Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 

เสน่ห์ยุโรปตะวันออก : 11-เวียนนา (Vienna) เมืองแห่งศิลปะและดนตรีของโลก

สวัสดีครับ เมื่อคืนผมพักค้างคืนที่ซาลส์บูร์ก เช้านี้จะเดินทางไปเวียนนาเมืองสุดท้ายของทริปนี้ เวียนนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของยุโรป ด้วยความงดงามของศิลปะและความโรแมนติกของดนตรีคลาสสิก รวมทั้งความเงียบสงบของเมือง เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ต้องเดินทางไปเยี่ยมชมเวียนนาสักครั้งหนึ่งในชีวิต เชิญติดตามไปด้วยกันครับ



เวียนนา (Vienna ในภาษาอังกฤษ หรือ Wien ในภาษาเยอรมัน) เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เป็นเมืองใหญ่ที่สุด มีประชากรราว 1.6 ล้านคน มีแม่น้ำสายสำคัญของยุโรปคือแม่น้ำดานูบไหลผ่าน เวียนนาเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ ประกอบกับที่ตั้งที่อยู่ใจกลางของทวีปยุโรปพอดี นครแห่งนี้จึงมีความสำคัญในระดับนานาชาติโดยเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง เช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO), Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติแห่งที่สามของโลกอีกด้วย

กรุงเวียนนามีปราสาทราชวัง โบสถ์ อาคารสถานที่ ที่มีสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่สวยงามมากมาย และมีคีตกวีเอกของโลกทั้งบีโธเฟ่น โมสาร์ท โยฮัน สเตราส พักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ กรุงเวียนนาจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะและดนตรีของโลก มีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ถึงสองแห่ง คือเขตเมืองเก่าใจกลางกรุงเวียนนา (ค.ศ.2001) และพระราชวังเชินบรุนน์ (ค.ศ.1996)

ทิวทัศน์ทะเลสาบสวยงามที่มองเห็นผ่านหน้าต่างรถ ขณะกำลังเดินทางจากซาลส์บูร์กไปยังเวียนนา ระยะทาง 294 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง




เข้ามาถึงเขตตัวเมืองเวียนนาเป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว เราจะไปรับประทานอาหารกลางวันก่อนที่จะไปชมเมือง มื้อกลางวันวันนี้เป็นอาหารไทยครับ




เสร็จภารกิจจากอาหารกลางวัน เราจะไปชมพระราชวังเชินบรุนน์เป็นลำดับแรกครับ มาถึงประตูทางเข้าซึ่งด้านหน้าเป็นลานกว้าง บริเวณประตูมีเสาคู่ที่บนส่วนยอดเป็นรูปนกอินทรีซึงเป็นสัญญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก (Habsburg Dynasty)








เมื่อเดินผ่านเข้าไปจะพบลานกว้าง อาคารด้านขวามือ(ในภาพ)เป็นที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกเกี่ยวกับพระราชวัง




เดินลึกเข้าไปอีกแล้วมองย้อนกลับมา จะเห็นว่าบริเวณพระราชวังสร้างอาคารประกอบต่อเนื่องกันเป็นกำแพงโดยรอบ (คลิกที่ภาพจะขยายใหญ่ขึ้น)








หันหลังกลับไปก็จะพบกับอาคารพระราชวังเต็ม ๆ แล้วครับ




พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ออกแบบโดย Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi เป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก
ในอดีตพระราชวังเชินบรุนน์เคยเป็นที่ประทับฤดูร้อนของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึง ค.ศ. 1918 ตัวอาคารพระราชวังหลวงแห่งเชินบรุนน์ บริเวณโดยรอบ และอาคารใกล้เคียง คือ อนุสรณ์สถานทางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งสำคัญของยุคบาโรก (คลิกที่ภาพจะขยายใหญ่ขึ้น)






