“สิมิลัน” เป็นคำในภาษายาวีแปลว่า “เก้า” เนื่องจากในสมัยก่อนชาวเรือซึ่งเดินทางผ่านไป – มาระหว่างหมู่เกาะเหล่านี้สามารถนับเกาะต่างๆซึ่งเรียงตัวอยู่ใกล้เคียงกันตั้งแต่แนวทิศเหนือจรดทิศใต้ได้ทั้งหมด 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหนึ่ง(เกาะหูยง ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้สุด) ,เกาะสอง(เกาะปายัง) ,เกาะสาม(เกาะปาหยัน) ,เกาะสี่(เกาะเมียง) ,เกาะห้า ,เกาะหก ,เกาะเจ็ด(เกาะปายู) ,เกาะแปด(เกาะสิมิลัน) และ เกาะเก้า(เกาะบางู ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือสุด) ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการนำชื่อ “สิมิลัน” มาตั้งเป็นชื่อของอุทยานแห่งชาติและเรียกเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งได้รับการสำรวจเป็นครั้งแรกของหมู่เกาะนี้ (เกาะแปด) ว่า “เกาะสิมิลัน”
“อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน (อช.หมู่เกาะสิมิลัน)” เป็นแหล่งดำน้ำลึก (Scuba diving) ที่มีความสวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เมื่อถึงช่วงฤดูท่องเที่ยวประมาณกลางเดือน พ.ย. – พ.ค. ของทุกๆปี หมู่เกาะแห่งนี้จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ต้องการจะมาชมความสวยงามตามคำร่ำลือซึ่งได้รับการบอกเล่าต่อๆ กันมา แต่เป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนหมู่เกาะสิมิลันแห่งนี้มากกว่าร้อยละ 80 กลับเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมิใช่นักท่องเที่ยวชาวไทย ในครั้งนี้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จึงขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ อช.หมู่เกาะสิมิลัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้ทำความรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้มากขึ้นอีกสักหน่อย
โดยรวมแล้วสิ่งที่ทำให้ อช.หมู่เกาะสิมิลัน มีความงดงามโดดเด่นแตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลอื่นๆ ได้แก่ น้ำทะเลสีฟ้าครามที่ใสจนสามารถมองทะลุลงไปเห็นพื้นผิวใต้ทะเลซึ่งอยู่ลึกลงไปหลายเมตรได้อย่างง่ายดาย ,ก้อนหินขนาดมหึมารูปร่างแปลกตาที่เรียงตัวประกอบกันขึ้นเป็นแนวภูผารอบเกาะ หินเหล่านี้บางก้อนก็เป็นหินก้อนเดี่ยวที่มีขนาดสูงใหญ่เกินกว่าตึก 4 ชั้น บางก้อนก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สวยงามลงตัวจนกระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะไปในที่สุด ,โลกใต้ทะเลที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายจนแม้กระทั่งผู้ซึ่งไม่ใช่นักดำน้ำลึกตัวยงยังสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างได้จากฝูงปลาขนาด 20 – 30 ซม.ที่เข้ามาว่ายวนเวียนอยู่ด้านหน้าหาดในช่วงเช้า – ช่วงสายของทุกๆวัน นอกจากนี้ยังมีจุดชมทิวทัศน์ในมุมสูงและจุดชมพระอาทิตย์ตกที่โดดเด่นไม่แพ้สถานที่ไหนๆอีกด้วย
|
สาวน้อยต่างชาติบนจุดชมวิวหินเรือใบเกาะแปด ดอกผักบุ้งทะเล และทีมนักท่องเที่ยวบนหาดทรายขาวสะอาดตา |
|
จากจุดนี้ท่านสามารถมองเห็นหินเรือใบ สัญลักษณ์สำคัญของเกาะแปด (สิมิลัน) กางใบเรือ ตั้งตระหง่านท้าลม ท้าแดดบนยอดภูเขาได้อย่างชัดเจน |
|
ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล หรือจะมองมุมไหนสิมิลันก็งดงามสดใสไปด้วยท้องทะเลสีคราม |
|
