กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วครับ สำหรับความเป็นที่สุดในโลกของเราในวันนี้ โลกของเรานั้นมีสถานที่ต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมาย และแต่ละที่ก็ล้วนแล้วแต่มีความมหัศจรรย์ในตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ภูเขา ป่าไม้ต่างๆล้วนแล้สแต่เป็นที่เราควรจะอนุรักษ์หวงแหนเอาไว้ให้ลูกหลาน และสำหรับวันนี้เราจะไปชื่นชมกับธรรมชาติที่มีความเป็นที่สุดในโลกในตัวเองกับ “ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
ทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า มันคือทะเลทรายสะฮารา หรือ ซาฮารา หรือ สาฮารา (อังกฤษ: Sahara) ข้อมูลจากวิกิพีเดียร์ระบว่า ทะเลทรายสะฮารา หรือ ซาฮารา นั้นเป็นทะเลทรายในทวีปแอฟริกาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ซึ่งเป็นรองก็เพียงทะเลน้ำแข็งทวีปแอนตาร์กติกาและทวีปอาร์กติกเท่านั้น โดยมันมีเนื้อที่มากกว่า 9,000,000 ตารางกิโลเมตร คำว่า สะฮารา ในภาษาอาหรับ (صحراء ) หมายถึง ทะเลทราย ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกทะเลทรายแห่งนี้นั่นเอง โดยทะเลทรายสะฮารานั้นมีอณาเขตทางด้านทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแอตแลนติกส่วนในทิศเหนือคือเทือกเขาแอตลาสและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และในทิศตะวันออกจรดทะเลแดงและประเทศอียิปต์ ส่วนในทิศใต้จรดประเทศซูดานและหุบเขาของแม่น้ำไนเจอร์
นอกจากนี้เรายังมีข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากกันอีกน่ะครับเกี่ยวกับต้นกำเหนิดของทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ โดยในวารสาร Geophysical Research Letters ของ M.Claussen และคณะแห่ง Potsdam Institute for Climate Impact Research ในประเทศเยอรมนี ได้ให้คำอธิบายสาเหตุการกำเหนิดทะเลทรายสะฮารา ว่า จากการวิเคราะห์เมล็ดพันธุ์ของพืชโบราณที่พบในทะเลทรายแห่งนี้ ได้ทำให้เรารู้ว่าเมื่อประมาณ 6 ถึง 7 พันปีก่อนหน้านี้ อากาศใน ทะเลทรายสะฮารา อบอุ่น และ ทะเลทรายสะฮารา มีทั้งป่า และต้นไม้อุดมสมบูรณ์มากมาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 พันปี ได้เกิดเหตุการณ์ภัยแล้งขึ้นอย่างรุนแรงโดยภัยแล้งที่ว่านี้กินเวลานานนานกว่า 4 ร้อยปีเลยทีเดียว เป็นสาเหตุที่ต้องทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบ ทะเลทรายสะฮารา เมื่อก่อนต้องอพยพและย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากยังที่แห่งใหม่ตามลุ่มน้ำไนล์ และสาเหตุของการเกิดภัยแล้งที่ว่านี้ทาง M.Claussen ได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุนั้นเกิดมาจากแกนของโลกได้เปลี่ยนระดับการเอียงตัว คือได้ลดลงจาก 24.14 องศามาเป็น 23.45 องศา ซึ่งเป็นผลทำให้ทำให้ฤดูร้อนในซีกโลกทางเหนือมีอุณหภูมิลดลง เพราะแสงอาทิตย์ตกกระทบพื้นผิวโลกส่วนนี้น้อยลง และเมื่อ M.Claussen นำข้อมูลการเย็นลงของฤดูร้อนนี้ป้อนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาผลกระทบที่จะมีต่อกระแสน้ำในมหาสมุทรและ อากาศเหนือทวีปแอฟริกา รวมทั้งลมมรสุมที่จะพัดมาจากมหาสมุทรอินเดียเพื่อนำฝนมาตกใน ทะเลทรายสะฮารา เขาก็ได้พบว่า พายุนำฝนนี้ได้อ่อนแรงลงมากคือไม่สามารถนำฝนมาตกใน ทะเลทรายสะฮารา ได้มากเหมือนเคย และด้วยการที่มีฝนตกน้อยลงทำให้ต้นไม้และพืชชนิดต่างๆ พากันล้มตายและเมื่อพืชรวมไปถึงป่าไม้หายไป ความสามารถในการเก็บความชื้นของดินก็น้อยลง ทำให้ฝนตกน้อยและต้นไม้ก็ตายไปเรื่อยๆ วงจรที่ใช้เวลา 4 ร้อยปีนี้ได้ทำให้ต้นไม้ในทะเลทรายสะฮารา ตายไปจนหมด และทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นทะเลทรายสะฮาราในที่สุด
เห็นอย่างนี้แล้วเราไม่สามรถไว้ใจอะะไรได้เลยน่ะครับ พื้นที่ของโลกนั้นสามารถเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลาและการขยับตัวของเปลือกโลก ใครจะไปรู้อนาคตจุดที่เราอยู่อาจจะกลายเป็นทะเลไปก็ได้ โลกของเรานั้นมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ก่อกำเหนิดเป็้นสิ่งมหัศจรรย์ที่ถือเป็นความที่สุดในโลกจริงๆ สำหรับ “ทะเลทรายสะฮาราทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
The AVF Super Slim ZL8655-A Multi-Position TV Wall Mount is built to hold 40" - 65" flat-panel HDTVs. Designed to complement the latest thin TV's, the AVF Super Slim range of wall mounts are AVF's most technically advanced and lowest profile mounts to date. AVF's Super Slim range of wall mounts offer the same benefits that you have come to expect from AVF products, but closer to the wall than ever before.