พระราชวังเชินบรุนน์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1996 เป็นพระราชวังที่มีต้นแบบมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส ประกอบด้วยตัวปราสาท อุทยาน และสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง ตัวปราสาทประกอบด้วยห้องทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่เปิดให้คนทั่วไปชมเพียง 40 ห้อง พระนางมาเรีย เทเรซา โปรดให้ปรับเปลี่ยนพระราชวังหลังเดิมให้เป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก ในศิลปะแบบรอโคโค (Rococo) อย่างหรูหราวิจิตรพิสดาร






นักท่องเที่ยวมากมายในวันนั้น






การเข้าชมบริเวณพระราชวังและสวนด้านหลังไม่ต้องเสียค่าเข้าชม แต่ถ้าต้องการเข้าชมภายในต้องซื้อบัตร ซึ่งมีให้เลือก 2 ราคา อิมพีเรียลทัวร์ราคา 12.9 ยูโร ให้ชมได้ 22 ห้อง ใช้เวลา 35 นาที ซึ่งแสดงส่วนที่พระเจ้าฟรานซ์โจเซฟและพระมเหสีอลิซเบธเคยประทับ ส่วนแกรนด์ทัวร์ราคา 15.9 ยูโร ให้ชมได้ถึง 40 ห้อง ใช้เวลา 50 นาที โดยเพิ่มส่วนที่พระนางมาเรีย เทเรซาเคยประทับ

ประตูเข้าชมภายในพระราชวังอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวปราสาท




บริเวณจำหน่ายตั๋ว บางวันจะมีคิวยาวมาก แต่ถ้ามากับทัวร์ ไกด์ท้องถิ่นจะซื้อไว้ให้ล่วงหน้า ทำให้สามารถผ่านเข้าไปตามเวลาที่กำหนดในตั๋วได้เลย




เลี้ยวขวาแล้วเดินตามไกด์ไปเลยครับ




ระหว่างทางเดินมองเห็นสวนด้านหลัง ผ่านบานประตูที่เป็นกระจกใส อีกสักครู่เราจะไปชมกัน




หลังจากผ่านบริเวณตรวจตั๋วแล้ว เราจะเดินเลี้ยวขวาขึ้นบันไดไปชมพระราชวังด้านบน




ภายในพระราชวังสวยงามวิจิตรบรรจงมาก สมดังคำร่ำลือจริง ๆ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปเด็ดขาด ผมจึงนำภาพตัวอย่างจากอินเทอร์เน็ตมาให้ชมครับ (จากเว็บไซต์ www.expedia.co.th/en/Schoenbrunn-Palace-Vienna)






เดินออกมาจากพระราชวังเราจะเดินอ้อมไปทางขวามือ เพื่อไปชมอุทยานด้านหลัง ผ่านซุ้มต้นไม้สวยงาม




ซุ้มนี้เป็นกุหลาบสีแดงล้วน








บริเวณสวน




รูปปั้นหินอ่อนในสวน




บริเวณด้านหลังปราสาทเป็นอุทยานมีเนื้อที่กว้างขวาง เป็นสวนแบบฝรั่งเศส มีน้ำพุ ซากอาคารโรมันจำลอง รูปปั้นหินแกะสลัก และสวนสัตว์เวียนนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก




ปลายสุดของอุทยานคือน้ำพุและสิ่งก่อสร้างที่ดูเหมือนกำแพง






ส่วนนี้เรียกว่า โกลเรียตต์ (Gloriette) ตั้งอยู่บนยอดเนินที่สามารถมองได้รอบทิศ ตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มโค้ง 11 ซุ้ม รองรับด้วยเสาดอริกแบบกรีก ยอดบนสุดของอาคารสร้างเป็นรูปนกอินทรีเหยียบลูกโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก




สามารถขึ้นไปยังบริเวณนี้แล้วถ่ายรูปย้อนกลับมาทางด้านพระราชวัง จะได้ภาพตัวเมืองเก่าเป็นฉากหลัง สวยงามมาก (ภาพจากอินเทอร์เน็ต)




