเมืองเก่าอยู่ข้างหน้า
เดินมาไกลมากแล้วขอเดินกลับดีกว่า ตรงมุมมหาชนมีอ่างน้ำพุที่ตกแต่งด้วยต้นไม้เป็นรูปมงกุฎประดับด้วยไข่ที่ทำด้วยไม้ทาสีต่าง ๆ เป็นการฉลองเทศกาลอีสเตอร์ ที่อยู่ในช่วงนั้นพอดี
ขอปิดท้ายด้วยภาพงดงามที่มุมมหาชน ของเมืองโรเธนบวร์กในยามเช้า 2 ภาพนี้
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ.
Create Date : 09 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 10:16:25 น. |
|
19 comments
|
Counter : 8367 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 9 มิถุนายน 2557 เวลา:10:46:44 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 9 มิถุนายน 2557 เวลา:15:30:56 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 9 มิถุนายน 2557 เวลา:23:35:07 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 10 มิถุนายน 2557 เวลา:1:44:25 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 10 มิถุนายน 2557 เวลา:4:46:08 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:8:39:18 น. |
|
|
|
โดย: wicsir วันที่: 11 มิถุนายน 2557 เวลา:16:50:48 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 13 มิถุนายน 2557 เวลา:8:17:56 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 13 มิถุนายน 2557 เวลา:12:14:13 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 15 มิถุนายน 2557 เวลา:0:42:20 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 15 มิถุนายน 2557 เวลา:21:32:46 น. |
|
|
|
โดย: Maeboon วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:1:54:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|