ทิวทัศน์อ่าวเกือกจากจุดชมวิวหินเรือใบ ที่สามารถมองออกไปได้ไกลสุดสายตา ณ ที่นั้น ฟ้าจรดทะเล |
เมื่อกล่าวถึงภาพรวมกันไปแล้ว ต่อไปพวกเราจะขอกล่าวถึงรายละเอียดเชิงลึกของสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นใน อช.หมู่เกาะสิมิลันแต่ละแห่งกันบ้าง ดังต่อไปนี้
1. เกาะสิมิลัน (เกาะแปด) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน อช.หมู่เกาะสิมิลันและเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (หน่วยพิทักษ์ฯ) นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการค้างแรมบนอุทยานฯ สามารถเลือกพักที่เกาะนี้ได้อีกแห่งหนึ่งนอกเหนือไปจากที่พักบนเกาะเมียง (เกาะสี่) แต่ว่าความสะดวกสบายและความสะอาดของห้องอาบน้ำ/ห้องสุขาต่างๆนั้นจะด้อยกว่าที่เกาะเมียง นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนจะมีฝูงหนูจำนวนมากออกมาหากินทั่วไปในบริเวณรอบๆ ของร้านอาหารสวัสดิการ (หนูในที่นี้ คือ สัตว์ฟันแทะขนาดเล็กไม่ใช่บรรดาน้องหนูนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปตามชายหาดช่วงกลางวันนะครับ) กรณีที่คุณพกอาหารหรือขนมคบเคี้ยวต่างๆ ขึ้นมาบนเกาะด้วยควรเก็บรักษาให้มิดชิดและเก็บกวาดขยะที่เหลือภายหลังจากการรับประทานให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นพลพรรคหนูอาจจะยกพวกไปนอนร่วมกับคุณที่เต็นท์ได้ แต่ข้อด้อย(เรื่องของฝูงหนู)ต่างๆ ข้างต้นเหล่านี้ก็ถูกชดเชยด้วยความเงียบสงบที่มีให้แก่ผู้ซึ่งรักความสันโดษและไม่ชอบความครื้นเครงเป็นอย่างดี เนื่องจากบริษัทนำเที่ยวทุกบริษัทจะพานักท่องเที่ยวไปค้างแรมบนเกาะเมียงซึ่งมีพื้นที่กางเต็นท์กว้างขวางกว่าเกาะสิมิลันแทน (เกาะสิมิลันเป็นเกาะซึ่งใหญ่ที่สุดใน อช.หมู่เกาะสิมิลัน แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา สำหรับเกาะเมียงนั้นแม้ว่าจะมีขนาดพื้นที่รอบเกาะเล็กกว่าแต่มีพื้นที่ราบซึ่งเหมาะแก่การกางเต็นท์เยอะกว่า รองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า) สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญโดยรอบบริเวณของเกาะสิมิลันนี้ ได้แก่
“อ่าวเกือก” เป็นอ่าวขนาดใหญ่ทางด้านทิศเหนือของเกาะแปดและเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ฯ นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการพักแรมบนเกาะสิมิลันจะมีเต็นท์ที่พัก ห้องอาบน้ำ/สุขา และ ร้านอาหารสวัสดิการของทางอุทยานฯอยู่ ณ ชายหาดแห่งนี้ ลักษณะของอ่าวเกือกเป็นอ่าวซึ่งโค้งลึกเข้าไปในตัวเกาะรูปร่างคล้ายเกือกม้า หาดทรายสีขาวนวลเนื้อละเอียดราวกับแป้งฝุ่น มีต้นผักบุ้งทะเลขึ้นอยู่ตลอดแนวชายหาดออกดอกสีม่วงสวยงาม น้ำทะเลช่วงใกล้ชายหาดเป็นสีฟ้าใส น้ำทะเลส่วนที่อยู่ลึกออกไปหน่อยเป็นสีครามเข้มราวกับไพลินแห่งท้องทะเล มีโขดหินใต้น้ำและแนวปะการังซึ่งไม่ค่อยสมบูรณ์นักอยู่บริเวณด้านหน้าอ่าว (เป็นแนวปะการังซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อ 26 ธ.ค. 2547) หากลองดำน้ำเล่นดูก็จะสามารถพบกับฝูงปลาหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ปลาทราย ,ปลาสลิดหินบั้งเหลือง ,ปลานกแก้ว ,ปลาโนรีครีบยาว ,ฯลฯ ทีมงานของเราบางคนยังพบปลาตาเดียวที่อาศัยอยู่บนพื้นทรายบริเวณหน้าอ่าวเกือกนี้อีกด้วย