น้ำพุเทพเนปจูนแบบโรมัน




สวนดอกไม้ที่อยู่ด้านหน้า สวยงามมาก






เมื่อหันกลับไปมองพระราชวัง โดยมีสวนดอกไม้เป็นฟอร์กราวนด์ จะได้ภาพสวยงามมาก เหมือนมีพรมปูอยู่ด้านหน้าเลย










มาชมความสวยงามในส่วนของพระราชวังใกล้ ๆ กันครับ








ได้เวลาพอสมควรเราจะออกจากพระราชวังเพื่อไปชมสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ กันบ้าง




รถโค้ชพาเรานั่งชมสถานที่สำคัญ ๆ ในตัวเมืองเวียนนา โดยใช้ถนนวงแหวน แต่ไม่ได้หยุดแวะจึงทำให้ถ่ายภาพได้ภาพไม่ค่อยชัดเจนนัก




จะขอเลือกมาสัก 1 สถานที่ นี่คือตึกรัฐสภา (Parlament) สร้างขึ้นด้วยศิลปะนีโอคลาสสิกตามแบบกรีกโบราณ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1883 ด้านหน้ามีน้ำพุ ตรงกลางเป็นรูปปั้นเทพีอธีนา (Athena) เทพีผู้พิทักษ์กรุงเอเธนส์ ทรงชุดนักรบพร้อมอาวุธครบมือ




ดูภาพด้านหน้าตึกกันแบบชัด ๆ (ภาพนี้นำมาจากอินเทอร์เน็ต)




รถโค้ชมาจอดให้ลงบริเวณศูนย์กลางของเขตเมืองเก่า คือจัตุรัสสเตฟานส์ (Stephansplatz) ที่มีสถานที่สำคัญของเวียนนาและร้านค้ามากมาย เราจะข้ามสี่แยกไปเดินตามถนน Garben ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม




อาคารแรกที่เห็นอยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อลงจากรถโค้ชก็คือโรงอุปรากรแห่งชาติ (Wiener Staatsoper หรือ State Opera House) นี่คือโรงอุปรากรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สร้างในปี ค.ศ. 1863-1869 ในแบบนีโอเรอเนซองส์ นับเป็นอาคารหลังแรก ๆ บนถนนเส้นใหม่นี้ เมื่อสร้างเสร็จชาวเมืองไม่ชอบอาคารหลังนี้จนสถาปนิกผู้ออกแบบถึงกับฆ่าตัวตาย เมื่อมีการเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1869 เรื่อง Don Giovanni ของโมสาร์ท จักรพรรดิฟรานซ์โจเซฟและจักรพรรดินีอลิซาเบธเสด็จทอดพระเนตรด้วย พระเจ้าฟรานซ์โจเซฟตรัสชมอาคารหลังนี้ว่าทรงพอพระทัยมาก แต่ก็สายไปเสียแล้ว (เพราะสถาปนิกฆ่าตัวตายไปแล้วนั่นเอง)












ภาพโรงอุปรากรแห่งชาติทั้งหลัง (จากอินเทอร์เน็ต)




การข้ามไปยังฝั่งตรงกันข้าม นอกจากจะข้ามถนนตรงทางม้าลายแล้ว ยังสามารถลงอุโมงค์ข้ามไปได้ และนี่คือภายในอุโมงค์ ทางเดินกว้างขวางและมีร้านค้าเต็มไปหมด




ข้ามมาแล้วเราจะเดินตรงไปตามถนน Garben ที่อยู่ด้านหน้า อาคารหลังหนึ่งด้านขวามือติดโลโก้นาฬิกา ROLEX ขนาดใหญ่บนยอดตึก