นอกจากความงดงามของหาดทราย สายลม และ แสงแดดแล้ว อ่าวเกือกนี้ยังเป็นที่ตั้งของ “หินเรือใบ (Sailing Rock)” หินรูปร่างคล้ายเรือใบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ อช.หมู่เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นหินนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นได้ตั้งแต่ระยะไกล มีจุดชมทิวทัศน์บนหินเรือใบซึ่งทางหน่วยพิทักษ์ได้ทำทางขึ้นระยะทางประมาณ 150 เมตรเอาไว้ให้ (ใช้เวลาเดินไม่เกิน 15 นาที) จากจุดนี้สามารถมองเห็นอ่าวเกือก เกาะบางู (เกาะเก้า) และ สามารถชมความสวยงามในสีสันที่แตกต่างของน้ำทะเลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ในยามเย็นหากคุณเลือกค้างแรมอยู่บนเกาะสิมิลันแห่งนี้ คุณยังสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์บนหินเรือใบข้างต้นเพื่อชมอาทิตย์อัศดงอันสวยงามได้อีกด้วย
ในช่วงค่ำคืนเวลาประมาณตั้งแต่หนึ่งทุ่มเป็นต้นไป หากคุณเป็นคนรักสัตว์ตัวเล็กๆ น่ารักๆ ละก็ ทีมงานของเราแนะนำให้เดินมายังจุดอาบน้ำล้างตัวกลางแจ้งด้านหน้าอ่าวเกือกแล้วสังเกตบริเวณพื้นทรายโดยรอบจุดอาบน้ำดังกล่าวจะพบกับ “กองทัพปูเสฉวน” ตัวขนาดเล็กตั้งแต่ไม่ถึง 1 ซม.ไปจนถึงขนาดประมาณ 1 นิ้ว จำนวนนับร้อยตัวออกมาเดินบ้าง ยืนนิ่งๆบ้างกันให้สลอนเต็มไปหมด (ยิ่งดึกจำนวนปูเสฉวนจะยิ่งเยอะขึ้น ครั้งแรกที่พวกเราแวะมาดูเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆก็คิดว่ามีปูเสฉวนเยอะกว่าที่เคยเจอจากชายทะเลที่ไหนๆแล้ว พอกลับมาอีกครั้งประมาณ 3 ทุ่มจำนวนปูเสฉวนกลับยิ่งมากขึ้นกว่าเดิมอีก 2 – 3 เท่าตัว แถมมาล้อมวงกันเป็นกลุ่มใหญ่ราวกับกำลังประชุมอะไรสำคัญบางอย่างเลย) นับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ซึ่งไม่ค่อยพบจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางทะเลแห่งอื่นๆ
|
แสงแดดค่อย ๆ อ่อนจางลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาของนาฬิกาชีวิตที่กำลังจะหมุนไปอีกหนึ่งวัน ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดในโลกใบนี้พระอาทิตย์ก็ต้องตก แต่จะมีที่ใดที่มีบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกที่สวยงามติดอันดับเช่นนี้ |
|
ยามเย็นย่ำก่อนแสงอาทิตย์จะลาลับไปท่ามกลางความเงียบสงบ |
ยามเช้าหากกระดูกสันหลังของคุณไม่ได้ยืดยาวออกไปมากนักจนจำเป็นต้องนอนคุดคู้อุดอู้อยู่ภายในเต็นท์แล้วล่ะก็ลองเดินไปยังอ่าวเล็กๆ ด้านหลังอ่าวเกือกดู (เดินไปทางที่เห็นเสาโทรศัพท์ ผ่านรั้วเหล็กที่เปิดอยู่ข้ามเนินเล็กๆไปไม่เกิน 10 นาทีก็จะถึง แต่ควรเดินด้วยความระมัดระวังเนื่องจากสองข้างทางเดินมีเศษวัสดุก่อสร้างแหลมคมบางอย่างตกหล่นอยู่ทั่วไป) จะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากเส้นขอบฟ้าเหนือผืนน้ำอันงดงามได้ สำหรับอ่าวเล็กๆ ด้านตรงข้ามกับอ่าวเกือกแห่งนี้ไม่เหมาะที่จะลงเล่นน้ำเนื่องจากเป็นอ่าวหินซึ่งมีเพรียงที่มีเปลือกแหลมคมเกาะอยู่ตามก้อนหินน้อยใหญ่โดยทั่วไป ภายหลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นยามอรุณรุ่งเรียบร้อยแล้วหากรู้สึกว่ามีพลังงานในร่างกายเหลือเฟือ ทีมงานของเราแนะนำว่าให้ไปลงเล่นน้ำดำผุดดำว่ายในอ่าวเกือกจะสามารถพบเห็นฝูงปลาอันหลากหลายได้ง่ายกว่าช่วงสาย – บ่ายซึ่งมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยือนอ่าวแห่งนี้เป็นจำนวนมากแล้ว
|
อีกหนึ่งมุมมองของอาทิตย์อรุณรุ่งจากจุดชมทิวทัศน์ด้านทิศตะวันออกของเกาะแปด(สิมิลัน) |
|
แสงสีที่แตกต่างบนผืนฟ้าและท้องทะเลในชั่วขณะเวลาที่ต่างกัน |
“อ่าวงวงช้าง” ด้วยความเหนื่อยล้าและเวลาอันจำกัดทำให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมไม่ได้เดินมาสำรวจหาดนี้ด้วยตนเอง จากการมองเห็นอ่าวนี้ในระยะไกลขณะนั่งเรือทัวร์ของทางอุทยานฯ พบว่าสภาพของน้ำทะเลและหาดทรายของอ่าวงวงช้างนี้สวยงามพอๆ กันกับที่อ่าวเกือก แต่ขณะที่เรือของทางอุทยานฯขับผ่านอ่าวนี้นั้น เรากลับสังเกตไม่พบนักท่องเที่ยวอยู่บนชายหาดแห่งนี้เลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งเมื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์บนเกาะสิมิลันก็ได้ความว่า แม้จะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติจากอ่าวเกือกมายังอ่าวงวงช้างนี้ก็ตามแต่ด้วยความยากลำบากและรกชัฏของเส้นทางขึ้น – ลงเขาระยะทางกว่า 2.5 กม.ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินประมาณ 2 – 3 ชม.กว่าจะไปถึง ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะเดินไปสักเท่าไหร่นัก ส่วนเรือทัวร์ของทาง อช.หมู่เกาะสิมิลันนั้นก็ไม่ให้บริการนำเรือเข้าไปเทียบยังหาดดังกล่าวเนื่องจากต้องการสงวนไว้ให้เป็นพื้นที่วางไข่สำหรับเต่าทะเลด้วย กรณีที่คุณต้องการเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปยังอ่าวงวงช้างจริงๆ (ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ไม่แนะนำให้พวกเราไป) ควรต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางเพื่อป้องกันการหลงทางซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากเดินไปด้วยตนเอง (จากการอ่านป้ายให้ความรู้บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ พบว่าบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวเกือก – อ่าวงวงช้างนี้ คุณสามารถพบสัตว์ชนิดใหม่ที่ค้นพบโดยคนไทย คือ “หอยมรกต” ซึ่งเป็นหอยทากพันธุ์ใหม่มีเปลือกสีเขียวอ่อนได้ด้วย)
“อ่าวไฟแว๊บ” เป็นที่ตั้งของประภาคารซึ่งคอยส่องไฟสัญญาณนำทางให้แก่ชาวเรือในยามค่ำคืนและเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำตื้นตามโปรแกรมทัวร์ของทาง อช.หมู่เกาะสิมิลัน ระดับน้ำลึกประมาณ 6 – 8 เมตร ปะการังที่พบส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ ซึ่งมีทั้งปะการังเขากวางขนาดเล็ก ,ปะการังดอกกะหล่ำ ,ปะการังจานขนาดเล็ก ,ปะการังแปรงล้างขวด ,ฯลฯ ปลาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นฝูงปลาขนาดเล็ก เช่น ปลาสลิดหินคอดำ ,ปลาสลิดหินบั้งหลังเหลือง ,ปลากล้วยหลังเหลือง เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถพบดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนได้เป็นหย่อมๆ “อ่าวกวางเอน” ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมไม่ได้ลงดำน้ำ ณ อ่าวนี้ด้วยตนเอง แต่จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติฯกล่าวไว้ว่า อ่าวกวางเอนเป็นจุดที่มีแนวปะการังชายฝั่งขึ้นอยู่ตามแนวลาดชันของความลึก เหมาะสำหรับการศึกษาปะการังแข็งชนิดต่างๆ และมักจะพบเต่าทะเลอยู่เสมอ สามารถดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก
Chicago Faucets Wall Mount Service Sink Faucet with Adjustable Centers in Rough Chrome 305-VBRCF. 4-Inch to 8-3/8-Inch adjustable centers. 3/4-Inch Male Hose Thread Outlet. Features: Quaturn Operating Cartridges; Atmospheric Vacuum Breaker (Not Intended for Continuous Pressure Applications).