ห้องชั้นล่างที่อยู่มุมถนนของอาคารนี้เป็นร้านกาแฟสตาร์บัคส์




เดินไปอีกระยะหนึ่งจะพบอนุสาวรีย์เล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางถนน ชื่อว่า Plague Monument กษัตริย์ Leopold I ทรงให้สร้าง Plague Monument เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้า หลังจากที่พระองค์สวดมนต์อ้อนวอนขอพรต่อพระเจ้าเพื่อให้ช่วยปกป้องประชาชนที่ล้มตายเมื่อครั้งเกิดโรคระบาดในกรุงเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1679




ยังมีน้ำพุสวยงามอีกหลายแห่งบนถนนสายนี้






อาคารร้านค้าปรับปรุงมาจากอาคารเก่าที่งดงาม






เดินผ่านมาถึงบริเวณนี้ มองเห็นโบสถ์สวยงามอยู่ในซอยซ้ายมือ คือโบสถ์เซนต์ชาลส์ (St.Charles Cathedral) หรือ "คาร์ล เคียร์เชอะ" (Karlskirche) สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยศิลปะแบบบาโรก ที่มาของการสร้างโบสถ์แห่งนี้คือ ในราวปี ค.ศ.1713 ได้เกิดโรคระบาดใหญ่ลุกลามไปทั่วยุโรป ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก พระเจ้าคาร์ลที่ 6 ได้ทรงอธิษฐานว่าจะสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเซนต์ชาลส์ บอร์โรมีโอ (St.Charles Borromeo) นักบุญแคทอลิกพระนามเดียวกับพระองค์หากโรคระบาดสงบลง ซึ่งในที่สุดก็สงบลง




เดินเข้าไปจนถึงศูนย์กลางของเขตเมืองเก่าพบโบสถ์ใหญ่สวยงามอยู่ด้านหน้า




นี่คือโบสถ์เซนต์สตีเฟน (St.Stephen Cathedral) หรือในภาษาเยอรมันเรียกว่า สเตฟานส์โดม (Stephansdom)




เป็นโบสถ์เก่าแก่สไตล์โกธิกตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 13 ถือเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศออสเตรีย




ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์นี้คือหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงถึง 136.7 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 75 ปี และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1433 เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงที่สุดในเมือง สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวอื่น ๆ ทั่วเมือง สามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดหอคอยแห่งนี้ได้จะมองเห็นกรุงเวียนนาได้ 360 องศา






ความงดงามบริเวณมุขด้านหน้าของโบสถ์




และบริเวณภายในโบสถ์




มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากบริเวณด้านหน้าโบสถ์ ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองเก่า




เราเดินย้อนกลับไปที่จุดนัดหมาย มีโอกาสเห็นงานศิลปะที่งดงามของตึกที่อยู่ด้านซ้ายมืออย่างใกล้ชิด










ค่ำนี้มีกำหนดกลับเมืองไทยแล้ว พอได้เวลาอันสมควร หัวหน้าทัวร์พากลุ่มของเราขึ้นรถโค้ชเดินทางไปยังสนามบินเวียนนา ไม่นานนักก็มองเห็นหอบังคับการบินของสนามบินอยู่ข้างหน้า




เพื่อขึ้นเครื่องบินของสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 025 ออกจากกรุงเวียนนาเวลา 23.20 น. และถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 14.20 น. ในวันรุ่งขึ้น




หมายเหตุ ข้อมูลบรรยายภาพต่าง ๆ ในเอนทรี่นี้ ผมเรียบเรียงมาจาก 2 เว็บไซต์ คือ //cherokee.exteen.com/20090609/entry และ //2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11592318/E11592318.html

ขอขอบคุณ คุณ Cherokee และ คุณ Chris Evert ด้วยครับ

การไปท่องเที่ยวเมืองต่าง ๆ ของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกในครั้งนี้ ผมมีความสุขและประทับใจมากที่ได้พบเห็นทิวทัศน์ ปราสาทราชวัง สิ่งก่อสร้าง อาคารสถานที่ที่งดงาม การเดินทางสะดวกปลอดภัย ที่พักและอาหารถูกใจ ผู้คนท้องถิ่นที่เป็นมิตร และผู้ร่วมคณะทัวร์ที่น่ารักทุกคน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมมาโดยตลอด แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ.




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2558
10 comments
Last Update : 26 สิงหาคม 2558 9:00:25 น.
Counter : 3940 Pageviews.

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog

-----------------------------

ปิดทริปได้อย่างสวยงาม ฟ้าใสต้องคลิกกลับไปอ่านตอนที่ 1 อารัมภบท ...
แล้วกลับมาสรุปอีกทีว่า ทริปนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2558 รวม 8 วัน
อัพบล็อกได้ 11 ตอน สรุปค่าเสียหายด้วย ก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แหะ ๆ
เผื่อใครอยากไปตามรอยบ้าง จะได้เตรียมหยอดกระปุกได้ถูก อิอิ

ขอบคุณที่พาเที่ยวผ่านบล็อกนะคะ ไม่เหนื่อยแล้วก็ตังค์อยู่ครบด้วย
ชอบภาพอุโมงค์ต้นไม้-ดอกกุหลาบแดง อยากมีอย่างนี้บ้างค่ะ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 24 สิงหาคม 2558 14:07:01 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ สวยงามเช่นเคย
ชอบซุ้มต้นไม้และกุหลาบเลื้อยสีแดง ๆ ค่ะ
อยากปลูกที่บ้านบ้างจัง เคยปลูกแล้วงามแต่ใบไม่มีดอกให้เชยชม
มาเมืองนี้คิดถึงชื่อเพลงเวียนนาวอลซ์ด้วย
วันนี้ลงชือไว้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้มาอีกรอบค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 24 สิงหาคม 2558 20:33:17 น.  

 

สวัสดีค่ะ
แวะมาเที่ยวต่อ ภาพสวยงามดูน่าท่องเที่ยวมาก
สมบูรณ์ครบเหมือนได้เดินทางไปเองเลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
Kisshoneyz Parenting Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: pantawan 24 สิงหาคม 2558 23:55:07 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 25 สิงหาคม 2558 2:40:04 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ
รอบนี้ตามมาส่งกำลังใจนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog

 

โดย: เนินน้ำ 25 สิงหาคม 2558 7:01:40 น.  

 

ตามเที่ยวกับคุณทองกาญจนาครบทั้ง 11 ตอน
ต้องขอบคุณมากนะคะที่พาชม พาเที่ยว และยังให้ความรู้อีกด้วย

พระราชวังเชินบรุนน์งามมากค่ะทั้งสถาปัตยกรรมภายนอกและภายใน
ชอบซุ้มกุหลาบจังค่ะ ปลูกได้งามจริงๆ
อุทยานก็กว้างขวางและตกแต่งได้สวยมาก

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog

----------------------------

มีทริปต่อๆไปจะขอตามไปเที่ยวอีกค่ะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ

 

โดย: Sweet_pills 27 สิงหาคม 2558 1:07:29 น.  

 

แวะมาสวัสดีวันศุกร์ค่า
ว่าง ๆ ขอเชิญไปชิมเมนูใหม่นะคะ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 28 สิงหาคม 2558 10:06:57 น.  

 

นทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ทองกาญจนา Travel Blog

ตามมารำลึกความหลังด้วยค่ะ ชอบเวียนนามาก ไปมาสองครั้งแล้วแต่ก็ยังชอบที่จะไปอีกค่ะ

 

โดย: Maeboon 29 สิงหาคม 2558 0:26:37 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog

 

โดย: newyorknurse 31 สิงหาคม 2558 3:40:55 น.  

 

สวยจัง

 

โดย: BabyInk 21 กันยายน 2558 14:40:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ทองกาญจนา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทองกาญจนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.